พะโค
พะโค,[1] บะโก[1] (พม่า: ပဲခူးမြို့; มอญ: ဗဂေါ) หรือ หงสาวดี (พม่า: ဟံသာဝတီ; มอญ: ဟံသာဝတဳ หงสาวะโตย) เป็นเมืองหลักของภาคพะโค ตั้งอยู่ใกล้เมืองเมาะตะมะ ทางตอนใต้ของประเทศพม่า นครหงสาวดีเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรหงสาวดีของชาวมอญ และอาณาจักรตองอูของชาวพม่า
พะโค หงสาวดี | |
---|---|
เมือง | |
พิกัด: 17°20′12″N 96°28′47″E / 17.33667°N 96.47972°E | |
ประเทศ | ![]() |
ภาค | ![]() |
จังหวัด | พะโค |
อำเภอ | พะโค |
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1152 |
ความสูง | 13 ฟุต (4 เมตร) |
ประชากร (ค.ศ. 2014) | |
• ทั้งหมด | 254,424 คน |
ประชากรศาสตร์ | |
• กลุ่มชาติพันธุ์ | พม่า, มอญ, ไทใหญ่, พม่าเชื้อสายจีน, พม่าเชื้อสายอินเดีย, กะเหรี่ยง |
• ศาสนา | พุทธ |
เขตเวลา | UTC+6:30 (เวลามาตรฐานพม่า) |
ประวัติ แก้ไข
พะโคหรือหงสาวดีตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำพะโค เป็นเมืองของชาวมอญมาก่อนในอดีต พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้เคยเสด็จเข้ามาทำพิธีเจาะพระกรรณที่ฐานพระธาตุมุเตาขณะที่ยังอยู่ในเขตของมอญอยู่ ก่อนที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้จะทำสงครามยึดครองหงสาวดีจากชาวมอญ ในปี พ.ศ. 2082 และสถาปนาเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ตองอู เดิมเมืองหงสาวดีเก่ายุคมอญอยู่บริเวณตะวันออกของพระธาตุมุเตา ต่อมาจึงย้ายและสร้างให้ใหญ่กว่าเดิมในยุคพม่า
หงสาวดีเจริญรุ่งเรืองสุดในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง เนื่องจากพระองค์ให้ทรงสร้างพระราชวังของพระองค์ที่ชื่อ กัมโพชธานี ซึ่งนับเป็นพระราชวังใหญ่โตมีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยเกณฑ์ข้าทาสจากเมืองขึ้นต่าง ๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย จนถึงสมัยพระเจ้านันทบุเรงหลังศึกยุทธหัตถีแล้ว นัดจินหน่องได้ผูกมิตรกับเมืองยะไข่และอยุธยาเพื่อเข้าตีหงสาวดี แต่มหาเถรเสียมเพรียมได้ยุยงให้ตองอูไม่เข้ากับอยุธยา ดังนั้นเมื่อทัพตองอูมาถึงหงสาวดีก็ได้เข้าตีและล้อมเมืองเอาไว้ เมื่อทางหงสาวดีทราบข่าวว่าพระนเรศวรปราบทหารตามแนวชายแดนสำเร็จแล้วจึงเปิดประตูเมืองรับทัพตองอู พระเจ้านันทบุเรงมอบสิทธิ์ขาดในการบัญชาการทัพแก่นัดจินหน่องและเชิญพระเจ้านันทบุเรงไปประทับ ณ ตองอู เพื่อเตรียมรับทัพพระนเรศวร ตองอูได้กวาดต้อนพลเรือนและทรัพย์สินไปยังตองอู ทิ้งเมืองให้ยะไข่ปล้นและเผาเมือง ส่วนพระนเรศวรมาถึงหงสาวดีก็เหลือแต่เมืองที่ถูกเผาแล้ว พระนเรศวรจึงยกทัพไปตีตองอูต่อ หลังจากนั้น ศูนย์กลางอำนาจของพม่าได้ย้ายไปยังอังวะ, อมรปุระ และมัณฑะเลย์ตามลำดับ จนถึงวันที่พม่าเสียเอกราชให้แก่อังกฤษ
สัญลักษณ์ของเมือง แก้ไข
สัญลักษณ์เป็นรูปหงส์คู่ มีตำนานของชาวมอญเล่าว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงเมืองหงสาวดีที่สมัยก่อนยังคงเป็นชายหาดริมทะเล พระพุทธเจ้าทรงเห็นหงส์สองตัวว่ายน้ำเล่นกัน จึงทำนายออกมาว่าภายหลังจะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ชาวมอญจึงถือเอาตำนานเรื่องนี้มาเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ตำนานยังกล่าวว่าหงส์คู่นั้นตัวเมียขี่ตัวผู้ จึงมีคำทำนายว่าต่อไปผู้หญิงจะเป็นใหญ่ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือ พระนางเชงสอบู กษัตรีย์ของชาวมอญนั่นเอง
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของหงสาวดี คือ พระธาตุชเวมอดอ หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า พระธาตุมุเตา เป็นพระธาตุที่อยู่คู่กับเมืองมานาน เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าภายในได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ เล่ากันว่าเมื่อครั้งใดที่พระเจ้าบุเรงนองจะออกทำศึกจะทรงสักการะขอพรจากพระธาตุนี้ทุกครั้ง และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จมายังที่หงสาวดีนี้ก็ได้ทำการสักการะพระธาตุนี้ด้วย
