ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย

ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (อังกฤษ: Asian Infrastructure Investment Bank; ย่อ: AIIB) เป็นสถาบันการเงินระหว่างประเทศซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ความสนับสนุนแก่การจัดทำโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย
ชื่อย่อAIIB
ก่อตั้ง16 มกราคม 2016; 8 ปีก่อน (2016-01-16)
ประเภทสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
สถานะตามกฎหมายสนธิสัญญา
วัตถุประสงค์ให้สินเชื่อ
สํานักงานใหญ่ปักกิ่ง ประเทศจีน
ภูมิภาคที่รับผิดชอบ
ทั่วโลก, โดยเน้นไปที่เอเชีย, แอฟริกา และโอเชียเนีย
สมาชิก
109 ประเทศสมาชิก[1]
ภาษาทางการ
อังกฤษ[2] (ภาษากลาง)
บุคลากรหลัก
Jin Liqun[3] (ประธาน)
องค์กรแม่
  • คณะกรรมการธนาคาร
  • คณะกรรมการบริหาร
เว็บไซต์www.aiib.org

การก่อตั้งธนาคารนี้มาจากดำริของรัฐบาลจีนเมื่อปี 2013[4][5] และริเริ่มอย่างเป็นทางการในงานแถลง ณ กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนตุลาคม 2014[6] แนวคิดก่อตั้งธนาคารได้รับเสียงสนับสนุนจากองค์การทั้งหลายซึ่งต่อมาขนานนามว่า "สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งตามแผน" (Prospective Founding Member) เป็นองค์การระดับภูมิภาค 37 ราย และระดับอื่นอีก 20 ราย รวมเป็น 57 ราย สมาชิกเหล่านี้ ยกเว้นฟิลิปปินส์ ได้ลงนามใน "ข้อบทความตกลง" (Articles of Agreement) ชุดหนึ่งเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2015 เพื่อสร้างพื้นฐานทางกฎหมายในการก่อตั้งธนาคาร กำหนดกันว่า เมื่อความตกลงดังกล่าวใช้บังคับแล้ว ธนาคารเป็นอันสถาปนาขึ้น และความตกลงจะมีผลใช้บังคับต่อเมื่อได้รับสัตยาบันจากรัฐสมาชิกอย่างน้อย 10 รัฐที่ถือหุ้นริเริ่ม (initial subscription) รวมแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดในตลาดหุ้นจดทะเบียน (Authorized Capital Stock)[7][8] ครั้นวันที่ 25 ธันวาคม 2015 รัฐซึ่งเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งตามแผนจำนวน 17 รัฐ คือ จอร์เจีย จอร์แดน จีน นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์ บรูไน พม่า มองโกเลีย เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก ออสเตรีย และออสเตรเลีย มอบสัตยาบันสารให้แก่ผู้รับมอบ เป็นเหตุให้ความตกลงเริ่มใช้บังคับ และรัฐทั้ง 17 นี้จึงชื่อว่าเป็น "สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง" (founding member)[9] ทั้งนี้ รัฐที่มีเศรษฐกิจรายใหญ่ในโลกและไม่ได้เป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งตามแผนนั้น ได้แก่ แคนาดา ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

บางคนมองว่า ธนาคารแห่งนี้มีขึ้นเพื่อเป็นคู่แข่งทางอำนาจการเงินและการเมืองกับสถาบันการเงินทั้งหลายที่อยู่ในความครอบงำของสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารพัฒนาเอเชีย และธนาคารโลก[10] ส่วนสหประชาชาติเห็นว่า การก่อตั้งธนาคารแห่งนี้เป็น "การไต่เต้าทางการเงินเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน"[11][12] อย่างไรก็ดี ธนาคารที่ตั้งขึ้นใหม่นี้มีขนาดเล็กเกินกว่าจะต่อกรกับสถาบันแห่งอื่น ๆ เล็กถึงขั้นมีเงินทุนเทียบได้เพียงหนึ่งในสามแห่งเงินทุนของธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือไม่ถึงหนึ่งในสี่แห่งเงินทุนของธนาคารโลก[13] ทั้งยังเล็กกว่าธนาคารเอกชนรายใหญ่จำนวน 18 แห่งในสหรัฐอเมริกา

หมายเหตุ

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. "Members and Prospective Members of the Bank". AIIB.
  2. "Articles of Agreement – AIIB" (PDF). Asian Infrastructure Investment Bank. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 December 2015. สืบค้นเมื่อ 21 July 2015.
  3. "Jin Liqun Selected President-designate of the Asian Infrastructure Investment Bank". Multilateral Interim Secretariat of AIIB. 24 August 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 August 2016. สืบค้นเมื่อ 28 August 2015.
  4. "21 Asian countries sign MOU on establishing Asian Infrastructure Investment Bank". Xinhuanet. 24 October 2014.
  5. "China says new bank to complement existing institutions". The Washington Post. 21 March 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-21. สืบค้นเมื่อ 2015-12-28.
  6. "Three major nations absent as China launches World Bank rival in Asia". Reuters. 5 November 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-11. สืบค้นเมื่อ 2015-12-28.
  7. "Asian Infrastructure Investment Bank – Articles of Agreement" (PDF). Asian Infrastructure Investment Bank. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-07-14. สืบค้นเมื่อ 21 July 2015.
  8. "China to have 30 per cent stake, veto power under AIIB deal". South China Morning Post. 29 June 2015.
  9. "Articles of Agreement of the Asian Infrastructure Investment Bank". Government of the Netherlands. สืบค้นเมื่อ 30 September 2015.
  10. Branigan, Tania (13 March 2015). "Support for China-led development bank grows despite US opposition". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 15 March 2015.
  11. "World Economic Situation and Prospects 2015" (PDF). United Nations. สืบค้นเมื่อ 21 July 2015.
  12. United Nations Financing for Development Office. "Global Economic Governance". สืบค้นเมื่อ 29 March 2015.
  13. http://www.economist.com/blogs/economist-explains/2014/11/economist-explains-6

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้