กิตติ สีหนนทน์
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
นายกิตติ สีหนนทน์ (14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 - 24 มกราคม พ.ศ. 2527) อดีตองคมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในสมัยรัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ์ และอดีตรองประธานศาลฎีกา
กิตติ สีหนนทน์ | |
---|---|
องคมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 26 มิถุนายน พ.ศ. 2518 – 24 มกราคม พ.ศ. 2527 (8 ปี 212 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | |
ดำรงตำแหน่ง 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 – 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 (0 ปี 263 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | สัญญา ธรรมศักดิ์ |
ก่อนหน้า | ประกอบ หุตะสิงห์ |
ถัดไป | เทียม ไชยนันทน์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ |
เสียชีวิต | 24 มกราคม พ.ศ. 2527 (73 ปี 71 วัน) โรงพยาบาลกรุงเทพ กรุงเทพมหานคร |
คู่สมรส | สิรินทร์ สีหนนทน์ |
ลายมือชื่อ | |
ประวัติ
แก้นายกิตติ สีหนนทน์ เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 ที่ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เดิมชื่อว่า สกิด ร่มไม้เกต เป็นบุตรชายคนโตของนายโกเซ่ง และนางผิน ร่มไม้เกต บิดามารดามีอาชีพค้าขาย มีน้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน
- นายอาบ สีหนนทน์ (ถึงแก่กรรม)
- นายบุญยิ่ง สีหนนทน์ (ถึงแก่กรรม)
- นางบุษบง นวรัตน์ (ถึงแก่กรรม)
อุปสมบท
แก้นายกิตติ สีหนนทน์ ได้ทำการอุปสมบทที่วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2476 มีฉายาว่า พระคุณสฺสติ โดยมี สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) เป็นพระอุปัชฌาย์
ครอบครัว
แก้นายกิตติ สีหนนทน์ ได้สมรสกับนางสิรินทร์ สีหนนทน์ (ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2510) บุตรี พลตรี พระยาวิเศษสงคราม (ช้อย จันทรสนธิ) และคุณหญิงสิน วิเศษสงคราม เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2490 มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ประกิตติ์สิน สีหนนทน์ ซึ่งได้ทำการสมรสกับนางบุษรัตน์ สีหนนทน์
ประวัติการศึกษา
แก้- พ.ศ. 2461 จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนายสนธิ์ ภูมิพัฒน์
- พ.ศ. 2464 จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมัธยมวัดทรงธรรม
- พ.ศ. 2469 จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
- พ.ศ. 2472 ได้กฎหมายภาค 1 โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม
- พ.ศ. 2473 ได้กฎหมายภาค 2 โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม
- พ.ศ. 2474 สำเร็จเป็นเนติบัณฑิตชั้น 2 โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม
ประวัติการรับราชการ
แก้เริ่มรับราชการครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2477 ได้บรรจุเป็นข้าราชการชั้นจัตวา ตำแหน่งจ่าศาลประจำศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2478 ได้เลื่อนเป็นข้าราชการชั้นตรี ตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดจันทบุรี พ.ศ. 2480 ได้รับราชการเป็นข้าราชการตุลาการสามัญชั้นโท รับราชการศาลอาญา และได้โยกย้ายไปเป็นผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดต่างๆ กับทั้งได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง เป็นลำดับดังนี้
- 27 เมษายน พ.ศ. 2481 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดชัยภูมิ
- 1 เมษายน พ.ศ. 2483 เลื่อนเป็นข้าราชการตุลาการสามัญชั้นโท อันดับที่ 4
- 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2486 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระตะบอง
- 2 เมษายน พ.ศ. 2488 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพิบูลสงคราม
- 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 รับราชการศาลอาญา
- 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสระบุรี
- 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเบตง (ข้าราชการตุลาการสามัญชั้นเอก)
- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2495 ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดไชยา
- 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
- 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2497 ผู้พิพากษาศาลแพ่ง (ข้าราชการตุลาการชั้น 3)
- 29 มกราคม พ.ศ. 2502 ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ (ข้าราชการตุลาการชั้น 4)
