แบล็กพิงก์

กลุ่มดนตรีหญิงสัญชาติเกาหลีใต้

แบล็กพิงก์ (เกาหลี블랙핑크; อาร์อาร์Beullaekpingkeu; อังกฤษ: Blackpink, มักเขียน BLACKPINK หรือ BLɅϽKPIИK) เป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีใต้ สังกัดวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนสี่คนคือ จีซู, เจนนี, โรเซ และ​ลิซ่า ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เกิร์ลกรุปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" พวกเธอถือเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ประสบความสำเร็จระดับนานาชาติมากที่สุดและเป็นหนึ่งในผู้นำกระแสเกาหลี โดยมีรูปแบบเกี่ยวกับแนวคิด "เกิร์ลครัช" ในเคป็อป—การสำรวจธีมความมั่นใจในตนเองและพลังของผู้หญิง

แบล็กพิงก์
แบล็กพิงก์ขณะแสดงในเทศกาลโคเชลลาเมื่อปี 2023
จากซ้ายไปขวา: โรเซ, จีซู, เจนนี และลิซ่า
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่เกิดโซล เกาหลีใต้
แนวเพลง
ช่วงปี2016–ปัจจุบัน
ค่ายเพลง
สมาชิกของวายจีแฟมีลี
สมาชิก
เว็บไซต์blackpinkofficial.com

แบล็กพิงก์เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2016 พร้อมกับซิงเกิลอัลบั้ม สแควร์วัน นำเสนอเพลงอย่าง "วิสเซิล" และ "บูมบายาห์" ที่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งบนแกออนดิจิทัลชาร์ตของเกาหลีใต้ และบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองส์ ตามลำดับ ต่อมาออกซิงเกิลอัลบั้ม สแควร์ทู ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเพลง "เพลย์อิงวิทไฟร์" กลายเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ติดชาร์ตแคนาเดียนฮอต 100 วงเริ่มมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ หลังจากออกซิงเกิล "ตู-ดู ตู-ดู" (2018) ซึ่งเป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มหญิงเกาหลีที่ติดชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักรและได้รับการรับรองในสหรัฐ มิวสิกวิดีโอนี้กลายเป็นวิดีโอแรกของศิลปินกลุ่มเกาหลีที่มียอดผู้ชมถึงหนึ่งและสองพันล้านครั้งบนยูทูบและยังคงเป็นวิดีโอที่มียอดผู้ชมมากที่สุดของศิลปินกลุ่มเกาหลีจนถึงปัจจุบัน มิวสิกวิดีโอเพลง "คิลดิสเลิฟ" (2019) และ "ฮาวยูไลก์แดต" (2020) เคยถูกบันทึกให้เป็นมิวสิกวิดีโอที่มียอดผู้ชมมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรกและเพลงหลังถูกบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ถึงห้ารายการ

แบล็กพิงก์เป็นศิลปินหญิงเกาหลีที่ทำอันดับสูงสุดบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 โดยขึ้นสูงสุดอันดับที่ 13 ด้วยซิงเกิล "ไอศกรีม" (2020) และบนบิลบอร์ด 200 โดยขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งด้วยอัลบั้ม บอร์นพิงก์ (2022) โดยทั้ง ดิอัลบั้ม (2020) และ บอร์นพิงก์ ต่างก็ทำลายสถิติเป็นอัลบั้มของศิลปินหญิงที่ขายดีที่สุดตลอดกาลในเกาหลีใต้ โดยกลายเป็นอัลบั้มแรกที่ขายได้มากกว่าหนึ่งล้านและสองล้านชุด ตามลำดับ บอร์นพิงก์ เป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปที่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด 200 ได้นับตั้งแต่แดนิตีเคน ในปี 2008 และถูกบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์สองรายการในฐานะอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ขึ้นอันดับสูงสุดบนบิลบอร์ด 200 และชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร ซิงเกิลนำของอัลบั้ม "พิงก์เวนอม" (2022) เป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มเกาหลีที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนเออาร์ไอเอซิงเกิลส์ชาร์ตของออสเตรเลีย และเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดโกลบอล 200

ตลอดอาชีพการงานของวง แบล็กพิงก์ได้ทำลายสถิติมากมาย บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ (2022–23) กลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดของศิลปินกลุ่มหญิง และเป็นศิลปินเอเชียรายแรกที่ได้ลงพาดหัวข่าวในเทศกาลโคเชลลา พวกเธอยังเป็นศิลปินที่มียอดผู้ติดตามและยอดผู้ชมสูงสุดบนยูทูบ เช่นเดียวกับเกิร์ลกรุปที่มียอดผู้ติดตามและยอดสตรีมสูงสุดบนสปอติฟาย แบล็กพิงก์ยังได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงโกลเดนดิสก์อะวอดส์, บิลบอร์ดมิวสิกอะวอดส์, พีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ และเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ กลายเป็นเกิร์ลกรุปวงแรกในศตวรรษที่ 21 ที่ชนะรางวัลศิลปินกลุ่มแห่งปี พวกเธอยังเป็นเกิร์ลกรุปวงแรกที่ติดอันดับผู้ทรงอิทธิพลเอเชียที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี ของฟอบส์ และได้ชื่อว่าผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี จากนิตยสาร ไทม์ รวมถึงได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในผู้มีชื่อเสื่ยงที่มีอิทธิพลที่สุดในเกาหลีใต้ โดยนิตยสารฟอบส์ เกาหลี (ติดสามอันดับแรกในปี 2019–23) และได้รับการยอมรับจากอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อิน สำหรับการเผยแพร่วัฒนธรรมเคป็อปและเกาหลีไปทั่วโลก

ที่มาของชื่อ แก้

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับชื่อเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ว่าจะเป็น ทีแอลซี-เอฟ, แมกนัม และเบบีมอนสเตอร์[1][2] ในปี 2012 เจนนีปรากฏในวิดีโอแนะนำเด็กฝึกทางช่องวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ในยูทูบ โดยมีคำว่า พิงก์พังก์ (Pink Punk) เป็นชื่อประชาสัมพันธ์ของกลุ่ม[3][4] อย่างไรก็ตาม ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า เกิร์ลกรุปใหม่จะใช้ชื่อนี้ จนกระทั่งวันที่ 29 มิถุนายน 2016 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ประกาศรายชื่อสมาชิกและชื่อกลุ่มอย่างเป็นทางการว่า แบล็กพิงก์ ตัวแทนวายจีกล่าวว่า "แบล็กพิงก์คือความตั้งใจให้ตรงกันข้าม สีชมพูสื่อถึงความงดงาม แต่ความสวยไม่ใช่ทุกอย่าง พวกเธอเป็นทีมที่ไม่ได้มีเพียงรูปร่างหน้าตาเท่านั้น แต่ยังมากไปด้วยพรสวรรค์"[5][6] นอกจากนี้ สมาชิกทุกคนต่างมีความเป็นผู้นำในแต่ละด้านได้ แบล็กพิงก์จึงตัดสินใจว่าจะไม่มีหัวหน้าวง[7]

ประวัติ แก้

2012–2015: ก่อนเปิดตัว แก้

หลังจากเปิดตัวทูเอนีวันในปี 2009 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์กล่าวว่า ในปี 2011 จะเปิดตัวเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่[8] ในปี 2012 การประชาสัมพันธ์ของกลุ่มได้เริ่มต้นขึ้นทางช่องวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ในยูทูบ ในวันที่ 6 เมษายน มีการเผยแพร่วิดีโอการฝึกซ้อมของคิม อึน-บีและยูนา คิม ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกที่คาดว่าจะได้เปิดตัว[9][10] ในวันที่ 10 พฤษภาคม มีการเผยแพร่วิดีโอชื่อ "Who's That Girl" ต่อสาธารณชน ในวิดีโอเป็นการฝึกเต้นของเด็กฝึกหัดหญิงที่เกิดในปี 1997 ซึ่งก็คือ ลลิษา มโนบาล เป็นชาวไทย อย่างไรก็ตาม ทางวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอมากนัก นอกจากรูปภาพ อายุ และวิดีโอการฝึกสั้น ๆ[11] ในวันที่ 1 กรกฎาคม ปีเดียวกัน วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ได้เผยแพร่วิดีโอการฝึกฝนของเด็กฝึกหัดหญิงสี่คนภายใต้ชื่อ "Future 2NE1" ทางช่องอย่างเป็นทางการในยูทูบ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเด็กฝึกในวิดีโอ[12]

ในวันที่ 29 สิงหาคม 2012 มีการเผยแพร่วิดีโอการฝึกของเจนนี คิมต่อสาธารณชน[13] เธอเป็นเด็กฝึกคนแรกที่ทางวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เผยแพร่รูปภาพในบล็อกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 เมษายน แต่ก็ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ นอกจากชื่อ อายุ และวิดีโอการฝึก[8] ในวันที่ 1 กันยายน มีการเผยแพร่มิวสิกวิดีโอเพลง "แดตเซงกี" (That XX) ของจี-ดรากอน สมาชิกวงบิกแบง จากอัลบั้ม วันออฟอะไคนด์ โดยมีเจนนีร่วมแสดงด้วย[14] นอกจากนี้ ในเพลง "วิทเอาต์ยู" (Without You) จากอัลบั้มเดียวกัน มีนักร้องรับเชิญ ซึ่งก็คือ โรเซ แต่วายจีไม่เปิดเผยข้อมูล แต่ระบุว่าเป็นเกิร์ลกรุปหญิงกลุ่มใหม่ของวายจี[15] ปีถัดมา ในวันที่ 15 มกราคม มีการเผยแพร่ภาพถ่ายของเด็กฝึกผ่านทางบล็อกของวายจี ซึ่งก็คือ จีซู เกิดในปี 1995[16] ต่อมามีการเผยแพร่วิดีโอการฝึกคลิปที่สองของเจนนีในวันที่ 20 มกราคม[17] ในเดือนมีนาคม เจนนีร้องรับเชิญให้กับอี ฮา-อี ในเดือนสิงหาคม ให้กับซึงรี[18][19] และในเดือนกันยายน ให้กับจี-ดรากอน เจนนียังได้ขึ้นแสดงในรายการเพลงร่วมกับจี-ดรากอน ทำให้เธอเริ่มกลายเป็นที่รู้จัก[20] อย่างไรก็ตาม เกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ยังไม่มีข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กฝึกก็หยุดลงชั่วคราว หลังจากนั้น ยูนา คิม ได้ออกจากวายจีเพื่อไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ[21]

ในเดือนพฤษภาคม 2014 จัง ฮันนา ผู้เข้าแข่งขันในรายการ เค-ป็อปสตาร์ 3 ได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์[22] และเป็นตัวเก็งของเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่[23] ในเดือนกันยายน ลลิษาปรากฏตัวในวิดีโอโปรโมตของ โนนากอน (Nonagon) ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่วายจีร่วมกับซัมซุง[24] ต่อมาวายจีได้เปิดเผยอีกครั้งว่า เกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่จะเปิดตัวในปีนี้[25] ในเดือนตุลาคม 2014 วงดนตรีแนวฮิปฮอป อีพิกไฮ (Epik High) ได้ออกเพลง "สปอยเลอร์" (Spoiler) โดยมีจีซูร่วมแสดงมิวสิกวิดีโอ[26] ในช่วงกลางเดือนตุลาคม วายจีให้สัมภาษณ์กับทางสื่อว่า คิม อึน-บี ได้ออกจากบริษัทด้วยปัญหาสุขภาพ[27][28] ในวันที่ 11 พฤศจิกายน วายจีได้เปิดตัวไฮซูฮย็อน และเผยแพร่มิวสิกวิดีโอเพลง "แอมดิฟเฟอเรนต์" (I'm Different) ในเดือนพฤศจิกายน โดยมีจีซูร่วมแสดงอีกครั้ง[29] หลังสิ้นปี 2014 การเปิดตัวของเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ก็ยังไม่มีข่าวคราว

ในวันที่ 15 เมษายน 2015 วงดนตรีฮิปฮอป จีนูฌอน ได้ออกเพลง "เทลมีวันมอร์ไทม์" โดยได้เลือก จัง ฮันนา เป็นนักร้องสนับสนุน เธอยังร่วมแสดงมิวสิกวิดีโอและได้ขึ้นแสดงในรายการเพลง[30] ในเดือนพฤษภาคม ผู้บริหาร ยัง ฮย็อน-ซ็อก กล่าวกับทางสื่อว่า จัง ฮันนา จะไม่อยู่ในเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ของค่าย[31] ในเดือนสิงหาคม ในรายการ อันพริตตีแร็ปสตาร์ 2 มีเด็กฝึกหัดหญิงจากวายจี มุน ซู-อา เข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในเด็กฝึกที่อยู่ในกลุ่ม "Future 2NE1" เมื่อปี 2012[31]

