เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล)
มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี นามเดิม หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล (16 เมษายน พ.ศ. 2410 – 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2460) อดีตเสนาบดีกระทรวงธรรมการ
เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) | |
---|---|
เสนาบดีกระทรวงธรรมการ | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2454 – พ.ศ. 2458 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ก่อนหน้า | เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร (หม่อมราชวงศ์คลี่ สุทัศน์) |
ถัดไป | เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 16 เมษายน พ.ศ. 2410 เมืองพระนคร ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2460 (49 ปี) เมืองพระนคร ประเทศสยาม |
ศาสนา | พุทธ |
คู่สมรส | ท่านผู้หญิงเสงี่ยม มาลากุล ณ อยุธยา |
บุตร | 8 คน |
ประวัติ
แก้หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2410[1] ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นโอรสในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นปราบปรปักษ์ และหม่อมเปี่ยม มาลากุล ณ อยุธยา
หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล ศึกษาชั้นต้นที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มีเลขประจำตัวหมายเลข 2 มีผลการเรียนดีเลิศ ซึ่งสอบได้ประโยคที่ 2 ในจุลศักราช 1248 หรือ พ.ศ. 2429
หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล เข้ารับราชการในกรมศึกษาธิการ ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็น หลวงไพศาลศิลปศาสตร์ ถือศักดินา ๘๐๐ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2432[2]จากนั้นในปี พ.ศ. 2435 จึงย้ายมารับราชการอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยในตำแหน่งพนักงานวิเศษ[3] และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระมนตรีพจนกิจ เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2435[4]ท่านได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นผู้อภิบาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตพิเศษไทยประจำสหราชอาณาจักรและยุโรป [5] ระหว่าง พ.ศ. 2440-2442 [6]
วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2443 ได้รับโปรดเกล้าฯ ตั้งเป็นองคมนตรี[7] เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ท่านได้สาบานตนถือน้ำทรงตั้งเป็นองคมนตรีต่อในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2453[8]
จากการที่ท่านได้เห็นการศึกษาของนักเรียนไทยในต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี ท่านได้กราบทูลเสนอให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปรับปรุงระบบการศึกษาของไทย ร่างเป็น "โครงแผนการศึกษาในกรุงสยาม" เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2441 และโครงการสร้างสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2453
ท่านได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็น พระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ มีตำแหน่งในกรมมหาดเล็ก ถือศักดินา 1200 เมื่อวันที่ 30 มกราคม ร.ศ. 113 (พ.ศ. 2437) [9] ดำรงตำแหน่งปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2448 ท่านลาบวชเป็นภิกษุ ทรงรับเป็นนาคหลวง อุปสมบท ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เป็นพระอุปัชฌาย์ พระพิมลธรรม (ยัง เขมาภิรโต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ บวชแล้วไปอยู่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร[10] ลาสิกขาแล้วรับราชการต่อมาจนได้เลื่อนเป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2455[11] จากนั้นได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็น มหาอำมาตย์เอก เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2455[12]
เมื่อวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456 พระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ ได้รับสถาปนาเป็นเจ้าพระยา มีสมญาตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี ศรีวิสุทธสุริยศักดิ์ อรรคพุทธศาสนวโรประการ ศิลปศาสตร์พิศาลศึกษานุกิจ บัณฑิตยการานุรักษ์ สามัคยาจารย์วิบุลย์ มาลากุลบริพัตร์ บรมขัติยราชสวามิภักดิ์ เสมาธรรมจักรมุรธาธร ศุภกิจจานุสรอาชวาธยาไศรย พุทธาทิไตรรัตนธาดา อภัยพิริยบรากรมพาหุ[13]
