วันชัย สอนศิริ (เกิด 13 กุมภาพันธ์ 2497) เป็นนักการเมืองและทนายความชาวไทย สมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 10 สมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 11 สมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา [1] เป็นนักพูด ผู้บรรยายเรื่องกฎหมายทั่วไปของสภาทนายความ มีชื่อเสียงมาจากการให้ความรู้ทางกฎหมาย ในวิทยุคลื่นร่วมด้วยช่วยกัน ต่อมาเป็นผู้จัดรายการเล่าข่าว จากข่าวหนังสือพิมพ์ โดยสอดแทรกความรู้ด้านกฎหมาย และเรื่องขำขันทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวีและยูบีซี โดยจัดรายการคู่กับประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทั้งคู่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในชื่อ "สองทนาย" หรือ "ทนายคู่หู" ในรายการร่วมมือร่วมใจทางทีไอทีวีแต่ได้ออกมาในปี พ.ศ. 2550 หลังการเปลี่ยนโครงสร้างสถานีของไอทีวีเป็นทีไอทีวี

วันชัย สอนศิริ
สมาชิกวุฒิสภา
ดำรงตำแหน่ง
11 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
(5 ปี 60 วัน)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 (70 ปี)
อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
ศาสนาพุทธ
พรรคการเมืองชาติพัฒนา (2540—2547)
คู่สมรสนันทนา สอนศิริ

ประวัติ

แก้

วันชัยเคยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตกรุงเทพมหานคร เขต 1 (เขตพระนครและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย) สังกัดพรรคชาติพัฒนา ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2544 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง[2]

ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนกฎหมายอยู่ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, นักจัดรายการคุยสบาย ๆ กับทนายวันชัยทางสถานีวิทยุคลื่น FM.98 MHz ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 15.00 - 17.00 น. คู่กับมัลลิกา บุญมีตระกูล เคยเป็นพิธีกรรายการ "9 ร่วมใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ซึ่งปฐมทัศน์เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 10.05 - 11.00 น.

ปัจจุบันเป็นพิธีกรร่วมกับเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในรายการ "รู้ทันประเทศไทย" ทางเอเอสทีวี นิวส์วัน และรายการ "คลายปม" ทางสทท.11 ซึ่งปฐมทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 และได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในแบบสรรหาเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2554[3]

ด้านชีวิตส่วนตัว สมรสกับนันทนา สอนศิริ มีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน

การศึกษา

แก้

การทำงาน

แก้
  • ปี พ.ศ. 2532-2535 กรรมการทนายความ ภาค 1 และรองเลขาธิการสภาพทนายความ
  • ปี พ.ศ. 2535-2538 เลขาธิการสภาทนายความ
  • ปี พ.ศ. 2541-2544 เลขาธิการสภาทนายความ
  • ปี พ.ศ. 2528-2532 สมาชิกเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
  • ปัจจุบัน เลขาธิการสภาทนายความ
  • อนุกรรมการพัฒนากฎหมายเยาวชน สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมประสานงานเยาวชนแห่งชาติ
  • ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล)
  • ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายกร ทัพพะรังสี)
  • พิธีกรรายการ "แจ้งความ" ไอทีวี
  • วิทยากรรายการ "ชาวกรุงร้องทุกข์" เนชั่นทีวีและTTV
  • กรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงแรงงาน
  • หัวหน้าสำนักงานทนายความวันชัย สอนศิริ
  • อนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิ์ของผู้บริโภค สคบ.
  • อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเซีย หลักสูตร รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต
  • วิทยากรตอบกฎหมายในรายการวิทยุโทรทัศน์หลายแห่ง

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

แก้

มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของวันชัย สอนศิริ ซึ่งกล่าวถึงการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญไทย พ.ศ. 2559 ในส่วนของประเด็นเพิ่มเติม ซึ่งให้สิทธิ์ประชุมร่วมกันของรัฐสภาไทย (กล่าวคือสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา) ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี โดยนายวันชัยกล่าวว่าตนเองเป็นผู้อยู่เบื้องหลังประเด็นเพิ่มเติมดังกล่าว[4]

