อำเภอแม่สะเรียง
แม่สะเรียง (ไทยถิ่นเหนือ: ) เป็นหนึ่งใน 7 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดเป็นอำเภอที่มีความสำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัด (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน) มากถึงประมาณ 164 กิโลเมตร โดยสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหุบเขาสลับซับซ้อน ประกอบกับเป็นอำเภอที่ติดกับชายแดนไทยพม่า และเป็นเมืองผ่านไปยังอำเภออื่นๆของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และอำเภอนี้เป็นอำเภอที่อยู่ทางตะวันตกสุดของประเทศไทยอีกด้วย
อำเภอแม่สะเรียง | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Mae Sariang |
คำขวัญ: เทียนเหงพร่างตา ผ้าทอกะเหรี่ยง เสนาะเสียงสาละวิน งามถิ่นธรรมชาติ พระธาตุสี่จอม กล้วยไม้หอมเอื้องแซะ | |
แผนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เน้นอำเภอแม่สะเรียง | |
พิกัด: 18°9′34″N 97°56′1″E / 18.15944°N 97.93361°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | แม่ฮ่องสอน |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 2,587.4 ตร.กม. (999.0 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 55,290 คน |
• ความหนาแน่น | 21.37 คน/ตร.กม. (55.3 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 58110 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 5804 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง หมู่ที่ 2 ถนนเวียงใหม่ ตำบลแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58110 |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
แม่สะเรียงเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่กำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ด้วยมีธรรมชาติ ขุนเขา ป่าไม้อันพิสุทธิ์สมบูรณ์ นอกจากนั้นยังมีวัฒนธรรมของชนเผ่าและประเพณีของท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะหลีกหนีความวุ่นวายของสังคมเมือง ลองแวะเข้าไปสัมผัสเมืองแม่สะเรียง ที่แวดล้อมด้วยป่าเขาเขียวขจีและย้อนรำลึกถึงอดีตของเมืองหน้าด่านแห่งอาณาจักรล้านนา เมืองแห่งนี้เป็นเสมือนประตูสู่แม่ฮ่องสอน เพราะเมื่อเดินทางมาจากเชียงใหม่ ตามถนนสาย 108 จากอำเภอฮอดก็จะถึงแม่สะเรียงก่อน คนที่เดินทางจะเข้าแม่ฮ่องสอนก็จะได้ผ่าน 1,864 โค้งบนเส้นทางนี้ที่สวยงามด้วยแมกไม้ธรรมชาติสองข้างทาง
ที่ตั้งและอาณาเขต
แก้อำเภอแม่สะเรียงมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับรัฐกะเหรี่ยงและรัฐกะยา (ประเทศพม่า) และอำเภอแม่ลาน้อย
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอแม่แจ่มและอำเภอฮอด (จังหวัดเชียงใหม่)
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสบเมย
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับรัฐกะเหรี่ยง (ประเทศพม่า) โดยมี แม่น้ำสาละวิน เป็นเส้นแบ่งเขต
ประวัติ
