พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล)
พระราชวุฒาจารย์ หรือ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เป็นพระราชาคณะชั้นราช, พระภิกษุฝ่ายวิปัสสนาธุระ,อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (ธรรมยุต) ชาวสุรินทร์ ศิษยานุศิษย์ในพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล) | |
---|---|
![]() | |
คำนำหน้าชื่อ | พระคุณท่าน ท่านเจ้าคุณ |
ชื่ออื่น | หลวงปู่ดูลย์,พระอุปัชฌาย์ดูลย์ |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 4 ตุลาคม พ.ศ. 2430 (96 ปี) |
มรณภาพ | 30 ตุลาคม พ.ศ. 2526 |
นิกาย | ธรรมยุติกนิกาย |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ |
อุปสมบท | พ.ศ. 2453 |
พรรษา | 74 พรรษา |
ตำแหน่ง | อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (ธรรมยุต), อดีตเจ้าอาวาสวัดบูรพาราม |

ประวัติ แก้
ชาติกำเนิด แก้
หลวงปู่ดูลย์ ถือกำเนิด ณ บ้านปราสาท ตำบลเฉนียง อำเภอเมืองสุรินทร์ เมื่อวันอังคารแรม 2 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน ตรงกับวันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2430 เป็นปีที่ 20 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โยมบิดาของท่านชื่อ นายแดง โยมมารดาชื่อ นางเงิม นามสกุล ดีมาก หลวงปู่มีพี่น้อง 5 คน คนแรกเป็นหญิงชื่อ กลิ้ง คนที่สองคือตัวหลวงปู่เอง ชื่อ ดูลย์ คนที่สามเป็นชายชื่อ เคน คนที่สี่และห้าเป็นหญิงชื่อ รัตน์ และ ทอง พี่น้องทั้ง 4 คนของท่านมีชีวิตจนถึงวัยชรา และทุกคนเสียชีวิตก่อนที่จะมีอายุถึง 70 ปี มีเพียงหลวงปู่เท่านั้นที่ดำรงอายุขัยอยู่จนถึง 96 ปี
อุปสมบท แก้
อุปสมบท ณ วัดจุมพลสุทธาวาส ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ในปี พ.ศ. 2453 โดยมีพระครูวิมลศีลพรต เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อแรกบวช หลวงปู่ได้พากเพียรศึกษาการปฏิบัติกรรมฐานอย่างเคร่งครัด มีความวิริยะ อุตสาหะอย่างแรงกล้า จนล่วงเข้าพรรษาที่ 6 หลวงปู่จึงหันมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดสุปัฏนาราม จังหวัดอุบลราชธานี สอบได้นักธรรมชั้นตรีเป็นรุ่นแรก ของจังหวัดอุบลราชธานี และได้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ (มูลกัจจายน์) จนสามารถแปลพระธรรมบทได้ เนื่องจากวัดสุปัฏนาราม เป็นวัดที่อยู่ในสังกัดธรรมยุตินิกาย หลวงปู่จึงได้ขอญัตติเป็นธรรมยุตินิกายในพ.ศ. 2461 ณ วัดสุปัฏนารามโดยมีพระมหารัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ และในพรรษาต่อมาหลวงปู่ได้มีโอกาสพบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เมื่อได้ฟังธรรมเพียงครั้งเดียว จากพระอาจารย์มั่น ก็เกิดความอัศจรรย์ใจยิ่ง จึงได้เลิกศึกษาพระปริยัติแล้วออกธุดงค์ตามพระอาจารย์มั่น ไปยังที่ต่าง ๆ หลายแห่ง จึงนับได้ว่าหลวงปู่เป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นในสมัยแรก ต่อมา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส)ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมปาโมกข์ เจ้าคณะมณฑลนครราชสีมาขอให้หลวงปู่กลับจังหวัดสุรินทร์ เพื่อบูรณะวัดบูรพาราม พ.ศ. 2476 ให้เป็นวัดธรรมยุตแห่งแรกของจังหวัดสุรินทร์ หลวงปู่จึงจำต้องระงับกิจธุดงค์และเริ่มงานบูรณะตามที่ได้รับมอบหมาย หลวงปู่ได้อุทิศชีวิต เพื่อพระศาสนาอย่างแท้จริง จนได้รับการยอมรับจากสาธุชนทั้งหลาย ว่าเป็นอริยสงฆ์ที่หาได้ยากยิ่งองค์หนึ่ง
คำสอน แก้
ผู้ปฏิบัติที่แท้จริงนั้น ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงชาติหน้า-ชาติหลัง หรือ นรก-สวรรค์อะไรก็ได้ ขอให้ตั้งใจปฏิบัติให้ตรง ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างแน่วแน่ก็พอ ถ้าสวรรค์มีจริงถึง 16 ชั้น ตามตำรา ผู้ปฏิบัติดีแล้ว ก็ย่อมได้เลื่อนฐานะของตนเองตามลำดับ หรือถ้า สวรรค์-นิพพานไม่มีเลย ผู้ปฏิบัติดีในขณะนี้ย่อมไม่ไร้ประโยชน์ ย่อมอยู่เป็นสุข เป็นมนุษย์ชั้นเลิศ
จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรคผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ
คิดเท่าไรๆ ก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดได้จึงรู้ แต่ต้องอาศัยความคิดนั้นแหละจึงรู้
หลวงปู่กับพระบรมวงศานุวงศ์ แก้
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2522 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรรชายา พระยศในขณะนั้น และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ไปยังวัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อทรงเยี่ยมหลวงปู่ดูลย์
