อาลีซง แบเกร์
หน้านี้มีเนื้อหาเป็นภาษาต่างประเทศ คุณสามารถช่วยพัฒนาหน้านี้ได้ด้วยการแปล ยกเว้นหากเนื้อหาเกือบทั้งหมดไม่ใช่ภาษาไทย ให้แจ้งลบแทน |
อาลีซง รังซิส แบเกร์ (โปรตุเกส: Alisson Ramses Becker; เกิด 2 ตุลาคม ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลและทีมชาติบราซิล เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ด้วยสถิติการเก็บคลีนชีต การจ่ายบอล การแอสซิสต์ การเข้าสกัดบอล การพุ่งตัวเข้าหาบอล และยังเป็นผู้รักษาประตูคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลที่สามารถทำประตูได้
![]() อาลีซงขณะเล่นให้กับทีมชาติบราซิลใน ค.ศ. 2018 | |||||||||||||||||||
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | อาลีซง รังซิส แบเกร์[1] | ||||||||||||||||||
วันเกิด | [2] | 2 ตุลาคม ค.ศ. 1992||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | โนวูอัมบูร์กู ประเทศบราซิล | ||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.93 เมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว)[3] | ||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | ผู้รักษาประตู | ||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | |||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | ลิเวอร์พูล | ||||||||||||||||||
หมายเลข | 1 | ||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||||||||
2002–2013 | อิงเตร์นาซีโยนัล | ||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||||||||
2013–2016 | อิงเตร์นาซีโยนัล | 80 | (0) | ||||||||||||||||
2016–2018 | โรมา | 37 | (0) | ||||||||||||||||
2018– | ลิเวอร์พูล | 185 | (1) | ||||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | |||||||||||||||||||
2009 | บราซิล อายุไม่เกิน 17 ปี | 3 | (0) | ||||||||||||||||
2013 | บราซิล อายุไม่เกิน 21 ปี | 5 | (0) | ||||||||||||||||
2015– | บราซิล | 61 | (0) | ||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||||||||
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16:20 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2022 |
อาลีซงเริ่มอาชีพนักฟุตบอลที่สโมสรอิงเตร์นาซียอนัล เขาลงเล่นเกินกว่า 100 นัด และเป็นผู้ชนะเลิศกังเปโอนาตูกาอูชู (การแข่งขันระหว่างสโมสรในรัฐฮิวกรังจีดูซูว) ในทุกฤดูกาลที่เขาอยู่กับสโมสร ใน ค.ศ. 2016 เขาย้ายไปยังสโมสรโรมาด้วยค่าตัว 7.5 ล้านยูโร ในช่วงแรกเขาเป็นผู้เล่นสำรองให้กับวอยแชค ชแชนสนือ เป็นส่วนใหญ่[4] และได้เป็นผู้รักษาประตูหลักหลังจากชแชนสนือย้ายออกไป ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 อาลีซงเซ็นสัญญาเล่นให้กับสโมสรลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติโลกสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู[5]
อาลีซงเคยเป็นผู้เล่นทีมชาติบราซิลในระดับเยาวชนหลายระดับ ก่อนจะเปิดตัวในฐานะผู้เล่นทีมชาติชุดใหญ่เมื่อ ค.ศ. 2015 หลังจากนั้นก็ได้เป็นตัวแทนประเทศในการแข่งขันโกปาอาเมริกาเซนเตนาริโอ เมื่อ ค.ศ. 2016
สโมสรอาชีพ แก้
โรมา แก้
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ลิเวอร์พูล แก้
ฤดูกาล 2018-19 แก้
ในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ลิเวอร์พูลประกาศคว้าตัวอาลีซงจากโรมา ด้วยค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์ ซึ่งกลายเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในตำแหน่งผู้รักษาประตูสวมเบอร์13[6] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 อาลีซงได้ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล นัดแรกเป็นทางการในนัดที่ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[7] ต่อมา อาลีซงก็ช่วยให้ลิเวอร์พูลไม่เสียประตูอีก 2 นัดกับคริสตัลพาเลซและไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ทำให้อาลีซงเป็นผู้รักษาประตูคนที่ 4 ของลิเวอร์พูลที่สร้างสถิติเก็บคลีนชีตไว้ได้ ต่อมา ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2018 อาลีซงก็เสียประตูพรีเมียร์ลีกจากความผิดพลาดของเขาเอง ในนัดที่ลิเวอร์พูลชนะเลสเตอร์ซิตีที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 2-1[8] จบฤดูกาล อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 21 นัด ทำให้ อาลีซงคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง
ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[9]
ฤดูกาล 2019-20 แก้
อาลีซงจะสวมเสื้อหมายเลข 1 สำหรับฤดูกาล 2019-20 หลังจากใช้หมายเลข 13 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2019–20 อาลีซงลงเล่นแค่ 38 นาทีเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ โดยอาเดรียน ผู้รักษาประตูมือสองลงมาเฝ้าเสาแทนในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ นอริชซิตี 4-1[10] และอาลีซงจะต้องได้รับการสแกนเพื่อตรวจต่อไป[11]
ในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2019 อาลีซงหายเจ็บกลับมาลงสนามอีกครั้ง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 1-1[12] ต่อมา ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 อาลีซงโดนใบแดงไล่ออกจากสนามเป็นครั้งแรกในฟุตบอลอาชีพ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 2-1 ทำให้ อาลีซง โดนแบน 1 นัด[13] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[14] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2020 อาลีซงเปิดบอลให้ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0[15] จบฤดูกาล อาลีซงช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[16]
ฤดูกาล 2020-21 แก้
ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2020 อาลีซงเซฟลูกจุดโทษครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ 2-0[17]
ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 เขาสามารถทำประตูได้ในนัดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 โดยเขาขึ้นมาทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ทำให้เขาเป็นผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลคนแรกที่สามารถทำประตูได้ และเป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่ทำประตูด้วยลูกโหม่ง[18]
ฤดูกาล 2021-22 แก้
ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2021 อาลีซงตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูลถึงปี 2027[19] วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 อาลีซงทำเข้าประตูตัวเองในนัดแรก ในนัดที่ลิเวอร์พูลแพ้เวสต์แฮม ที่ลอนดอนสเตเดียม 3-2
ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ[20] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ แอสตันวิลลา ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[21] จบฤดูกาล อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 20 นัด ทำให้ อาลีซงคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 ไปครอง[22]
ทีมชาติบราซิล แก้
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 ทีมชาติบราซิลเรียกตัวอาลีซงติดรายชื่อชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดยบราซิลได้อยู่กลุ่มอีร่วมกับสวิตเซอร์แลนด์, คอสตาริกา และเซอร์เบีย อาลีซงได้ลงสนามเป็นตัวจริงในฐานะมือ 1 สุดท้าย บราซิลผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย คว้าอันดับ 1 ของกลุ่มอี ชนะ 2 เสมอ 1 ต่อมาในวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย บราซิลพ่ายแพ้เบลเยียม 1-2 ทำให้บราซิลต้องจบเส้นทางฟุตบอลโลกที่รัสเซียเพียงเท่านี้
สถิติอาชีพ แก้
สโมสร แก้
- ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2023[23]
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | สเตทลีก[a] | ฟุตบอลถ้วย | ลีกคัพ | ทวีป | อื่นๆ[b] | รวม | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
อิงเตร์นาซีโยนัล | 2013 | Série A | 6 | 0 | 1 | 0 | 2[c] | 0 | — | — | — | 9 | 0 | |||