2016–2017: การเปิดตัวและความสำเร็จครั้งแรก แก้

 
แบล็กพิงก์ขณะแสดงเพลง "เพลย์อิงวิทไฟร์" ในงานเมลอนมิวสิกอะวอดส์ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2016

หลังจากประชาสัมพันธ์ว่าจะมีเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ตั้งแต่ปี 2012 ทำให้เด็กฝึกเป็นที่คาดหวังอย่างมาก มีการเข้าและออกตลอดหลายปีผ่านมา[32][33] จนในวันที่ 18 พฤษภาคม 2016 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ยืนยันว่าเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่จะเปิดตัวในฤดูร้อน ต่อมาในวันที่ 30 พฤษภาคม มีการประกาศว่าจะเปิดเผยข้อมูลสมาชิกแต่ละคนในทุกวันพุธต่อจากนี้[34][35] สมาชิกคนแรกที่ประกาศคือ เจนนี ในวันที่ 1 มิถุนายน[36] ตามมาด้วย ลิซ่า (ลลิษา) สัญชาติไทย และ จีซู ในวันที่ 8 และ 15 ตามลำดับ[37][38] และสมาชิกคนสุดท้ายที่ประกาศในวันที่ 22 คือ โรเซ (โรซอนเน) สัญชาติเกาหลี-ออสเตรเลีย รวมสมาชิกทั้งหมดสี่คน[39] ในวันที่ 29 มิถุนายน มีการประกาศชื่อกลุ่มอย่างเป็นทางการว่า แบล็กพิงก์[40]

แบล็กพิงก์ออกจำหน่ายซิงเกิลอัลบั้มชุดแรก สแควร์วัน ในวันที่ 8 สิงหาคม 2016 ซิงเกิลนำ "บูมบายาห์" และ "วิสเซิล"[41] ขึ้นสูงสุดอันดับที่หนึ่งและสองบนชาร์ตบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองเซลส์ ทำให้แบล็กพิงก์เป็นศิลปินที่ติดชาร์ตดังกล่าวได้เร็วที่สุดและเป็นศิลปินลำดับที่สาม ถัดจากไซและบิกแบงที่สามารถครองสองอันดับแรกได้พร้อมกัน[42] "วิสเซิล" ขึ้นอันดับสูงสุดบนแกออนดิจิทัล, ดาวน์โหลด, สตรีมมิง และโมบายล์ได้สำเร็จ[43][44] และยังขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตประจำสัปดาห์, ความนิยม, มิวสิกวิดีโอ และมิวสิกวิดีโอเคป็อป บนคิวคิวมิวสิกซึ่งเป็นบริการสตรีมเพลงที่ใหญ่ที่สุดในจีน[45] แบล็กพิงก์ขึ้นแสดงดนตรีครั้งแรกในรายการ อินกีกาโย ทางช่องเอสบีเอส เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2016[46] พวกเธอได้รับรางวัลในรายการเพลงครั้งแรกจาก อินกีกาโย หลังจากเปิดตัวได้ 13 วัน ทำลายสถิติเป็นเกิร์ลกรุปที่ได้รางวัลในรายการเพลงเร็วที่สุด[47] แบล็กพิงก์สิ้นสุดการประชาสัมพันธ์ สแควร์วัน เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2016 ด้วยการชนะ อินกีกาโย อีกหนึ่งครั้ง

ซิงเกิลอัลบั้มที่สองของแบล็กพิงก์ชื่อ สแควร์ทู ประกอบด้วย "เพลย์อิงวิทไฟร์" และ "สเตย์" วางจำหน่ายวันที่ 1 พฤศจิกายน 2016[48] วงเริ่มประชาสัมพันธ์อัลบั้มด้วยการปรากฏในรายการ อินกีกาโย เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน และ เอ็ม เคาต์ดาวน์ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน[49] "เพลย์อิงวิทไฟร์" กลายเป็นเพลงที่สองของแบล็กพิงก์ที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองเซลส์ และยังเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ติดชาร์ตแคนาเดียนฮอต 100[50][51] ในเกาหลีใต้ "เพลย์อิงวิทไฟร์" ขึ้นสูงสุดที่อันดับสาม ขณะที่ "สเตย์" อยู่ในสิบอันดับแรก[52] ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ในช่วงห้าเดือนแรกของแบล็กพิงก์ ทำให้พวกเธอได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่หลายรายการในงานประกาศรางวัลเพลงสิ้นปีที่สำคัญของเกาหลี ซึ่งรวมถึงเอเชียอาร์ทิสต์อะวอดส์,[53] เมลอนมิวสิกอะวอดส์,[54] โกลเดนดิสก์อะวอดส์,[55] โซลมิวสิกอะวอดส์[56] และแกออนชาร์ตมิวสิกอะวอดส์[57] นอกจากนี้ บิลบอร์ด ยังยกให้เป็นหนึ่งในกลุ่มเคป็อปหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี 2016[58]

 
แบล็กพิงก์แสดงในงานวายจีเอกซ์ยูนิเซฟวอล์กกิงเฟสติวัลปี 2017

ในวันที่ 17 มกราคม 2017 แบล็กพิงก์ประกาศชื่อแฟนคลับคือ "บลิงก์" ซึ่งเป็นการรวมคำระหว่าง "แบล็ก" และ "พิงก์"[59] เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน วงได้ออกซิงเกิล "แอสอิฟอิตส์ยัวร์ลาสต์" ซึ่งถูกบรรยายว่าเป็น "แนวเพลงที่ผสมผสาน" และมีจังหวะเร็วกว่าเพลงก่อนหน้า[60] เพลงเปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองเซลส์[61] และติดหนึ่งใน 25 เพลงฮิตประจำฤดูร้อน 2017 ของยูทูบ[62] มิวสิกวิดีโอเพลงทำลายสถิติวิดีโอที่มียอดกดไลก์สูงสุดของเกิร์ลกรุปเกาหลีในยูทูบ และเคยเป็นวิดีโอกลุ่มเคป็อปที่มีผู้ชมมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง[63][64] ในวันที่ 20 กรกฎาคม แบล็กพิงก์จัดการแสดงที่สนามกีฬาต่อสู้ญี่ปุ่นในโตเกียว โดยมีผู้เข้าชมมากกว่า 14,000 คน และอีก 200,000 กว่าคนพยายามซื้อตั๋วเข้าชมการแสดงนี้[65][66] วงเปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2017 ด้วยการออกเอกซ์เทนเดดเพลย์ฉบับภาษาญี่ปุ่นที่มีชื่อเดียวกับตนเอง[67][68] อีพีเปิดตัวที่อันดับที่หนึ่งบนออริคอนอัลบั้มชาร์ต[69] ด้วยยอดขาย 39,100 ชุด ในสัปดาห์แรก[70]

2018–2019: ความสำเร็จระดับนานาชาติและทัวร์คอนเสิร์ต แก้

ในวันที่ 6 มกราคม 2018 แบล็กพิงก์ได้ออกรายการเรียลลิตีโชว์ครั้งแรกชื่อ แบล็กพิงก์เฮาส์ มีทั้งหมด 12 ตอน เล่าเรื่องชีวิตของสมาชิกทั้งสี่คนที่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในหอพักใหม่เพื่อการพักร้อน 100 วัน ออกอากาศผ่านทางวีไลฟ์และยูทูบ[71] เมื่อวันที่ 28 มีนาคม แบล็กพิงก์ได้ออกอีพีภาษาญี่ปุ่นซ้ำในชื่อ รี: แบล็กพิงก์ โดยเวอร์ชันดิจิทัลเป็นการรวมเพลงจากต้นฉบับก่อนหน้า ขณะที่เวอร์ชันซีดีและดีวีดี มีการเพิ่มมิวสิกวิดีโอและเพลงภาษาเกาหลีอีกหกเพลง[72]

 
แบล็กพิงก์ที่โซลมิวสิกอะวอดส์ ปี 2018

ในวันที่ 15 มิถุนายน 2018 วงได้ออกอีพีเป็นภาษาเกาหลีครั้งแรกชื่อ สแควร์อัป[73] ซิงเกิลนำ "ตู-ดู ตู-ดู" เปิดตัวที่อันดับที่ 17 บนออฟฟิเชียลเทรนดิงชาร์ตในสหราชอาณาจักร ทำให้พวกเธอเป็นกลุ่มเคป็อปหญิงวงแรกที่ติดชาร์ตนี้ได้นับตั้งแต่ออกเผยแพร่ในปี 2016[74] ซิงเกิลดังกล่าวยังเปิดตัวที่อันดับ 55 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ด้วยยอดสตรีม 12.4 ล้านครั้งในสหรัฐ และมียอดดาวน์โหลดในสัปดาห์แรก 7,000 ครั้ง ทำให้แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ติดอันดับสูงสุดบนชาร์ต[75] อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับ 40 บนบิลบอร์ด 200 ด้วยยอดขาย 14,000 ชุด กลายเป็นอัลบั้มที่ขึ้นอันดับสูงสุดโดยกลุ่มเคป็อปหญิง ณ เวลาที่ปล่อย[76] และยังติดชาร์ต บิลบอร์ด เวิลด์อัลบั้ม ด้วย[77] ในเกาหลีใต้ สแควร์อัป เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนแกออนอัลบั้มชาร์ต[78] "ตู-ดู ตู-ดู" ขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งบนชาร์ตดิจิทัล, ดาวน์โหลด, สตรีมมิง และโมบายล์ บนแกออน ขณะที่ "ฟอร์เอเวอร์ยัง" ขึ้นได้ถึงอันดับที่สอง[79][80][81][82] มิวสิกวิดีโอเพลง "ตู-ดู ตู-ดู" ในยูทูบมีผู้ชมมากกว่า 36.2 ล้านครั้งในวันแรก ทำลายสถิติมิวสิกวิดีโอของศิลปินเกาหลีใต้ที่มีผู้ชมมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง ณ ขณะนั้น[83]

 
แบล็กพิงก์ในงานแจกลายเซ็นอัลบั้ม สแควร์อัป ที่เอเคพลาซาในบุนดัง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2018

แบล็กพิงก์เริ่มทัวร์ในญี่ปุ่นครั้งแรกชื่อ แบล็กพิงก์อะรีนาทัวร์ 2018 ตั้งแต่วันที่ 24 ถึง 25 กรกฎาคม เพื่อส่งเสริมอีพีภาษาญี่ปุ่นของพวกเธอ ทัวร์เริ่มขึ้นด้วยการแสดงหกรอบทั่วโอซากะ ฟูกูโอกะ และชิบะ[84] ต่อมาได้มีการเพิ่มทัวร์รอบสุดท้ายในวันที่ 24 ธันวาคม ที่เคียวเซระโดมโอซากะเพื่อเป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้กับแฟนเพลงในการแสดงที่ขายบัตรหมดต่อหน้าฝูงชนนับห้าหมื่นคน[85] เมื่อวันที่ 12 กันยายน มีการประกาศว่าพวกเธอจะจัดคอนเสิร์ต แบล็กพิงก์ 2018 ทัวร์อินยัวร์แอเรีย โซลเอ็กซ์บีซีการ์ด ที่สนามกีฬายิมนาสติกโอลิมปิกในกรุงโซล[86] อินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ นับเป็นทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกของวงครั้งแรก ซึ่งเดินสายตลอดปี 2019 และต้นปี 2020 ในอเมริกาเหนือ ยุโรป โอเชียเนีย และเอเชีย จนท้ายที่สุดกลายเป็นทัวร์ของเกิร์ลกรุปเกาหลีที่มีรายได้สูงที่สุด[87]

