สโมสรฟุตบอลไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน

สโมสรฟุตบอลไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน (อังกฤษ: Brighton & Hove Albion Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลจากนครไบรตันและโฮฟ เทศมณฑลอีสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ มักเรียกโดยย่อว่า ไบรตัน ปัจจุบันแข่งขันอยู่ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ โดยมีสนามเหย้าคือสนามกีฬาฟัลเมอร์ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ ดิ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส คอมมิวนิตี สเตเดียม โดยสนามแห่งนี้มักถูกเรียกโดยย่อว่า ดิ เอเม็กซ์

ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน
ชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน
ฉายาThe Seagulls
(นกนางนวล)
ก่อตั้ง24 มิถุนายน 1901; 122 ปีก่อน (1901-06-24)
สนามสนามกีฬาฟัลเมอร์
Ground ความจุ30,750
ประธานโทนี บลูม
ผู้จัดการโรแบร์โต เด แซร์บี
ลีกพรีเมียร์ลีก
2022–23พรีเมียร์ลีก อันดับที่ 6 จาก 20
เว็บไซต์เว็บไซต์สโมสร
สีชุดทีมเยือน
สีชุดที่สาม
ฤดูกาลปัจจุบัน

ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน มีฉายาว่า The Seagulls ที่แปลว่านกนางนวล และใช้นกนางนวลเป็นสัญลักษณ์บนตราสโมสร เนื่องจากสโมสรมีที่ตั้งอยู่ในนครไบรตันและโฮฟ ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลที่มีนกนางนวลอยู่เป็นจำนวนมาก โดยสโมสรมีคู่แข่งสำคัญคือ สโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซ ซึ่งอยู่ห่างออกไป 40 ไมล์[1][2]

โดยสโมสรเคยเล่นอยู่ในลีกสูงสุดของประเทศเพียง 4 ฤดูกาล ในช่วงทศวรรษที่ 80 เกียรติประวัติสูงสุดของสโมสรที่เคยได้คือ รองแชมป์เอฟเอคัพเมื่อปี ค.ศ. 1983 โดยเข้าชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรที่ใหญ่และมีเกียรติประวัติมากกว่า โดยนัดแรกสามารถเอาเสมอไปได้ 2–2 ที่สนามของตนเอง ทำให้ต้องมีการแข่งกันในนัดที่สอง ปรากฏว่าไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียนเป็นฝ่ายแพ้ไป 0–4 และในการแข่งขันฟุตบอลลีกหรือลีกอาชีพไม่ว่าระดับใดก็ยังไม่เคยได้แชมป์[3] อย่างไรก็ตามในช่วงแรกของการก่อตั้งสโมสร สโมสรเคยคว้าแชมป์เซาท์เทิร์นลีก ดิวิชัน 1 ซึ่งเป็นลีกสมัครเล่นได้ในฤดูกาล 1909–1910

ประวัติ แก้

 
ผู้เล่นของสโมสรชุดที่คว้าแชมป์เอฟเอ แชริตี ชิลด์ ในปี ค.ศ. 1910 ด้วยการเอาชนะแอสตันวิลลา 1–0 ที่สนามกีฬาสแตมฟอร์ดบริดจ์

สโมสรก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1901 และส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในเซาเทิร์นลีก โดยสามารถคว้าแชมป์เซาเทิร์นลีก ดิวิชัน 1 ได้ในฤดูกาล 1909—10 ทำให้ได้แข่งขันเอฟเอ แชริตี ชิลด์ ซึ่งในยุคสมัยนั้นจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างแชมป์เซาเทิร์นลีก และแชมป์ฟุตบอลลีก โดยแชริตี ชีลด์ ในปี ค.ศ. 1910 ไบรตันแอนด์โฮฟ อัลเบียน ซึ่งได้แชมป์เซาเทิร์นลีก สามารถเอาชนะ แอสตันวิลลา ที่เป็นแชมป์ฟุตบอลลีกได้ 1—0 ทำให้เป็นแชมป์แชริตี ชีลด์ ในปีดังกล่าว โดยนับเป็นแชมป์ในรายการสำคัญของประเทศรายการเดียวของสโมสร

ค.ศ. 1920 สโมสรได้เข้ามาแข่งขันในฟุตบอลลีกเป็นครั้งแรก ในฐานะของสโมสรที่มีผลงานดีในเซาเทิร์นลีก โดยได้เข้ามาแข่งขันในระดับ ดิวิชัน 3 และได้ตำแหน่งรองแชมป์ ดิวิชัน 3 ในฤดูกาล 1971—72 ทำให้ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งขันในดิวิชัน 2 แต่สโมสรลงแข่งขันในดิวิชัน 2 ได้แค่ฤดูกาลเดียวก็ต้องตกชั้นกลับลงไปในดิวิชัน 3 เมื่อจบฤดูกาลด้วยอันดับสุดท้ายในตารางคะแนนดิวิชัน 2 ฤดูกาล 1972—73