2014 | Série A | 11 | 0 | 3 | 0 | 0 | 0 | — | — | 14 | 0 | 28 | 0 | |||
2015 | Série A | 26 | 0 | 15 | 0 | 4[c] | 0 | — | 12[d] | 0 | — | 57 | 0 | |||
2016 | Série A | 1 | 0 | 17 | 0 | 0 | 0 | — | — | 3 | 0 | 21 | 0 | |||
รวม | 44 | 0 | 36 | 0 | 6 | 0 | — | 12 | 0 | 17 | 0 | 115 | 0 | |||
โรมา | 2016–17 | เซเรียอา | 0 | 0 | — | 4[e] | 0 | — | 11[f] | 0 | — | 15 | 0 | |||
2017–18 | เซเรียอา | 37 | 0 | — | 0 | 0 | — | 12[g] | 0 | — | 49 | 0 | ||||
รวม | 37 | 0 | — | 4 | 0 | — | 23 | 0 | — | 64 | 0 | |||||
ลิเวอร์พูล | 2018–19 | พรีเมียร์ลีก | 38 | 0 | — | 0 | 0 | 0 | 0 | 13[g] | 0 | — | 51 | 0 | ||
2019–20 | พรีเมียร์ลีก | 29 | 0 | — | 0 | 0 | 0 | 0 | 5[g] | 0 | 3[h] | 0 | 37 | 0 | ||
2020–21 | พรีเมียร์ลีก | 33 | 1 | — | 1 | 0 | 0 | 0 | 7[g] | 0 | 1[i] | 0 | 42 | 1 | ||
2021–22 | พรีเมียร์ลีก | 36 | 0 | — | 4 | 0 | 1 | 0 | 13[g] | 0 | — | 54 | 0 | |||
2022–23 | พรีเมียร์ลีก | 37 | 0 | — | 2 | 0 | 0 | 0 | 8[g] | 0 | 0 | 0 | 47 | 0 | ||
2023–24 | พรีเมียร์ลีก | 12 | 0 | — | 0 | 0 | 0 | 0 | 1[j] | 0 | — | 13 | 0 | |||
รวม | 185 | 1 | — | 7 | 0 | 1 | 0 | 47 | 0 | 4 | 0 | 244 | 1 | |||
รวมทั้งหมด | 266 | 1 | 36 | 0 | 17 | 0 | 1 | 0 | 82 | 0 | 7 | 0 | 409 | 1 |
- ↑ Appearances in Campeonato Gaúcho
- ↑ Appearances in Primeira Liga (Brazil), Copa FGF and Supercopa Gaúcha
- ↑ 3.0 3.1 Appearances in Copa do Brasil
- ↑ Appearances in Copa Libertadores
- ↑ Appearances in Coppa Italia
- ↑ One appearance in UEFA Champions League and ten appearances in UEFA Europa League
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 Appearances in UEFA Champions League
- ↑ One appearance in FA Community Shield, two appearances in FIFA Club World Cup
- ↑ Appearance in FA Community Shield
- ↑ Appearance in UEFA Europa League
ทีมชาติ แก้
- ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2022[24]
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
บราซิล | 2015 | 3 | 0 |
2016 | 12 | 0 | |
2017 | 7 | 0 | |
2018 | 12 | 0 | |
2019 | 10 | 0 | |
2020 | 0 | 0 | |
2021 | 7 | 0 | |
2022 | 10 | 0 | |
รวม | 61 | 0 |
เกียรติประวัติ แก้
สโมสร แก้
อิงเตร์นาซียอนัล
- Campeonato Gaúcho: 2013, 2014, 2015, 2016
ลิเวอร์พูล
- พรีเมียร์ลีก: 2019–20
- เอฟเอคัพ: 2021–22
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2018–19
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2019
- อีเอฟแอลคัพ: 2021–22[25]
ทีมชาติ แก้
บราซิล อายุไม่เกิน 23 ปี
- Toulon Tournament: 2013
บราซิล
รางวัลส่วนตัว แก้
- The Best FIFA Goalkeeper: 2019
- FIFA FIFPro World XI: 2019, 2020
- UEFA Champions League Squad of the Season: 2017–18, 2018–19
- UEFA Champions League Goalkeeper of the Season: 2018–19
- Serie A Goalkeeper of the Year: 2017–18
- Serie A Team of the Year: 2017–18
- Premier League Golden Glove: 2018–19, 2021–22
- Premier League Save of the Month: August 2023
- Goal 50 World's Best Goalkeeper: 2018
- Globe Soccer Awards Goalkeeper of the Year: 2018, 2019
- Copa América Golden Glove: 2019
- Copa América Team of the Tournament: 2019
- IFFHS World's Best Goalkeeper: 2019
- IFFHS Men's World Team: 2019
- Yashin Trophy: 2019
- Ballon d'Or: 2019 (7th place)
- Samba Gold: 2019
- EA Sports FIFA Team of the Year: 2019
- UEFA Team of the Year: 2019
- Liverpool Goal of the Season: 2020–21 (vs. West Brom)
- Standard Chartered Liverpool Player of the Month: มีนาคม 2022
อ้างอิง แก้
- ↑ "FIFA World Cup Russia 2018: List of Players: Brazil" (PDF). FIFA. 15 July 2018. p. 4. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 11 June 2019.
