กล้องโทรทรรศน์ซูบารุ
กล้องโทรทรรศน์ซูบารุ (ญี่ปุ่น: すばる望遠鏡; โรมาจิ: Subaru bōenkyō) เป็นกล้องโทรทรรศน์เชิงแสงและอินฟราเรดขนาดใหญ่ของหอดูดาวแห่งชาติญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟเมานาเคอา (ความสูง 4,205 เมตร) บนเกาะฮาวาย
ที่ตั้ง | ภูเขาไฟเมานาเคอา, เกาะฮาวาย |
---|---|
พิกัด | 19°49′32″N 155°28′34″E / 19.82556°N 155.47611°E |
องค์กร | หอดูดาวแห่งชาติญี่ปุ่น |
ความสูง | 4,139 เมตร (13,579 ฟุต) |
ความยาวคลื่น | แสงที่มองเห็นได้ / อินฟราเรด |
สร้างเมื่อ | เสร็จในปี 1998 |
แสงแรก | ปี 1999 |
เส้นผ่านศูนย์กลาง | 8.2 เมตร[1] |
เส้นผ่านศูนย์กลางทุติยภูมิ | 1330/1400/1265 มม.[2] |
ความละเอียดเชิงมุม | 0.23″[2] |
ความยาวโฟกัส | 16.4 ม. (โฟกัสปฐมภูมิ) |
ฐานตั้งกล้อง | ระบบขอบฟ้า |
เว็บไซต์ | www |
ภาพรวม
แก้กล้องโทรทรรศน์ซูบารุสร้างเสร็จในปี 1998 และเริ่มสังเกตการทดสอบแสงแรกในเดือนมกราคมปี 1999[3] มูลค่าการก่อสร้างทั้งหมด 4 หมื่นล้านเยน มิตซูบิชิ อิเล็กทริค รับหน้าที่ออกแบบและสร้างระบบเป็นส่วนใหญ่ ชื่อเดิมของโครงการที่หอดูดาวแห่งชาติญี่ปุ่นได้เตรียมไว้ในช่วงแรกของการก่อสร้างคือ "กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่แห่งชาติญี่ปุ่น" (日本国設大型望遠鏡, Japan National Large Telescope, JNLT) การก่อสร้างเริ่มต้นขึ้นในปี 1991 จากนั้นจึงได้มีการเปิดให้คนทั่วไปได้มาร่วมตั้งชื่อเล่นให้กับกล้องโทรทรรศน์ใหม่นี้ แล้วสุดท้ายชื่อที่ได้รับเลือกก็คือ "ซูบารุ"
ตัวกล้องเป็นกล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกระจกเงาปฐมภูมิ 8.2 ม. และเส้นผ่านศูนย์กลางยังผล (เส้นผ่านศูนย์กลางของส่วนที่ใช้จริง) ก็เท่ากับ 8.2 ม. ซึ่งถือเป็นกล้องโทรทรรศน์ขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่สร้างด้วยกระจกเงาแผ่นเดียว จนถึงปี 2005 ที่กล้อง LBT ซึ่งมีขนาด 8.4 ม. เริ่มเปิดใช้งาน[4] ตัวกระจกเงาปฐมภูมิผลิตขึ้นในสหรัฐอเมริกาโดยใช้เวลานานกว่า 7 ปี
กล้องโทรทรรศน์ซูบารุใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย คุณสมบัติหลักประการหนึ่งคือกระจกเงาปฐมภูมิได้รับการรองรับจากด้านหลังโดยตัวกระตุ้นให้ทำงานที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ 261 ตัว ซึ่งจะแก้ไขการบิดเบี้ยวของกระจกเงาปฐมภูมิที่เกิดขึ้นเมื่อเอียงกล้องโทรทรรศน์ได้อย่างแม่นยำโดยคงรูปร่างในอุดมคติไว้เสมอ (แอกทิฟออปติก) นอกจากนี้ ด้วยการสร้างรูปทรงของอาคารหอดูดาวให้เป็นโดมทรงกระบอก จึงมีความเหมาะสมกว่าโดมครึ่งทรงกลมทั่วไปในแง่ของการป้องกันความปั่นป่วนที่เกิดจากการแผ่รังสีความร้อนจากภายใน
นอกเหนือจากการตั้งค่าทางกายภาพของเครื่องมือแล้ว การสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์จะดำเนินการในรูปแบบของผู้สังเกตการณ์ที่ศูนย์ที่ตั้งอยู่ในฮิโล เมืองที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฮาวาย ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร[5]
รูปแบบ
แก้- สถานที่ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์
- ฐานตั้งกล้อง
- ตัวกล้องโทรทรรศน์
- ความสูง: 22.2 ม.
