แอปเปิลเพย์
แอปเปิลเพย์ (อังกฤษ: Apple Pay) เป็นบริการชำระเงินผ่านมือถือและกระเป๋าเงินดิจิทัลของบริษัทแอปเปิล ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินได้ด้วยตนเองในแอป iOS และบนเว็บโดยใช้ ซาฟารี รองรับบน ไอโฟน, แอปเปิลวอตช์, ไอแพด และ แมค โดยแปลงเป็นดิจิทัลและสามารถแทนที่ชิปบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตและธุรกรรม chip and PIN ได้ที่จุดขายแบบไร้สัมผัสได้ ซึ่งไม่ต้องใช้เครื่องชำระเงินแบบไร้สัมผัสเฉพาะของ Apple Pay ทั้งนี้สามารถใช้งานได้กับร้านค้าที่ยอมรับการชำระเงินแบบไร้ต้องสัมผัส[1] เพิ่มการรับรองความถูกต้องด้วยสองปัจจัยผ่าน Touch ID, Face ID, PIN หรือรหัสผ่าน อุปกรณ์สื่อสารแบบไร้สายกับระบบจุดขายโดยใช้การสื่อสารสนามใกล้ (NFC) พร้อมด้วยองค์ประกอบความปลอดภัยในตัว (eSE) เพื่อจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินอย่างปลอดภัยและใช้ฟังก์ชันการเข้ารหัสและ Touch ID และ Face ID ของแอปเปิล สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องทางชีวมิติ
 | |
| นักพัฒนา | บริษัทแอปเปิล |
|---|---|
| วันที่เปิดตัว | 20 ตุลาคม 2014 |
| ระบบปฏิบัติการ | iOS 8.1 หรือรุ่นถัดมา (iOS 10 หรือรุ่นถัดมาสำหรับแอปเปิลเพย์บนเว็บ) (iOS 11.2 หรือรุ่นถัดมาสำหรับแอปเปิลเพย์แคช) watchOS ทุกรุ่น macOS Sierra หรือรุ่นถัดม |
| แพลตฟอร์ม |
|
| สัญญาอนุญาต | จำกัดสิทธิ์ |
| เว็บไซต์ | apple.com/apple-pay/ |
การบริการ แก้
อุปกรณ์รองรับ แก้
บริการนี้ใช้ได้กับ iPhone 6และรุ่นที่ใหม่กว่า, iPad Air 2และรุ่นที่ใหม่กว่า, Mac ที่มีTouch IDและApple Watch Series 1และรุ่นที่ใหม่กว่า ที่สามารถจัดเก็บบัตรได้ระหว่าง 8 ถึง 16 ใบ[2]
พื้นที่ให้บริการแอปเปิลเพย์ แก้
ประเทศที่รองรับ แก้
แอปเปิลเพย์สามารถใช้ได้บัตรรวมกับสถาบันการเงินที่ออกใน 83 ประเทศทั่วโลก[3] นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้ในบางประเทศที่ "ไม่รองรับแอปเปิลเพย์" แม้ว่าจะมีเฉพาะบัตรต่างประเทศเท่านั้น
| วันที่เปิดตัวให้บริการ | ประเทศที่ให้บริการ |
|---|---|
| 20 ตุลาคม 2557 |  สหรัฐ (ยกเว้น  ปวยร์โตรีโก และ ดินแดนของสหรัฐ)
|
| 14 กรกฎาคม 2558 |  สหราชอาณาจักร (ยกเว้น ดินแดนโพ้นทะเลของบริเตน) |
| 17 พฤศจิกายน 2558 |  แคนาดา
|
| 19 พฤศจิกายน 2558 |  ออสเตรเลีย
|
| 18 กุมภาพันธ์ 2559 |  จีน
|
| 19 เมษายน 2559 |  สิงคโปร์
|
| 7 กรกฎาคม 2559 |  สวิตเซอร์แลนด์
|
| 19 กรกฎาคม 2559 |  ฝรั่งเศส
|
 โมนาโก
| |
| 20 กรกฎาคม 2559 |  ฮ่องกง
|
| 4 ตุลาคม 2559 |  รัสเซีย (ปิดให้บริการเมื่อ 25 มีนาคม 2565)[หมายเหตุ 1]
|
| 13 ตุลาคม 2559 |  นิวซีแลนด์
|
| 25 ตุลาคม 2559 |  ญี่ปุ่น
|
| 1 ธันวาคม 2559 |  สเปน
|
| 7 มีนาคม 2560 |  เกิร์นซีย์
|
 ไอร์แลนด์
| |
 ไอล์ออฟแมน
| |
 เจอร์ซีย์
| |
| 29 มีนาคม 2560 |  ไต้หวัน
|
| 17 พฤษภาคม 2560 |  อิตาลี
|
 ซานมารีโน
| |
 นครรัฐวาติกัน
| |
| 24 ตุลาคม 2560 |  เดนมาร์ก
|
 กรีนแลนด์
| |
