บัวขาว บัญชาเมฆ
ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ ชื่อในวงการว่า บัวขาว [2] เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 เป็นนักมวยไทย เชื้อสายกูย ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการการต่อสู้ระดับสากล โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น เคยเป็นนักมวยไทยสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข ส่วนสูง 174 เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม บัวขาวจัดเป็นหนึ่งในนักกีฬาอาชีพไทยที่ทำรายได้สูง โดยส่วนใหญ่มาจากการชกมวยที่ต่างประเทศ นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์ไทยเรื่อง ซามูไร อโยธยา[3] และใน พ.ศ. 2554 บัวขาวได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการไทยไฟต์ ที่ประเทศไทย ในรุ่น 70 กิโลกรัม[4] ซึ่งได้เป็นแชมป์ของการแข่งขัน[5]
ร้อยตรี บัวขาว บัญชาเมฆ | |
---|---|
![]() | |
ชื่อจริง | สมบัติ บัญชาเมฆ[1] |
ฉายา | ดำดอตคอม แบล็กโกลด์ |
รุ่น | เฟเธอร์เวท ไลท์เวท เวลเตอร์เวท จูเนียร์มิดเดิลเวท |
น้ำหนัก | 70 กก53 ปอนด์) |
ส่วนสูง | 174 |
เกิด | 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 (38 ปี)[1] จังหวัดสุรินทร์ |
ชกทั้งหมด | 330 |
ชนะ | 295 |
ชนะน็อก | 72 |
แพ้ | 23 |
เสมอ | 12 |
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | สมบัติ บัญชาเมฆ | ||
ตำแหน่ง | ศูนย์หน้า | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | อาร์แบค | ||
หมายเลข | 16 | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2557 | อาร์แบค | ||
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้กับสโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
บัวขาวเข้าแข่งขันไทยไฟต์อีกครั้งในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยครั้งนี้ได้พบกับเมาโร เซียรา ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวอิตาลี และบัวขาวเป็นฝ่ายชนะน็อค[6]
นอกเหนือจากกีฬาชกมวยแล้ว บัวขาวยังเล่นฟุตบอลอาชีพในไทยลีก ดิวิชั่น 2 ให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์แบคในฤดูกาล 2014 ในตำแหน่งศูนย์หน้า[7]
ปัจจุบันบัวขาวยังรับราชการทหารที่โรงเรียนกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนและจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
ประวัติแก้ไข
สมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว เกิดและเริ่มชีวิตอาชีพมวยไทย ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ที่อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ จากนั้น เขาได้เข้ากรุงเทพมาสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข เมื่ออายุ 15 ปี บัวขาวได้รับเข็มขัดแชมป์มาครองเป็นจำนวนมากภายหลังเริ่มอาชีพมวยไทยที่กรุงเทพ ได้แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท แชมป์ประเทศไทยรุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อยอีกครั้ง ในรุ่นไลท์เวท ในปี พ.ศ. 2545 บัวขาวชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะโคบายาชินักชกชาวญี่ปุ่น[8]
พ.ศ. 2547 บัวขาวชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2004 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยชนะ จอห์น เวย์น พาร์ นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย โคะฮิรุมาคิ ทากะยูกิ และมาซาโตะแชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น[8] และในปีต่อมา บัวขาวเกือบที่จะรักษาแชมป์รายการ เค-วัน ได้ โดยแพ้คะแนน แอนดี้ ซาวเวอร์ ในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่ากังขา[1]
