พรหมลิขิต (Love Destiny 2) เป็นละครโทรทัศน์ไทยแนวย้อนยุค เป็นภาคต่อของละครโทรทัศน์เรื่อง บุพเพสันนิวาส ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของรอมแพง ผลิตโดยบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น นำแสดงโดยพระนางจากภาคแรก ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และ ราณี แคมเปน โดยยังคงได้ศัลยา สุขะนิวัตติ์ ผู้เขียนบทจากภาคแรก มาเขียนบทให้ในภาคนี้[1]

พรหมลิขิต
เป็นที่รู้จักกันในชื่อLove Destiny 2
ประเภท
เขียนโดยศัลยา สุขะนิวัตติ์
เนื้อเรื่องโดยรอมแพง
กำกับโดยสรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
แสดงนำ
ดนตรีแก่นเรื่องเปิดพรหมลิขิต – ธีรนัยน์ ณ หนองคาย และ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข
ดนตรีแก่นเรื่องปิดเคียงขวัญ – นภัทร อินทร์ใจเอื้อ
ข้ามเวลา - วิโอเลต วอเทียร์
ประเทศแหล่งกำเนิดไทย ประเทศไทย
ภาษาต้นฉบับไทย ภาษาไทย
จำนวนตอน26 ตอน
การผลิต
ผู้อำนวยการสร้างอรุโณชา ภาณุพันธุ์
สถานที่ถ่ายทำ
ความยาวตอน90 นาที
บริษัทผู้ผลิตบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ออกอากาศ
เครือข่ายช่อง 3 เอชดี
ออกอากาศ18 ตุลาคม พ.ศ. 2566 - 18 ธันวาคม พ.ศ. 2566
การแสดงที่เกี่ยวข้อง
บุพเพสันนิวาส, บุพเพสันนิวาส 2

ละครเรื่อง พรหมลิขิต ออกอากาศทางช่อง 3 เอชดี ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30–22.00 น. ในวันที่ 18, 19, 25 และ 26 ตุลาคม 2566 และเปลี่ยนเป็น ทุกวัน จันทร์-พุธ เวลา 20.30-22.00 น. ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม เป็นต้นไป[2]

งานสร้าง แก้

ในตอนแรกทาง อรุโณชา ภาณุพันธุ์ ซึ่งเป็นผู้จัดละครเรื่องนี้ได้วางตัว ภวัต พนังคศิริ ผู้กำกับการแสดงจากภาคแรก ให้มากำกับ แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นสรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ที่เคยมีผลงานทั้งภาพยนตร์และละคร เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Yes or No 1 และ Yes or No 2 และละครทางช่อง 3HD เรื่อง พราวมุก, ตราบาปสีชมพู, หนี้รักในกรงไฟ, เสื้อสีฝุ่น, แรงตะวัน, รักพลิกล็อก, ซ่อนเงารัก, มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ฯลฯ มารับหน้าที่ผู้กำกับละครเรื่องนี้แทน[3][4]

พรหมลิขิต ฟิตติงนักแสดงเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564[3] และทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564[1] สรัสวดี ผู้กำกับละคร ให้สัมภาษณ์ต่อ กรุงเทพธุรกิจ ว่า ละครเรื่อง พรหมลิขิต ถ่ายทำไปแล้ว 40-50 คิว แต่ได้หยุดเป็นพัก ๆ เป็นช่วง ๆ เนื่องด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19

นอกจากนี้ ตัวละครหลักที่ต่อจากละคร บุพเพสันนิวาส ที่ยังมีชีวิตอยู่ อยู่ครบทั้งหมด และมีตัวละครใหม่ เนื่องจากในละคร บุพเพสันนิวาส เป็นยุคของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ขุนหลวงนารายณ์) สมเด็จพระเพทราชา (ขุนหลวงเพทราชา) และสมเด็จพระเจ้าเสือ (ขุนหลวงเสือ) แต่ในละคร พรหมลิขิต เป็นยุคของ ขุนหลวงท้ายสระ (เจ้าฟ้าเพชร) และ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เจ้าฟ้าพร) (ต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ)[5]

ราณี แคมเปน รับบทเป็นพุดตาน (การะเกดกลับชาติมาเกิด) รวมทั้งบทบาทพี่น้องฝาแฝดคือ คุณหญิงการะเกด (เกศสุรางค์) แฝดพี่ และแม่หญิงการะเกด แฝดน้อง ขณะที่ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ รับบทเป็นพระยาวิสูตรสาคร (พ่อเดช) รวมทั้งบทบาทพี่น้องฝาแฝดบุตรของพ่อเดช คือ หมื่นณรงค์ราชฤทธา (พ่อเรือง) แฝดพี่ และหมื่นมหาฤทธิ์ (พ่อริด) แฝดน้อง[5]

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ผู้จัดและนักแสดงได้ทำพิธีบวงสรวงละครอีกครั้งหนึ่งเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกอากาศ ที่สตูดิโอช่อง 3 หนองแขม[6] สำหรับพรหมลิขิตไปจนถึงบุพเพสันนิวาส นับเป็นละครเรื่องแรกของไทยที่ได้มีการจดลิขสิทธิ์แบบ IP right เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบแล้วนำไปใช้ต่อในเชิงพาณิชย์ โดยได้จดลิขสิทธิ์ครอบคลุมทุกอย่างที่มาจากละครเพื่อการต่อยอดโฆษณาและคอนเทนต์ต่าง ๆ ในอนาคต[7]

นักแสดง แก้

นักแสดง รับบท
ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ หมื่นมหาฤทธิ์ (พ่อริด)
หมื่นณรงค์ราชฤทธา (พ่อเรือง,พ่อเรืองเล็ก)
ออกญาวิสูตรสาคร (พ่อเดช)
ราณี แคมเปน พุดตาน
คุณหญิงการะเกด (เกศสุรางค์)
แม่หญิงการะเกด
วรินทร ปัญหกาญจน์ สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ (เจ้าฟ้าเพชร)
เด่นคุณ งามเนตร กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เจ้าฟ้าพร)
พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ แม่กลิ่น
ฐากูร การทิพย์ หมู่สง
ภัสธรากรณ์ บุษราคัมวดี แม่แก้ว
ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ แม่ปราง
กนกฉัตร มรรยาทอ่อน จมื่นศรีสรรักษ์ (พ่อมิ่ง)
ฐกฤต ตวันพงค์ พระยาราชนิกูล (ทองคำ)
ทัศน์พล วิวิธวรรธน์ หมื่นจันภูเบศร์ (พ่ออิน)
ชไมพร จตุรภุช คุณหญิงจำปา
รัดเกล้า อามระดิษ ยายกุย
วิศรุต หิมรัตน์ จ้อย
รมิดา ประภาสโนบล แย้ม
จรรยา ธนาสว่างกุล ผิน
ภัทรภณ โตอุ่น เพิ่ม
แดนดาว ยมาภัย อึ่ง
อำภา ภูษิต ปริก
วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ จวง
ภูศญา นาคสวัสดิ์ อิ่ม
นักแสดงรับเชิญ บทบาท
ปรมะ อิ่มอโนทัย พระรามณรงค์ (พ่อเรือง)
พระเรืองฤทธิ์ (หลวงพ่อเรืองฤทธิ์)
กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล คุณหญิงจันทร์วาด
ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ แม่ทัพอนิลบถ
ภูริตา สุปินชุมภู เจ้าหญิงอทิตยา
คณิน ชอบประดิถ ฑิฆัมพรราชา
ศิริลักษณ์ คอง พระนางจันทราวดี
จิรายุ ตันตระกูล พระเจ้าเสือ / ออกหลวงสรศักดิ์ / กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เดื่อ)
สุษิรา แอนจิลีน่า แน่นหนา ท้าวทองกีบม้า (แม่มะลิ / มารี กีมาร์ / ตอง กีมาร์)
ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ แม่หญิงแพรจีน
ปรียากานต์ ใจกันทะ แม่เรียม
ศรุต วิจิตรานนท์ สมเด็จพระเพทราชา
ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ชาติชาย งามสรรพ์ ออกญาโกษาธิบดี (ปาน)
ธชย ประทุมวรรณ พระปีย์
คณิน สแตนลีย์ หลวงชิดภูบาล (จอร์จ ฟอลคอน)
ชนกสุดา รักษนาเวศ พระชายาของเจ้าฟ้าพร
วิศววิท วงษ์วรรณลภย์ ออกญาจุฬาราชมนตรี (แก้ว)
วิศรุต หิรัญบุศย์ ขาม
อธิวัตน์ แสงเทียน เจ้าฟ้าปรเมศร์
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ ออกญาโกษาธิบดี (จีน)
ขวัญฤดี กลมกล่อม พระอัครมเหสีองค์กลาง / กรมพระเทพามาตย์ (กัน) / สมเด็จพระอัยกีเจ้า กรมพระเทพามาตย์
ณัฏฐริณีย์ กรรณสูต คุณหญิงผ่อง
วัชรชัย สุนทรศิริ อาจารย์ชีปะขาว / สุริยะราชา
พศิน เรืองวุฒิ เจ้าพระองค์ดำ
โชติรส ชโยวรรณ พระองค์เจ้าแก้ว
ไชย ขุนศรีรักษา ฟานิก
นฤมล พงษ์สุภาพ ยายกลอย / แม่นายกลอย
พลวิชญ์ เกตุประภากร เจ้าฟ้าอภัย
บรรเจิดศรี ยมาภัย ยายนวล
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ ป้าวิภาวี
ปวีณา ชารีฟสกุล แม่ชีสิปาง
ดนัย จารุจินดา ชัยมิตร
พรรษชล สุปรีย์ วิภาวรรณ
ด.ญ.ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน พุดตาน (วัยเด็ก) / แม่หญิงการะเกด (วัยเด็ก)

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "โป๊ป-เบลล่า" แต่งเต็มยศ เปิดกล้องถ่ายทำ "พรหมลิขิต"
  2. "มาแล้ว! ตัวอย่างแรก พรหมลิขิต ประกาศวันฉายอย่างเป็นทางการ". สนุก. 2023-10-04.
  3. 3.0 3.1 ออเจ้า โอเคปะ? ฟิตติ้งแล้ว “พรหมลิขิต”
  4. “พรหมลิขิต-มัดหัวใจยัยซุปตาร์” กับการกำกับของ “นาย สรัสวดี” จะปัง หรือ จะแป้ก! กับแรงกดดันและความคาดหวังของทุกคน
  5. 5.0 5.1 "พรหมลิขิต"ได้ชมแน่สิ้นปีนี้ ผู้กำกับ เผย สนุกไม่แพ้ บุพเพสันนิวาส
  6. โป๊ป-เบลล่า นำทีมผู้จัดนักแสดง บวงสรวงละคร“พรหมลิขิต”
  7. พรหมลิขิต ต่อยอด บุพเพสันนิวาส จดลิขสิทธิ์เสื้อผ้าหน้าผมบุคลิกบทพูดทั้งหมด