สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
บทความชีวประวัตินี้เขียนเหมือนประวัติสมัครงาน |
พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา (ประสูติ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2521) เป็นพระราชธิดาพระองต์โตในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระองค์มีพระขนิษฐาและพระอนุชาต่างพระมารดา คือสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ได้รับพระราชโองการแต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ[1] และได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นเสนาธิการกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์[2]
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี | |
---|---|
เจ้าฟ้าชั้นเอก กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา | |
![]() พระฉายาลักษณ์ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ ออสเตรีย | |
เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียนนา | |
ดำรงตำแหน่ง | 4 กันยายน 2555 – 1 ตุลาคม 2557 |
ก่อนหน้า | สมศักดิ์ สุริยวงศ์ |
ถัดไป | อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร |
นายกรัฐมนตรี | ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประยุทธ์ จันทร์โอชา |
ราชวงศ์ | มหิดล (ราชวงศ์จักรี) |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ |
ประสูติ | 7 ธันวาคม พ.ศ. 2521 พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
อาชีพ | นักการทูต, อัยการสูงสุด |
ลายพระอภิไธย | ![]() |
พระประวัติ
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ[3][4] ประสูติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต[5] และเป็นพระราชนัดดาพระองค์แรกในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประชวร
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงมีพระอาการประชวรหมดพระสติ ด้วยอาการทางพระหทัย จึงเสด็จพระราชดำเนินไปปฐมพยาบาล ณ โรงพยาบาลปากช่องนานา จากนั้นเสด็จเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ [6]
การศึกษา
- ระดับอนุบาล ประถมและมัธยมต้น ณ โรงเรียนราชินี
- ระดับมัธยมปลาย ณ โรงเรียนฮีธฟิลด์ ประเทศอังกฤษ และโรงเรียนจิตรลดา
- ระดับปริญญาตรี ใน ปี พ.ศ. 2544 จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยทรงได้รับเกียรตินิยมอันดับสอง[7]
- ระดับปริญญาตรี สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยทรงได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
- เนติบัณฑิตไทย (น.บ.ท.) เนติบัณฑิตยสภา ปีการศึกษา 2547
- Master of Laws (LL.M.), มหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐ
- Doctor of the Science of Law (J.S.D.) มหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐ[8]
พระกรณียกิจ
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านสาธารณกุศลผ่านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และด้านกฎหมายซึ่งทรงมีความเชี่ยวชาญ ตลอดจนปฏิบัติพระกรณียกิจสนองพระเดชพระคุณในการเสด็จแทนพระองค์อยู่โดยเสมอมา เมื่อครั้งที่ทรงศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทรงร่วมงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ และทรงเป็นผู้เชิญธรรมจักร ตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย มากไปกว่านั้น ทรงเข้าทำงานที่คณะทูตถาวรแห่งประเทศไทยประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
ด้านกฎหมาย
- พ.ศ. 2549 - อัยการผู้ช่วย สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด[9]
- พ.ศ. 2550 - อัยการประจำกอง (ข้าราชการอัยการชั้น 2) สำนักงานคดียาเสพติด[10]
- พ.ศ. 2551 - อัยการจังหวัดผู้ช่วย(ข้าราชการอัยการชั้น 2) สำนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานี[11]
- พ.ศ. 2552 - รองอัยการจังหวัดอุดรธานี (ข้าราชการอัยการชั้น 3) สำนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานี[12]
- พ.ศ. 2553 - รองอัยการจังหวัดพัทยา (ข้าราชการอัยการชั้น 3) สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา[13]
- พ.ศ. 2554 - รองอัยการจังหวัดหนองบัวลำภู (ข้าราชการอัยการชั้น 3) สำนักงานอัยการจังหวัดหนองบัวลำภู[14]
- พ.ศ. 2554 - อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด (ข้าราชการชั้น 4) สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน[15]
- พ.ศ. 2555 - เอกอัครราชทูต (นักบริหารระดับสูง) ประจำคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย[16]
- 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐออสเตรีย[17]
- 7 มกราคม พ.ศ. 2556 - เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศสโลวาเกีย อีกตำแหน่งหนึ่ง[18]
- 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศสโลวีเนีย อีกตำแหน่งหนึ่ง[19]