ปัจจุบัน พะโคเป็นเมืองที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศพม่าด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม
ภูมิอากาศ แก้ไข
ข้อมูลภูมิอากาศของพะโค (ค.ศ. 1981–2010) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 31.6 (88.9) |
34.0 (93.2) |
36.2 (97.2) |
38.1 (100.6) |
34.3 (93.7) |
30.1 (86.2) |
29.7 (85.5) |
29.6 (85.3) |
30.8 (87.4) |
30.7 (87.3) |
32.2 (90) |
31.0 (87.8) |
32.4 (90.3) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 15.8 (60.4) |
17.2 (63) |
20.2 (68.4) |
23.1 (73.6) |
23.4 (74.1) |
22.7 (72.9) |
22.7 (72.9) |
22.6 (72.7) |
22.8 (73) |
23.0 (73.4) |
20.9 (69.6) |
16.9 (62.4) |
20.9 (69.6) |
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) | 1.3 (0.051) |
2.7 (0.106) |
13.5 (0.531) |
44.1 (1.736) |
333.9 (13.146) |
654.0 (25.748) |
716.9 (28.224) |
653.4 (25.724) |
436.3 (17.177) |
183.7 (7.232) |
48.7 (1.917) |
1.3 (0.051) |
3,089.8 (121.646) |
แหล่งที่มา: Norwegian Meteorological Institute[2] |
อ้างอิง แก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 "ประกาศสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เรื่อง กำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 139 (พิเศษ 205 ง). 1 กันยายน 2565.
- ↑ "Myanmar Climate Report" (PDF). Norwegian Meteorological Institute. pp. 23–36. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 October 2018. สืบค้นเมื่อ 30 November 2018.
บรรณานุกรม แก้ไข
- Aung-Thwin, Michael A. (2005). The Mists of Rāmañña: The Legend that was Lower Burma (illustrated ed.). Honolulu: University of Hawai'i Press. ISBN 9780824828868.
- Aung-Thwin, Michael A. (2017). Myanmar in the Fifteenth Century. Honolulu: University of Hawai'i Press. ISBN 978-0-8248-6783-6.
- Nyein Maung, บ.ก. (1972–1998). Shay-haung Myanma Kyauksa-mya [Ancient Burmese Stone Inscriptions] (ภาษาพม่า). Vol. 1–5. Yangon: Archaeological Department.
- Pan Hla, Nai (1968). Razadarit Ayedawbon (ภาษาพม่า) (8th printing, 2005 ed.). Yangon: Armanthit Sarpay.
- Phayre, Major-General Sir Arthur P. (1873). "The History of Pegu". Journal of the Asiatic Society of Bengal. Calcutta. 42: 23–57, 120–159.
- Phayre, Lt. Gen. Sir Arthur P. (1883). History of Burma (1967 ed.). London: Susil Gupta.
- Schmidt, P.W. (1906). "Slapat des Ragawan der Königsgeschichte". Die äthiopischen Handschriften der K.K. Hofbibliothek zu Wien (ภาษาเยอรมัน). Vienna: Alfred Hölder. 151.
อ่านเพิ่ม แก้ไข
ก่อนหน้า | พะโค | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
โดนวู่น | เมืองหลวงอาณาจักรหงสาวดี (ค.ศ. 1369 – มกราคม ค.ศ. 1539) |
สิ้นสุด | ||
ตองอู | อาณาจักรตองอู (มกราคม ค.ศ. 1539 – 30 เมษายน ค.ศ. 1550) |
อังวะ | ||
พะโค | เมืองหลวงอาณาจักรหงสาวดี (มิถุนายน ค.ศ. 1550 – 12 มีนาคม ค.ศ. 1552) |
สิ้นสุด | ||
ตองอู | อาณาจักรตองอู (12 มีนาคม ค.ศ. 1552 – 19 ธันวาคม ค.ศ. 1599) |
อังวะ | ||
อังวะ | อาณาจักรตองอู (14 พฤษภาคม ค.ศ. 1613 – 25 มกราคม ค.ศ. 1635) |
อังวะ | ||
สถาปนา | เมืองหลวงอาณาจักรหงสาวดีใหม่ (พฤศจิกายน ค.ศ. 1740 – 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1757) |
สิ้นสุด |