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นักร้องชาวบริติช ดัว ลีปา ออกเพลง "คิสแอนด์เมกอัป" กับแบล็กพิงก์ เป็นแทร็กใหม่ฉบับจำหน่ายซ้ำจากอัลบั้มแรกของเธอในชื่อเดียวกับตนเอง[88] เพลงเปิดตัวที่อันดับ 93 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ถือเป็นซิงเกิลที่สองของแบล็กพิงก์บนชาร์ตและทำให้พวกเธอเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีเพียงกลุ่มเดียวที่มีเพลงติดชาร์ตนี้มากกว่าหนึ่งเพลง[89] "คิสแอนด์เมกอัพ" ยังเป็นซิงเกิลแรกของแบล็กพิงก์ที่อยู่ใน 40 อันดับแรกบนชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร รวมถึงเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีกลุ่มแรกและศิลปินเกาหลีลำดับที่สามจากทั้งหมดที่สามารถติดท็อป 40 ได้สำเร็จ[90] ในเดือนเดียวกันนั้น วงได้เซ็นสัญญากับอินเตอร์สโคปเรเคิดส์ ซึ่งเป็นสังกัดในเครือยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุป[91] ในเดือนพฤศจิกายน 2018 แบล็กพิงก์ประกาศวันเดินทางเพิ่มเติมในอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ ที่ครอบคลุมพื้นที่ในเอเชีย ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม 2019[92] เจนนีเปิดตัวเป็นศิลปินเดี่ยวในเพลง "โซโล" ที่คอนเสิร์ตของแบล็กพิงก์ในกรุงโซลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ก่อนปล่อยเพลงและมิวสิกวิดีโออย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น[93] สตูดิโออัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชุดแรกของวงชื่อ แบล็กพิงก์อินยัวร์แอเรีย วางจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัลในวันที่ 23 พฤศจิกายน และแบบกายภาพในวันที่ 5 ธันวาคม[94] โดยเป็นการรวมเพลงฉบับภาษาญี่ปุ่นก่อนหน้าทั้งหมดของพวกเธอ อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับเก้าบนออริคอนอัลบัมชาร์ตและขายได้ประมาณ 13,000 ชุดในสัปดาห์แรก[95]

 
แบล็กพิงก์แสดงอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ ในอัมสเตอร์ดัม ปี 2019

แบล็กพิงก์เปิดตัวในสหรัฐที่แกรมมีอาร์ติสต์โชว์เคสของยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุป ซึ่งเป็นงานเฉพาะผู้ได้รับบัตรเชิญเท่านั้นที่ ROW ในดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2019[96] ต่อมาวงได้ปรากฏอยู่ในรายการโทรทัศน์อเมริกันอีกหลายรายการ ซึ่งรวมถึง เดอะเลตโชว์วิธสตีเฟนกอลแบร์, กูดมอนิงอเมริกา และ สตราฮานแอนด์ซารา[97][98][99] ในเดือนมีนาคมนั้น พวกเธอกลายเป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร บิลบอร์ด[100]

อีพีชุดที่สองของแบล็กพิงก์ชื่อ คิลดิสเลิฟ วางจำหน่ายวันที่ 5 เมษายน 2019 พร้อมกับซิงเกิลในชื่อเดียวกัน[101] อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับ 24 บน บิลบอร์ด 200 ขณะที่ซิงเกิลนำขึ้นอันดับที่ 41 บนชาร์ตฮอต100 กลายเป็นอันดับสูงสุดโดยศิลปินหญิงเกาหลีบนสองชาร์ตหลักของ บิลบอร์ด[102] "คิลดิสเลิฟ" ติดอันดับที่ 66 จาก 100 เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 ของนิตยสาร บิลบอร์ด[103] เพลง "ฟอร์เอเวอร์ยัง" เป็นบีไซต์จากอีพี สแควร์อัป (2018) มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 2.5 ล้านครั้งในเดือนธันวาคม 2019 กลายเป็นเพลงที่ห้าของวงและครั้งที่สองของพวกเธอที่ได้รับการรับรองระดับทองคำขาวจากสมาคมลิขสิทธิ์เพลงเกาหลี (KMCA) ถัดจากเพลง "ตู-ดู ตู-ดู"[104] แบล็กพิงก์ได้แสดงในเทศกาลโคเชลลา ในวันที่ 12 และ 19 เมษายน 2019[105] การแสดงของวงได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และแฟนเพลง แกบ กินสเบิร์ก จาก บิลบอร์ด เรียกการแสดงนี้ว่า "น่าตื่นเต้น" และ "ไม่มีทางลืม"[106][107]

ในวันที่ 16 ตุลาคม 2019 คิลดิสเลิฟ ฉบับภาษาญี่ปุ่นเผยแพร่สู่ตลาดญี่ปุ่น ขึ้นสูงสุดที่อันดับ 17 บนออริคอนอัลบัมชาร์ต[108] วงไปเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ รวมถึงปรากฏตัวในรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง มิวสิกสเตชัน ทางช่องทีวีอาซาฮิ และ เลิฟมิวสิก ทางช่องฟูจิทีวี[109] นักอ่านนิตยสาร เปเปอร์ โหวตให้พวกเธอเป็น "เคป็อปที่ประทับใจแห่งปี 2019" ในรายชื่อประจำปีของเบรกเดอะอินเทอร์เน็ตอะวอดส์[110]

2020–2021: ดิอัลบั้ม และเดอะโชว์ แก้

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2020 มีการยืนยันว่าวงจะร่วมงานกับเลดีกากา จากสตูดิโออัลบั้มที่หกของเธอ โครมาติกา[111] เพลง "ซาวเออร์แคนดี" ออกมาเป็นซิงเกิลประชาสัมพันธ์ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2020[112] เปิดตัวที่อันดับ 33 บน บิลบอร์ด ฮอต 100 กลายเป็นเพลงแรกของแบล็กพิงก์ที่อยู่ใน 40 อันดับแรก ยังเป็นอันดับสูงที่สุดของวงในขณะนั้น และเป็นอันดับสูงที่สุดของเกิร์ลกรุปเคป็อปด้วย[113] ในประเทศออสเตรเลีย เพลงเปิดตัวที่อันดับแปดกลายเป็นเพลงแรกของแบล็กพิงก์ที่ขึ้นสิบอันดับแรกได้ในประเทศ[114] และเป็นซิงเกิลแรกที่ติดท็อป 20 ในสหราชอาณาจักร โดยเปิดตัวที่อันดับที่ 17[115] ในวันที่ 18 พฤษภาคม วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่าวงจะปล่อยซิงเกิลก่อนวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ตามด้วยซิงเกิลเพิ่มเติมในระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม เพื่อประชาสัมพันธ์สตูดิโออัลบั้มเกาหลีชุดแรก[116][117] ต่อมาในวันที่ 2 มิถุนายน วายจียืนยันอย่างเป็นทางการว่าหลังออกสตูดิโออัลบั้ม โรเซ ลิซ่า และจีซู สมาชิกวงจะออกผลงานเดี่ยวตามมา โดยที่โรเซจะเป็นคนแรก[118] ขณะกำลังทำอัลบั้มชุดใหม่ วายจีได้เปิดตัวรายการเรียลลิตีโชว์ของแบล็กพิงก์ชื่อ 24/365 วิธแบล็กพิงก์ ในวันที่ 13 มิถุนายน ล่วงหน้าก่อนเปิดตัวบนยูทูบ เป็นรายการที่ติดตามการกลับมาของพวกเธอควบคู่ไปกับการแบ่งปันชีวิตประจำวันผ่านวิดีโอบล็อก[119]

ซิงเกิล "ฮาวยูไลก์แดต" ออกเป็นซิงเกิลแรกในวันที่ 26 มิถุนายน[120][121] เพลงขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งบนแกออนดิจิทัลชาร์ตเป็นเวลาสามสัปดาห์[122] "ฮาวยูไลก์แดต" กลายเป็นเพลงที่ห้าของแบล็กพิงก์ที่ติดชาร์ต บิลบอร์ด ฮอต 100 (ขึ้นสูงสุดอันดับ 33) มิวสิกวิดีโอในยูทูบทำลายบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 5 ห้วข้อ[123] ยังติดอันดับหนึ่งในรายชื่อ 10 เพลงยอดนิยมประจำฤดูร้อน 2020 ของยูทูบมิวสิก[124] และได้รางวัลเพลงแห่งฤดูร้อนที่งานประกาศรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2020 ทำให้แบล็กพิงก์เป็นศิลปินหญิงเกาหลีวงแรกที่ได้รับรางวัลนี้[125] ในวันที่ 23 กรกฎาคม วายจีประกาศว่าซิงเกิลที่สอง "ไอศกรีม" กับนักร้องชาวอเมริกัน เซลีนา โกเมซ จะวางจำหน่ายในวันที่ 28 สิงหาคม[126][127] เพลงเปิดตัวที่อันดับที่ 13 บน บิลบอร์ด ฮอต 100 ถือเป็นอันดับสูงที่สุดของวง และเป็นครั้งแรกที่สามารถติดท็อป 20 ได้[128] ในสหราชอาณาจักร ขึ้นสูงสุดอันดับที่ 39 กลายเป็นศิลปินเกาหลีที่มีเพลงฮิตใน 40 อันดับแรกมากที่สุดจำนวนห้าเพลงในขณะนั้น[129]

 
แบล็กพิงก์ในเดือนตุลาคม 2020

แบล็กพิงก์ออกสตูดิโออัลบั้มเกาหลีชุดแรกในชื่อ ดิอัลบั้ม ในวันที่ 2 ตุลาคม 2020 "เลิฟซิกเกิลส์" ออกเป็นซิงเกิลหลักที่สาม[130] ดิอัลบั้ม ขึ้นถึงอันดับสองบน บิลบอร์ด 200 และชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร กลายเป็นอันดับสูงที่สุดของศิลปินหญิงเกาหลี[131][132] อัลบั้มทำลายสถิติยอดขายสัปดาห์แรกของเกิร์ลกรุปเกาหลี ด้วยยอดขาย 590,000 ชุด หลังออกจำหน่ายได้เพียงหนึ่งวัน[133] และทำให้แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ขายได้ถึงล้านชุด โดยขายได้ประมาณ 1.2 ล้านชุด ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน[134] เพื่อส่งเสริมเพลงในสหรัฐ แบล็กพิงก์แสดง "เลิฟซิกเกิลส์" บน กูดมอนิงอเมริกา และ จิมมีคิมเมลไลฟ์! ในวันที่ 21 ตุลาคม[135]

ภาพยนตร์สารคดีครั้งแรกของวง แบล็กพิงก์: ไลต์อัพเดอะสกาย ออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2020 ซึ่งครอบคลุมระยะเวลาสี่ปีนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016 สารคดีเรื่องดังกล่าวประกอบด้วยฟุตเทจจากการฝึกซ้อม กิจวัตรประจำวัน เบื้องหลังการถ่ายทำ และบทสัมภาษณ์ของสมาชิกแต่ละคน รวมถึงกระบวนการผลิต ดิอัลบั้ม[136] ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของ ดิอัลบั้ม ร่วมกับภาพยนตร์สารคดี ส่งให้แบล็กพิงก์ครองอันดับหนึ่งในฐานะดาราป็อปที่มีอิทธิพลที่สุดประจำเดือนตุลาคมของบลูมเบิร์ก[137][138] ในวันที่ 2 ธันวาคม แบล็กพิงก์ประกาศร่วมมือกับยูทูบมิวสิกสำหรับคอนเสิร์ตสตรีมสดครั้งแรกของพวกเธอในชื่อ เดอะโชว์ จัดขึ้นวันที่ 27 ธันวาคม 2020 แต่ถูกเลื่อนออกมาเป็นวันที่ 31 มกราคม 2021 เนื่องจากระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการระบาดทั่วของโควิด-19 ในเกาหลีใต้[139] คอนเสิร์ตนี้เป็นการแสดงสดครั้งแรกของเพลงหลายเพลงจาก ดิอัลบั้ม เช่นเดียวกับเพลง "กอน" ของโรเซ จากอัลบัมเดี่ยวชุดแรกของเธอ อาร์[140] ผู้คนมากกว่า 280,000 คน ได้สมัครสมาชิกเพื่อเข้าชมการแสดง และคอนเสิร์ตมีการสตรีมสดกว่า 100 ประเทศ[141]

แบล็กพิงก์ออก ดิอัลบั้ม เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2021 โดยมีเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นถึงสี่จากทั้งหมดแปดแทร็ก ("ฮาวยูไลก์แดต", "พริตตีซาเวจ", "เลิฟซิกเกิลส์" และ "ยูเนเวอร์โนว์") ขึ้นถึงอันดับสามบนออริคอนอัลบั้มชาร์ต เพื่อส่งเสริมอัลบั้ม พวกเธอได้ปรากฏบนรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง มิวสิกสเตชัน ทางช่องทีวีอาซาฮิ[142] ในวันที่ 4 สิงหาคม ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง แบล็กพิงก์: เดอะมูวี ออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก นำเสนอบทสัมภาษณ์พิเศษของวง ตลอดจนการแสดงสดจากเดอะโชว์และอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์[143]