 ฟินแลนด์
| |
 สวีเดน
| |
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
| |
| 4 เมษายน 2561 |  บราซิล
|
| 17 พฤษภาคม 2561 |  ยูเครน
|
| 19 มิถุนายน 2561 |  โปแลนด์
|
| 20 มิถุนายน 2561 |  นอร์เวย์
|
| 28 พฤศจิกายน 2561 |  คาซัคสถาน
|
 เบลเยียม
| |
| 11 ธันวาคม 2561 |  เยอรมนี
|
| 19 กุมภาพันธ์ 2562 |  เช็กเกีย
|
 ซาอุดีอาระเบีย
| |
| 24 เมษายน 2562 |  ออสเตรีย
|
| 8 พฤษภาคม 2562 |  ไอซ์แลนด์
|
| 21 พฤษภาคม 2562 |  ฮังการี
|
 ลักเซมเบิร์ก
| |
| 11 มิถุนายน 2562 |  เนเธอร์แลนด์
|
| 26 มิถุนายน 2562 |  สหภาพยุโรป
|
 บัลแกเรีย
| |
 โครเอเชีย
| |
 ไซปรัส (ยกเว้น  นอร์เทิร์นไซปรัส)
| |
 เอสโตเนีย
| |
 กรีซ
| |
 ลัตเวีย
| |
 ลีชเทินชไตน์
| |
 ลิทัวเนีย
| |
 มอลตา
| |
 โปรตุเกส
| |
 โรมาเนีย
| |
 สโลวาเกีย
| |
 สโลวีเนีย
| |
| 2 กรกฎาคม 2562 |  หมู่เกาะแฟโร
|
| 6 สิงหาคม 2562 |  มาเก๊า
|
| 3 กันยายน 2562 |  จอร์เจีย
|
| 19 พฤศจิกายน 2562 |  เบลารุส
|
| 28 มกราคม 2563 |  มอนเตเนโกร
|
| 30 มิถุนายน 2563 |  เซอร์เบีย
|
| 23 กุมภาพันธ์ 2564 |  เม็กซิโก
|
| 30 มีนาคม 2564 |  แอฟริกาใต้
|
| 5 พฤษภาคม 2564 |  อิสราเอล
|
| 17 สิงหาคม 2564 |  กาตาร์
|
| 5 ตุลาคม 2564 |  บาห์เรน
|
 ปาเลสไตน์
| |
| 2 พฤศจิกายน 2564 |  อาเซอร์ไบจาน
|
 โคลอมเบีย
| |
 คอสตาริกา
| |
| 18 มกราคม 2565 |  อาร์มีเนีย
|
| 15 มีนาคม 2565 |  อาร์เจนตินา
|
 เปรู[6]
| |
| 5 เมษายน 2565 |  มอลโดวา
|
| 9 สิงหาคม 2565 |  มาเลเซีย
|
| 6 ธันวาคม 2565 |  คูเวต
|
 จอร์แดน
| |
| 21 มีนาคม 2566 |  เกาหลีใต้
|
| 2 พฤษภาคม 2566 |  เอลซัลวาดอร์
|
 กัวเตมาลา
| |
| 16 พฤษภาคม 2566 |  ปานามา
|
 ฮอนดูรัส
| |
| 18 กรกฎาคม 2566 |  โมร็อกโก
|
| 8 สิงหาคม 2566 |  ชิลี
|
 เวียดนาม
|
ดูเพิ่ม แก้
อ้างอิง แก้
- ↑ "Countries and regions that support Apple Pay". Apple. กรกฎาคม 17, 2019.
- ↑ "Set up Apple Pay". Apple. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ พฤษภาคม 20, 2023. สืบค้นเมื่อ มิถุนายน 4, 2018.
- ↑ "Countries and regions that support Apple Pay". Apple. May 16, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 24, 2023. สืบค้นเมื่อ May 16, 2023.
- ↑ "Карты всех платежных систем в России продолжают нормально работать | Банк России". www.cbr.ru. สืบค้นเมื่อ 2022-02-25.
- ↑ Roth, Emma (2022-03-26). "Apple Pay closes loophole that allowed Russian users to pay with Mir cards". The Verge. สืบค้นเมื่อ 2022-03-26.
- ↑ "Apple". Apple.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-01-27.
แหล่งข้อมูลอื่น แก้
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Apple Pay- Apple Pay official site
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref> สำหรับกลุ่มชื่อ "หมายเหตุ" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="หมายเหตุ"/> ที่สอดคล้องกัน