- 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 - อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด (ข้าราชการชั้น 4) สำนักงานอัยการจังหวัดหนองบัวลำภู[20]
- 3 เมษายน พ.ศ. 2560 - อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดระยอง (ข้าราชการอัยการชั้น 4)[21]
- 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560 - อัยการผู้เชี่ยวชาญ (ข้าราชการอัยการชั้น 5) สำนักงานอัยการภาค 2 สำนักงานอัยการสูงสุด[22]
ด้านการศึกษา
เป็นอาจารย์พิเศษ หลักสูตรปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[23]
- พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จพระดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ร่วมกับผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคกลาง ณ อาคารอเนกนิทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เริ่มต้นจากการดำเนิน โครงการอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ซึ่งมีขึ้นในขณะที่มีอุทกภัยครั้งร้ายแรงในกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2538 และมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จนภาคราชการและองค์กรการกุศลที่มีอยู่มิอาจให้ความช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง จนเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันระหว่างประชาชนอันเกิดจากความเครียดอันเนื่องมาจากการป้องกันน้ำให้ท่วมในวงจำกัด ผู้ที่เดือนร้อนจึงรู้สึกว่าขาดที่พึ่ง ขาดความเห็นอกเห็นใจ ต้องได้รับความเดือดร้อนเฉพาะชาวพื้นที่ของตนเอง ขณะที่พื้นที่ติดกันได้รับความสะดวกสบายอย่างเป็นปกติ
ในช่วงเช้าของวันที่ 29 ตุลาคม เป็นวันที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงออกปฏิบัติภารกิจในโครงการฯ เป็นครั้งแรก โดยเสด็จออกรับน้ำใจจากผู้ไม่ประสบอุทกภัยที่สถานีบริการน้ำมัน ต่อจากนั้นในช่วงบ่าย ได้เสด็จพระดำเนินเยี่ยมเยียนประชาชนที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 เขตบางกอกน้อย ซอยจรัญสนิทวงศ์ 82, 84 และ 86 เขตบางพลัด
การออกปฏิบัติพระกรณียกิจในครั้งนี้ส่งผลให้เหตุการณ์สงบลง จากนั้นมาโครงการฯ ก็ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนได้จัดตั้งเป็นมูลนิธิที่ผู้บริจาคสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 และได้พัฒนาการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา
นอกจากนี้ ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดให้ รองศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์พิชิต สุวรรณประกร เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพ 3,000 ถุง ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ[24]
โครงการกำลังใจ ในพระดำริ
ทรงก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2544 เมื่อครั้งยังทรงเป็นนักศึกษากฎหมาย โดยครั้งแรก เสด็จเยี่ยมผู้ต้องขังหญิง ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ด้วยความสนพระทัยในสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง
โครงการนี้ได้ขยายความช่วยเหลือไปยังเด็กที่ติดท้องแม่ก่อนเข้าจำคุก รวมทั้งผู้ต้องขังหญิงสูงอายุ และเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ต้องขังหญิงได้กระจายไปทั่วโลก ทรงมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอและยกร่างข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำต่อสหประชาชาติสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง ภายใต้ชื่อ “Enhancing Life for Female Inmates: ELFI”
มูลนิธิ ณภาฯ ในพระดำริ
เป็นมูลนิธิที่จัดตั้งขึ้นด้วยพระประสงค์ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 โดยประทานพระกรุณารับเป็นองค์ประธานมูลนิธิ เพื่อดำเนินกิจการตามพระดำริด้านสาธารณกุศลในการให้โอกาส การเป็นตัวกลางในการแสวงหาโอกาส และการพัฒนาชีวิตแก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอดีตผู้ต้องขังและผู้ต้องขัง ตลอดจนกระตุ้นเตือนให้สาธารณชนตระหนักถึงความสำคัญของการให้โอกาส มูลนิธิ ณภาฯ จึงได้ดำเนินการตามพระดำริดังกล่าว เพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ด้อยโอกาสให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข
ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิ ณภาฯ ในปัจจุบัน ประกอบด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปโภคตรา "จัน" และ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบริโภคตรา "ธรา" โดยมูลนิธิ ณภาฯ มีหน้าที่เป็นตัวกลางในการเผยแพร่และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อนำมาเป็นทุนในการสนับสนุนงานของมูลนิธิต่อไป
มูลนิธิ/องค์กรในพระอุปถัมภ์
- มูลนิธิกุมาร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