ต่อมาท่านขอลาออกจากตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงธรรมการ เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2459 จึงมีพระบรมราชานุญาตให้ท่านลาออกจากตำแหน่ง และพระราชทานบำนาญอย่างเสนาบดีชั้นสูง[14]
เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี ป่วยเป็นโรคเรื้อรังและกระเพาะอาหารพิการมาช้านาน จนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2460 เวลา 3 ยาม 30 นาที สิริอายุ 49 ปี 304 วัน วันต่อมา เวลาบ่าย 5 โมง สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เสด็จแทนพระองค์มาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ประกอบโกศมณฑป ตั้งบนชั้น 2 ชั้น ฉัตรเบญจาตั้งประดับ พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมมีกำหนด 1 เดือน[15]
ชีวิตครอบครัว
แก้เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี สมรสกับท่านผู้หญิงเสงี่ยม มาลากุล ณ อยุธยา (วสันตสิงห์) มีบุตร-ธิดา 8 คน คือ
- หม่อมหลวงปก มาลากุล
- หม่อมหลวงปอง มาลากุล สมรสกับหม่อมเจ้าสุรวุฒิประวัติ เทวกุล
- หม่อมหลวงเปนศรี มาลากุล
- หม่อมหลวงเปนศักดิ์ มาลากุล
- หม่อมหลวงป้อง มาลากุล
- หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล นักการศึกษาและศิลปินแห่งชาติ สมรสกับท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล ณ อยุธยา
- หม่อมหลวงเปี่ยมสิน มาลากุล
- หม่อมหลวงปานตา มาลากุล สมรสกับนายเมืองเริง วสันตสิงห์
สมรสกับคุณเจียร ลักษณะบุตร มีธิดาคือ
- หม่อมหลวงนกน้อย มาลากุล
สมรสกับคุณเลื่อน ศิวานนท์ มีบุตรคือ
- หม่อมหลวงประวัติ มาลากุล
ผลงาน
แก้ด้านการศึกษา
แก้โดยเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี จัดทำหลักสูตรโรงเรียนเบญจมบพิตร (โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตรในปัจจุบัน) ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ทรงกำหนดหลักสูตรแนวการสอนของโรงเรียนนี้ด้วยพระองค์เอง
เพลงสรรเสริญพระบารมี
แก้แต่เดิม การร้องเพลง "สรรเสริญพระบารมี" มีการแยกเนื้อร้องที่ใช้สำหรับ ทหารเรือหรือพลเรือนร้อง นอกจากนี้ยังมีการแบ่งแยกเนื้อร้องบางวรรคบางตอน สำหรับชาย และหญิงร้องต่างกัน ทำให้เกิดความลักลั่น เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2456 เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดีได้ออกคำสั่ง กำหนดให้เพลงสรรเสริญพระบารมีมีเพียงเนื้อร้องเดียว เหมือนกันหมด
เพลงสามัคคีชุมนุม
แก้พระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ เป็นผู้ประพันธ์คำร้องภาษาไทยของเพลง "สามัคคีชุมนุม" โดยใช้ทำนองเพลง ออลด์แลงไซน์ (Auld Lang Syne) ท่านได้รับการยกย่องว่า สามารถใส่เนื้อร้องภาษาไทยเข้าไปให้สอดคล้องกับทำนองเดิมได้อย่างเหมาะเจาะ สามารถร้องเนื้อภาษาไทยไปพร้อมๆกับเนื้อภาษาเดิมของเพลงได้อย่างไม่ขัดเขิน เนื้อเพลงมีความหมายลึกซึ้ง ให้ความรู้สึกถึงความสามัคคีเป็นอันดีต่อหมู่คณะ[16]
สมบัติผู้ดี
แก้พระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ ได้แต่งหนังสือไว้หลายเล่ม เล่มหนึ่งที่มีชื่อเสียงคือ สมบัติผู้ดี ซึ่งกล่าวถึงหลักปฏิบัติ 10 ประการของผู้ที่มีกาย วาจา ใจ อันสุจริต ท่านได้เรียบเรียงไว้เมื่อ พ.ศ. 2455 [17]
ยศ
แก้เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของประเทศไทยและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของต่างประเทศต่างๆ ดังนี้
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
แก้- พ.ศ. 2455 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์ (ร.ว.) (ฝ่ายหน้า)[20]
- พ.ศ. 2456 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)[21]
- พ.ศ. 2455 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[22]
- พ.ศ. 2453 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[23]
- พ.ศ. 2437 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))[24]
- พ.ศ. 2457 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[25]
- พ.ศ. 2451 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 3 (จ.ป.ร.3)[26]
- พ.ศ. 2457 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 2 (ว.ป.ร.2)[27]
- พ.ศ. 2449 – เหรียญราชรุจิทอง รัชกาลที่ 5 (ร.จ.ท.5)[28]
- พ.ศ. 2454 – เหรียญราชรุจิทอง รัชกาลที่ 6 (ร.จ.ท.6)[29]
- พ.ศ. 2436 – เหรียญรัชฎาภิเศกมาลา (ร.ศ.)