หลังจากมีพระราชปฏิสัณถารถึงสุขภาพพลานามัยของหลวงปู่แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอาราธนาให้หลวงปู่แสดงพระธรรมเทศนา และทรงบันทึกเทปไว้ด้วย เมื่อหลวงปู่แสดงพระธรรมเทศนาย่อ ๆ ถวายจบแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนทนาธรรมะข้ออื่น ๆ พอสมควรแก่เวลาแล้วทรงถวายจตุปัจจัยแก่หลวงปู่ แล้วก็เสด็จพระราชดำเนินกลับ
กาลมรณภาพ แก้
หลวงปู่ท่านมรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2526 เวลา 04.13 น. รวมสิริอายุได้ 96 ปี 26 วัน พรรษาที่ 74 ทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานพวงมาลา,น้ำหลวงสรงศพ,พระพิธีธรรม,โกศโถ ฉัตรเบญจา 5ชั้นตั้งประดับ,ปี่ไฉนกลองชนะประโคมเวลาน้ำหลวงสรงศพ และเวลาพระราชทานเพลิงศพ
และเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดบูรพาราม ณ เมรุชั่วคราววนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย ตำบลนาบัว อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเมรุทรงทอดผ้าไตรที่โกศแล้วจุดเพลิงพระราชทาน หลังจากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงจุดเพลิงพระราชทานเพลิงศพแล้วเสด็จลงจากเมรุ ประทับ ณ มุขพลับพลาพิธี สมควรแก่เวลาจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
การปกครองคณะสงฆ์ แก้
- พ.ศ. 2477 ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบูรพาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ (24 กรกฎาคม พ.ศ. 2477)
- พ.ศ. 2478 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะแขวงรัตนบุรี
- พ.ศ. 2479 ได้รับแต่งตั้งให้เป็น เจ้าคณะอำเภอรัตนบุรี (1 มีนาคม พ.ศ. 2479)
- พ.ศ. 2480 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์สามัญฝ่ายธรรมยุตินิกาย
- พ.ศ. 2493 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองสุรินทร์ (ธรรมยุต)
- พ.ศ. 2501 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (ธรรมยุต)
สมณศักดิ์,พัดยศ แก้
- ได้รับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งให้ดำรงสมณศักดิ์พัดยศ เป็นพระครูประทวนสมณศักดิ์ ที่ พระครูดูลย์ อตุโล
- 1 มีนาคม พ.ศ. 2479 รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พัดยศ เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูรัตนากรวิสุทธิ์[1]
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2504 รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พัดยศขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญยก เจ้าคณะจังหวัด ที่ พระรัตนากรวิสุทธิ์ วินยานุยุตต์ ธรรมิกคณิสสร[2]
- 2 ธันวาคม พ.ศ. 2522 รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พัดยศขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวุฒาจารย์ ศาสนภารธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆราม คามวาสี[3]
ศิษยานุศิษย์สำคัญ แก้
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
หลวงปู่สาม อกิญฺจโน วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์
พระเทพสุทธาจารย์ หลวงปู่โชติ คุณสมฺปนฺโน วัดวชิราลงกรณ์วราราม จ.นครราชสีมา
พระราชวิสุทธิธรรมรังสี หลวงพ่อเปลี่ยน โอภาโส วัดป่าโยธาประสิทธิ์ จ.สุรินทร์
พระเทพมงคลวัชราจารย์ (เหลือง ฉนฺทาคโม) [4]
พระราชวรคุณ (สมศักดิ์ ปณฺฑิโต) วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย วัดป่าโคกมอน จ.สุรินทร์
พระครูญาณกิจไพศาล หลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร วัดป่าวีรญาณ จ.สุรินทร์
หลวงตาผนึก สิริมํคโล วัดป่าเขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์
พระเทพวชิรญาณโสภณ (เยื้อน ขนฺติพโล) วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์
อ้างอิง แก้
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความ เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรสมณศักดิ์, เล่ม 53, ตอนที่ 0 ง, 7 มีนาคม 2479, หน้า 3,999
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 78, ตอนที่ 104 ง ฉบับพิเศษ, 15 ธันวาคม 2504, หน้า 5
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 97, ตอนที่ 63 ง ฉบับพิเศษ, 18 เมษายน 2523, หน้า 2
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ , เล่ม 138, ตอนที่ 28 ข, 7 พฤษภาคม 2564, หน้า 1
- ประวัติพระสงฆ์ไทย
- เว็บวิมุตติ
- หลวงปู่ดุลย์ อตุโล เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
ก่อนหน้า | พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
- | เจ้าอาวาสวัดบูรพาราม (พ.ศ. 2477 - 2526) |
พระรัตนากรวิสุทธิ์ (เสถียร สถิโร) |