- ↑ "FIFA Club World Cup Qatar 2019: List of Players: Liverpool" (PDF). FIFA. 21 December 2019. p. 7. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 5 December 2019. สืบค้นเมื่อ 17 January 2020.
- ↑ "FIFA World Cup Qatar 2022: List of players: Brazil" (PDF). FIFA. 15 November 2022. p. 4. สืบค้นเมื่อ 22 November 2022.
- ↑ "Porto-Roma, la formazione ufficiale: Alisson in porta, Dzeko in attacco" [Porto-Roma, the official formation: Alisson in goal, Dzeko in attack]. La Gazetta dello Sport (ภาษาอิตาลี). 17 August 2016. สืบค้นเมื่อ 8 December 2017.
- ↑ Romano, Fabrizio (2018-07-18). "Liverpool sign Roma goalkeeper Alisson for world-record £66.9m fee". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-07-19.
- ↑ ลิเวอร์พูลบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวอลิสสัน เบ็คเกอร์ มาร่วมทีม
- ↑ Match Report: หงส์แดงถล่มขุนค้อน 4-0 คว้าสามแต้มแรกของฤดูกาล 2018-19
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนเลสเตอร์ 2-1
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกหลังชนะสเปอร์ส 2-0
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลประเดิมเก็บ 3 แต้มแรกในเกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีก
- ↑ อัปเดตการบาดเจ็บของอลิสสัน เบ็คเกอร์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
- ↑ Match Report: สองประตูของฟาน ไดจ์ค ช่วยให้ลิเวอร์พูลยังครองจ่าฝูง
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คลับ เวิลด์ ที่กาตาร์
- ↑ Match Report: ประตูจากฟาน ไดจ์ค และ ประตูท้ายเกมจากซาลาห์ ช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- ↑ อัลบั้มภาพ: ทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
- ↑ Match Report: มาเน่เบิ้ลให้ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มเหนือเชลซี
- ↑ Match Report: อลิสสันโหม่งพังประตูในนาทีสุดท้ายคว้าชัยให้ลิเวอร์พูล
- ↑ อลิสสันเซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับลิเวอร์พูล
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวูล์ฟส์ในเกมสุดท้ายที่แอนฟิลด์
- ↑ อลิสสันคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีก
- ↑ "Alisson". Soccerway. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 กรกฎาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 6 ธันวาคม 2018.
- ↑ "Alisson". National Football Teams. สืบค้นเมื่อ 23 June 2018.
- ↑ McNulty, Phil (27 February 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 27 February 2022.
แหล่งข้อมูลอื่น แก้
- Internacional profile (ในภาษาโปรตุเกส)
- แม่แบบ:Sambafoot
- ข้อมูลของ อาลีซง แบเกร์ ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
- อาลีซง แบเกร์ ที่ National-Football-Teams.com
- อาลีซง แบเกร์ – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)