ประภัสร์ จงสงวน
ประภัสร์ จงสงวน เป็นอดีตกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ประภัสร์ จงสงวน | |
---|---|
ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 12 พฤศจิกายน 2555 – 10 กรกฎาคม 2557 | |
ก่อนหน้า | ยุทธนา ทัพเจริญ |
ถัดไป | ประเสริฐ อัตตะนันทน์ (รักษาการ) |
ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน แห่งประเทศไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 17 ตุลาคม 2540 – 1 กันยายน 2551 | |
รักษาการแทน | เยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว (รักษาการ) |
ก่อนหน้า | ธีระพงษ์ อรรถจารุสิทธิ์ |
ถัดไป | ชูเกียรติ โพธยานุวัตร |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 กรุงเทพมหานคร |
ศาสนา | พุทธ |
พรรคการเมือง | พลังประชาชน (2550–2551) เพื่อไทย (2551–2561,2565–ปัจจุบัน) ไทยรักษาชาติ (2561–2562) ไทยสร้างไทย (2564–2565) |
ประวัติ
แก้ประภัสร์ จงสงวน จบการศึกษาจากระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และเข้าศึกษาต่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเมื่อ พ.ศ. 2521 จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาอาชญวิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียสเตท[1] สหรัฐ เมื่อ พ.ศ. 2524
การทำงาน
แก้เดิมทีเขาต้องการเป็นตำรวจสหรัฐอเมริกา[1] แต่เนื่องจากมารดาเรียกตัวกลับไทย ประภัสร์ตระหนักดีถึงชีวิตราชการตำรวจไทย เขาจึงหันไปทำงานด้านกฎหมาย โดยการทำงานที่สำนักงานกฎหมาย ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน[1] ซึ่งส่วนใหญ่ได้ทำคดีเกี่ยวกับภาครัฐ โดยเฉพาะกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จนได้รู้จักกับ เจ้าพนักงานอัยการ จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ประภัสร์ได้เข้ามาทำงานที่การทางพิเศษตามคำชวนของอัยการจุลสิงห์ ในตำแหน่งนิติกร[1] โดยทำงานภายใต้นายสุขวิช รังสิตพล ผู้อำนวยการการทางพิเศษในขณะนั้น ประภัสร์ในตำแหน่งนักกฎหมายช่วยให้ไทยบอกเลิกสัญญารถไฟฟ้าลาวาลิน โดยที่เอกชนคู่สัญญาไม่สามารถฟ้องร้องการทางพิเศษ
ต่อมาในปี 2537 นายสุขวิชได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เขาจึงยืมตัวประภัสร์ชั่วคราว มาเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาของตนเอง ในสมัยรัฐบาลชวน 1 [1] แล้วจึงย้ายกลับไปทำงานที่การทางพิเศษ จนได้ขึ้นเป็นรองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นตำแหน่งสุดท้ายจนถึง พ.ศ. 2540 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการองค์การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) รับผิดชอบงานโครงการสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน และดำรงตำแหน่งนี้ยาวนานถึงปี 2551
ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
แก้พ.ศ. 2551 ประภัสร์ที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการฯ รฟม.อยู่ ได้รับการทาบทามจากพรรคพลังประชาชน ให้ลงสมัครในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2551 ในนามของตัวแทนจากพรรคพลังประชาชน ซึ่งทำให้เขาต้องลาออกจากการเป็นผู้ว่าการฯรฟม. ในการเลือกตั้งครั้งนั้น ประภัสร์ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียง 543,488 คะแนน มากเป็นลำดับสองรองจากอภิรักษ์ โกษะโยธิน จากพรรคประชาธิปัตย์
ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
แก้หลังจากการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554 พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ประภัสร์เข้ามารับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 เขาได้ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี และลงสมัครตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งประภัสร์ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2555[2]