พ.ศ. 2549 บัวขาวเข้าชิงชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นแชมป์ได้อีกครั้ง[8] โดยเป็นนักมวยคนแรกในรายการนี้ที่ชนะเลิศสองสมัย
พ.ศ. 2550 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550 บัวขาวสามารถผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายโดยชนะคะแนน ไนกีย์ "เดอะ เนเจอรัล" โฮลต์ซเคน นักมวยชาวฮอลแลนด์
พ.ศ. 2551 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยบัวขาวแพ้น็อกให้กับ โยชิฮิโร ซาโตะ นักมวยชาวญี่ปุ่น แฟนมวยบางส่วนกังขาว่ามีการล้มมวยหรือไม่ แต่พิจารณาแล้วพบว่าบัวขาวแพ้น็อกจริง ๆ ด้วยเข่าของซาโตะทำให้จุกและโดนหมัดฮุคเข้ากกหูสลบคาเวที นับเป็นความเสียใจของผู้ชมชาวไทยครั้งหนึ่ง
พ.ศ. 2552 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยคราวนี้สามารถเข้าถึงรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ต้องมาแพ้คะแนนให้แอนดี้ ซาวเวอร์ คู่ปรับเก่าอย่างน่ากังขาอีกหน บัวขาวถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้กรรมการชี้แจงผลการตัดสิน แฟนมวยเควันต่างพากันเห็นใจบัวขาวโดยมีหลักฐานคือผลโหวตนักสู้เค-วันแม็กซ์ของปีนี้ บัวขาวได้เป็นอันดับ 2 ด้อยกว่าเพียงจอร์จิโอ เปโตรเซียน ผู้เป็นแชมป์รายการเควันปีนี้เท่านั้น
พ.ศ. 2554 บัวขาวได้เข้าแข่งขันในรายการไทยไฟท์ โดยเป็นฝ่ายชนะน็อค ไมเคิล พิซิเทโล่ ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ และได้พบกับแฟร้งค์ จอร์จี้ จากประเทศออสเตรเลียในรอบชิงชนะเลิศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 18 ธันวาคม ของปีเดียวกันนี้[9] ซึ่งบัวขาวเป็นฝ่ายชนะ และครองแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้[5]
พ.ศ. 2555 บัวขาวตกเป็นข่าวฮือฮาเมื่อได้หายตัวออกจากค่ายอย่างเป็นปริศนา หลังจากนั้นไม่นาน บัวขาวก็ได้ปรากฏตัวพร้อมเผยว่า ที่ต้องหนีออกจากค่ายเนื่องจากไม่พอใจในหลาย ๆ อย่าง และต้องการเป็นอิสระ ซึ่งทางค่าย ป.ประมุขก็ได้เผยว่า หากบัวขาวขึ้นชกต่อไป จะถือว่าผิดสัญญาตามกฎหมาย และจะทำการฟ้องร้อง แต่ในในวันที่ 17 เมษายน บัวขาวได้ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์ ในนัดเปิดรายการ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา ในรุ่น 70 กิโลกรัม ในฐานะแชมป์เก่า เป็นฝ่ายเอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชก บัวขาวเปิดเผยว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม [10] ปัจจุบัน ทำค่ายมวยที่บ้านเกิดบ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบจ.สุรินทร์ "ค่ายบัญชาเมฆ"เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสศึกษาศิลปะแม่ไม้มวยไทย
การหายตัวไปใน พ.ศ. 2555แก้ไข
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555 บัวขาวได้หายตัวไปอย่างลึกลับ และไม่สามารถติดต่อได้[11][12] โดยทางฝ่ายจัดการได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนแผนการแข่งขันที่จะจัดขึ้นทั้งในประเทศฝรั่งเศส และอังกฤษ[1][13] โดยมีการกล่าวถึงการหายตัวของบัวขาวในสื่อมวลชนหลายแห่ง ทั้งในและนอกประเทศไทย[14][15] และในที่สุด บัวขาวก็ได้เปิดเผยตัว โดยให้สัมภาษณ์ว่า ที่หายตัวนั้นไปไม่ได้เป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่ตัดสินใจอย่างดีแล้ว เนื่องจากไม่พอใจในเรื่องส่วนแบ่งค่าตัวของตัวเอง และนักมวยรุ่นน้องในค่าย[16]