2022–ปัจจุบัน: บอร์นพิงก์ และทัวร์รอบโลกครั้งที่สอง แก้

ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2022 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่าแบล็กพิงก์อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการบันทึกเสียงสำหรับอัลบั้มใหม่ โดยเตรียมถ่ายทำมิวสิกวิดีโอในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมและออกเพลงใหม่ในเดือนสิงหาคม และยังยืนยันว่าวงจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สองในช่วงปลายปี[144] ในวันที่ 12 กรกฎาคม วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เผยว่าแบล็กพิงก์จะจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงชื่อ แบล็กพิงก์: เดอะเวอชวล ในเกม พับจีโมบายล์ ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 30 กรกฎาคม ประกอบด้วยการแสดงเพลงฮิตของวงพร้อมกับแทร็กพิเศษ "เรดีฟอร์เลิฟ" ซึ่งจะแสดงตัวอย่างภายในงานเป็นครั้งแรก[145][146] ก่อนปล่อยตัวเต็มเป็นมิวสิกวิดีโอแอนิเมชันในวันที่ 29 กรกฎาคม[147]

 
แบล็กพิงก์แสดงในลอนดอน สำหรับบอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ ในเดือนธันวาคม 2022

ในวันที่ 31 กรกฎาคม มีการประกาศว่าแบล็กพิงก์จะออกซิงเกิลก่อนวางจำหน่าย "พิงก์เวนอม" ในวันที่ 19 สิงหาคม ก่อนอัลบั้มชุดที่สองของพวกเธอในเดือนกันยายน ตามด้วยเวิลด์ทัวร์ ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ในโซล และคาดว่าจะดำเนินไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2023[148][149] หลังจากการวางจำหน่าย เพลงดังกล่าวขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด โกลบอล 200 ถึงสองสัปดาห์ กลายเป็นเพลงแรกของศิลปินหญิงเคป็อปที่ขึ้นอันดับหนึ่งและยังเป็นเพลงเกาหลีเพลงแรกที่อยู่ในชาร์ตได้นานหลายสัปดาห์[150][151] ขึ้นถึงอันดับสองบนเซอร์เคิลดิจิทัลชาร์ตของเกาหลีใต้[152] อันดับที่ 22 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100[153] และเป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มเคป็อปที่ขึ้นอันดับสูงสุดบนชาร์ตซิงเกิลแห่งออสเตรเลีย ด้วย[154] เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม แบล็กพิงก์แสดงเพลง "พิงก์เวนอม" ที่งานเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2022 ทำให้พวกเธอเป็นศิลปินหญิงเคป็อปกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แสดงในงานดังกล่าว และยังได้รับรางวัลการแสดงเมตาเวิร์สยอดเยี่ยม จาก เดอะเวอชวล ด้วย[155][156]

ในวันที่ 16 กันยายน 2022 แบล็กพิงก์ออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่สอง บอร์นพิงก์ ควบคู่ไปกับซิงเกิล "ชัตดาวน์" เพลงขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด โกลบอล 200[157] และขึ้นอันดับสามบนเซอร์เคิลดิจิทัลชาร์ต[158] รวมถึงอันดับที่ 24 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100[159] บอร์นพิงก์ เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนเซอร์เคิลอัลบั้มชาร์ตด้วยยอดขาย 2,141,281 ชุดในเวลาไม่ถึงสองวัน และเป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ขายได้มากกว่าสองล้านชุด[160] ในสหรัฐ บอร์นพิงก์ เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด 200 กลายเป็นอัลบั้มแรกของศิลปินหญิงเกาหลีที่ขึ้นอันดับสูงสุดและเป็นอัลบั้มของศิลปินกลุ่มหญิงที่ทำได้นับตั้งแต่ เวลคัมทูเดอะดอลเฮาส์ ของแดนิตีเคนในปี 2008[161] ในสหราชอาณาจักร บอร์นพิงก์ ยังเป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร[162] ทำให้แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปที่มีอัลบั้มเปิดตัวบนชาร์ตในสหรัฐและสหราชอาณาจักรที่อันดับหนึ่งพร้อม ๆ กัน นับตั้งแต่ เซอร์ไวเวอร์ ของเดสทินีส์ไชลด์ในปี 2001[163] และเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอันดับแปดของโลกในปี 2022 จากข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ[164] ในเดือนธันวาคม 2022 วงได้ชื่อว่าผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี จากนิตยสาร ไทม์[165]

 
แบล็กพิงก์แสดงในเทศกาลโคเชลลา 2023

หลังจากออกอัลบั้ม แบล็กพิงก์เริ่มทัวร์ บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ ในโซลเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2022 ตามด้วยทัวร์อเมริกาเหนือและยุโรปตลอดเดือนธันวาคม[166] ในวันที่ 28 มกราคม 2023 วงได้แสดงเพลง "พิงก์เวนอม" และ "ชัตดาวน์" ร่วมกับนักดนตรีอย่างโกตีเย กาปูว์ซง และดอเนียล โลซาโควิช ในงานการกุศลเลอกาลาเดเปียสโฌน ซึ่งจัดโดยสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส บรีฌิต มาครง ในปารีส[167] การทัวร์ดำเนินต่อไปในปี 2023 โดยมีการแสดงในสนามกีฬาทั่วเอเชีย ตลอดจนคอนเสิร์ตอีกหลายแห่งในเม็กซิโกและออสเตรเลีย[168][169] ต่อมาแบล็กพิงก์กลายเป็นศิลปินเกาหลีกลุ่มแรกที่ได้ลงพาดหัวข่าวในเทศกาลโคเชลลา เมื่อวันที่ 15 และ 22 เมษายน[170] และบีเอสทีไฮด์พาร์ก ในลอนดอนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม[171] จากนั้นก็กลับมาทัวร์อองคอร์ในสนามกีฬา โดยเริ่มในเดือนกรกฎาคมในประเทศฝรั่งเศสและสหรัฐ ซึ่งได้สร้างสถิติจำนวนมาก รวมถึงทำให้พวกเธอกลายเป็นศิลปินหญิงลำดับที่สามในประวัติศาสตร์ ต่อจากบียอนเซ่ และเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ขายบัตรหมดทั้งสองวันที่สนามกีฬาเมตไลฟ์[172]

ในวันที่ 18 พฤษภาคม วงประกาศออกซิงเกิลประชาสัมพันธ์ชื่อ "เดอะเกิลส์" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเพลงประกอบเกมมือถือของพวกเธอ แบล็กพิงก์: เดอะเกม ในวันที่ 25 สิงหาคม 2023[173][174] ที่งานเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2023 แบล็กพิงก์ได้รับรางวัลออกแบบท่าเต้นยอดเยี่ยม สำหรับเพลง "พิงก์เวนอม" และศิลปินกลุ่มแห่งปี กลายเป็นเกิร์ลกรุปกลุ่มที่สองที่คว้ารางวัลนี้ได้นับตั้งแต่ทีแอลซีในปี 1999[175] บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ สิ้นสุดในวันที่ 17 กันยายน ด้วยคอนเสิร์ตสองรอบสุดท้ายในโซล[176] เมื่อสิ้นสุดลง ทัวร์ได้ทำลายสถิติ สไปซ์เวิลด์ – 2019 ทัวร์ ของสไปซ์เกิลส์ กลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของศิลปินกลุ่มหญิง[177] โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 1.8 ล้านคน ทำให้เป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดของเกิร์ลกรุปเกาหลีด้วย[178][179]

ความเป็นศิลปิน แก้

แนวเพลงของแบล็กพิงก์เป็นแนวอีดีเอ็มและป็อปโดยพื้นฐาน ควบคู่กับองค์ประกอบของฮิปฮอปและแทร็ป[180][181] ขณะเดียวกันก็รวมแนวเพลงอื่น ๆ อย่างอาร์แอนด์บี, อาหรับ, บัลลาด, ดิสโก และร็อก[182][183][184][185] เพลงหลายเพลงของวงมักจะนำเสนอเสียงเบสดรอปอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนเข้าท่อนคอรัส ซึ่งสื่อสิ่งพิมพ์บางฉบับมองว่าเป็นเสียงที่มีลักษณะเฉพาะของวง[186] เนื้อหาในเพลงส่วนใหญ่เกี่ยวกับความเป็นอิสระ พลังของผู้หญิง การเลิกรา และความสัมพันธ์ที่เป็นพิษเช่นเดียวกับความรักในฤดูร้อน[187][188]

อิทธิพลของวง แก้

แฟนคลับขณะเชียร์คอนเสิร์ตเคียวเซระโดมของแบล็กพิงก์ ในโอซากะในเดือนธันวาคม 2018

แบล็กพิงก์ได้สร้างอิทธิพลต่อวงการเคป็อปไปทั่วโลกและได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "เกิร์ลกรุปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก"[189][190][191] "กลุ่มดนตรีหญิงเคป็อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"[192] และ "ราชินีเคป็อป"[193] ในเกาหลีใต้ นิตยสาร ฟอบส์ จัดอันดับให้แบล็กพิงก์เป็น "ผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลี" อันดับหนึ่ง ประจำปี 2019 อันดับที่สามในปี 2020 และอันดับที่สองในปี 2021[194] สื่อต่างประเทศหลายแห่งอย่างเช่น ฟอบส์, บิลบอร์ด และ เดอะฮอลลีวูดรีพอตเตอร์ ต่างยอมรับถึงความนิยมของวงและผลงานของพวกเธอที่เผยแพร่กระแสเกาหลีไปทั่วโลก[193][195][196][197] เจฟฟ์ เบนจามิน จากนิตยสาร โรลลิงสโตน ได้กล่าวว่าแบล็กพิงก์คือข้อยกเว้นสำหรับแนวคิดที่ว่าศิลปินเคป็อปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐ คือ บอยแบนด์[198] วงยังได้รับเครดิตให้เป็นหนึ่งในสองศิลปินผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรีเกาหลี จากสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI)[199] แบล็กพิงก์ปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลหลายรายการและเป็นเกิร์ลกรุปวงแรกที่ติดโผ "ผู้ทรงอิทธิพลที่มีอายุไม่เกิน 30 ปีของฟอบส์"[195][200] พวกเธอยังเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลดาวรุ่งที่กำลังกำหนดอนาคตของโลกประจำปี 2019 ของนิตยสาร ไทม์ และได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "ผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของศิลปินเกาหลีที่ก้าวข้ามอุปสรรคทางภาษาไปสู่การแสดงบนเวทีระดับโลก" เมื่อพวกเธอกลายเป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ได้แสดงในเทศกาลโคเชลลา[201][202] เช่นเดียวกับ บลูมเบิร์ก จัดให้แบล็กพิงก์เป็น "ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" ประจำเดือนตุลาคม 2020 ทำให้พวกเธอเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่ทำได้[203] นิตยสาร พีเพิล จัดให้แบล็กพิงก์อยู่ในรายชื่อ "สตรีที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรี"[204] และยังเป็นเกิร์ลกรุปวงที่สามในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร โรลลิงสโตน ถัดจากสไปซ์เกิลส์และเดสทินีส์ไชลด์[205]

แบล็กพิงก์มีผู้ติดตามจำนวนมากบนสื่อสังคมและแพลตฟอร์มสตรีมมิง พวกเธอกลายเป็นวงดนตรีที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบเมื่อเดือนกันยายน 2019[206] ศิลปินหญิงที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020[207] และกลายเป็นศิลปินที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเมื่อเดือนกันยายน 2021 โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 73 ล้านคน ณ เดือนเมษายน 2022[208][209] สมาชิกของแบล็กพิงก์ยังเป็นบุคคลที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดบนอินสตาแกรมในเกาหลีใต้ อันดับหนึ่ง สอง สาม และสี่ คือ ลิซ่า, เจนนี, จีซู และโรเซ ตามลำดับ[210][211][212] รวมถึงเกิร์ลกรุปที่มียอดผู้ติดตามมากที่สุดในสปอติฟายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019[213][214] ในเดือนกันยายน 2022 วงมีผู้ติดตามมากกว่า 31 ล้านคน[215]

กิจกรรมอื่น ๆ แก้

โฆษณา แก้

ภายในสามสัปดาห์แรกของการเปิดตัว แบล็กพิงก์เป็นรองเพียงวงเอ็กโซ ของศิลปินเคป็อปผู้ทรงอิทธิพลในเดือนสิงหาคม จากการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยธุรกิจเกาหลี[216] จากการศึกษาอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่งในหัวข้อ "เกิร์ลกรุปหญิงที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดประจำเดือนกันยายน" ในปี 2016 แบล็กพิงก์อยู่ในอันดับ 1 แซงวงไอโอไอและทไวซ์[217]