ในตำแหน่งนี้ เขาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของรัฐบาลในการผลักดันโครงการปฏิรูประบบราง เช่นโครงการรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย, รถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟทางคู่ โดยเป็นกรรมาธิการพิจารณา พรบ. โครงสร้างพื้นฐานสองล้านล้านบาท ในช่วงการดำรงตำแหน่งผู้ว่ารฟท.ของเขา มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ อาทิ การรื้อและทำทางรถไฟใหม่ทั้งหมดในเขตภาคเหนือตอนบน, แก้แบบโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต จาก 3 เป็น 4 ทาง, แก้แบบให้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์รองรับรถไฟความเร็วสูง, จัดซื้อขบวนรถด่วนพิเศษจำนวน 8 ขบวน (115 ตู้) เพื่อให้บริการในสี่เส้นทาง (อุตราวิถี, อีสานวัฒนา, อีสานมรรคา, ทักษิณารัถย์)
ในเดือนกรกฎาคม 2557 มีกระแสกดดันจากประชาชนบางส่วนอย่างรุนแรงให้ประภัสร์ลาออก หลังเกิดเหตุพนักงานการรถไฟก่อเหตุฆ่าข่มขืนผู้โดยสารในรถไฟ นายประภัสร์ปฏิเสธไม่ยอมลาออก [3] คณะรัฐประหารเห็นโอกาสปลดนายประภัสร์ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม พลเอกประยุทธ์จึงปลดประภัสร์ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 ต่อมา ศาลปกครองกลางพิพากษาว่านายประภัสร์ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยชดใช้นายประภัสร์เป็นจำนวนเงิน 3.1 ล้านบาท[4]
ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แก้ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยรักษาชาติ ลำดับที่ 26 แต่พรรคไทยรักษาชาติ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก่อนวันเลือกตั้ง[5]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2555 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)[6]
- พ.ศ. 2546 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)[7]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 ประภัสร์ จงสงวน แห่ง รฟม.ผอ.รัฐวิสาหกิจปลอดการเมือง? เก็บถาวร 2019-11-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ธันวาคม 2540.
- ↑ ครม. มีมติเห็นชอบ 'ประภัสร์ จงสงวน' นั่งผู้ว่าการ รฟท. 12 พฤศจิกายน 2555. ไทยรัฐ.
- ↑ ประยุทธ์ปลดประภัสร์พ้นผู้ว่าฯรฟท. เก็บถาวร 2014-07-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, โพสต์ทูเดย์, 10 กรกฎาคม 2557
- ↑ ศาลปกครองสั่ง รฟท. จ่าย 3.1 ล้าน ชดเชยเลิกจ้าง “ประภัสร์ จงสงวน” ประชาชาติธุรกิจ. 5 กันยายน 2561
- ↑ เปิด 108 รายชื่อผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไทยรักษาชาติ ติดบ่วงยุบพรรค
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๕ เก็บถาวร 2013-10-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๙ ตอนที่ ๓๕ ข หน้า ๒๑๗, ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๔ ข หน้า ๕๗, ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๗
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- ข้อมูลจากเว็บไซต์ของรถไฟฟ้ามหานคร เก็บถาวร 2005-02-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ข้อมูลจากเว็บไซต์ของพรรคพลังประชาชน[ลิงก์เสีย]
- 10 นโยบายกรุงเทพฯ อยู่สบาย จากเว็บไซต์ของพรรคพลังประชาชน เก็บถาวร 2008-09-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ว่าที่ผู้ว่าฯประภัสร์ จงสงวน ฝันให้คนกรุงคิดถึง"บ้าน"[ลิงก์เสีย]
ก่อนหน้า | ประภัสร์ จงสงวน | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ยุทธนา ทัพเจริญ | ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557) |
ประเสริฐ อัตตะนันทน์ (รักษาการ) | ||
ธีระพงษ์ อรรถจารุสิทธิ์ ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการรถไฟฟ้ามหานคร |
ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (17 ตุลาคม พ.ศ 2540 - 1 กันยายน พ.ศ. 2551) |
เยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว (รักษาการ) |