ปี ค.ศ. 1976 สโมสรได้แต่งตั้งให้อลัน มัลเลอรี อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยมัลเลอรี ที่เพิ่งประกาศเลิกเล่นฟุตบอลและรับงานคุมทีมเป็นครั้งแรก สามารถสร้างผลงานพาสโมสรเลื่อนชั้นได้ถึง 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาแค่ 3 ปี โดยในฤดูกาล 1976—77 มัลเลอรีพาสโมสรได้รองแชมป์ ดิวิชัน 3 และได้เลื่อนชั้นกลับขึ้นไปแข่งในดิวิชัน 2 อีกครั้ง ก่อนจะได้รองแชมป์ดิวิชัน 2 เมื่อจบฤดูกาล 1978—79 และได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดของประเทศเป็นครั้งแรก

ในฤดูกาล 2016–17 ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียนได้เลื่อนชั้นขึ้นมาแข่งในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก และนับเป็นการกลับขึ้นมาแข่งขันบนลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี หลังจากเอาชนะวีแกนแอทเลติก ได้ที่สนามฟัลเมอร์สเตเดียมของตนเองไป 2–1 ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2016 ทำให้มี 92 คะแนน จากการลงแข่งขัน 43 นัด การันตีว่าจะได้อยู่สองอันดับแรกเมื่อจบฤดูกาลแน่นอน[4] และจบฤดูกาลด้วยการได้อันดับสอง มี 93 คะแนน น้อยกว่านิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่ได้อันดับหนึ่ง หรือแชมป์เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น[5]

ผู้เล่น แก้

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน แก้

ณ วันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2023 [6]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK   บาร์ต เฟอร์บรึคเคิน
2 DF   Tariq Lamptey
3 DF   อีโกร์ ฌูลียู
4 DF   อดัม เว็บสเตอร์
5 DF   ลูวิส ดังก์ (กัปตัน)[7]
6 MF   เจมส์ มิลเนอร์
7 MF   ซอลลี มาร์ช
9 FW   ฌูเวา เปดรู
10 FW   ฆูลิโอ เอนซิโซ
11 MF   บิลลี กิลมอร์
13 MF   พัสคาล โกรส
12 DF   วาเลนติน บาร์โก
14 MF   แอดัม ลัลลานา
15 MF   ยากุป มอแดร์
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
18 FW   แดนนี เวลเบก
20 MF   คาร์ลอส บาเลบา
22 MF   คาโอรุ มิโตมะ
23 GK   เจสัน สตีล
24 MF   ไซมอน อดินกรา
28 FW   เอฟวัน เฟอร์กูสัน
29 DF   ยัน เปาล์ ฟัน แฮ็กเกอ
30 DF   เปร์บิส เอสตูปิญญัน
31 FW   อันซู ฟาตี (ยืมตัวมาจากบาร์เซโลนา)
34 DF   ฌอแอล แฟ็ลต์มัน
38 GK   ทอม แมกกิล
40 MF   ฟากุนโด บูโอนาโนเต
41 MF   แจ็ก ฮินเชลวูด

เกียรติประวัติ แก้

ในประเทศ แก้

ลีก แก้

Winners (3) 1957–58, 2001–02, 2010–11
Winners (2) 1964–65, 2000–01
  • Southern Football League
Winners (1) 1909–10

ถ้วย แก้

ชนะเลิศ (1): 1910
ชนะเลิศ: (2) 1959–60, 1960–61

อ้างอิง แก้

  1. "Club Rivalries Uncovered Results" (PDF). FootballFanCensus. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 20 October 2013. สืบค้นเมื่อ 6 September 2011.
  2. Burnton, Simon (2011) How Brighton v Crystal Palace grew into an unlikely rivalry, The Guardian, 27 September (Accessed Dec 2012)
  3. หน้า 8 กีฬา, เรื่องเล่าจาก 'ไบรท์ตัน' น้องใหม่ศึกพรีเมียร์ลีก. คมชัดลึกปีที่ 16 ฉบับที่ 5661: วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2560
  4. ""ไบรจ์ตันฯ" เลื่อนชั้นรอบ 34 ปี ฮัดเดอร์สฟิลด์สะดุด เจ๊าแกะท้ายเกม". ผู้จัดการออนไลน์. 2017-04-18. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-21. สืบค้นเมื่อ 2017-04-18.
  5. "ตารางคะแนน เดอะแชมเปียนชิพ อังกฤษ 2016 - 2017". สนุกดอตคอม. สืบค้นเมื่อ 2017-05-11.
  6. "First team". Brighton & Hove Albion F.C. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 September 2020. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
  7. Cleeves, Kieran (19 August 2018). "Hughton's admiration for Mourinho". Brighton & Hove Albion F.C. สืบค้นเมื่อ 26 August 2018.
  8. "R.U.R. Cup Final Results – Sussex County Football Association". Sussexcountyleague.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-04. สืบค้นเมื่อ 11 November 2012.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้