แก้เมืองแม่สะเรียงมีชื่อในประวัติศาสตร์ว่า เมืองยวมใต้ หรือ เมืองยวม เคยเป็นที่ตั้งชุมชนมาไม่น้อยกว่า 600 ปี ชาวพม่าเรียกชื่อเมืองแห่งนี้ว่า “เมงลองยี” แปลว่าเมืองแห่งแร่หินใหญ่ จากพงศาวดารโยนก (พ.ศ. 1900) และเป็นเมืองหน้าด่านที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของอาณาจักรล้านนา คอยต้านทัพของพม่าที่จะยกทัพมาตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ ในสมัยของพระเจ้าสามฝั่งแกน กษัตริย์ลำดับที่ 10 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ. 1944 – 1985) พระองค์ทรงมีราชบุตรหลายองค์ด้วยกัน ต่อมาเจ้าท้าวลก ราชบุตรลำดับที่ 6 ถูกเนรเทศให้ไปอยู่ที่เมืองยวม ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ทุรกันดารด้วยเหตุที่คิดจะแย่งชิงราชสมบัติ ระหว่างที่ครองเมืองยวมอยู่นั้นเจ้าท้าวลกได้ทำการติดต่อกับพระเจ้าสามเด็กย้อย ซึ่งเป็นอำมายต์ชั้นผู้ใหญ่ในล้านนา ซึ่งพระเจ้าสามเด็กย้อยมีความจงรักภักดีต่อเจ้าท้าวลกและคิดที่จะร่วมมือกันแย่งชิงราชสมบัติคืนจากพระเจ้าสามฝั่งแกน ขณะนั้นพระเจ้าสามฝั่งแกนได้แปรพระราชฐานประทับอยู่ที่เวียงเจ็ดริน บริเวณเชิงดอยสุเทพ เจ้าท้าวลกและพระยาสามเด็กย้อย จึงสั่งให้ทหารเข้าไปเผาเมืองในตอนกลางคืน พระเจ้าสามฝั่งแกนเข้าใจผิดคิดว่าศัตรูยกทัพเข้ามาตีเมืองจึงได้ทรงม้ากลับเข้าเมืองเชียงใหม่เพื่อจะไปรวบรวมไพร่พลทหาร ครั้นพอเข้าไปในเขตพระราชฐานจึงถูกเจ้าท้าวลกและพระยาสามเด็กย้อยจับตัวไปและแย่งชิงราชสมบัติได้สำเร็จ
ต่อมาพระเจ้าติโลกราช (ท้าวลก) ได้เป็นมหาราชที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรล้านนา ขยายอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ทิศเหนือตีได้เมืองเชียงรุ่ง (มณฑลยูนนาน ประเทศจีน) เมืองเชียงตุง (รัฐฉาน ประเทศพม่า) ทิศตะวันตกได้รัฐฉานทั้งหมด ทิศตะวันออกได้ล้านช้าง ทิศใต้จรดชายแดนกับอยุธยา โดยในปี พ.ศ. 2023 กองทัพหน้าของพระองค์จำนวน 40,000 นายอาจหาญสู้ศึกชนะกองทัพไดเวียต (เวียดนาม) ซึ่งยกพลมหึมาร่วม 200,000 นาย ยึดได้ล้านช้าง แล้วตรงเข้ามาเชียงใหม่ ครั้งนั้น กองทัพหน้าแสดงปรีชาสามารถในการรบจนทัพไดเวียตแตกพ่าย แม่ทัพนายกองถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก บ้างก็ถูกจับเป็นเชลย กิตติศัพท์เลื่องลือทราบถึงจักรพรรดิจีนพระนามเซี่ยนซงหรือเฉิงฮั่วแห่งราชวงศ์หมิง (พ.ศ. 2007-2030) ยอมรับในพระเดชานุภาพ จึงมีพระราชโองการแต่งตั้งให้พระเจ้าติโลกราช เป็นเสมือนรองจักรพรรดิ (ลำดับที่ 2) โดยจารึกในพระสุพรรณบัฏ (แผ่นทองคำ) ความว่า "...ที่ใดก็ตามที่ปรากฏศัตรูขึ้นในแปดทิศของจักรวรรดิ์แห่งจักรพรรดิ์อุทิปวา ผู้ครองทุกสิ่งภายใต้สวรรค์ ท้าวล้านนา เจ้าฟ้าแห่งนครเชียงใหม่ มีอำนาจจะปราบปรามและลงโทษศัตรูนั้นได้"[1] ในปี พ.ศ. 2522 ให้มีพระราชอำนาจจัดการปราบปรามกษัตริย์ต่าง ๆ ในด้านทิศตะวันตก พร้อมกับให้เสนาบดีผู้ใหญ่ 2 คน เดินทางมานครเชียงใหม่เพื่อมอบตราตั้งของจักรพรรดิจีนพร้อมเครื่องประกอบเกียรติยศจำนวนมาก อาทิ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เครื่องประดับเศียร ทับทรวง คาดหน้าผาก กรรเจียกจรจำหลักลาย ศิราภรณ์ สร้อยคอ เพชร ฯลฯ
นอกจากนั้นยังมีตำนานบันทึกเกี่ยวกับเมืองยวมในฐานะของเมืองหน้าด่านของอาณาจักรล้านนาว่า ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดเจ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงแต่งตั้งพระเจ้ากาวิละขึ้นเป็นพระยาวชิรปราการ พระองค์ได้ทรงเสด็จไปเจริญสัมพันธไมตรีกับเมืองยวมเลยไปจนถึงเมืองยางแดง (กะเหรี่ยง) ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคง (สาละวิน) โดยให้พระยาสามล้านนำเครื่องราชบรรณาการไปมอบให้กับ ยางก๊างหัวตาด นายด่านของชาวกะเหรี่ยงแดงซึ่งมีกำลังพลหลายร้อยคน เพื่อที่จะไปช่วยรบกับทัพพม่า ครั้นเมืองพม่ายกทัพจะเข้ามาตีเมืองเชียงใหม่ พระเจ้ากาวิละร่วมกับยางก๊างหัวตาด นำทัพกะเหรี่ยงออกสู่รบกับพม่าจนแตกกระเจิง