ที่สุดในวันที่ 17 เมษายน ปีเดียวกัน บัวขาวได้ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา ในรุ่น 70 กิโลกรัม ในฐานะแชมป์เก่า และถือเป็นนักมวยแทน ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง ที่พักผ่อนไม่เกิน 21 วัน ตามพระราชบัญญัติกีฬามวย โดยเป็นฝ่ายเอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชก บัวขาวเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม เพราะก่อนหน้านั้นทางค่าย ป.ประมุข ได้เปิดเผยสัญญาว่า หากบัวขาวขึ้นชกในรายการนี้โดยที่ไม่สังกัดค่ายจะถือว่าผิดกฎหมาย และจะทำการฟ้องร้อง[17]
บัวขาว ได้ร่วมกับ ดี พุฒหอม (ครูมวยคนแรก) และ ทอง บุรากร (เทรนเนอร์คนแรก) เปิดค่ายฝึกสอนมวยไทย ที่จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้ชื่อค่าย "บัวขาว" หรือ "บัญชาเมฆ" เป็นชื่อชั่วคราว[18] ก่อนที่จะเซ็นสัญญาร่วมกับค่ายมวย ป.ประมุขอีกครั้งเป็นระยะเวลา 5 ปี[2]
โปรโมเตอร์แก้ไข
บัวขาว ได้เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันชกมวยเองเมื่อปี พ.ศ. 2556 ในรายการ "แม็กซ์เวิลด์แชมเปี้ยน 2013" ที่สนามสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นรายการการแข่งขันมวยไทยในระดับนานาชาติ ในแบบทัวร์นาเมนต์ โดยการแข่งขันเริ่มขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ปีเดียวกัน[19]
รับราชการทหารแก้ไข
บัวขาว บัญชาเมฆ หรือนายสมบัติ บัญชาเมฆ ได้เข้ารายงานตัวที่ โรงเรียนนายสิบทหารบก ค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เพื่อเป็นทหาร โดยได้รับตำแหน่งแรกเป็นรองผู้บังคับหมู่ หมวดบริการ กองร้อยบริการ กองบริการ โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง (รอง ผบ.หมู่ มว.บร.ร้อย.บร.กบร.รร.กสร.ศสร.)
ค่ายมวยบัญชาเมฆแก้ไข
บัวขาวก่อตั้ง "ค่ายมวยบัญชาเมฆ" ซึ่งมีนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงอีก 2 คน คือ ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ และ นารูโตะ บัญชาเมฆ
เกียรติประวัติแก้ไข
- แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท (ที่สนามมวยลุมพินี) ปี 2544
- แชมป์ K-1 World MAX champion ปี 2004 และ 2006 เข้าชิงรอบสุดท้ายถึง 5 ครั้ง ได้แชมป์ 2 สมัย
- แชมป์ 2010 Shoot Boxing S-Cup World champion ปี 2553 คนไทยคนแรก และคนเดียวในประเทศไทย
- แชมป์ สภามวยไทยโลก ในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World champion ปี 2549, 2552, 2554, 2557
- แชมป์ สภามวยโลก WBC Muaythai Diamond World Championship ปี 2557
- แชมป์ ไหว้ครูมวยไทยสวยงาม สนามมวยลุมพินี ปี 2545
- ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แชมป์มวยไทยไฟท์ ปี 2554, 2555
- ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ปี 2555
- ถ้วยพระราชทาน กษัตริย์อัลแบร์ตที่ 2 แห่งโมนาโค แชมป์ "มอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์" ปี 2557
ปริญญากิตติมศักดิ์แก้ไข
- รับพระราชาทานปริญญาบัตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโท) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2556
- รับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ปี 2557
สถิติการแข่งขันแก้ไข
หน้านี้มีเนื้อหาเป็นภาษาต่างประเทศ คุณสามารถช่วยพัฒนาหน้านี้ได้ด้วยการแปล ยกเว้นหากเนื้อหาเกือบทั้งหมดไม่ใช่ภาษาไทย ให้แจ้งลบแทน |
สถิติการแข่งขัน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชนะ 227 ครั้ง (ชนะน็อค 68 ครั้ง), แพ้ 23 ครั้ง, เสมอ 12 ครั้ง