- 15 มกราคม พ.ศ. 2504 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ (ข้าราชการตุลาการชั้น 5)
- 1 มกราคม พ.ศ. 2505 อธิบดีศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง
- 15 ตุลาคม พ.ศ. 2507 ผู้พิพากษาศาลฎีกา (ข้าราชการตุลาการชั้น 6)
- 15 ตุลาคม พ.ศ. 2508 อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง
- 1 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา (ข้าราชการตุลาการชั้น 7)
- 1 ตุลาคม พ.ศ. 2512 รองประธานศาลฎีกา (ข้าราชการตุลาการชั้น 8) จนเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2514
- 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- 26 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรี จนกระทั่งถึงอสัญกรรม
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2521 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)[1]
- พ.ศ. 2517 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[2]
- พ.ศ. 2513 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[3]
- พ.ศ. 2485 – เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามอินโดจีน (ช.ร.)[4]
- พ.ศ. 2502 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[5]
- พ.ศ. 2522 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 2 (ภ.ป.ร.2)[6]
- พ.ศ. 2493 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
ราชการพิเศษ
แก้- 8 มกราคม พ.ศ. 2484 เป็นกรรมการศาลมณฑลทหารเขตจังหวัดชัยภูมิ
- 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 เป็นกรรมการชำระสะสางราชการธุรการของศาลอาญา
- 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 เป็นอนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการในตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา
- 3 - 12 มกราคม พ.ศ. 2498 เป็นเลขานุการ 1 ของการประชุมสัปดาห์แห่งอาชญากรรม พ.ศ. 2498
- 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2503 เป็นกรรมการสอบความรู้กฎหมายของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
- เป็นผู้บรรยายกฎหมาย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
- 6 มิถุนายน พ.ศ. 2517 เป็นรองประธานคณะที่ปรึกษากฎหมายของนายกรัฐมนตรี
- 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2517 เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
- 1 กันยายน พ.ศ. 2518 - 20 มิถุนายน พ.ศ. 2522 เป็นกรรมการร่างกฎหมาย
งานพิเศษ
แก้- ที่ปรึกษากฎหมายบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- ประธานกรรมการร่างกฎหมายคณะที่ 4
- ประธานกรรมการพิจารณาปรับปรุงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
- รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิวชิราลงกรณ
- กรรมการบริหารมูลนิธิอานันทมหิดล
- กรรมการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
- กรรมการมูลนิธิวัดญาณสังวราราม
- กรรมการสภาการศึกษาแห่งชาติ
- กรรมการธนาคารออมสิน
- กรรมการบริษัท หลักทรัพย์กองทุนรวม จำกัด
- กรรมการบริษัท Y.K.K. Zipper (Thailand) Co., Ltd.
- กรรมการบริษัท Y.K.K. Trading Co., Ltd.
- กรรมการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ถึงแก่อสัญกรรม
แก้นายกิตติ สีหนนทน์ ถึงแก่อสัญกรรมในวันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2527 เวลา 20.30 น. ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ แพทย์สันนิษฐานว่า สาเหตุเนื่องจากเส้นเลือดที่ขั้วหัวใจโป่งพองและแตก หรือที่เรียกว่า โรคแอนูริซั่มของเออร์ต้าในทรวงอก รวมสิริอายุ 73 ปี 2 เดือน 10 วัน
อ้างอิง
แก้- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๕ ตอนที่ ๕๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗, ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๒๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๑ ตอนที่ ๒๒๙ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๘, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๗ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๗, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญช่วยราชการเขตภายใน, เล่ม ๖๐ ตอนที่ ๔๑ ง หน้า ๒๔๗๓, ๓ สิงหาคม ๒๔๘๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๗๖ ตอนที่ ๑๑๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๔๔, ๑๖ ธันวาคม ๒๕๐๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๙๖ ตอนที่ ๑๕๖ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗, ๑๓ กันยายน ๒๕๒๒