กระทั่งปี พ.ศ. 2352 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 จึงได้ทรงแต่งตั้งพระยาวชิรปราการขึ้นเป็นพระเจ้าเมืองเชียงใหม่ พระองค์ได้ทรงมีรับสั่งให้เจ้าอุปราชธรรมลังกาไปตรวจเยี่ยมเมืองยวมและเลยไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำคง ทรงเห็นว่าเมืองยางแดงนั้นไม่ได้ขึ้นต่อกับพม่า จึงได้ทำการผูกไมตรีเพื่อให้คอยสอดส่องดูแลทัพของพม่าที่จะเข้ามาตีเมืองเชียงใหม่ โดยได้ทำพิธีดื่มน้ำพิพัฒนสัตยากันที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำคง แล้วฆ่าควายนำเลือดมาผสมกับเหล้าเป็นน้ำพิพัฒน์สัตยา ผ่าเขาควายออกเป็น 2 ซีกแล้วให้สัตยาบรรณต่อกันว่า “ตราบใดที่น้ำคงบ่แห้ง เขาควายบ่ซื่อ ถ้ำช้างเผือกบ่ยุบ เมืองเชียงใหม่กับเมืองยางแดงยังเป็นไมตรีกันตราบนั้น”
เมืองยวมเคยเป็นถิ่นฐานอาศัยของชนเผ่าดั้งเดิม คือ คนพื้นเมือง ละว้า และกะเหรี่ยง ต่อมาในปี พ.ศ. 2443 ทางราชการได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอเรียกชื่อว่า อำเภอเมืองยวม จนกระทั่งปี พ.ศ. 2467 ทางราชการได้พิจารณาเห็นว่าชื่ออำเภอเมืองยวมนั้นไปพ้องกับอำเภอขุนยวมซึ่งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอแม่สะเรียง ตามชื่อของลำน้ำแม่สะเรียงที่ไหลผ่านอำเภออีกสายหนึ่งแทน อำเภอแม่สะเรียงในอดีตยังเคยเป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย (ปัจจุบันคืออำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก)
- วันที่ 1 มิถุนายน 2456 แยกพื้นที่ตำบลท่าสองยาง และตำบลแม่ต้าน อำเภอแม่สะเรียง มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอท่าสองยาง[2] ขึ้นกับอำเภอแม่สะเรียง
- วันที่ 17 มกราคม 2480 ยกฐานะศาลแขวงแม่สะเรียง ขึ้นเป็น ศาลจังหวัดแม่สะเรียง[3]
- วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลบ้านกาศ แยกออกจากตำบลแม่สะเรียง ตั้งตำบลแม่คง แยกออกจากตำบลแม่ยวม[4]
- วันที่ 27 กรกฎาคม 2491 เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก โดยโอนพื้นที่กิ่งอำเภอท่าสองยาง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปขึ้นกับ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก[5]
- วันที่ 17 กันยายน 2498 จัดตั้งสุขาภิบาลแม่สะเรียง ในท้องที่บางส่วนของตำบลแม่สะเรียง และตำบลบ้านกาศ[6]
- วันที 1 กุมภาพันธ์ 2510 แยกพื้นที่ตำบลแม่ลาน้อย และตำบลแม่ลาหลวง อำเภอแม่สะเรียง มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอแม่ลาน้อย ขึ้นกับอำเภอแม่สะเรียง[7]
- วันที่ 23 พฤศจิกายน 2510 โอนพื้นที่ตำบลแม่ลาหลวง อำเภอขุนยวม ไปขึ้นกับ กิ่งอำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง[8]
- วันที่ 7 กันยายน 2514 ตั้งตำบลท่าผาปุ้ม แยกออกจากตำบลแม่ลาน้อย ตั้งตำบลแม่โถ แยกออกจากตำบลแม่ลาหลวง[9]
- วันที่ 30 มกราคม 2516 โอนพื้นที่หมู่ 6 บ้านท่าผาปุ้ม และพื้นที่หมู่ 7 บ้านแม่เตี๋ย (ในขณะนั้น) ของตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง ไปขึ้นกับตำบลท่าผาปุ้ม กิ่งอำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง[10]
- วันที่ 3 มิถุนายน 2518 ตั้งตำบลแม่เหาะ แยกออกจากตำบลแม่สะเรียง[11]
- วันที่ 21 สิงหาคม 2518 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง เป็น อำเภอแม่ลาน้อย[12]
- วันที่ 5 กรกฎาคม 2520 ตั้งตำบลสบเมย แยกออกจากตำบลแม่ยวม [13]
- วันที่ 26 สิงหาคม 2523 ตั้งตำบลเสาหิน แยกออกจากตำบลแม่คง[14]
- วันที่ 16 มิถุนายน 2524 โอนพื้นที่หมู่ 15 บ้านแพะ, บ้านแม่ต้อบ, บ้านสล่าเชียงตอง (ในขณะนั้น) ของตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง ไปขึ้นกับตำบลเสาหิน[15]
- วันที่ 1 พฤษภาคม 2527 แยกพื้นที่ตำบลสบเมย ตำบลแม่คะตวน และตำบลกองก๋อย อำเภอแม่สะเรียง ไปตั้งเป็นกิ่งอำเภอสบเมย ขึ้นกับอำเภอแม่สะเรียง[16]
- วันที่ 25 กันยายน 2527 ตั้งตำบลแม่สวด แยกออกจากตำบลแม่คะตวน[17]
- วันที่ 21 ตุลาคม 2531 ตั้งตำบลป่าแป๋ แยกออกจากตำบลแม่สะเรียง ตั้งตำบลแม่สามแลบ แยกออกจากตำบลสบเมย ตั้งตำบลป่าโปง แยกออกจากตำบลกองก๋อย[18]
- วันที่ 3 พฤศจิกายน 2536 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอสบเมย อำเภอแม่สะเรียง เป็น อำเภอสบเมย[19]
- วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะจากสุขาภิบาลแม่สะเรียง เป็นเทศบาลตำบลแม่สะเรียง
การแบ่งเขตการปกครอง
แก้การปกครองส่วนภูมิภาค
แก้อำเภอแม่สะเรียงแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 7 ตำบล 77 หมู่บ้าน ได้แก่
ลำดับ | อักษรไทย | อักษรโรมัน | จำนวนหมู่บ้าน | จำนวนประชากร (ธันวาคม 2565)[20] |
---|---|---|---|---|
1. | บ้านกาศ | Ban Kat | 13
|
11,954
|
2. | แม่สะเรียง | Mae Sariang | 9
|
9,909
|
3. | แม่คง | Mae Khong | 11
|
5,980
|
4. | แม่เหาะ | Mae Ho | 13
|
8,114
|
5. | แม่ยวม | Mae Yuam | 13
|
10,069
|
6. | เสาหิน | Sao Hin | 6
|
3,408
|
7. | ป่าแป๋ | Pa Pae | 12
|
5,871
|
การปกครองส่วนท้องถิ่น
แก้ท้องที่อำเภอแม่สะเรียงประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลแม่สะเรียง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลบ้านกาศและตำบลแม่สะเรียง
- เทศบาลตำบลแม่ยวม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่ยวมทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลเมืองยวมใต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่สะเรียง (นอกเขตเทศบาลตำบลแม่สะเรียง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกาศ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านกาศ (นอกเขตเทศบาลตำบลแม่สะเรียง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลแม่คง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่คงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลแม่เหาะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่เหาะทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลเสาหิน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเสาหินทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลป่าแป๋ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลป่าแป๋ทั้งตำบล
อ้างอิง