- มูลนิธิ ณภาฯ ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
- เครือข่ายคนรักน้องหมา
- กองทุนกำลังใจ
- ศูนย์ควบคุมสุนัข กทม. (ประเวศ)
พระเกียรติยศ
พระอิสริยยศ
- พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (7 ธันวาคม พ.ศ. 2521 — 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562)
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี[25] (5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 — 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562)
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา[26] (28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 — ปัจจุบัน)
เครื่องราชอิสริยยศราชูปโภค
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชูปโภคสำหรับสมเด็จเจ้าฟ้า ซึ่งสร้างขึ้นมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีรายการดังต่อนี้
- พานพระศรี (พานใส่หมากพลู) ทองคำลงยา เครื่องพร้อม
- พระสุพรรณศรี (กระโถนเล็ก) ทองคำลงยา
- หีบพระศรีทองคำลงยา พร้อมพานรอง
- พระคนโททองคำลงยา พร้อมพานรอง
- พานเครื่องพระสำอาง พร้อมพระสางวงเดือนกับพระสางเสนียดสอดในซองเยียรบับ และพระกรัณฑ์ทองคำลงยาสำหรับบรรจุเครื่องพระสำอาง
- ราวพระภูษาซับพระพักตร์ทองคำลงยารูปพญานาค 2 ตน ขนดหางพันเกลียวเป็นเสาราว ผินเศียรไปทางซ้ายและขวาเป็นราวพาด 2 กิ่ง พร้อมซับพระพักตร์จีบริ้วพาดบนราว 2 องค์
- พระฉายกรอบทองคำลงยาทำเป็นรูปพญานาคขนดพันกันโดยรอบบานพระฉาย ด้านบนเป็นรูปพระมหามงกุฎเปล่งรัศมี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
- พ.ศ. 2562 – เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายใน)[25]
- พ.ศ. 2562 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ (น.ร.) (ฝ่ายใน)[26]
- พ.ศ. 2534 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายใน)[27]
- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[28]
- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[29]
- พ.ศ. 2538 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.)[30]
- พ.ศ. 2565 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ[31]
- พ.ศ. 2527 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.1)[32]
- พ.ศ. 2562 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ ๑ (ว.ป.ร.๑)[25]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- ออสเตรีย : พ.ศ. 2557 - เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย ชั้นที่ 2
พระยศทางทหาร
พลเอกหญิง สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา | |
---|---|
รับใช้ | กองทัพบกไทย |
ประจำการ |
|
ชั้นยศ |
- พ.ศ. 2543 - ว่าที่ร้อยตรีหญิง , ร้อยตรีหญิง[33] และ นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์[34]
- พ.ศ. 2545 - ร้อยโทหญิง[35] และนายทหารพิเศษ ประจำกองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์[36]
- พ.ศ. 2551 - ร้อยเอกหญิง[37]
- พ.ศ. 2561 - พลตรีหญิง[38] และ นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ [39]
- พ.ศ. 2562 - พลโทหญิง[40]
- พ.ศ. 2564 - พลเอกหญิง และทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์[2]
พระเกียรติคุณ
- รางวัลนักศึกษากฎหมายดีเด่นประจำปี 2544
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2543 คณะกรรมการรางวัลสัญญาธรรมศักดิ์ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ถวายรางวัลนักศึกษากฎหมายดีเด่นประจำปี 2544 เป็นกรณีพิเศษแด่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ด้วยทรงเป็นตัวอย่างในด้านการศึกษาและด้านกิจกรรมนักศึกษา โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่า ตลอดเวลาที่ทรงศึกษาในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น พระองค์ทรงปฏิบัติเช่นนักศึกษาทั่วไปทั้งในด้านการศึกษา การเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตรตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ
- รางวัล Medal of Recognition
หน่วยงาน UNODC (ยูเอ็นโอดีซี) สหประชาชาติ จากทรงมีบทบาทสำคัญในระดับนานาชาติหลายอย่างเริ่มตั้งแต่การจัดตั้งกองทุนพัชรกิติยาภา เพื่อการศึกษากฎหมาย การรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี โครงการกำลังใจ ในพระดำริฯ โครงการจัดทำมาตรฐานผู้ต้องขังหญิง หรือ ELFI (เอลฟี)การทรงงานด้านกระบวนการยุติธรรมเหล่านี้ จึงพิจารณาทูลเกล้าถวายรางวัลกียรติยศสูงสุดจากสหประชาชาติ
- ทูตสันถวไมตรี (Goodwill Ambassador)
