การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มกราคม พ.ศ. 2489

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มกราคม พ.ศ. 2489 นับเป็น การเลือกตั้งในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 4 การเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นครั้งหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มกราคม พ.ศ. 2489

← พ.ศ. 2481 6 มกราคม พ.ศ. 2489 สิงหาคม พ.ศ. 2489 →

96 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไทย
ต้องการ 49 ที่นั่งจึงเป็นฝ่ายข้างมาก
ผู้ใช้สิทธิ32.52% ลดลง
  First party
 
พรรค อิสระ
ที่นั่งที่ชนะ 96

นายกรัฐมนตรีก่อนการเลือกตั้ง

หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช
เสรีไทย

แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี

ควง อภัยวงศ์
อิสระ

สืบเนื่องจาก หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีได้ตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรขึ้น เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2488 เนื่องด้วยสภาฯชุดนี้มีอายุยาวนานมากพอสมควรแล้ว เนื่องจากไม่มีการเลือกตั้งเพราะอยู่ในสภาวะสงคราม โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2489 โดย ม.ร.ว.เสนีย์ รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่จนกระทั่งถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2489 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีจำนวนสมาชิกผู้ได้รับเลือกเป็นจำนวน 96 คน

การเลือกตั้งครั้งนี้กำหนดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 กำหนดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ 2 ประเภท คือ 1. ส.ส.ตามที่ประชาชนทั่วไปเลือก 2. ส.ส.ที่พระมหากษัตริย์ทรงเลือก โดยประชาชนเลือกได้เขตละหนึ่งคน และจำกัดจำนวนประชากรที่ 200,000 คนต่อ ส.ส.หนึ่งคน

ผลการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 6,431,827 คน มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจำนวน 2,091,788 คน คิดเป็นร้อยละ 32.52 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ จังหวัดบุรีรัมย์ คิดเป็นร้อยละ 54.65 และจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดสุพรรณบุรี คิดเป็นร้อยละ 13.40

เหตุการณ์ที่น่าสนใจของการเลือกตั้งครั้งนี้คือ การรณรงค์หาเสียงแข่งขันในจังหวัดพระนคร ระหว่าง นายควง อภัยวงศ์ นายกรัฐมนตรีช่วงสงคราม กับนายวิลาศ โอสถานนท์ ซึ่งการแข่งขันของทั้งคู่เต็มไปด้วยสีสันและผู้คนให้ความสนใจมาก ด้วยความที่เคยเป็นคณะราษฎรสายพลเรือน ที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 มาด้วยกัน และได้รับยศ พันตรี (พ.ต.) สังกัดทหารสื่อสาร ในฐานะราชองครักษ์ ในช่วงสงครามอินโดจีน มาพร้อมกัน โดยนายควงใช้คำขวัญที่ว่า "เหล็กวิลาศหรือจะสู้ตะปูควง" ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายควง ชนะเลือกตั้งไปด้วยคะแนนถล่มทลาย อีกทั้ง ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีรักษาการ ก็ได้ลงรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และได้รับเลือกตั้งด้วย

หลังจากนี้ ได้มีการโหวตกันในรัฐสภา ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่เลือก นายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี นับเป็นสมัยที่ 2 ของนายควง ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นคณะรัฐมนตรีคณะที่ 14 แต่ว่าคณะรัฐมนตรีคณะนี้ก็มีอายุอยู่ได้เพียงเดือนเศษ ก็ต้องสิ้นสุดลง เนื่องจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองค่าใช้จ่ายของประชาชนในภาวะคับขัน พ.ศ. 2489 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "พ.ร.บ.ปักป้ายข้าวเหนียว" ที่ นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ ส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี พรรคสหชีพ เป็นผู้เสนอ คณะรัฐมนตรีได้แถลงให้สภาฯทราบแล้วว่า คณะรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติตามร่างพระราชบัญญัติฯนั้นได้ เพราะเกรงจะเป็นการเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป เนื่องด้วยไม่มีมาตรการอะไรมารองรับ แต่สภาฯได้ลงมติรับหลักการ ด้วยคะแนนเสียง 65 ต่อ 63 รัฐมนตรีทั้งคณะจึงได้กราบถวายบังคมฯ ลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2489 ซึ่งสมาชิกคณะรัฐมนตรีคณะนี้ส่วนหนึ่ง ได้ร่วมกันก่อตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นมาในเวลาหลังจากนี้ต่อมาไม่นาน[1] [2] [3]

ผลการเลือกตั้ง แก้

เดิมที สส. ที่ได้รับการเลือกตั้งในรอบนี้ ไม่ได้สังกัดพรรค ต่อมาได้มีการสังกัดพรรคการเมือง โดยมีดังนี้

ชื่อพรรค หัวหน้าพรรค จำนวน ส.ส.
พรรคประชาธิปัตย์ ควง อภัยวงศ์ 46 คน
พรรคสหชีพ อดุล อดุลเดชจรัส 33 คน
พรรคอิสระ 14 คน
พรรคแนวรัฐธรรมนูญ ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ 4 คน

ดูเพิ่ม แก้

อ้างอิง แก้

  1. มานิตย์ จุมปา. สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่อง 7. การยุบสภา. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2544. 41 หน้า. ISBN 974-00-8337-4
  2. บุญทัน ดอกไธสง, การเปลี่ยนแปลงทางการบริหารและการเมืองไทย, กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2520
  3. จรี เปรมศรีรัตน์, กำเนิดพรรคประชาธิปัตย์, กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ใจกาย, 2550. 97-98 หน้า. ISBN 978-974-7046-72-4

แหล่งข้อมูลอื่น แก้