ในเกาหลีใต้ แบล็กพิงก์เป็นทูตตราสินค้าหรือโฆษกให้บริษัทชุดกีฬา อาดิดาส[218] โรงแรมและรีสอร์ท พาราไดซ์ซีตี[219] เลนส์สัมผัสยี่ห้อ โอเลนส์[220] และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมยี่ห้อ มีซ็องแซน[221] ในเดือนกรกฎาคม 2018 และเดือนสิงหาคม 2020 วงอยู่อันดับหนึ่งในรายชื่อศิลปินที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดจากการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยธุรกิจเกาหลี ทำให้พวกเธอเป็นกลุ่มศิลปินหญิงวงแรกที่ทำได้[222][223] ในเดือนพฤษภาคม 2017 แบล็กพิงก์เป็นทูตประชาสัมพันธ์ให้ด่านศุลกากรหลักอินช็อน โดยป้ายโฆษณาและวิดีโอที่มีภาพของพวกเธอจะทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน[224] ในเดือนเมษายน 2018 แบล็กพิงก์โฆษณาให้น้ำอัดลม สไปรต์[225] ในเดือนมกราคม 2019 วงเป็นหน้าตาให้กับธนาคารอูรี[226] และยังได้ร่วมงานกับพูมาและรีบอค[227][228] ไปจนถึงหลุยส์ วิตตองและดียอร์[229][230] เครื่องสำอางมูนช็อต[231] กระเป๋าเซนต์สกอตต์ลอนดอน[232] และห้างสรรพสินค้า ชิบูยะ 109[233] แบล็กพิงก์ยังออกสินค้าร่วมกับโตเกียวเกิลส์คอลเลกชันและเซซิลแม็กบีในญี่ปุ่นอีกด้วย[234]

การกุศล แก้

ในเดือนธันวาคม 2018 แบล็กพิงก์บริจาคเงินที่ได้จากแอลสไตล์อะวอดส์ 2018 จำนวน 20 ล้านวอนให้กับผู้มีรายได้น้อยและครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวในเกาหลีใต้[235] ในเดือนเมษายน 2019 แบล็กพิงก์บริจาคเงิน 40 ล้านวอนให้แก่สมาคมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแห่งเกาหลีใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ซกโช[236]

รางวัลและความสำเร็จ แก้

แบล็กพิงก์ได้รับรางวัลพีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ 3 รางวัล[237] รางวัลทีนชอยซ์อะวอดส์ 1 รางวัล[238] รางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 1 รางวัล[239] รางวัลแกออนชาร์ตมิวสิกอะวอดส์ 9 รางวัล[240] รางวัลโกลเดนดิสก์อะวอดส์ 6 รางวัล[241] รางวัลเมลอนมิวสิกอะวอดส์ 5 รางวัล[242] รางวัลเอ็มเน็ตเอเชียนมิวสิกอะวอดส์ 8 รางวัล[243] รางวัลโซลมิวสิกอะวอดส์ 2 รางวัล[244][245] และบันทึกไว้ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 6 หัวข้อ[246]

ในเดือนมกราคม 2019 มิวสิกวิดิโอเพลง "ตู-ดู ตู-ดู" กลายเป็นมิวสิกวิดีโอของกลุ่มดนตรีสัญชาติเกาหลีใต้ที่มียอดผู้ชมสูงสุดในยูทูบ[247] และเป็นมิวสิกวิดีโอของกลุ่มดนตรีเคป็อปตัวแรกที่มียอดผู้ชมถึง 1 พันล้านครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2019[248] "ฮาวยูไลก์แดต" ทำลายสถิติของบันทึกสถิติโลกกินเนสส์มากมาย รวมถึงวิดีโอที่มีการรับชมบนยูทูบมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง (ด้วยยอดวิว 86.3 ล้านครั้ง)[249] และวิดีโอที่มีผู้ชมมากสุดในรอบปฐมทัศน์ (มียอดผู้ชมอยู่ที่ 1.66 ล้านคน)[250] ในปี 2021 แบล็กพิงก์ทำสถิติในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์เป็นครั้งที่หก ในหัวข้อ "วงดนตรีที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบ" โดยมีผู้ติดตามถึง 70 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายน[251]

ในปี 2020 ซีเจ อีแอนด์เอ็มยกให้แบล็กพิงก์เป็นหนึ่งใน "2020 Visionary" เนื่องจากเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาธารณชนทั่วโลกด้วยการบุกเบิกวัฒนธรรมสมัยนิยมของเกาหลี[252]

