พรเพชร วิชิตชลชัย
ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ม.ป.ช. ม.ว.ม. (เกิด 1 สิงหาคม พ.ศ. 2491) เป็นอดีตผู้พิพากษาและนักการเมืองชาวไทย อดีตประธานรัฐสภาไทยและอดีตประธานวุฒิสภา อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ปรึกษาและกรรมการในคณะอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นรองประธานกรรมการคนที่สอง ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ[2] กรรมการในคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ กรรมการในคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ กรรมการในคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างสามัคคีปรองดอง คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2560[3] เป็นอดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฏีกา ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4 และที่ปรึกษากฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
พรเพชร วิชิตชลชัย | |
---|---|
ประธานรัฐสภาไทย และ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557[1] – 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 (4 ปี 308 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว |
นายกรัฐมนตรี | ประยุทธ์ จันทร์โอชา |
ก่อนหน้า | สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ (ประธานสภาผู้แทนราษฎร) |
ถัดไป | ชวน หลีกภัย (ประธานสภาผู้แทนราษฎร) |
รองประธานรัฐสภาไทย และ ประธานวุฒิสภา | |
ดำรงตำแหน่ง 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 (5 ปี 43 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว |
นายกรัฐมนตรี | ประยุทธ์ จันทร์โอชา เศรษฐา ทวีสิน |
ก่อนหน้า | นิคม ไวยรัชพานิช |
ถัดไป | มงคล สุระสัจจะ |
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 11 ตุลาคม พ.ศ. 2549 – 28 มกราคม พ.ศ. 2551 (1 ปี 109 วัน) | |
ดำรงตำแหน่ง 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 – 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 (4 ปี 294 วัน) | |
สมาชิกวุฒิสภา | |
ดำรงตำแหน่ง 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 (5 ปี 60 วัน) | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 1 สิงหาคม พ.ศ. 2491 อำเภอมีนบุรี จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | อิสระ |
คู่สมรส | อารยา วิชิตชลชัย |
ประวัติ
แก้พรเพชร วิชิตชลชัย มีชื่อเล่นว่า "ต๋อย" เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2491 จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากวชิราวุธวิทยาลัย ปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม อันดับ 2) ปี 2515 จาก คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบเนติบัณฑิตไทย จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ในปีเดียวกัน และในปี 2518 จบปริญญาโทด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยทุนรัฐบาล (ก.พ.) และผ่านการศึกษาอบรมจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.41) และสถาบันพระปกเกล้า ปปร.11)[4]ด้านประวัติครอบครัว สมรสกับ นาง อารยา วิชิตชลชัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา[5]เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ประเทศไทย) พ.ศ. 2549และผู้ตรวจการแผ่นดิน (ประเทศไทย)
การทำงานและฉายา
แก้พรเพชร วิชิตชลชัย เป็นนักกฎหมายและเนติบัณฑิตไทย เริ่มรับราชการครั้งแรกในตำแหน่งนิติกร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเคยเป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายในคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็น "ศาสตราจารย์พิเศษ" คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นกรรมการกฤษฎีกา เคยเป็นกรรมการบริหารเนติบัณฑิตยสภา กรรมการสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และกรรมการบริหารกองทุนพัชรกิติยาภาเพื่อการศึกษากฎหมาย
พรเพชร วิชิตชลชัย มีบทบาทสำคัญในด้านต่างประเทศด้วย เขาเป็นกรรมการบริหารสมาคมกฎหมายอาเซียน ( The ASEAN Law Association) ตั้งแต่ปี 2530 เคยเป็น Chairman of the Thai National Committee of the ASEAN Law Asssociation เมื่อปี 2558 ขณะดำรงตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเขาได้รับเชิญจากสหภาพรัฐสภา (IPU) ให้ไปร่วมประชุมประธานรัฐสภาโลกและกล่าวปาฐกถา ณ ห้องประชุมใหญ่ สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก
พรเพชร วิชิตชลชัย ได้เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน แทนนายประวิช รัตนเพียร ซึ่งลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557 ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และได้รับเลือกจากสมาชิกสภาดังกล่าวให้ดำรงตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ต่อมาเขาได้แสดงความจำนงขอลาออกจากตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อทำหน้าที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพียงตำแหน่งเดียวและยังเป็นเจ้าของฉายา หัวตอรออเดอร์เนื่องจากนิ่งเหมือนหัวตอ
ผลงาน
แก้- เคยเป็นองค์คณะในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (คดีทุจริตกล้ายาง)
- เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้พระราชกฤษฎีกาจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อันส่งผลให้การเลือกตั้งคราวล่าสุดนั้นสิ้นผลไป
- เป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ธุรกิจชินคอร์ป ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท
- ขณะเป็น สนช. ชุดปี พ.ศ. 2549 เคยเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยให้ความผิดดังกล่าวครอบคลุมถึงการกระทำความผิดต่อพระราชโอรส พระราชธิดา ประธานองคมนตรี องคมนตรี และผู้แทนพระองค์ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และอาจได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่บางประการอันเป็นราชการในพระองค์ ให้การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดและรับโทษหนักขึ้น และยังเสนอให้ออกกฎหมาย ห้ามเสนอข่าวคดีหมิ่นฯ ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอีกด้วย[6]
- ในฐานะประธาน สนช. ชุดปี พ.ศ. 2557 ทำหน้าที่ประธานรัฐสภาไทยในขณะนั้น อัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกฏราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ไทยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559
รางวัลและเกียรติคุณ
แก้- พ.ศ. 2510 สอบไล่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้ลำดับที่ 1 ของโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ได้รับพระราชทานรางวัลเรียนดีจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
- พ.ศ. 2531 ได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นนาคหลวงอุปสมบท ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ เป็นพระอุปัชฌาย์
- พ.ศ. 2550 ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นนิสิตเก่าดีเด่นของคณะนิติศาสตร์ จากสมาคมนิสิตเก่าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- พ.ศ 2557 ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นศิษย์เก่าดีเด่น จากสมาคมสถาบันพระปกเกล้า
- พ.ศ. 2558 ได้รับประกาศเกียรติคุณยกย่องให้เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลดีเด่น จากสมาคมนักเรียนทุนรัฐบาล
- พ.ศ. 2558 ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นนิสิตเก่าดีเด่นของคณะรัฐศาสตร์ จากสมาคมนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2541 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[7]
- พ.ศ. 2536 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[8]
- พ.ศ. 2540 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[9]
อ้างอิง
แก้- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศ แต่งตั้งประธานและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เล่ม ๑๓๑, ตอนพิเศษ ๑๕๕ ง , ๑๗ ส.ค. พ.ศ. ๒๕๕๗, หน้า ๑
- ↑ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ
- ↑ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2560
- ↑ "มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-08-24.
- ↑ สิ้นภริยา ประธาน สนช. เหตุมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
- ↑ สนช.เสนอเพิ่มโทษ ม.112 กม.หมิ่นฯ ขยายคลุม "องคมนตรี" และห้ามเสนอข่าวคดีหมิ่นฯ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๕ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๓, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์[ลิงก์เสีย], เล่ม ๑๑๐ ตอนที่ ๒๐๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๖, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๒ ข หน้า ๔๐๙, ๑๘ มกราคม ๒๕๔๑
ก่อนหน้า | พรเพชร วิชิตชลชัย | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ (ประธานรัฐสภา) |
ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานรัฐสภา (ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (17 สิงหาคม พ.ศ. 2557 - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562) |
ชวน หลีกภัย (ประธานรัฐสภา) | ||
นิคม ไวยรัชพานิช | รองประธานรัฐสภา (ประธานวุฒิสภา) (28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 - 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567) |
มงคล สุระสัจจะ |