ผมเป็นคนเขียนในรัฐธรรมนูญ ปกติ ส.ว. เนี่ย ไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ นะ ไม่มีสิทธิ์ไปโหวตใครเป็นนายกรัฐมนตรี ผมเป็นคนเขียนรัฐธรรมนูญ โดยเสนอในสมัยที่ผมยังเป็นสปท. ให้ ส.ว. 250 คนนี้ มีสิทธิ์ร่วมในการโหวตคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเป็นคำถามพ่วง พวกเราจำได้อ๊ะเปล่า คำถามพ่วงนี้โหวตทั่วประเทศได้ 15 ล้านเสียง ว่าเห็นด้วยว่าให้ ส.ว. ที่คสช.ตั้งมาเนี่ย มีสิทธิ์โหวตนายกรัฐมนตรี

— วันชัย สอนศิริ

สมาชิกวุฒิสภา

แก้

วันชัย สอนศิริ ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยได้รับตำแหน่งจากการคัดเลือกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ[5]

หลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 วันชัย สอนศิริ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดให้เป็นอำนาจของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาไทย โดยให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการลงคะแนนของสมาชิกวุฒิสภาว่าอาจจะลงคะแนนในรูปแบบที่ไม่สอดคล้องกับผลการเลือกตั้ง[6]

ผมก็ไม่แน่ใจว่าคนได้เสียงอันดับ 1 จะต้องเป็นรัฐบาลเสมอ ครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยก็มีเสียงมาอันดับ 1 แต่ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน แต่ถ้ารวมเสียงได้มากโดยหลักการแล้วก็คิดว่าต้องเคารพเสียงตรงนี้ ครั้งนี้พรรคก้าวไกลได้เสียงอันดับ 1 ก็จริง แต่ไม่ได้คะแนนเสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเกินกว่า 251 เสียง ต้องดูต่อไปถ้าเขาประสานกับพรรคเพื่อไทยได้อันนี้ก็มีสิทธิได้เกิน 300 เสียง ต้องดูว่าเขาตกลงกันได้หรือเปล่าว่าใครเป็นนายกฯ และการทำนโยบายต่างๆ นั้นรวมกันได้หรือเปล่า เราไม่รู้ เพราะ ส.ว.อยู่ข้างหลัง ไม่ใช่คนที่จะต้องเสนอใครมาเป็นนายกฯ มันอยู่ที่ ส.ส.ก่อน

— วันชัย สอนศิริ

ผลงาน

แก้

รายการโทรทัศน์

แก้
  • แจ้งความ
  • คนหัวหมอ (2545-2550)
  • ร่วมมือร่วมใจ
  • หัวหมอจ้อข่าว
  • ตีข่าวเล่าความ
  • 9 ร่วมใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน
  • ตีกลองร้องทุกข์
  • รู้ทันประเทศไทย
  • คลายปม
  • ก๊วนซ่าประมาณว่า
  • ถอนพิษ

รางวัลเกียรติยศ

แก้
  • โล่เกียรติคุณ "คนดีของสังคม" จากสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM96 MHz โดยพิจิตต รัตตกุล
  • ประกาศ เกียรติคุณเป็นบุคคลที่ได้ทำคุณประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำปี 2546 จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี
  • รางวัลเชิดชูเกียรติผลงานดีเด่นทางโทรทัศน์ "เมขลา" ครั้งที่ 22 ประจำปี 2545 ในฐานะผู้ดำเนินรายการ "แจ้งความ" ทางไอทีวี จากสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิง

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. กรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง
  2. ประวัติ วันชัย สอนศิริ, คำอธิบายเพิ่มเติม.
  3. เปิด! 73 รายชื่อ ส.ว.สรรหาเก็บถาวร 2013-12-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากวอยซ์ทีวี
  4. "วันชัย สอนศิริ" เฉลยปริศนาที่มาส.ว. 250 คน โหวตนายกฯได้, สืบค้นเมื่อ 2023-05-16
  5. "นาย วันชัย สอนศิริ". theyworkforus.wevis.info.
  6. matichon (2023-05-15). "วันชัย ขออย่าเพิ่งเล็งเป้า ส.ว. 'ก้าวไกล' มาที่ 1 ใช่ว่าจะได้เป็น รบ. ยกเคสเพื่อไทยเทียบ". มติชนออนไลน์.
  7. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๖, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๔ ข หน้า ๕, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
  8. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๔, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
  9. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาถรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๖๐, เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๘ ข หน้า ๓, ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้