ดร.จีน เดอคูน่า ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ กองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงาน โครงการกำลังใจ ในพระดำริ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พระองค์ประทานความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ต้องขังสตรีและเด็กติดผู้ต้องขัง และทรงประทานความช่วยเหลือให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี ซึ่งหน่วยงาน UNIFEM รู้สึกสำนึกในพระกรุณาธิคุณ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในพระกรณียกิจที่ทรงช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสกลุ่มหนึ่งในสังคมไทย โดยหน่วยงาน UNIFEM ขอพระราชทานกราบทูลเชิญสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นองค์ “ทูตสันถวไมตรี” (Goodwill Ambassador) ในการต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง[41]
ปริญญากิตติมศักดิ์
- พ.ศ. 2549 ปริญญากิตติมศักดิ์ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
- พ.ศ. 2551 ปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
- พ.ศ. 2552 ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรมและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
- พ.ศ. 2553 ปริญญารัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- พ.ศ. 2553 ปริญญานิติศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
- พ.ศ. 2553 ปริญญานิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- พ.ศ. 2553 ปริญญานิติศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์
- พ.ศ. 2553 ปริญญาศิลปศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- พ.ศ. 2554 ปริญญานิติศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคเหนือ 8 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์, มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
- พ.ศ. 2554 ปริญญานิติศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- พ.ศ. 2554 ปริญญานิติศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- พ.ศ. 2562 ปริญญานิติศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
- พ.ศ. 2563 ปริญญาพยาบาลศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สิ่งอันเนื่องด้วยพระนาม
การแพทย์และสาธารณสุข
- อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
สถาบันการศึกษา
- อาคารกิติยาคาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
- อาคารพัชรกิติยาภา คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
- อาคารพัชรปัญญา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
- โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 1 นครพนม
- โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2 กำแพงเพชร
- โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี
ศาสนสถาน
- วัดพัชรกิติยาภาราม ตำบลหนองหว้า อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
- พระวิหารกรรมฐานพัชรกิติยาภา วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
- อาคารปริยัติพัชรกิติยาภา ๒๕๕๘ วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
- เรือนประทับพัชรธรรม วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
ศาสนวัตถุ
- พระพุทธรัตนเอกโกเมนทร์ วัดพัชรกิติยาภาราม ตำบลหนองหว้า อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
อื่นๆ
- อาคารเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
- อาคารเฉลิมพระเกียรติพัชรกิติยาภา สำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พงศาวลี
อ้างอิง
- ↑ ได้รับพระราชโองการแต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ
- ↑ 2.0 2.1 ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศ เรื่อง ให้รับโอนข้าราชการฝ่ายอัยการเป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร และพระราชทานพระยศทหาร หน้า ๑ เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๕ ง, ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๔
- ↑ "มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก - ประวัติมูลนิธิฯ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-11. สืบค้นเมื่อ 2006-08-25.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศเฉลิมพระนาม (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ), เล่ม ๑๐๘, ตอน ๑๔๐ก ฉบับพิเศษ, ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๔, หน้า ๑
- ↑ หนังสือจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติ 5 ทศวรรษ(2539) โดย : มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช
- ↑ แถลงการณ์ และประกาศสำนักพระราชวัง Archive - Page 3 of 75 - หน่วยราชการในพระองค์ (royaloffice.th)"แถลงการณ์สำนักพระราชวัง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร". สำนักพระราชวัง. 2022-12-15. สืบค้นเมื่อ 2022-12-16.
- ↑ ":: มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ::". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-11. สืบค้นเมื่อ 2006-08-25.