- ความกว้างสูงสุด: 27.2 ม.
- น้ำหนัก: 555 ตัน
- กระจกเงาสะท้อนแสงปฐมภูมิ
- เส้นผ่านศูนย์กลางที่ใช้งาน: 8.2 ม.
- ความหนา: 20 ซม.
- น้ำหนัก: 22.8 ตัน
- วัสดุ: ULE (แก้วขยายต่ำพิเศษ)
- ความคลาดเคลื่อนในการขัดผิวโดยเฉลี่ย: 14 นาโนเมตร
- ความยาวโฟกัส : 15 ม.
- โฟกัส สามารถใช้งานได้ 4 แบบ
- โฟกัสปฐมภูมิ: f/2.0 (รวมเลนส์แก้ไขความคลาด) ความยาวโฟกัส 16,400 มม.
- โฟกัสกัสแกร็ง: f/12.2 ความยาวโฟกัส 100,000 มม.
- โฟกัสแนสมิธ (มี 2 ข้าง ด้านซ้ายและขวาของตัวกล้องโทรทรรศน์): f/12.6 ความยาวโฟกัส 103,320 มม.
- โดม
- อาคารห่อหุ้มทรงกระบอกเชื่อมต่อกล้องโทรทรรศน์
- ความสูง: 43 ม.
- เส้นผ่านศูนย์กลางพื้นฐาน: 40 ม.
- น้ำหนัก: 2,000 ตัน
- หุ้มด้วยแผงอะลูมิเนียมทั้งหมด
อุปกรณ์สังเกตการณ์
แก้- IRCS (Infrared Camera and Spectrograph): อุปกรณ์ถ่ายภาพอินฟราเรดใกล้และสเปกโทรกราฟ (พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยฮาวาย)
- CIAO (Coronographic Imager for Adaptive Optics): อุปกรณ์ถ่ายภาพด้วยโคโรนากราฟที่ใช้อะแดปทิฟออปติก
- COMICS (Cooled Mid Infrared Camera and Spectrometer): อุปกรณ์ถ่ายภาพสเปกโทรสโกปีช่วงคลื่นอินฟราเรดกลางที่มีระบบหล่อเย็น
- FOCAS (Faint Object Camera And Spectrograph): อุปกรณ์ถ่ายภาพสเปกโทรสโกปีสำหรับวัตถุเลือนราง
- Suprime-Cam (Subaru Prime Focus Camera): กล้องโฟกัสปฐมภูมิมุมกว้าง
- HSC (Hyper Suprime-Cam): กล้องโฟกัสปฐมภูมิมุมกว้างพิเศษ[6][7]
- HDS (High Dispersion Spectrograph): สเปกโทรมิเตอร์แบบกระจายสูง
- MOIRCS (Multi-Object Infrared Camera and Spectrograph): เครื่องถ่ายภาพสเปกโทรสโกปีย่านอินฟราเรดใกล้แบบหลายวัตถุ พัฒนาร่วมกับภาควิชาดาราศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโทโฮกุ
- HiCIAO (High-Contrast Coronographic Imager for Adaptive Optics)
- SCExAO (The Subaru Coronagraphic Extreme Adaptive Optics)
อุปกรณ์สังเกตการณ์เหล่านี้สามารถสังเกตการณ์ได้ครอบคลุมย่านแสงที่มองเห็นได้ไปจนถึงย่านอินฟราเรด สามารถครอบคลุมช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลายได้โดยการติดอุปกรณ์สำหรับ การถ่ายภาพ และอุปกรณ์สำหรับสเปกโทรสโกปี เข้ากับจุดโฟกัสของกล้องโทรทรรศน์หนึ่งในสี่จุดตามเป้าหมายการสังเกต อุปกรณ์สังเกตการณ์ใหม่กำลังได้รับการพัฒนาและวิจัยในมหาวิทยาลัยและสถาบันดาราศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น
HDS, IRCS และ Suprime-Cam เป็นเครื่องมือสังเกตการณ์ที่ติดตั้งในช่วงแรกที่สร้างหอดูดาว NAOJ ฮาวาย หลังจากนั้นอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เช่น COMICS และ FOCAS ได้ถูกติดตั้งและใช้สำหรับการสังเกตที่ดำเนินการโดยหอดูดาวโอกายามะ นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนา CIAO ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบถูกใช้เพื่อสังเกตการณ์ระบบดาวคู่ และ ระบบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ นอกจากนี้ เพื่อให้ใช้ระบบเชิงแสงขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ติดตั้ง MOIRCS ซึ่งพัฒนาโดยทีมงานจากมหาวิทยาลัยโทโฮกุเป็นหลัก
ในเดือนสิงหาคม 2012 ได้มีการติดตั้ง HSC ที่พัฒนาขึ้นใหม่แทนที่ Suprime-Cam กล้อง Suprime-Cam สามารถจับภาพส่วนหนึ่งของดาราจักรอันโดรเมดาได้ (ขอบเขตการมองเห็นกว้างกว่าดวงจันทร์เต็มดวงเล็กน้อย) ในขณะที่ HSC เป็นกล้องมุมกว้างที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลก โดยสามารถจับภาพพื้นที่ท้องฟ้าได้กว้างถึง 9 เท่าของดวงจันทร์เต็มดวง กล้องโทรทรรศน์ซูบารุสามารถจับภาพดาราจักรอันโดรเมดาได้เกือบทั้งหมดในมุมมองเดียวโดยใช้กล้องดิจิทัลขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมด 870 ล้านพิกเซล และองค์ประกอบ CCD ที่พัฒนาขึ้นอย่างอิสระ 116 ชิ้น[8]
HiCIAO ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยได้ปรับปรุงจาก CIAO โดยได้มีการแก้ไขตัวกรองโคโรนากราฟและระบบเชิงแสง เพื่อสังเกตดาวเคราะห์นอกระบบด้วยความแม่นยำที่แม่นยำ เริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 2009[9]
SCExAO เป็นระบบอุปกรณ์ถ่ายภาพความเปรียบต่างสูงที่ใช้เพื่อการค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบด้วยวิธีการถ่ายภาพโดยตรง[10] ประกอบไปด้วยโคโรนากราฟ 4 แบบ[11] เริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 2015 มีความสามารถสูงในการแยกดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดาวฤกษ์ เช่น ถ้าระบบดาวนั้นอยู่ห่างไป 100 pc สามารถถ่ายภาพดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดาวหลักไป 4 AU ได้ในขณะที่ GPI ของหอดูดาวเจมินีและ SPHERE ของกล้อง VLT สามารถแยกได้ที่ระยะ 12 AU[12]
อุปกรณ์ช่วยสังเกตการณ์ประกอบด้วยระบบอะแดปทิฟออปติกโดยใช้เซนเซอร์หน้าคลื่นที่พัฒนาโดยฮามามัตสึโฟโตนิกส์ และระบบเลเซอร์นำทางดาวที่พัฒนาโดย RIKEN ทำให้สามารถสงเกตการณ์ได้ด้วยความละเอียดเชิงแสงและความเที่ยงตรงสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีการวางแผนว่าความละเอียดของเซนเซอร์หน้าคลื่นจะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมในอนาคตตามความก้าวหน้าของการวิจัยและพัฒนา
สเปกโทรสโคปแบบกระจายสูงเป็นอุปกรณ์ที่สร้างภาพสเปกตรัมที่แม่นยำโดยการขยายภาพสเปกตรัมโดยใช้เลนส์รวมแสง ความยากคือภาพสเปกตรัมจะมืดลงเนื่องจากถูกขยายโดยเลนส์รวมแสง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เซนเซอร์ที่มีรูรับแสงหรือความไวแสงสูง กรณีหลังมักไม่ใช้เนื่องจากปัญหาเช่นกระแสไฟมืด สเปกโตรมิเตอร์ที่มีการกระจายต่ำเป็นอุปกรณ์ที่สามารถจับภาพสเปกตรัมได้ตามที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นอุปกรณ์ที่สามารถแสดงหรือถ่ายภาพสเปกตรัมที่ได้รับโดยตรงโดยใช้ปริซึม เกรตติงแยกแสง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใช้สำหรับการสังเกตดวงอาทิตย์และการสังเกตทางวิทยาศาสตร์ของดาวเคราะห์
เทคโนโลยีการสังเกตการณ์
แก้เพื่อรักษาความเที่ยงตรงของตัวสะท้อนซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.2 ม. แต่หนาเพียง 20 ซม. จึงติดตั้งตัวรองรับแบบแอกทิฟ อุปกรณ์สนับสนุนนี้ช่วยให้แน่ใจว่าความแม่นยำของกระจกเงาจะถูกรักษาให้คงอยู่ในหลัก 100 นาโนเมตร ( ) เสมอ ด้วยการรองรับกระจกเงาปฐมภูมิจากด้านหลังด้วยตัวกระตุ้นให้ทำงาน ที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ 261 ตัว การเสียรูปของกระจกเงาปฐมภูมิเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงการจัดวางกล้องโทรทรรศน์จะถูกปรับแก้อย่างละเอียดโดยอัตโนมัติทุก ๆ 0.1 วินาที
มีการติดตั้งอะแดปทิฟออปติกที่จุดโฟกัสกัสแกร็งตั้งแต่เดือนธันวาคม 2000 เพื่อแก้ไขการกระเพื่อมของภาพดาวตามเวลาจริงซึ่งเกิดจากความผันผวนที่เร็วขึ้น เนื่องมาจากสาเหตุ เช่น ความปั่นป่วนในชั้นบรรยากาศโลก เป็นผลให้ได้ภาพดาวในย่านใกล้อินฟราเรดที่เข้าใกล้ขีดจำกัดการเลี้ยวเบน นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบอะแดปทิฟออปติกได้แม่นยำยิ่งขึ้นโดยใช้ดาวเทียม (ดาวนำแสงเลเซอร์) ที่โฟกัสแนสมิธอินฟราเรด และประสบความสำเร็จในการสังเกตครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2006
ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ ทำให้สามารถรับภาพความละเอียดสูงของเทห์ฟากฟ้าและปรับปรุงประสิทธิภาพการสังเกตดาราจักรและเนบิวลาที่อยู่ห่างไกลซึ่งริบหรี่ได้ดีขึ้นอย่างมาก
ผลงานโดยกล้องโทรทรรศน์ซูบารุ
แก้กล้องโทรทรรศน์ซูบารุถูกสร้างขึ้นและใช้งานโดยหอดูดาวแห่งชาติของญี่ปุ่นเป็นหลัก แต่เนื่องจากเป็นหอดูดาวแบบเปิดระหว่างประเทศ นักดาราศาสตร์จากทั่วโลกจึงสามารถส่งข้อเสนอขอทำการสังเกตการณ์ได้ และเฉพาะข้อเสนอการสังเกตการณ์ที่ผ่านการคัดกรองเท่านั้นที่จะถูกนำไปปฏิบัติงานจริง มีการเปิดรับข้อเสนอการสังเกตการณ์ปีละสองครั้ง
ผลงานโดยกล้องโทรทรรศน์ซูบารุตัวเดียว
แก้- การค้นพบเนบิวลารูปเส้นใย แหล่งกำเนิดโครงสร้างขนาดใหญ่ในเอกภพ นอกจากนี้ยังค้นพบเนบิวลาที่เป็นแหล่งกำเนิดกระจุกดาราจักร และมีมวลมากกว่า 10 เท่าของ ทางช้างเผือก
- จับภาพมหานวดาราที่อยู่ไกลที่สุดในเอกภพในช่วงคลื่นอินฟราเรด
- จับภาพวงแหวนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ
- ในเดือนกุมภาพันธ์ 2005 จับภาพกระจุกดาราจักรที่ไกลที่สุดเท่าที่เคยสังเกตมาในทิศทางของกลุ่มดาววาฬที่อยู่ห่างออกไป 12.8 พันล้านปีแสง
- การวิเคราะห์แสงวาบรังสีแกมมา ในเดือนพฤษภาคม 2006 ยืนยันว่า การรีไอออไนซ์ของเอกภพมีอายุย้อนไปถึง 900 ล้านปีหลังจากบิกแบง
- ในเดือนสิงหาคม 2006 มีการค้นพบเควซาร์ที่อยู่ห่างออกไป 12,700 ล้านปีแสงในทิศทางของกลุ่มดาวปู ซึ่งเป็นเควซาร์ที่อยู่ไกลที่สุดที่ชาวญี่ปุ่นค้นพบ
- ในเดือนกันยายน 2006 ค้นพบ ดาราจักรที่อยู่ห่างออกไป 12.88 พันล้านปีแสงในทิศทางของกลุ่มดาวผมเบเรนิซ ซึ่งเป็นดาราจักรที่อยู่ไกลที่สุดในประวัติศาสตร์การสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
- พฤศจิกายน 2014 สำรวจเอกภพที่ไกลที่สุดด้วยความไวที่ไม่เคยมีมาก่อน และค้นพบดาราจักร 7 แห่งในเอกภพห่างไกลหลังบิกแบงเพียง 700 ล้านปี (13.1 พันล้านปีแสง)[13]
ผลงานโดยความร่วมมือระหว่างประเทศ
แก้- ร่วมมือกับยานสำรวจดีปอิมแพกต์ของนาซาเพื่อจับภาพแสงในช่วงเวลาที่ดาวหางตกกระทบ
- การสังเกตการณ์นี้ยังทำกับกระจุกกล้องโทรทรรศน์ทั้งหมดบนยอดภูเขาไฟเมานาเคอา
- การสังเกตการณ์ยังทำที่หอดูดาวท้องฟ้าซีกใต้แห่งยุโรปด้วย
- สังเกตกระแสไอพ่นของดวงจันทร์ไททันของดาวเสาร์ได้ด้วยความร่วมมือกับยานกัสซีนีของนาซาและองค์การอวกาศยุโรป (ESA)
- ร่วมมือกับนาซาค้นหาเป้าหมายการสำรวจแถบไคเปอร์ของดาวพลูโต ยานนิวฮอไรซันส์
- ร่วมมือกับ ESA ทำการสำรวจภาพถ่ายในห้วงอวกาศที่เรียกว่า Subaru/XMM-Newton Deep Survey (SXDS)
- เข้าร่วมโครงการ COSMOS ร่วมกับ กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล, กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์, VLA, VLT, XMM-Newton, GALEX, กล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทรา, UKIRT, NOAO, CFHT ฯลฯ เพื่อสังเกตโครงสร้างขนาดใหญ่ในเอกภพ ในทุกช่วงความยาวคลื่นของรังสีเอกซ์ รังสีอัลตราไวโอเลต รังสีอินฟราเรด และคลื่นวิทยุ
การเผยแพร่ภาพที่ถ่ายและสารบัญแฟ้มทางดาราศาสตร์
แก้ในปี 2004 คณะวิจัยจากหอดูดาวแห่งชาติญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยโตเกียว, องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยเดอรัมและมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ของสหราชอาณาจักร ได้ทำการเผยแพร่สารบัญแฟ้มทางดาราศาสตร์ Subaru/XMM-Newton Deep Survey (SXDS)[14]
เหตุการณ์
แก้- เกิดไฟไหม้ระหว่างการก่อสร้างอาคารโดมซึ่งเป็นที่ตั้งของกล้องโทรทรรศน์ อุบัติเหตุดังกล่าวคร่าชีวิตคนงานไป 4 คน
- ในเดือนกรกฎาคม 2011 มีการรั่วไหลของสารหล่อเย็นจากจุดโฟกัสปฐมภูมิของกล้องโทรทรรศน์ซูบารุ ของเหลวกระเซ็นไปทั่วบริเวณกว้าง รวมทั้งกระจกเงาปฐมภูมิ และอุปกรณ์ก็โดนน้ำด้วย ทำให้ไม่สามารถใช้งานการสังเกตได้[15] หลังจากนั้น การตรวจสอบสาเหตุและงานบูรณะก็ดำเนินต่อไป และภายในเดือนกันยายน 2011 การสังเกตที่โฟกัสแนสมิธ โฟกัสกัสแกร็ง และโฟกัสปฐมภูมิอินฟราเรดก็กลับมาทำงานต่อ ต้องใช้เวลาพอสมควรในการกู้คืนโฟกัสแสงที่มองเห็นได้ซึ่งเสียหายไป แต่ก็สามารถกลับมาทำการสังเกตการณ์แบบเปิดได้ใหม่ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2012[16]
อ้างอิง
แก้- ↑ "Corning Museum of Glass - Telescopes and Mirrors". Cmog.org. สืบค้นเมื่อ September 22, 2010.
- ↑ 2.0 2.1 Iye, M.; Karoji, H.; Ando, H.; Kaifu, N.; Kodaira, K.; Aoki, K.; Aoki, W.; Chikada, Y.; Doi, Y.; Ebizuka, N.; Elms, B.; Fujihara, G.; Furusawa, H.; Fuse, T.; Gaessler, W.; Harasawa, S.; Hayano, Y.; Hayashi, M.; Hayashi, S.; Ichikawa, S.; Imanishi, M.; Ishida, C.; Kamata, Y.; Kanzawa, T.; Kashikawa, N.; Kawabata, K.; Kobayashi, N.; Komiyama, Y.; Kosugi, G.; และคณะ (April 25, 2004), "Current Performance and On-Going Improvements of the 8.2m Subaru Telescope" (PDF), Publ. Astron. Soc. Jpn., 56 (2): 381–397, arXiv:astro-ph/0405012, Bibcode:2004PASJ...56..381I, doi:10.1093/pasj/56.2.381, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ July 22, 2011
- ↑ "ประวัติย่อของกล้องซูบารุ". Naoj.org. สืบค้นเมื่อ 2010-09-22.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "กล้องโทรทรรศน์ซูบารุ". web-japan.org. สืบค้นเมื่อ 2010-09-22.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ สิ่งอำนวยความสะดวกของกล้องโทรทรรศน์ซูบารุที่ฐานฮิโล
- ↑ "キヤノン,浜松ホトニクス,三菱電機ら,すばる望遠鏡の超広視野カメラを開発". OPTRONICS ONLINE オプトロニクスオンライン (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2021-04-02.
- ↑ "新型の超広視野カメラが開眼、ファーストライト画像を初公開 | トピックス・お知らせ". すばる望遠鏡 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2021-04-02.
- ↑ "新型の超広視野カメラが開眼、ファーストライト画像を初公開". すばる望遠鏡. 2013-07-30. สืบค้นเมื่อ 2013-08-11.
- ↑ "HiCIAO | 国立天文台 太陽系外惑星探査プロジェクト室". exoplanet.mtk.nao.ac.jp. สืบค้นเมื่อ 2021-04-02.
- ↑ SCExAO website
- ↑ "Overview". SCExAO: The Subaru Coronagraphic Extreme AO Project. สืบค้นเมื่อ August 21, 2014.
- ↑ Jovanovic, N., Martinache, F., Guyon, O., Clergeon, C., Singh, G., Kudo, T., Vievard, S., Newman, K., Minowa, Y., Hayano, Y., Kuhn, J., Serabyn, E., Norris, B., Tuthill, P., Stewart, P., Huby, E., Perrin, G., Lacour, S., Murakami, N., Fumika, O., 2014, "SCExAO as a precursor to an ELT exoplanet direct imaging instrument" เก็บถาวร เมษายน 8, 2014 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน,
- ↑ "すばる望遠鏡の限界に挑んだ最遠方銀河探査 〜 宇宙初期に突然現れた銀河を発見 〜". 国立天文台ハワイ観測所 (すばる望遠鏡). 2014-11-18. สืบค้นเมื่อ 2014-11-23.
- ↑ 「すばる望遠鏡 銀河形成の歴史に迫る」 -すばる/XMM-ニュートン・ディープサーベイ(SXDS) 画像データ公開-
- ↑ "すばる望遠鏡が冷却液漏れで観測中止". AstroArts. 2012-07-19. สืบค้นเมื่อ 2011-07-06.
- ↑ "すばる望遠鏡、主焦点カメラでの観測を再開". AstroArts. 2012-07-19. สืบค้นเมื่อ 2012-07-30.
อ่านเพิ่มเติม
แก้- ฮิโรยาสึ อันโด "กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซูบารุ" (เซย์บุนโด ชิงโกชะ, 1998) ISBN 4-582-50303-9
- เคย์อิจิ โคไดระ "เรื่องราวของการกำเนิดของกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ซูบารุ ความฝันบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว " (คินโนเซย์ชะ, 2000) ISBN 4-323-06076-9
- ฮิโรชิ คาราอุชิ "กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ซูบารุ เข้าใกล้ความลึกลับของจักรวาล" (เซย์บุนโด ชิงโกชะ, 2000) ISBN 4-416-20001-3
- เคย์อิจิ โคไดระ "20 ปีของโครงการกล้องโทรทรรศน์ Subaru สู่จุดจบของจักรวาล" (ฮายากาวะ โชโบ ฮายากาวะ บุงโกะ NF, 2006) ISBN 4-15-050308-7