- พ.ศ. 2440 – เหรียญประพาสมาลา (ร.ป.ม.)
- พ.ศ. 2440 – เหรียญราชินี (ส.ผ.)
- พ.ศ. 2446 – เหรียญทวีธาภิเศก (ท.ศ.)
- พ.ศ. 2450 – เหรียญรัชมงคล (ร.ร.ม.)
- พ.ศ. 2451 – เหรียญรัชมังคลาภิเศก รัชกาลที่ 5 (ร.ม.ศ.5)
- พ.ศ. 2454 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 (ร.ร.ศ.6)
- พ.ศ. 2455 – เหรียญโรงเรียนมหาดเล็กหลวง
- พ.ศ. 2450 – เข็มอักษรเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปคราวแรก (เข็มเงิน)[30]
- พ.ศ. 2452 – เข็มพระชนมายุสมมงคล ชั้นที่ 2 (ทอง)[31]
- พ.ศ. 2454 – เข็มข้าหลวงเดิม[32]
- พ.ศ. 2454 – เข็มสมุหมนตรี
- พ.ศ. 2454 – เข็มไอยราพต
- พ.ศ. 2455 – เข็มราชินี ชั้นที่ 1
- พ.ศ. 2456 – เข็มพระบรมรูปสมเด็จพระพันปีหลวง ชั้นที่ 2
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
แก้- ปรัสเซีย :
- พ.ศ. 2432 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎปรัสเซีย ชั้นที่ 3[33]
- ออสเตรีย-ฮังการี :
- พ.ศ. 2432 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ชั้นที่ 5[33]
- สหราชอาณาจักรสวีเดนและนอร์เวย์ :
- พ.ศ. 2432 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญโอลาฟ ชั้นที่ 3[33]
- เดนมาร์ก :
- พ.ศ. 2433 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์แดนเนอโบร ชั้นที่ 3[34]
- ญี่ปุ่น :
- พ.ศ. 2433 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัย ชั้นที่ 5[35]
- พ.ศ. 2445 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงคลรัตน์ ชั้นที่ 1[36]
- ฝรั่งเศส :
- พ.ศ. 2435 – เครื่องอิสริยาภรณ์วิชาการการศึกษา ชั้นที่ 2[37]
- เบลเยียม :
- พ.ศ. 2442 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์เลออปอล ชั้นที่ 1
- เบราน์ชไวค์ :
ลำดับสาแหรก
แก้ลำดับสาแหรกของเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
แก้- ↑ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ กรมพระสมมตอมรพันธ์. เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 404 หน้า. ISBN 974-417-534-6, หน้า 179 (เชิงอรรถ)
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง
- ↑ ตำแหน่งข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย (หน้า ๑๔๑)
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตร
- ↑ เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี โดย สมศักดิ์ ดำรงสุนทรชัย
- ↑ รายนามเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สำเนาจากกูเกิลแคช แหล่งข้อมูลเดิม
- ↑ "พระราชพิธีศรีสัจปานกาล และตั้งองคมนตรี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 17 (2): 11–12. 8 เมษายน 2443. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2559.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "บัญชีพระนามและนามองคมนตรี ที่พระราชทานสัญญาบัตรแล้ว" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 27 (0 ง): 2276. 1 มกราคม 2453. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2559.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ส่งสัญญาบัตรออกไปพระราชทาน
- ↑ "การทรงผนวชและบวชนาคหลวง" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 22 (17): 396–8. 23 กรกฎาคม 2448. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2559.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งเสนาบดี และปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 29 (ก): 5–6. 14 เมษายน 2455. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-09-07. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2559.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ พระราชทานยศและเลื่อนยศ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เลื่อนกรม ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้า แลตั้งเจ้าพระยา, เล่ม 30, 11 พฤศจิกายน 2456, หน้า 344-8
- ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดีกราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงธรรมการ และให้พระยาธรรมศักดิ์มนตรีเป็นผู้รั้งตำแหน่งเสนาบดี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 32 (0 ก): 541–2. 29 มีนาคม 2458. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-09-07. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2559.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ข่าวอสัญญกรรม" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 33 (0 ง): 3335–6. 18 กุมภาพันธ์ 2459. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2559.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "เพลงสามัคคีชุมนุม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-12. สืบค้นเมื่อ 2006-10-29.