- ↑ "Commencement 2005: Cell phones, cameras, congratulations, challenges and a princess". Cornell Univesity News Service. May 29, 2005. สืบค้นเมื่อ 2011-10-21.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ, เล่ม ๑๒๓, ตอนพิเศษ ๙๕ ง, ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙, หน้า ๑๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ, เล่ม ๑๒๔, ตอน ๑๑๒ ง, ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ, เล่ม ๑๒๕, ตอนพิเศษ ๗๔ ง, ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ, เล่ม ๑๒๖, ตอนพิเศษ ๓๙ ง, ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒, หน้า ๒๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ, เล่ม ๑๒๗, ตอนพิเศษ ๔๔ ง, ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓, หน้า ๑๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ, เล่ม ๑๒๘, ตอนพิเศษ ๓๗ ง, ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔, หน้า ๑๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ, เล่ม ๑๒๙, ตอนพิเศษ ๑๑ ง, ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการอัยการพ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน, เล่ม ๑๒๙, ตอนพิเศษ ๒๔ ง, ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน, เล่ม ๑๒๙, ตอนพิเศษ ๑๔๖ ง, ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕, หน้า ๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐสโลวัก, เล่ม ๑๓๐, ตอนพิเศษ ๑๐ ง, ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐสโลวีเนีย, เล่ม ๑๓๐, ตอนพิเศษ ๓๓ ง, ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖, หน้า ๕
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการพลเรือนพ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งข้าราชการอัยการ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ,เล่ม ๑๓๔, ตอนพิเศษ ๖๙ ง, ๖ มีนาคม ๒๕๖๐, หน้า ๑
- ↑ อัยการผู้เชี่ยวชาญ (ข้าราชการอัยการชั้น 5)
- ↑ รายชื่ออาจารย์พิเศษ[ลิงก์เสีย]
- ↑ “พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ” มอบถุงยังชีพ 3 พันชุดช่วยผู้ประสบภัยสึนามิ
- ↑ 25.0 25.1 25.2 "ประกาศสถาปนา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 136 (15ข): 8. 2019-05-05.
- ↑ 26.0 26.1 "ประกาศประกาศ เรื่อง สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 136 (41ข): 1. 2019-07-28.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (จุลจอมเกล้า ฝ่ายใน (เพิ่มเติม) ในวโรกาสพระราชพิธีฉัตรมงคล ๕ พฤษภาคม ๒๕๓๔), เล่ม ๑๐๘, ตอน ๘๑ ง ฉบับพิเศษ, ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๔, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์), เล่ม ๑๒๒, ตอน ๒๐ ข ฉบับทะเบียนฐานันดร, ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘, หน้า ๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (ชั้นสายสะพาย จำนวน ๔,๕๒๔ ราย)เล่ม ๑๑๓ ตอน ๒๒ ข ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ปฐมดิเรกคุณภรณ์ จำนวน ๘ พระองค์), เล่ม ๑๑๒, ตอน ๑๗ ข เล่มที่ ๐๐๓, ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ, เล่ม ๑๓๙, ตอน ๒๘ ข, ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๑๐๑, ตอน ๑๖๒ ง ฉบับพิเศษ, ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๗, หน้า ๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอพระราชทานพระยศทหาร, เล่ม ๑๑๒, ตอน ๑๙ ข, ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายทหารพิเศษ, เล่ม ๑๑๘, ตอน ๒ ง, ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔, หน้า ๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระยศทหาร, เล่ม ๑๑๙, ตอน ๒๔ ข, ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายทหารพิเศษ, เล่ม ๑๑๙, ตอน ๑๑๘ ง, ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕, หน้า ๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระยศทหาร, เล่ม ๑๒๑, ตอน ๒๖ ข, ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗, หน้า ๑
- ↑ พระราชโองการ ประกาศ พระราชทานพระยศ, เล่ม ๑๓๕, ตอน ๘ ข หน้า ๑ ๕ มีนาคม ๒๕๖๑
- ↑ พระราชโองการ ประกาศ เรื่อง แต่งตั้งนายทหารพิเศษ[ลิงก์เสีย], เล่ม ๑๓๕ ตอน ๔๘ ง พิเศษ หน้า ๒ ๕ มีนาคม ๒๕๖๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,พระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานพระยศ, เล่ม ๑๓๖, ตอน ๕๓ ข, ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒, หน้า ๑
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-26. สืบค้นเมื่อ 2010-01-28.
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา |