ฟุตบอลทีมชาติฮังการี

ฟุตบอลทีมชาติฮังการี (ฮังการี: Magyar labdarúgó-válogatott) เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนทีมชาติจากประเทศฮังการี ประเทศในแถบยุโรปกลาง ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสมาพันธ์ฟุตบอลฮังการี

ฮังการี
Shirt badge/Association crest
ฉายาThe Magical Magyars (แมกยาร์มหัศจรรย์; ในทศวรรษที่ 1950)
Nemzeti Tizenegy (ชาติที่สิบเอ็ด)
นักรบแมกยาร์ (ฉายาในประเทศไทย)
สมาคมMagyar Labdarúgó Szövetség (MLSZ)
สมาพันธ์UEFA (ยุโรป)
หัวหน้าผู้ฝึกสอนบาร์นด์ สตอร์ก
กัปตันโดมินิก โซโบสลอยี
ติดทีมชาติสูงสุดกาเบอร์ คิราลี (104)
ทำประตูสูงสุดแฟแร็นตส์ ปุชกาช (84)
สนามเหย้ากรูปามาอารีนา
รหัสฟีฟ่าHUN
อันดับฟีฟ่า
อันดับปัจจุบัน 27 Steady (15 กุมภาพันธ์ 2024)[1]
อันดับสูงสุด18 (เมษายน–พฤษภาคม 2016)
อันดับต่ำสุด87 (กรกฎาคม 1996)
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก
ธงชาติออสเตรีย ออสเตรีย 5–0 ฮังการี ธงชาติฮังการี
(เวียนนา, ออสเตรีย 12 ตุลาคม 1902)
ชนะสูงสุด
ธงชาติฮังการี ฮังการี 13–1 ฝรั่งเศส ธงชาติฝรั่งเศส
(บูดาเปสต์, ฮังการี; 12 มิถุนายน 1927)
ธงชาติฮังการี ฮังการี 12–0 แอลเบเนีย ธงชาติแอลเบเนีย
(บูดาเปสต์, ฮังการี; 24 กันยายน 1950)
แพ้สูงสุด
ธงชาติฮังการี ฮังการี 0–7 อังกฤษ ธงชาติอังกฤษ
(บูดาเปสต์, ฮังการี; 10 มิถุนายน 1908)
อังกฤษ สมัครเล่นอังกฤษ 7–0 ฮังการี ธงชาติฮังการี
(โซลนา, สวีเดน; 30 มิถุนายน 1912)[2]
ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี 7–0 ฮังการี ธงชาติฮังการี
(โคโลญจ์, เยอรมนี; 6 เมษายน 1941)
ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ 8–1 ฮังการี ธงชาติฮังการี
(อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์; 11 ตุลาคม 2013)
ฟุตบอลโลก
เข้าร่วม9 (ครั้งแรกใน 1934)
ผลงานดีที่สุดรองแชมป์; 1938 และ 1954
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
เข้าร่วม3 (ครั้งแรกใน 1964)
ผลงานดีที่สุดที่สาม, 1964
สถิติเหรียญโอลิมปิก
ฟุตบอลชาย
โอลิมปิกฤดูร้อน
เหรียญทอง - ชนะเลิศ เฮลซิงกิ 1952 ทีม
เหรียญทอง - ชนะเลิศ โตเกียว 1964 ทีม
เหรียญทอง - ชนะเลิศ เม็กซิโกซิตี 1968 ทีม
เหรียญเงิน - รองชนะเลิศ มิวนิก 1972 ทีม
เหรียญทองแดง - อันดับที่ 3 โรม 1960 ทีม

ประวัติ แก้

สมาพันธ์ฟุตบอลฮังการีก่อตั้งในปี ค.ศ. 1901 ในจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งฮังการีเคยเป็นชาติที่มีประวัติยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลระดับโลก โดยเป็นถึงรองแชมป์โลก 2 ครั้ง ในฟุตบอลโลก 1938 และฟุตบอลโลก 1954 และได้ที่ 3 ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1964 รวมถึงได้เหรียญทอง, เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ในฟุตบอลชายของโอลิมปิกหลายต่อหลายครั้ง โดยมีแฟแร็นตส์ ปุชกาช เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นมีชื่อเสียงมากในระดับโลก จนอาจถือได้เป็นระดับตำนานคนหนึ่งเทียบเท่ากับเปเล่[3][4][5][6] [7]

ปัจจุบัน ฮังการีได้ห่างหายจากการแข่งขันระดับโลกไปนาน รวมถึงนักฟุตบอลของฮังการีเองก็ไม่ปรากฏชื่อเสียงเหมือนเดิม ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ฮังการีได้ผ่านเข้ามาในรอบสุดท้ายได้สำเร็จ นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี สำหรับการแข่งขันในระดับโลก นับตั้งแต่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1972[8] โดยเข้ารอบสุดท้ายได้ด้วยการคัดเลือกเอาชนะนอร์เวย์ไป 2–1 (รวมผล 2 นัด ชนะ 3–1) โดยฮังการีอยู่ในกลุ่มเอฟร่วมกับโปรตุเกส, ออสเตรีย และไอซ์แลนด์ และผลการแข่งขันนัดแรก ฮังการีก็สามารถเอาชนะออสเตรียไปได้ 0–2[9]

การแข่งขัน แก้

เป็นการแข่งขันระหว่างออสเตรียและฮังการี

รายชื่อผู้เล่น แก้

รายชื่อผู้เล่น 23 คน ที่จะเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส

0#0 ตำแหน่ง ผู้เล่น วันเกิด (อายุ) ลงเล่น ประตู สโมสร
1 1GK กาโบร์ กิราย 1 เมษายน ค.ศ. 1976 (อายุ 40 ปี) 103 0   ฮอลอดาช
2 2DF อาดาม ล็องก์ 17 มกราคม ค.ศ. 1993 (อายุ 23 ปี) 11 0   วิแดโอโตน
3 2DF มิฮาย โกร์ฮุต 1 ธันวาคม ค.ศ. 1988 (อายุ 27 ปี) 4 0   แดแบร็ตแซ็น
4 2DF ตอมาช กาดาร์ 14 มีนาคม ค.ศ. 1990 (อายุ 26 ปี) 30 0   แลคปอซนัญ
5 2DF อ็อตติลอ ฟิโอลอ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 (อายุ 26 ปี) 15 0   ปุชกาชออกอเดมิออ
6 3MF อาโกช แอแล็ก 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1988 (อายุ 27 ปี) 38 1   ดิโอชเจอรี เวเตกา
7 4FW บอลาฌ จูจาก (กัปตัน) 23 ธันวาคม ค.ศ. 1986 (อายุ 29 ปี) 78 18   บูร์ซัสปอร์
8 3MF อาดาม น็อจ 17 มิถุนายน ค.ศ. 1995 (อายุ 20 ปี) 8 0   แฟแร็นตส์วาโรช
9 4FW อาดาม ซอล็อย 9 ธันวาคม ค.ศ. 1987 (อายุ 28 ปี) 32 8   ฮันโนเฟอร์ 96
10 4FW โซลตาน แกรา 22 เมษายน ค.ศ. 1979 (อายุ 37 ปี) 89 24   แฟแร็นตส์วาโรช
11 4FW กริสติอาน เนแม็ต 5 มกราคม ค.ศ. 1989 (อายุ 27 ปี) 24 3   อัลเฆาะรอฟะฮ์
12 1GK เดแน็ช ดิบุส 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1990 (อายุ 25 ปี) 4 0   แฟแร็นตส์วาโรช
13 4FW ดานิแอ็ล เบอแด 24 ตุลาคม ค.ศ. 1986 (อายุ 29 ปี) 12 4   แฟแร็นตส์วาโรช
14 3MF แกร์เกอ โลฟแร็นชิช 1 กันยายน ค.ศ. 1988 (อายุ 27 ปี) 12 1   แลคปอซนัญ
15 3MF ลาสโล ไกลน์ไฮส์แลร์ 8 เมษายน ค.ศ. 1994 (อายุ 22 ปี) 5 1   แวร์เดอร์เบรเมิน
16 2DF อาดาม ปินเตร์ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1988 (อายุ 27 ปี) 21 0   แฟแร็นตส์วาโรช
17 4FW เนมันยา นีคอลิช 31 ธันวาคม ค.ศ. 1987 (อายุ 28 ปี) 18 3   แลเกียวาร์ชาวา
18 3MF โซลตาน ชตีแบร์ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1988 (อายุ 27 ปี) 12 2   เนือร์นแบร์ก
19 4FW ตอมาช ปริชกิน 27 กันยายน ค.ศ. 1986 (อายุ 29 ปี) 56 17   สลอวันบราจิสลาวา
20 2DF ริฮาร์ด กุซมิช 16 เมษายน ค.ศ. 1987 (อายุ 29 ปี) 14 1   วิสวากรากุฟ
21 2DF บอร์นอบาช แบแช 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 (อายุ 22 ปี) 1 0   แอ็มเตกา บูดอแป็ชต์
22 1GK เปแตร์ กูลาชี 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 (อายุ 26 ปี) 3 0   แอร์เบ ไลพ์ซิจ
23 2DF โรล็อนด์ ยูฮาส 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1983 (อายุ 32 ปี) 91 6   วิแดโอโตน

ชุดแข่งขันในแต่ละยุค แก้

 
 
 
 
 
 
1950s
 
 
 
 
 
 
 
1972
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1982
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1986
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2000
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2002
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2004
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2006
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2008
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2010
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2012
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2014
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2016

ชุดแข่งขันปัจจุบัน แก้

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เหย้า
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เยือน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ผู้รักษาประตู 1
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ผู้รักษาประตู 2

อดีตผู้เล่นคนสำคัญ แก้

อ้างอิงและเชิงอรรถ แก้

  1. "The FIFA/Coca-Cola World Ranking". FIFA. 15 กุมภาพันธ์ 2024. สืบค้นเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2024.
  2. การแข่งขันนัดนี้มิได้ถูกบันทึกไว้ในสมาคมฟุตบอลอังกฤษ และไม่จัดว่าเป็นทีมชาติอังกฤษ
  3. "ยูโร 2016 ใครชนะ ใครแชมป์ 14 06 59 เบรก 2". ฟ้าวันใหม่. 14 June 2016. สืบค้นเมื่อ 15 June 2016.
  4. "FIFA President: FIFA to help the Galloping Major". FIFA. 12 October 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2006. สืบค้นเมื่อ 2006-11-17.
  5. "Coronel Puskas, el zurdo de oro" (ภาษาสเปน). AS. 17 November 2006. สืบค้นเมื่อ 2006-11-17.
  6. Mackay, Duncan (13 October 2005). "Lineker tees up another nice little earner". London: Guardian Unlimited. สืบค้นเมื่อ 2006-11-17.
  7. "Blatter unveils FIFA Puskas Award". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-12-13. สืบค้นเมื่อ 2016-06-15.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  8. "ฮังการี เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลยูโร ครั้งแรกในรอบ 44 ปี". สำนักข่าวไทย. 25 November 2015. สืบค้นเมื่อ 15 June 2016.
  9. ""ฮังการี" เร่งเครื่องดับ "ออสเตรีย" 10 คน 2-0 ประเดิมชัยยูโรนัดแรก". พีพีทีวี. 15 June 2016. สืบค้นเมื่อ 15 June 2016.[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูลอื่น แก้