แก้- ↑ เอกสารชุด ความรู้เรื่องพระญาติโลกราชะ โดย ศาสตราจาย์ ดร.อุดม รุ่งเรืองศรี และคณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เอกสารประกอบการประชุมคณะทำงานเพื่อจัดเตรียมกิจกรรมในวาระครบรอบประสูติกาล 600 ปี ของพระญาติโลกราชะ
- ↑ [1]แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและยุบกิ่งอำเภอต่าง ๆ ในมณฑลพายัพ
- ↑ [2]พระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดศาลจังหวัดแม่สะเรียง พุทธศักราช ๒๔๘๐
- ↑ [3] เก็บถาวร 2011-11-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งตำบลในจังหวัดต่าง ๆ
- ↑ [4] เก็บถาวร 2012-05-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดตาก พ.ศ. ๒๔๙๑
- ↑ [5]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [6] เก็บถาวร 2012-05-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งท้องที่ตั้งเป็นกิ่งอำเภอ [แบ่งท้องที่อำเภอแม่สะเรียง ตั้งเป็น กิ่งอำเภอแม่ลาน้อย]
- ↑ [7] เก็บถาวร 2012-05-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำเภอขุนยวมและกิ่งอำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. ๒๕๑๐
- ↑ [8]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่กิ่งอำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [9]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตกิ่งอำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [10]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [11] เก็บถาวร 2007-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอแวงน้อย อำเภอป่าแดด อำเภอเรณูนคร อำเภอคูเมือง อำเภอคุระบุรี อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอเสริมงาม อำเภอไพรบึง และอำเภหนองโดน พ.ศ. ๒๕๑๘
- ↑ [12]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [13]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [14]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [15] เก็บถาวร 2012-05-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งท้องที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งเป็นกิ่งอำเภอสบเมย
- ↑ [16]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่กิ่งอำเภอสบเมย อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [17]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอแม่สะเรียง กิ่งอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ↑ [18] เก็บถาวร 2012-02-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอลำทับ อำเภอร่องคำ อำเภอเวียงแหง อำเภอนาโยง อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอโนนแดง อำเภอบ้านหลวง อำเภอกะพ้อ อำเภอศรีบรรพต อำเภอแก่งกระจาน อำเภอหนองสูง อำเภอสบเมย อำเภอเมยวดี อำเภอโคกเจริญ อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอผาขาว อำเภอวังหิน อำเภอดอนพุด อำเภอบึงโขงหลง และอำเภอห้วยคต พ.ศ. ๒๕๓๖
- ↑ "ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร". stat.bora.dopa.go.th.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เทศบาลตำบลแม่สะเรียง
- อุทยานแห่งชาติสาละวิน เก็บถาวร 2007-03-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน