ฉบับร่าง:พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ (สุคม อานนฺโท)

พระครูนนทญาณวิสุทธิ์

(สุคม อานนฺโท)
ชื่ออื่นท่านพระครูสุคม
ส่วนบุคคล
เกิด15 มีนาคม พ.ศ. 2470 (82 ปี)
มรณภาพ22 ธันวาคม พ.ศ. 2552
นิกายมหานิกาย
การศึกษาน.ธ.เอก
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดโคกบัวราย อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
อุปสมบทพ.ศ. 2490
พรรษา61
ตำแหน่งอดีตเจ้าอาวาสวัดโคกบัวราย,อดีตเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต1 อำเภอเมืองสุรินทร์,อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต1 อำเภอเมืองสุรินทร์

พระครูนนทญาณวิสุทธิ์​ (สุคม​ อานนฺโท)​[1] [2] อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกบัวราย​ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์,อดีตเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 1,อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 1[3] อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ทายาทธรรมผู้สืบทอดสายวิชาธรรมกายจาก​ ท่านเจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ผู้เผยแผ่วิปัสสนากรรมฐาน​วิชชาธรรมกาย กำหนดลมหายใจว่า "สัมมาอรหัง" และผู้เผยแผ่วิปัสสนากรรมฐาน​ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ตามแนวของเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กำหนดลมหายใจว่า "ยุบหนอ พองหนอ"

ชาติภูมิ

แก้

พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ (สุคม อานนฺโท) [4]นามเดิมชื่อ สุคม ทองผา เกิดเมื่อ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ภูมิลำเนาเดิม บ้านธาตุ ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ในตระกูลชาวนา โยมบิดาชื่อ นายเสา ทองผา โยมมารดาชื่อ นางงีบ ทองผา พระคุณท่านมีญาติพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 5 คนเป็นชาย ๓ คนหญิง ๓ คนเรียงตามลำดับดังนี้

  • ๑. นางพุธ ดันนอก (เสียชีวิตแล้ว)​
  • ๒. นางพัน อนันทอง (เสียชีวิตแล้ว)
  • ๓. นายพิมพ์ ทองผา (เสียชีวิตแล้ว)
  • ๔. พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ (สุคม ทองผา) (มรณภาพแล้ว)
  • ๕. นายจันทร์ ทองผา
  • ๖. เด็กหญิง (เสียชีวิตแต่ยังเล็ก)

ชีวิตครั้งเยาว์วัยพระคุณท่านบอกกับผู้เขียนว่าเมื่อครั้งยังเด็กเรียนจบการศึกษาภาคบังคับจากโรงเรียนธาตุศึกษาวิทยา ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่เรียนอยู่สอบไล่ได้อันดับที่ ๑ และ ๒ สลับกันมาจนเรียนจบจิตใจของหลวงพ่อจึงอยากเรียนต่อยิ่งนักผู้เป็นครูบาอาจารย์ก็ให้กำลังใจหนุนเนื่องให้เรียนต่อ แต่แล้วก็ไม่ได้เรียนเพราะทางบ้านยังมองไม่เห็นความสำคัญตอนนี้จึงมองเห็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เรียนต่อนั่นคือต้องบวช ครองจีวรแห่งร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ลุมาถึงอายุได้ ๒๐ ปีคุณลุงมาทำบุญฌาปนกิจของคุณแม่จึงได้อาศัยไปอยู่กับคุณลุงที่บ้านหนองตาบุญ ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี

การบรรพชาและอุปสมบท

แก้

ปีถัดมาอายุเป็น ๒๑ ปีอยู่ใน พ.ศ. ๒๔๙๐ กลับมาคัดเลือกทหารเกณฑ์ที่ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ จับถูกใบแดงร่วม ๑๐๐ กว่าคน แต่ปีนั้นเขาคัดไว้เพียง ๒๕ คนพระคุณท่านซึ่งจับถูกใบแดงด้วย เขาคัดคนพระคุณท่านเลยรอดพอกลับไปหาคุณลุงปรารถนาของพระคุณท่านจึงได้บรรลุผล คือ คุณลุงจัดการให้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยให้ประจำอยู่ ณ วัดหนองตาบุญ ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี โดยมีพระครูชินธรรมประกาศ (หลวงพ่อถิร)​ วัดหนองสรวง ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอธิการสังวาล วัดโคกกระต่าย ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีพระสมุห์ขอม วัดหนองตาบุญ ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ตั้งฉายานามทางธรรมให้ว่า อานนฺโท

จำพรรษา

แก้

ในพรรษาแรก พระคุณท่านประจำอยู่ ณ วัดหนองตาบุญ ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี - พรรษาที่สองย้ายมาประจำอยู่ ณ วัดวิหารแดง อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี และเรียนนักธรรมที่นี้ซึ่งเป็นปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ผลการเรียนปีดังกล่าวก็สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ สอบไล่ได้นักธรรมโท ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ไปอยู่จังหวัดสมุทรสงคราม กับหลวงพ่อเจียง ที่วัดเจริญสุขาราม ตำบลบางคณฑี ปี พ.ศ. ๒๔๙๔ มาอยู่ที่วัดกลางสุรินทร์​กับพระมหาแก้ว เมืองสุข ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ไปอยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร นานถึง ๕ปี ปลายปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ย้ายไปอยู่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ท่าพระจันทร์​ เป็นเวลา ๗ ปี และในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ก็สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก พอถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ก็ย้ายจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มาประจำอยู่วัดโคกบัวราย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีหน้าที่เป็นผู้อบรมกรรมฐานแก่พระภิกษุ-สามเณร ที่มาฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ณ วัดโคกบัวรายในปีดังกล่าวนั้นอยู่ในความดูแลของหลวงพ่อเดื่อ ปภากโรสมณศักดิ์ที่พระประภากรคณาจารย์ (เดื่อ ปภากโร) เจ้าอาวาสวัดจำปาสุรินทร์ เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ในขณะนั้น ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ หลวงพ่อสุคม ก็ย้ายเข้ามาอยู่วัดจันทร์ใน แขวงบางคอแหลม เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พอลุล่วงถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๘ พระครูสิทธิการโกศล สมณศักดิ์ปัจจุบันที่ พระราชสิทธิโกศล (เทพ นนฺโท) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เจ้าอาวาสวัดกลางสุรินทร์ในขณะนั้น ไปนิมนต์หลวงพ่อมาจากวัดจันทร์ใน กรุงเทพมหานคร ให้ประจําอยู่ ณ วัดโคกบัวราย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางพระสังฆาธิการเป็นเจ้าอาวาส

ด้านสาธารณูปการ ดำเนินการสร้างอุโบสถอเนกประสงค์ วัดโคกบัวราย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ กว้าง ๒๘.๕๕ เมตร ยาว ๓๘.๕๕ เมตรเสาทั้งหมด ๔๔ ต้น ๓๖ ห้อง เริ่มสร้าง ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ ขณะนี้สิ้นเงินไป ๑ ล้าน ๗ แสนเศษ ยังขาดอีกประมาณ ๒ ล้านจึงจะเสร็จ ซึ่งเป็นอุโบสถที่มีอาณาบริเวณกว้างที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันสร้างอุโบสถเสร็จแล้ว ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว

ตำแหน่งพระสังฆาธิการ

แก้

มรณภาพ

แก้

พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ (สุคม อานนฺโท) ได้ถึงแก่มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อเวลา 15.35 น. ในวันอังคาร ที่22 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 สิริรวมอายุได้ 82ปี,61พรรษากาลอุปสมบท

สมณศักดิ์

แก้

ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,เล่ม ๙๒,ตอนที่ ๒๖๓, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘,ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒

อ้างอิง

แก้
  1. ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,เล่ม ๙๒,ตอนที่ ๒๖๓, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘,ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒
  2. https://www.web-pra.com/auction/show/12932056
  3. https://www.mahathera.org/files/mati_doc/CCF01792551_00342.pdf
  4. อ้างอิง : เรียบเรียงโดย  สุภักดิ์  ตลับทอง นิตยสาร​พระเครื่อง​นะโม  ปีที่ ๓  ฉบับ​ที่ ๘๑  ๑๕  ม.ค.ถึง ๒๕ ม.ค. ๒๕๒๙
  5. มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๗/๒๕๕๑ มติที่ ๓๔๒/๒๕๕๑ เรื่อง เสนอขอแต่งตั้งพระสังฆาธิการให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๑ และภาค๑๒ ๕. พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ วัดโคกบัวราย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต๑ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต๑
  6. ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,เล่ม ๙๒,ตอนที่ ๒๖๓, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘,ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