คำอธิบาย: ชนะ แพ้ เสมอ/ถอนสิทธิ์ หมายเหตุ |
ผลงานเพลงแก้ไข
เพลงประกอบโฆษณาแก้ไข
- เลือกตั้ง ปี 62 ร่วมกับ ธชย ประทุมวรรณ, ปราง ปรางทิพย์, ปนัดดา วงศ์ผู้ดี, พิชาภา ลิมศนุกาญจน์
ผลงานภาพยนตร์แก้ไข
- 2553 ซามูไร อโยธยา รับบทเป็น ครูเสือ
- 2555 คุณนายโฮ รับบทเป็น ผู้พันชูชัย (รับเชิญ)
- 2560 ทองดีฟันขาว รับบทเป็น พระยาพิชัยดาบหัก
ผลงานละครแก้ไข
ผลงานพิธีกรแก้ไข
- 2560 คุยเช้าSHOW ช่องวัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00 - 08.00 น. (เริ่ม 4 กรกฎาคม 2560)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก้ไข
- พ.ศ. ไม่ปรากฎ - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้น 5 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 ปูมเข้ม 'บัวขาว' 'แบล๊กโกลด์' มวยโลก. หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน. ปีที่ 35 ฉบับที่ 12420. วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555. ISSN 1686-8188. หน้า 13
- ↑ 2.0 2.1 2.2 ซีรีส์จบ!แก๊-บัวขาวแฮบปี้เคลียร์ลงตัว
- ↑ ซามูไรอโยธยา (2010)
- ↑ น็อกเอาต์ฉบับมวยสยาม. ปีที่ 23 ฉบับที่ 1981. วันที่ 5-11 ตุลาคม 2554. ISSN 15135438. หน้า 11
- ↑ 5.0 5.1 บัวขาว ป.ประมุข และ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง คว้าแชมป์ไทย ไฟต์ 2011
- ↑ มวยสยามรายวัน. ปีที่ 20 ฉบับที่ 6995. วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555. หน้า 6
- ↑ กองหลังสะดุ้ง!บัวขาวเปิดตัวค้าแข้งอาร์แบค โพสต์ทูเดย์, 16 กุมภาพันธ์ 2557
- ↑ 8.0 8.1 8.2 เปิดประวัติ บัวขาว ป.ประมุข. มติชนสุดสัปดาห์. ปีที่ 32 ฉบับที่ 1648. วันที่ 16-22 มีนาคม พ.ศ. 2555. ISSN 1686-8196. หน้า 96
- ↑ มวยสยามรายวัน. ปีที่ 19 ฉบับที่ 6664. วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554. หน้า 6
- ↑ หน้า 19 เดลินิวส์ฉบับที่ 22,833: วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555
- ↑ "Missing fighter Buakaw 'worn out'". Bangkok Post. March 9, 2012. สืบค้นเมื่อ March 9, 2012. Italic or bold markup not allowed in:
|publisher=
(help) - ↑ "Boxer Buakaw goes missing". The Nation. March 9, 2012. สืบค้นเมื่อ March 9, 2012. Italic or bold markup not allowed in:
|publisher=
(help) - ↑ คมชัดลึก. ปีที่ 11 ฉบับที่ 3794. วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555. หน้า 23-24
- ↑ หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน. ปีที่ 35 ฉบับที่ 12419. วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555. ISSN 1686-8188. หน้า 12
- ↑ คมชัดลึก. ปีที่ 11 ฉบับที่ 3795. วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555. หน้า 31
- ↑ "บัวขาว" โผล่!เคืองค่าย ขอพักใจไม่มีกำหนด จากผู้จัดการออนไลน์
- ↑ หน้า 19 เดลินิวส์ฉบับที่ 22,833: วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555
- ↑ หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน. ปีที่ 35 ฉบับที่ 12430. วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2555. ISSN 1686-8188. หน้า 15
- ↑ 'บัวขาว'ประเดิม, หน้า 21-21, 38. ไทยรัฐ: ปีที่ 34 ฉบับที่ 20177. ศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556
- ↑ http://www.wmcmuaythai.org/html/09_3006_01.html
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: บัวขาว บัญชาเมฆ |