- ↑ หนังสือสมบัติผู้ดี
- ↑ ประกาศกระแสพระบรมราชโองการ ประกาศพระราชทานยศแก่ข้าราชการกระทรวงธรรมการ (หน้า ๙๓๓)
- ↑ "พระราชทานยศนายกองตรี" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-06-24. สืบค้นเมื่อ 2021-06-24.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๒๙ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๔๒๔, ๒๒ มกราคม ๑๓๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-10-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๐ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๙๖๔, ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๕๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวในพระราชสำนักนี้ รายพระนามแลนามผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล เก็บถาวร 2022-10-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๒๙ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๘๓๒, ๑๗ พฤศจิกายน ๑๓๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-10-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๔๐๒, ๑๑ มกราคม ๑๒๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเหรียญดุษฎีมาลาออกไปพระราชทาน เก็บถาวร 2018-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑ ตอนที่ ๔๕ หน้า ๓๘๔, ๓ กุมภาพันธ์ ๑๑๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา เก็บถาวร 2022-10-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๔๐๒, ๑๐ มกราคม ๒๔๕๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบันฝ่ายหน้า, เล่ม ๒๕ ตอนที่ ๓๕ หน้า ๑๐๑๓, ๒๙ พฤศจิกายน ๑๒๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลปัจจุบัน เก็บถาวร 2022-10-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๓๙๕, ๑๐ มกราคม ๒๔๕๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญราชรุจิ[ลิงก์เสีย], เล่ม ๒๓ ตอนที่ ๒๘ หน้า ๗๐๗, ๗ ตุลาคม ๑๒๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญราชรุจิ เก็บถาวร 2022-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๗๑๖, ๙ กรกฎาคม ๑๓๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเข็มอักษรเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรป, เล่ม ๒๔ ตอนที่ ๓๔ หน้า ๘๘๕, ๒๘ พฤศจิกายน ๑๒๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเข็มพระชนมายุสมมงคล เก็บถาวร 2022-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๒๖ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๖๓๓, ๖ มีนาคม ๑๒๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเข็มข้าหลวงเดิม เก็บถาวร 2022-10-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๔๘, ๒๘ พฤษภาคม ๑๓๐
- ↑ 33.0 33.1 33.2 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๖ ตอนที่ ๔๕ หน้า ๓๙๑, ๙ กุมภาพันธ์ ๑๐๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาต เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๗ ตอนที่ ๓๑ หน้า ๒๖๗, ๒ พฤศจิกายน ๑๐๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาต เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๗ ตอนที่ ๓๖ หน้า ๓๑๖, ๗ ธันวาคม ๑๐๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงวัง, เล่ม ๑๙ ตอนที่ ๔๗ หน้า ๙๐๔, ๘ กุมภาพันธ์ ๑๒๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๙ ตอนที่ ๑๔ หน้า ๘๖, ๓ กรกฎาคม ๑๑๑