สมาชิก แก้

ผลงานเพลง แก้

สตูดิโออัลบั้ม

ผลงานการแสดง แก้

ทัวร์คอนเสิร์ต แก้

เชิงอรรถ แก้

  1. ปรากฏตัวในตอนแรก

อ้างอิง แก้

  1. "If You Know All 10 Of These BLACKPINK Facts, You're Probably A BLINK". koreaboo (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ 2017-07-29.
  2. "YG 新女團 TLC-F 最新動向". kpopn (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ 2017-07-29.
  3. 박소영 기자 (August 8, 2016). "블랙핑크, 이번엔 몽환+섹시..NEW 타이틀곡은 '휘파람'". OSEN (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-10. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
  4. 박소영 기자 (August 8, 2016). ""YG의 청초꽃 떴다"..블랙핑크 지수, 개인 포스터 공개". OSEN (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-23. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
  5. "สิ้นสุดการรอคอย!! YG Entertainment เปิดตัว 4 สาวเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ Black Pink งดงามเต็มเปี่ยมด้วยพรสวรรค์". ทรูไอดี. 29 June 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-09-05. สืบค้นเมื่อ 3 April 2017.
  6. "YG新女團名稱揭曉 四人女團Black Pink". 全星網 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-07. สืบค้นเมื่อ 2017-07-29.
  7. ""Starry Night" BLACKPINK "Recent conversation with YANG HYUN SUK? Let's eat together"". YG娛樂 (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ 2017-07-29.
  8. 8.0 8.1 "YG新女團練習生相關資料(JISOO.Jennie Kim等)+照片+影片+新聞整理". 櫻花泡菜 (ภาษาจีนตัวเต็ม). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-01. สืบค้นเมื่อ 2018-01-01.
  9. YG ENTERTAINMENT (2012-04-06), YG Trainee - Kim Eunbi & Euna Kim Practice Clip, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-05, สืบค้นเมื่อ 2017-12-29
  10. "Yuna Kim 退出 The Ark,將出演《Unpretty Rapstar 3》". KSD 韓星網 (ภาษาจีนตัวเต็ม). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-29.
  11. YG ENTERTAINMENT (2012-05-10), WHO'S THAT GIRL???, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-06, สืบค้นเมื่อ 2017-12-29
  12. YG ENTERTAINMENT (2012-07-01), Future 2NE1 (4 years later), คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-29, สืบค้นเมื่อ 2017-12-29
  13. YG ENTERTAINMENT (2012-08-29), YG Trainee - JENNIE KIM (김제니), คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-20, สืบค้นเมื่อ 2017-12-30
  14. "新女團成員金Jennie成G-DRAGON新曲《那個XX》MV女主" (ภาษาจีน). 韓星網. 2012-08-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-11. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  15. kokoberry (June 21, 2016). "YG Reveals Teasers For New Girl Group Member Rosé". Soompi. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-23. สืบค้นเมื่อ June 21, 2016.
  16. "YG娛樂推美女團 新成員金智秀照曝光". 韓星網 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-30.
  17. YG ENTERTAINMENT (2013-01-20), JENNIE KIM (김제니) - YG NEW ARTISTS, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-19, สืบค้นเมื่อ 2017-12-30
  18. "勝利第二張迷你專輯音源" (ภาษาจีน). Kpopn韓娛最前線. 2013-08-20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  19. "YG新女團成員Jennie 竟與GD有這樣的過去" (ภาษาจีน). 三立新聞網. 2016-06-02. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-03. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  20. "BigBang G-DRAGON曬和師妹金Jennie可愛合影" (ภาษาจีน). 韓星網. 2013-10-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  21. "THE ARK YUNA KIM提及離開 YG娛樂原因" (ภาษาจีนกลางสำเนียงไต้หวัน). 韓星網. 2015-05-02. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-09. สืบค้นเมื่อ 2017-08-09.
  22. "YG與張漢娜簽約 曾成功打造李夏怡樂童". 新浪新聞 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-30.
  23. "YG回應新女團成員猜測 稱張漢娜不包含在內". 全星網 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-30.
  24. YG ENTERTAINMENT (2014-09-17), NONAGON - BOBBY + B.I, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-08, สืบค้นเมื่อ 2017-12-30
  25. "YG 新女團預計11月出道" (ภาษาจีน). Kpopn韓娛最前線. 2014-10-16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-15. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  26. "YG娛樂新女團成員金智秀出演Epik High新歌MV 散清純可愛" (ภาษาจีน). 韓星網. 2014-10-21. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  27. "金恩菲因健康問題離開 YG" (ภาษาจีน). Kpopn韓娛最前線. 2014-10-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  28. "YG新女團主力金恩菲退出 YG證實因腰椎間盤突出" (ภาษาจีน). Mwave. 2014-10-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-08. สืบค้นเมื่อ 2017-08-07.
  29. YG ENTERTAINMENT (2014-11-18), HI SUHYUN - 나는 달라(I'M DIFFERENT) (ft.BOBBY) M/V, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-03, สืบค้นเมื่อ 2017-12-30
  30. "張漢娜助陣JINUSEAN新歌《再說一遍》" (ภาษาจีน). 韓星網. 2015-04-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-29.
  31. 31.0 31.1 "SUA不在新女團成員名單中 YG稱將有新人物!". 韓星網 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-30.
  32. 박소영 기자 (August 8, 2016). "블랙핑크, 이번엔 몽환+섹시..NEW 타이틀곡은 '휘파람'". OSEN (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-10. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
  33. 박소영 기자 (August 8, 2016). ""YG의 청초꽃 떴다"..블랙핑크 지수, 개인 포스터 공개". OSEN (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-23. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
  34. "YG Entertainment to reveal their new girl group one member per week starting this week" (ภาษาอังกฤษ). allkpop. 2016-05-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-02. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  35. "YG新女團終於揭開神秘面紗 本週起依次公開成員" (ภาษาจีน). kpopstarz中文網. 2016-05-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-10. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  36. "YG新女團成員公開 JENNIE KIM首發" (ภาษาจีน). 韓星網. 2016-06-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-02. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  37. "YG新女團第二名成員公開:高顏值實力派Lisa" (ภาษาจีน). 韓星網. 2016-06-08. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-12. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  38. "YG新女團第三名成員公開:JISOO" (ภาษาจีน). 韓星網. 2016-06-15. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-31. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  39. "YG公開新女團第四名成員Rose 曾為G-DRAGON歌曲神秘配唱" (ภาษาจีน). 韓星網. 2016-06-22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-25. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
  40. 最終決定只有4人!每個都是門面級別的新YG女團Black Pink正式準備出道! เก็บถาวร 2016-07-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนvlovekpop
  41. Kim Yu-young (August 9, 2016). "YG Entertainment unveils K-pop group BLACKPINK". Kpop Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-06. สืบค้นเมื่อ August 12, 2016.
  42. Benjamin, Jeff (August 16, 2016). "BLACKPINK's Major Debut: New K-Pop Girl Group Lands No. 1 & 2 on World Digital Songs Chart". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-10. สืบค้นเมื่อ August 16, 2016.
  43. Jeon Su Mi (August 10, 2016). "Blackpink Sweeping Charts Within 2 Days of Debut". Mwave. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 13, 2016. สืบค้นเมื่อ August 13, 2016.
  44. Cumulative sales for "Whistle":
  45. "BLACKPINK wraps up performances for their debut single… "Will come back quickly"". YG-Life. YG Entertainment. September 12, 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ September 16, 2016.
  46. 미모에 실력까지…인기가요 블랙핑크 등장에 남심 '흔들'. Herald Business (ภาษาเกาหลี). August 15, 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 24, 2020. สืบค้นเมื่อ August 15, 2016.
  47. "BLACK PINK ทำสถิติเกิร์ลกรุ๊ป 1st Win เร็วที่สุดหลังเดบิวท์". Hallyu K. 21 August 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-12. สืบค้นเมื่อ 12 December 2016.
  48. "'D-7' 블랙핑크, 타이틀곡은 '불장난'..첫 티저 공개 '강렬+섹시'". Naver. October 25, 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-08. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
  49. "[단독] 블랙핑크, 1월6일 '인기가요'+10일 '엠카' 연속 컴백 확정". October 29, 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 16, 2020. สืบค้นเมื่อ November 6, 2016.
  50. Benjamin, Jeff (November 11, 2016). "Blackpink Earn Second No. 1 on World Digital Songs, Debut on Social 50". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ November 11, 2016.
  51. "A Timeline of Blackpink's History-Making Accomplishments". Billboard. July 28, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2020. สืบค้นเมื่อ July 30, 2020.
  52. "2016년 45주차 Digital Chart". Gaon Digital Chart. Korea Music Industry Content Association. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 30, 2019. สืบค้นเมื่อ June 22, 2017.
  53. "'AAA' 조진웅∙엑소 대상…방탄소년단∙박보검∙윤아 2관왕 [종합]". TV Daily. November 16, 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 13, 2018. สืบค้นเมื่อ January 4, 2018.
  54. Hicap, Jonathan (November 21, 2016). "EXO, BTS, TWICE triumph at Melon Music Awards". Manila Bulletin. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-03. สืบค้นเมื่อ January 4, 2019.
  55. "The 31st Golden Disk Awards nominations are revealed". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
  56. "ASeoul Music Awards". Seoul Music Awards. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 14, 2013. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
  57. "[6th 가온차트]"더 없이 공정했다"..엑소 4관왕·블랙핑크 3관왕(종합)". Herald Pop. February 22, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 7, 2017. สืบค้นเมื่อ January 4, 2018.
  58. Herman, Tamar (December 21, 2016). "10 Best New K-Pop Groups in 2016". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ June 22, 2017.
  59. Jie, Ye-eun (January 17, 2017). "BLACKPINK reveals fan club name". The Korea Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-05. สืบค้นเมื่อ July 11, 2018.
  60. Kim, Jae-heun (June 22, 2017). "BLACKPINK reveals digital single before Japanese showcase". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-22. สืบค้นเมื่อ 2017-08-19.
  61. Benjamin, Jeff. "Blackpink Score Third No. 1 on World Digital Song Sales Chart, Lead K-Pop Females". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-29. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
  62. Fernandez, Suzette (September 7, 2017). "Latin Artists Take Over YouTube's Top 25 Global Songs of the Summer". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ January 4, 2018.
  63. "Blackpink now have the most liked K-pop girl group MV on YouTube" (ภาษาอังกฤษ). SBS Australia. September 18, 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ November 6, 2017.
  64. "Blackpink Breaks Another K-Pop Group Record, This Time For Most MV Views in 24 Hours". Soompi (ภาษาอังกฤษ). June 23, 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ July 30, 2020.
  65. "BLACKPINK、遂に初お披露目パフォーマンス ファン1万4000人とピンク一色の会場に<ライブレポ/セットリスト> – モデルプレス". モデルプレス – ライフスタイル・ファッションエンタメニュース (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 21, 2017. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 21, 2017.
  66. 史上初!BLACKPINKが日本デビュー前に武道館、1万人超熱狂. SANSPO.COM (ภาษาญี่ปุ่น). 2017-07-20. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-29. สืบค้นเมื่อ July 21, 2017.
  67. 블랙핑크, 日 오리콘 주간차트 1위.."데뷔앨범 역대 3번째" (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 18, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2017.
  68. Total album sales for Blackpink (Jn)
  69. "2017年08月28日~2017年09月03日 オリコン週間 アルバムランキング". Oricon News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ July 30, 2020.
  70. "2017年08月28日~2017年09月03日 オリコン週間 CDアルバムランキング". ORICON NEWS (ภาษาญี่ปุ่น). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-06. สืบค้นเมื่อ 2017-09-06.
  71. Jeon, Ah-ram (December 29, 2017). "[공식] 블랙핑크 첫 리얼리티 '블핑하우스', 1월6일 첫방…12회 방송". X Sport News (ภาษาเกาหลี). Naver. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ September 15, 2020.
  72. "リパッケージアルバム『Re: Blackpink』3月28日(水)リリース決定!". YGEX (ภาษาญี่ปุ่น). January 30, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 16, 2020. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
  73. Herman, Tamar. "BlackPink Release 'Square Up' EP Fronted by Sharp-Shooting 'Ddu-Du Ddu-Du' Music Video". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 12, 2019. สืบค้นเมื่อ June 15, 2018.
  74. Copsey, Rob. "Years and Years' If You're Over Me hits Number 1 on the Official Trending Chart". Official Charts UK. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 24, 2018. สืบค้นเมื่อ June 22, 2018.
  75. "BlackPink Chart History". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-24. สืบค้นเมื่อ 2018-12-15.
  76. Herman, Tamar (June 25, 2018). "Blackpink Becomes Highest-Charting K-Pop Girl Group in America With 'Square Up' & 'Ddu-Du Ddu-Du'". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 27, 2018. สืบค้นเมื่อ June 26, 2018.
  77. Zellner, Xander (June 25, 2018). "Blackpink Makes K-Pop History on Hot 100, Billboard 200 & More With 'DDU-DU DDU-DU'". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 28, 2018. สืบค้นเมื่อ June 26, 2018.
  78. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
  79. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 6, 2019. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
  80. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 14, 2020. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
  81. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
  82. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
  83. "Black Pink's Ddu-Du Ddu-Du music video scores 36.2 million views in first 24 hours". Metro UK. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 5, 2018. สืบค้นเมื่อ July 5, 2018.
  84. 블랙핑크, 성공적인 일본 데뷔...쇼케이스 매진. Today Korea (ภาษาเกาหลี). July 25, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 19, 2018. สืบค้นเมื่อ August 20, 2018.
  85. "Blackpink、京セラドーム大阪にてツアーファイナル。ファンからのサプライズに涙". barks.jp (ภาษาญี่ปุ่น). December 25, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 17, 2019. สืบค้นเมื่อ May 7, 2019.
  86. "Blackpink to Hold Group's First Ever Concert in Seoul… Fan Club BLINK Will Gather for the First Time". YG Life. September 12, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2020. สืบค้นเมื่อ September 16, 2018.
  87. Moom, Kat (June 26, 2020). "Blackpink on the Message of New Single 'How You Like That'". Time. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 28, 2020. สืบค้นเมื่อ July 11, 2020.
  88. Brooks, Hayden (September 4, 2018). "Dua Lipa Announces Blackink Collab 'Kiss And Make Up': Get The Details". iHeartMedia. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 29, 2019. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
  89. Benjamin, Jeff (October 29, 2018). "Blackpink Score Second Hot 100 Entry Thanks to 'Kiss and Make Up' With Dua Lipa". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 30, 2018. สืบค้นเมื่อ December 27, 2018.
  90. Ainsley, Helen (October 26, 2018). "Blackpink are officially the first ever female K-pop group to enter the Official UK Top 40". Official Charts Company. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2018. สืบค้นเมื่อ December 27, 2018.
  91. Kelley, Caitlyn (October 23, 2018). "Blackpink Go Global By Signing With Interscope". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2020. สืบค้นเมื่อ October 23, 2018.
  92. "Black Pink Will be in Your Area in 2019 With an Asia Tour". MTV Asia. November 1, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ December 28, 2018.
  93. "Black Pink's Jennie Makes Her "Solo" Debut and the Internet is Already in Love with It". MTV Asia. November 13, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ December 28, 2018.
  94. "フルアルバム「Blackpink in Your Area」を11月23日(金)0:00より全曲先行配信決定!". Blackpink Official Website (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 28, 2018. สืบค้นเมื่อ November 28, 2018.
  95. "週間 アルバムランキング 2018年12月17日付(2018年12月03日~2018年12月09日)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2018. สืบค้นเมื่อ December 12, 2018.
  96. Stutz, Colin (February 8, 2019). "Blackpink to Make US Performance Debut at Universal Music's Grammy Artist Showcase". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ February 9, 2019.
  97. Herman, Tamar (February 6, 2019). "Blackpink to Perform on 'The Late Show'". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ February 7, 2019.
  98. "Blackpink to appear on CBS talk show hosted by comedian Stephen Colbert". The Korea Herald. February 7, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ February 7, 2019.
  99. Benjamin, Jeff (February 5, 2019). "Blackpink Land 'Good Morning America' Performance in K-Pop's Latest Mainstream Move". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ February 6, 2019.
  100. "Blackpink becomes first Korean cover girls for Billboard". The Korea Herald. March 1, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2020. สืบค้นเมื่อ March 4, 2019.
  101. "Blackpink to drop new album, "Kill This Love", next month". The Korea Herald. March 25, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 30, 2020. สืบค้นเมื่อ March 25, 2019.
  102. Zellner, Xander (April 15, 2019). "Blackpink's 'Kill This Love' Makes K-Pop History on Hot 100 & Billboard 200 Charts". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 16, 2019. สืบค้นเมื่อ May 4, 2019.
  103. "The 100 Best Songs of 2019: Staff List". Billboard. November 12, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 2, 2020. สืบค้นเมื่อ December 15, 2019.
  104. "South Korean single certifications – Blackpink – Forever Young" (ภาษาเกาหลี). Korea Music Content Association (KMCA). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 20, 2019. สืบค้นเมื่อ December 13, 2019.
  105. Adejobi, Alicia (January 3, 2019). "Blackpink Become First K-pop Girl Group to Perform at Coachella as They Join Ariana Grande on 2019 Line-up". Metro. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ January 3, 2019.
  106. Ginsberg, Gab (April 13, 2019). "Blackpink Rule Coachella With Electrifying Debut Performance". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ September 15, 2020.
  107. Willman, Chris (April 12, 2019). "Blackpink Win Over Coachella With First Full U.S. Concert". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ April 30, 2019.
  108. "Kill This Love Japanese Version". Apple Music. Apple Inc. October 16, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
  109. "블랙핑크, 오늘(18일) 데뷔 후 처음 日 '엠스테' 출연". Starnews. October 18, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
  110. "The Break the Internet Awards™ 2019 Winners". PAPER. January 15, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 15, 2020. สืบค้นเมื่อ December 17, 2020.
  111. Daw, Stephen (April 22, 2020). "Lady Gaga Confirms 'Chromatica' Track List, With Some Star-Studded Guests". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 23, 2020. สืบค้นเมื่อ April 22, 2020.
  112. Lady Gaga; Blackpink (May 28, 2020). "Sour Candy – Single by Lady Gaga & BLACKPINK on Apple Music". music.apple.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-10. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
  113. Rolli, Bryan (June 10, 2020). "Blackpink Reached A New Hot 100 Peak With 'Sour Candy,' But Their Next Single Could Chart Even Higher". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-24. สืบค้นเมื่อ June 11, 2020.
  114. "Blackpink hit ARIA Top 10 with Lady Gaga's "Sour Candy"". SBS PopAsia. June 8, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
  115. "Lady Gaga's Chromatica is the fastest-selling album of 2020". BBC. June 5, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 30, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
  116. Moon, Wan-sik (May 4, 2020). [단독] 블랙핑크, 6월 컴백..YG "정확한 날짜 팬들에게"(종합). Star News (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ May 4, 2020.
  117. 블랙핑크 측 "첫 정규앨범 작업 끝…오는 9월 발표 예정" [공식]. Sports DongA. May 18, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2020. สืบค้นเมื่อ May 18, 2020.
  118. [공식입장] YG "블랙핑크, 로제·리사·지수 솔로곡 낸다…9월 정규앨범 이후 순차 발표". Mydaily. June 1, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
  119. 119.0 119.1 "블랙핑크, 새 단독 리얼리티 론칭…팬들과 적극 소통한다". Herald Pop (ภาษาเกาหลี). June 13, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2020. สืบค้นเมื่อ June 13, 2020.
  120. [공식입장] YG "블랙핑크, 로제·리사·지수 솔로곡 낸다…9월 정규앨범 이후 순차 발표". Sports Hankooki. June 10, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 29, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
  121. '컴백 D-10' 블랙핑크, '하우 유 라이크 댓' 타이틀 포스터 공개. SpotvNews. June 16, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ June 17, 2020.
  122. Hwang, Ji-young (July 9, 2020). 아이유, 가온차트 6월 2관왕…2개월 연속 기록. Daily Sports (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 21, 2020. สืบค้นเมื่อ July 9, 2020 – โดยทาง Naver.
  123. "Blackpink's return sets new YouTube records with How You Like That". Guinness World Records. June 30, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 1, 2020. สืบค้นเมื่อ September 3, 2020.
  124. "YouTube Music's top songs and trends of summer 2020". Youtube Official Blog. September 2, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2020. สืบค้นเมื่อ October 1, 2020.
  125. Hicap, Johnathan (August 31, 2020). "BTS bags all 4 awards, BLACKPINK wins first trophy at 2020 MTV Video Music Awards". Manila Bulletin. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 29, 2020. สืบค้นเมื่อ August 31, 2020.
  126. "BLACKPINK to Release Second New Single on August… Shocking Collaboration Coming Up". YG LIFE. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ July 24, 2020.
  127. Hong, Seung-han (August 4, 2020). 블랙핑크, 두번째 신고 8월 28일 발표[공식]. Sports Seoul (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 31, 2020. สืบค้นเมื่อ August 4, 2020.
  128. Trust, Gary (September 8, 2020). "Blackpink Hits New Hot 100 High With Debut of Selena Gomez Collab 'Ice Cream'". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 10, 2020. สืบค้นเมื่อ September 9, 2020.
  129. McIntyre, Hugh. "Blackpink Pass BTS As The Korean Musicians with the Most Top 40 Hits in the U.K." Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 6, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  130. Iasimone, Ashley (September 27, 2020). "Blackpink Announces New Single From 'The Album'". Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 28, 2020. สืบค้นเมื่อ September 28, 2020.
  131. Caulfield, Keith (October 11, 2020). "21 Savage & Metro Boomin's 'Savage Mode II' Debuts at No. 1 on Billboard 200 Chart". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ October 13, 2020.
  132. "UK Top 100 Albums Chart". Official Charts UK. October 9, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 30, 2018. สืบค้นเมื่อ October 10, 2020.
  133. Oh, Bo-ram (October 7, 2020). 블랙핑크, 걸그룹 초동 기록 하루만에 깼다…59만장 판매고 [Blackpink, broke first-week sales record in just one day... 590,000 copies sold] (ภาษาเกาหลี). Yonhap News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 14, 2020. สืบค้นเมื่อ October 13, 2020 – โดยทาง Naver.
  134. Yoon, So-yeon (October 26, 2020). "Blackpink becomes first-ever million-selling K-pop girl group". Korea Joongang Daily. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 26, 2020. สืบค้นเมื่อ October 30, 2020.
  135. Zornosa, Laura (October 21, 2020). "K-pop group Blackpink tells Jimmy Kimmel: 'We're very girly, but ... very savage too'". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 21, 2020. สืบค้นเมื่อ October 22, 2020.
  136. 136.0 136.1 Benjamin, Jeff (September 8, 2020). "Blackpink's Netflix Documentary Marks Streaming Service Diving into K-Pop Originals". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 17, 2020. สืบค้นเมื่อ September 9, 2020.
  137. Shaw, Lucas (November 10, 2020). "November 2020: Blackpink Is the Biggest Pop Band In the World, A First For South Korea". Bloomberg. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ December 11, 2020.
  138. Herman, Tamar (November 17, 2020). "Why K-pop's Blackpink is the biggest band in the world and how BTS could be next, according to Bloomberg". South China Morning Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 17, 2020. สืบค้นเมื่อ December 11, 2020.
  139. Kaufman, Gil (December 17, 2020). "Here's Why Blackpink Is Postponing Their Virtual Concert". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 14, 2021. สืบค้นเมื่อ December 20, 2020.
  140. Aniftos, Rania (December 2, 2020). "Blackpink Announces 'The Show' Global Livestream Concert Experience". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ December 5, 2020.
  141. Dong, Sun-hwa (February 1, 2021). "BLACKPINK's 'THE SHOW' draws 280,000 viewers". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ March 17, 2021.
  142. BLACKPINK、アルバム『THE ALBUM-JP Ver.-』8月リリース オンラインライブ映像の完全収録も. Billboard Japan (ภาษาญี่ปุ่น). June 2, 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-02. สืบค้นเมื่อ June 2, 2021.
  143. Legaspi, Althea (June 23, 2021). "Blackpink to Release New 'Blackpink the Movie' in Theaters". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 25, 2021. สืบค้นเมื่อ June 25, 2021.
  144. POP, 헤럴드 (2022-07-06). "블랙핑크, 8월 완전체 컴백 확정..새 앨범 녹음 작업 막바지(공식)". 헤럴드팝 (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-06. สืบค้นเมื่อ 2022-07-06.
  145. "'Blackpink X PUBG Mobile 2022 In-Game Concert' with 3-D avatars to start end-July". Korea JoongAng Daily. July 12, 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-12. สืบค้นเมื่อ July 12, 2022.
  146. 지민경. "블랙핑크, 23일 인게임 콘서트 'THE VIRTUAL' 오픈..컴백 예열 본격화". Naver (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-22. สืบค้นเมื่อ 2022-07-22.
  147. Iasimone, Ashley (2022-07-24). "Blackpink Set 'Ready for Love' Music Video Release Date". Billboard (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-25. สืบค้นเมื่อ 2022-07-25.
  148. Paul, Larisha (August 8, 2022). "Blackpink Unveils 'Born Pink' Tour Dates, Plots Largest World Tour in the History of a K-Pop Girl Group". Rolling Stone (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 8, 2022. สืบค้นเมื่อ August 8, 2022.
  149. "BLACKPINK – 'BORN PINK' ANNOUNCEMENT TRAILER". YG Life (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 31, 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-07-31.
  150. Trust, Gary (August 29, 2022). "BLACKPINK's 'Pink Venom' Blasts in at No. 1 on Billboard Global Charts". Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 29, 2022. สืบค้นเมื่อ August 29, 2022.
  151. Trust, Gary (September 6, 2022). "BLACKPINK's 'Pink Venom' Tops Billboard Global Charts For Second Week". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 6, 2022.
  152. "Digital Chart – Week 35 of 2022". Circle Chart (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ September 1, 2022.
  153. Rutherford, Kevin (September 1, 2022). "BLACKPINK Achieves This First-Time Feat on Streaming Songs Chart With 'Pink Venom'". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 1, 2022.
  154. "Blackpink make ARIA Chart history". Australian Recording Industry Association. August 26, 2022. สืบค้นเมื่อ August 26, 2022.
  155. "Blackpink, Jack Harlow, Lizzo, And Måneskin Will Perform At The VMAs". MTV (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 15, 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-08-15.
  156. McNab, Kaitlyn (August 28, 2022). "VMAs 2022 Winners: See the Full List Here". Teen Vogue (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 29, 2022. สืบค้นเมื่อ August 29, 2022.
  157. Trust, Gary (September 26, 2022). "BLACKPINK's 'Shut Down' Launches at No. 1 on Billboard Global Charts". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 26, 2022.
  158. "Digital Chart – Week 39 of 2022". Circle Chart (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ September 29, 2022.
  159. Rutherford, Kevin (September 29, 2022). "BLACKPINK Nabs Third Streaming Songs Chart Top 10 With 'Shut Down'". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 29, 2022.
  160. Hong Se-young (September 22, 2022). "블랙핑크 더블 밀리언셀러, YG "K팝 걸그룹 최초" [공식]" [Blackpink Double Million Seller, YG “The First K-Pop Girl Group” [Official]]. Sports Donga (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 22, 2022. สืบค้นเมื่อ September 22, 2022.
  161. Keith, Caulfield (September 25, 2022). "Blackpink's 'Born Pink' Debuts at No. 1 on Billboard 200 Albums Chart". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 25, 2022. สืบค้นเมื่อ September 25, 2022.
  162. "BLACKPINK make history as BORN PINK hits Number 1". www.officialcharts.com (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 23, 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-23.
  163. Lee, Jae-hoon (25 September 2022). "블랙핑크, 곧 K팝 걸그룹의 역사…방탄소년단 명성 잇는다" [Blackpink, the history of K-pop girl groups ... BTS' fame continues]. Newsis (ภาษาเกาหลี). Naver. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2022. สืบค้นเมื่อ 25 September 2022.
  164. "Bad Bunny's Un Verano Sin Ti announced as winner of IFPI's Global Album Award". International Federation of the Phonographic Industry (ภาษาอังกฤษ). February 24, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 24, 2023. สืบค้นเมื่อ February 24, 2023.
  165. Staff, ABS-CBN News (December 6, 2022). "Blackpink is TIME's 2022 entertainer of the year". ABS-CBN News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ December 6, 2022.
  166. Paul, Larisha (August 2, 2022). "Blackpink Unveils 'Born Pink' Tour Dates, Plots Largest World Tour in the History of a K-Pop Girl Group". Rolling Stone (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 2, 2022. สืบค้นเมื่อ August 2, 2022.
  167. Yoon, So-yeon (January 29, 2023). "Blackpink performs at Le Gala des Pièces Jaunes". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ January 29, 2023.
  168. Singh, Surej (January 9, 2023). "Blackpink add shows in Singapore, Macau and Taiwan to Asia leg of 'Born Pink' world tour". NME (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 9, 2023. สืบค้นเมื่อ January 9, 2023.
  169. Brandle, Lars (February 1, 2023). "BlackPink Sets 'Born Pink' Australia Tour". Billboard (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 1, 2023. สืบค้นเมื่อ February 1, 2023.
  170. Paul, Larisha; Mier, Tomás (January 10, 2023). "Bad Bunny and Blackpink Make History as 2023 Coachella Headliners, Frank Ocean Makes Grand Return". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 10, 2023. สืบค้นเมื่อ January 10, 2023.
  171. Krol, Charlotte (October 21, 2022). "BLACKPINK to headline BST Hyde Park London in 2023". NME. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 21, 2022. สืบค้นเมื่อ October 21, 2022.
  172. Muhammad, Latifah (August 14, 2023). "BLACKPINK's Born Pink 'Encore' Tour: Where to Buy Tickets Online for Cheap". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 26, 2023. สืบค้นเมื่อ August 14, 2023.
  173. Ziwei, Puah (May 19, 2023). "Hear a preview of BLACKPINK's new song 'The Girls'". NME. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 22, 2023. สืบค้นเมื่อ May 22, 2023.
  174. Zoe, Guy (August 25, 2023). "Blackpink: The Game: the Song Is Streaming Now". Vulture (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 25, 2023. สืบค้นเมื่อ August 26, 2023.
  175. McIntyre, Hugh (September 13, 2023). "Blackpink Made History At The 2023 MTV Video Music Awards With An Important Win". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 30, 2023. สืบค้นเมื่อ September 13, 2023.
  176. Yeo, Gladys (August 16, 2023). "BLACKPINK announce 'Born Pink' world tour finale with two shows in Seoul". NME (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 16, 2023. สืบค้นเมื่อ August 18, 2023.
  177. Sng, Suzanne (April 27, 2023). "Blackpink's Born Pink breaks Spice Girls' record to become highest grossing tour by a female group". Straits Times (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 12, 2023. สืบค้นเมื่อ August 18, 2023.
  178. Go, Seung-ah (September 17, 2023). ""올해 7주년, 앞으로도 멋있는 블랙핑크 될 것...사랑해" [N현장]" ["This year's 7th anniversary, we will continue to be a great Blackpink... I love you" [N Site]]. News1 (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 21, 2023. สืบค้นเมื่อ September 17, 2023.
  179. Min-ji, Lee (September 20, 2023). "블랙핑크, 전 세계 211만 열광한 'BORN PINK' 투어" [BLACKPINK's 'BORN PINK' tour attracted 2.11 million people worldwide]. Newsen (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 21, 2023. สืบค้นเมื่อ September 20, 2023.
  180. Mulenga, Natasha (2020-10-02). "Blackpink's The Album Has A Song For Every Mood". MTV News (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 3, 2020. สืบค้นเมื่อ 2022-05-31.
  181. Kang, Haeryun (2022-05-26). "Jennie on Blackpink's Unique Brand of Hip-Hop and What People Get Wrong About Her". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ May 26, 2022.
  182. Chan, Tim (2 October 2020). "Blackpink's 'The Album' Is an Adrenaline Shot That Wears Off a Little Too Quick". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
  183. Lipshutz, Jason (2 October 2020). "Every Song Ranked on Blackpink's 'The Album': Critic's Picks". Billboard. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
  184. Ahlgrim, Callie; Haasch, Palmer; Choi, Inyoung (2 October 2020). "Blackpink's 'The Album' is a glossy 8-track party playlist you'll want to play in every area". Insider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 4, 2020. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
  185. Hwang Mi-hyun; Ahn Tae-hyun (December 31, 2022). "빌보드 정상 찍고 글로벌 '셀럽' 등극한 블랙핑크 [2022 결산]" [BLACKPINK, which reached the top of the Billboard charts and became a global 'celebrity' [2022 settlement]]. News1 (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 31, 2022. สืบค้นเมื่อ December 31, 2022 – โดยทาง Naver.
  186. Tai, Chloe (October 13, 2020). "Blackpink's 'The Album': Latest genre-defying masterpiece in K-pop". The Daily Targum. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2020. สืบค้นเมื่อ June 2, 2022.
  187. Chon, Monica (22 July 2020). "Blackpink Collaborates with Selena Gomez on Flirty New Song "Ice Cream"". Oprah Daily (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 19, 2021. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
  188. "Black Pink's "As If It's Your Last" Is An Effective Summer Song". Seoulbeats (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2017-06-25. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-06-27. สืบค้นเมื่อ 2022-07-06.
  189. Sherman, Maria (September 17, 2020). "Blackpink in Your Area (and Everywhere)". Elle. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 12, 2020. สืบค้นเมื่อ September 18, 2020.
  190. Raj, Tanu (September 29, 2020). "Blackpink Talk 'The Album': "The Spotlight Shed On K-Pop Is Just The Beginning"". The Recording Academy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ September 29, 2020.
  191. Sherman, Maria (July 13, 2020). "Start Here: Your Guide To Getting Into K-Pop". NPR. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
  192. Glasby, Taylor (May 13, 2020). "How Blackpink Became The Biggest K-Pop Girl Band on the Planet". Vogue. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
  193. 193.0 193.1 Feeney, Nolan (February 28, 2019). "Inside Blackpink's U.S. Takeover: How the K-Pop Queens Are Changing the Game". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ July 11, 2020.
  194. 195.0 195.1 Ramirez, Elaine (April 1, 2019). "BlackPink: The All-Girl K-Pop Group Following BTS's Footsteps And Taking Over The U.S." Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
  195. Reel, Evan (December 7, 2018). "How K-Pop Superstars Blackpink Are Rewriting the Girl Group Narrative". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 18, 2019. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
  196. Halls, Elanor (June 10, 2019). "The Blackpink revolution: how the K-Pop girl group became a global obsession". The Telegraph. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ August 10, 2020.
  197. Benjamin, Jeff (April 8, 2019). "Review: Blackpink's K-Pop Formula Keeps Working on 'Kill This Love'". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
  198. Kelley, Caitlin (April 3, 2019). "K-Pop Is More Global Than Ever, Helping South Korea's Music Market Grow into A 'Power Player'". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ August 24, 2020.
  199. "30 under 30 Asia 2019". Forbes (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2020. สืบค้นเมื่อ November 15, 2019.
  200. "Blackpink makes Time magazine's newly launched '100 Next' list". The Korea Herald. November 14, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 12, 2020. สืบค้นเมื่อ August 4, 2020.
  201. "Time 100 Next 2019: Blackpink". Time (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2020. สืบค้นเมื่อ November 15, 2019.
  202. Shaw, Lucas (November 10, 2020). "Blackpink Is the Biggest Pop Band In the World, A First For South Korea". Bloomberg. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ November 14, 2020.
  203. March 2022, Janine Henni Wednesday 16th. "Women Changing the Music Industry Today: 'I Deserve the Spotlight'". PEOPLE.com (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-03-18. สืบค้นเมื่อ 2022-03-18.
  204. Kang, Haeryun (2022-05-23). "How Blackpink Went From Strangers to Sisters to Pop Supernovas". Rolling Stone (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-04. สืบค้นเมื่อ 2022-05-23.
  205. "Blackpink are music group with highest number of YouTube subscribers". The Straits Times. September 10, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2020. สืบค้นเมื่อ November 4, 2019.
  206. "Blackpink now No. 1 female artist in the world by YouTube subscribers". koreajoongangdaily.joins.com (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 13, 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-04-13.
  207. "Blackpink Official Youtube Channel". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 26, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020 – โดยทาง YouTube.
  208. Chan, Anna (September 10, 2021). "BLACKPINK Now Has More YouTube Subscribers Than Justin Bieber: 'We Will Continue to Bring Positivity'". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 26, 2021. สืบค้นเมื่อ November 8, 2021.
  209. Park, Hyun-ik (December 16, 2019). "인스타그램 "올해 韓 트렌드는 '공감'…팔로워 상위 10위는 모두 아이돌"" [Instagram Reveals Korea's Most-Followed Accounts And Hashtags Of 2019]. Chosun Biz (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ August 5, 2020.
  210. Tamondong, Hanna (March 15, 2020). "Daebak! These Are The 10 K-Pop Idols with the Most Followers On Instagram". Cosmopolitan Philippines. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 2, 2020. สืบค้นเมื่อ July 11, 2020.
  211. Jayatilaka, Tania (July 9, 2020). "The 7 Most Popular Female K-Pop Stars On Instagram". Tatler Singapore (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2020. สืบค้นเมื่อ July 15, 2020.
  212. "BlackPink is Most Followed Girl Group on Spotify, Surpassing Fifth Harmony and Little Mix". KoogleTV. November 22, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 28, 2020. สืบค้นเมื่อ November 25, 2019.
  213. "블랙핑크, 스포티파이서 전세계 걸그룹 팔로워수 1위..피프스 하모니 넘었다[Oh!쎈 레터]". Osen. November 21, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 22, 2020. สืบค้นเมื่อ November 25, 2019.
  214. "Blackpink". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020 – โดยทาง Spotify.
  215. "엑소, 8월 가수 브랜드평판 1위…2위 블랙핑크, 3위 아이오아이 "소통지수 높다"...(Top K-Pop Singer Brand Power Rankings For August Revealed )". Naver. August 27, 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-31. สืบค้นเมื่อ September 12, 2016.
  216. "블랙핑크, 9월 걸그룹 브랜드평판 1위…2위 아이오아이...(BLACKPINK Is Ranked As #1 Girl Group With Highest Brand Reputation)". Naver. September 10, 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-31. สืบค้นเมื่อ September 10, 2016.
  217. Benjamin, Jeff (January 26, 2020). "Blackpink, Pharrell Williams, Anitta, Jackson Wang & More Star in Adidas' New Campaign: Watch". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  218. "파라다이스시티, 블랙핑크 남주혁 새 모델 기용" [Paradise City, Appointed Blackpink, Nam Joo-hyuk as New Models]. Sports Donga (ภาษาเกาหลี). March 20, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 23, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  219. "블랙핑크, 컬러렌즈 인연…'오렌즈' 전속 모델 발탁" [Blackpink, Selected as Olens's Exclusive Models]. Money Today (ภาษาเกาหลี). July 9, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-12. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  220. Abelman, Devon (October 5, 2018). "K-Pop Group Blackpink Is About to Drop a Rose-Gold Hair Dye". Allure. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 24, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  221. Lee, Eunji (July 28, 2018). "대세는 '블랙핑크'... 7월 가수 브랜드 평판 1위" [The Trend is 'Blackpink'... No.1 Singer Brand Reputation]. Kyeonggi Ilbo (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ August 19, 2018.
  222. Lee, Eunji (August 23, 2020). "[공식]블랙핑크, 방탄소년단 누르고 8월 가수 브랜드 평판 1위…3위 임영웅" [Blackpink beats BTS to top Singer Brand Reputation in August... #3 Lim Young-woong]. Sports Chosun (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-12. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  223. Kim, Sung-won (May 2, 2017). "블랙핑크, 인천세관 홍보대사 위촉 "신고 문화 정착"" [Blackpink appointed as Incheon Main Customs' ambassadors for "improvement in reporting culture"]. Sports Chosun (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 12, 2020. สืบค้นเมื่อ October 1, 2020.
  224. Park, Joo-sung (April 26, 2018). "스프라이트, 새 광고 모델에 블랙핑크 X 우도환 동반 발탁". Newsis (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 12, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  225. "Blackpink promotes Woori". The Korea Times. April 18, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 22, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  226. "4/19(木)~グローバル スポーツブランド「Puma」の新商品「Puma Suede Bow」(プーマ スウェード ボウ)のイメージモデルに決定!". YGEX (ภาษาญี่ปุ่น). April 17, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 14, 2020. สืบค้นเมื่อ July 7, 2018.
  227. "Black Pink show off their sneaker game". The Korea Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 18, 2020. สืบค้นเมื่อ March 14, 2017.
  228. ""Taeyang· Winner· Blackpink·CL"… Artists From YG Gathers For The 'First Time' [Pictorial]". YG Life. March 19, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 29, 2019. สืบค้นเมื่อ July 7, 2018.
  229. "Black pink first appearance! Get a lip that rocks the heart with the new lip "Rouge Dior Liquid"" (ภาษาญี่ปุ่น). Elle Girl Japan. August 9, 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-01. สืบค้นเมื่อ July 11, 2018.
  230. "블랙핑크, 데뷔하자마자 핫 '광고계 관심'". Chosun.com (ภาษาเกาหลี). The Chosun Ilbo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-01. สืบค้นเมื่อ March 14, 2017.
  231. "세인트스코트, 새 얼굴에 YG신예 '블랙핑크'". Fashion Seoul (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-21. สืบค้นเมื่อ March 14, 2017.
  232. "2018 New Year's 109 Blackpink and iKON". 109 News (ภาษาญี่ปุ่น). Shibuya 109. December 22, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 13, 2020. สืบค้นเมื่อ July 11, 2018.
  233. "Serious announcement from the Korean Girls Group Blackpink and Cecil McBee that the world draws attention!". 109 News (ภาษาญี่ปุ่น). Shibuya 109. March 31, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ July 11, 2018.
  234. "'외모도, 마음도 천사'...블랙핑크, 엘르 스타일어워즈 상금 기부". n.news.naver.com (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ July 12, 2020.
  235. [단독] 위너 김진우, 강원도 산불 피해에 1000만원 기부. Kuki News (ภาษาเกาหลี). April 8, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-08. สืบค้นเมื่อ April 8, 2019.
  236. Nordyke, Kimberly; Howard, Annie (November 10, 2019). "People's Choice Awards: 'Avengers: Endgame' Named Best Movie". The Hollywood Reporter. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-03-06. สืบค้นเมื่อ October 1, 2020.
  237. Todisco, Eric (August 11, 2019). "Teen Choice Awards 2019: See the Complete List of Winners". People. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 12, 2019. สืบค้นเมื่อ August 12, 2019.
  238. "Blackpink takes home Song of the Summer award at VMAs". Korea JoongAng Daily. August 31, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 31, 2020. สืบค้นเมื่อ October 15, 2020.
  239. Gaon Chart Music Awards for Blackpink:
  240. Golden Disc Awards for Blackpink:
  241. Melon Music Awards for Blackpink:
    • "Melon Music Awards" (To view, select the respective year of the award ceremony and scroll down to the listed award.) (ภาษาเกาหลี). Melon. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 26, 2019. สืบค้นเมื่อ August 3, 2019.
    • Noh, Man-young (November 11, 2020). MMA2020 TOP10 투표 진행 중...방탄소년단 1위 [MMA2020 TOP10 Voting in progress...BTS #1]. Culture News MHN (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 11, 2020. สืบค้นเมื่อ November 11, 2020.
  242. Mnet Asian Music Awards for Blackpink:
  243. Yoon, Min-sik (January 20, 2017). "EXO sweeps music awards". The Korea Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-18. สืบค้นเมื่อ January 9, 2020.
  244. Yoon, Min-sik (January 26, 2018). "BTS wins big at Seoul Music Awards". The Korea Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 16, 2018. สืบค้นเมื่อ January 9, 2020.
  245. Thorne, Dan (June 30, 2020). "BlackPink single "How You Like That" smashes three and receives two new records on YouTube". Guinness World Records. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 1, 2020. สืบค้นเมื่อ June 30, 2020.
  246. Herman, Tamar (January 23, 2019). "Blackpink's 'Ddu-Du Ddu-Du' Becomes Most-Viewed Music Video From a K-Pop Group on YouTube". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ November 13, 2019.
  247. Rolli, Bryan (November 11, 2019). "Blackpink's 'Ddu-Du Ddu-Du' Becomes First K-Pop Group Video To Earn 1 Billion YouTube Views". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 13, 2020. สืบค้นเมื่อ November 13, 2019.
  248. "Blackpink break multiple world records with 'How You Like That' video". NME. July 1, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 4, 2020. สืบค้นเมื่อ July 4, 2020.
  249. Punt, Dominic (June 30, 2020). "Blackpink's return sets new YouTube records with How You Like That". Guinness World Records. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 1, 2020. สืบค้นเมื่อ July 4, 2020.
  250. "Most subscribers for a band on YouTube". Guinness World Records. April 22, 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 30, 2021. สืบค้นเมื่อ May 30, 2021.
  251. Lee, Jung-hyun (December 3, 2020). "CJ ENM 선정 '10대 대중문화 인물'에 BTS·블랙핑크·봉준호 등". Yonhap News (ภาษาเกาหลี). Naver. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-04-08. สืบค้นเมื่อ December 7, 2020.
  252. 253.0 253.1 253.2 253.3 Vincent, Brittany (February 12, 2019). "Everything To Know About Blackpink (Before They're in Your Area)". MTV. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 5, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
  253. [공식] 블랙핑크 첫 리얼리티 '블핑하우스', 1월6일 첫방…12회 방송 (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 16, 2020. สืบค้นเมื่อ January 5, 2018.
  254. "'YG전자' 승리가 이끈 YG 셀프디스, B급유머 폭발..박봄·남태현 등장(종합)[Oh!쎈 리뷰]". osen.co.kr (ภาษาเกาหลี). October 5, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 5, 2018. สืบค้นเมื่อ October 5, 2018.
  255. Dong, Sun-hwa (June 16, 2021). "'BLACKPINK THE MOVIE' to hit local theaters in August". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 16, 2021. สืบค้นเมื่อ June 16, 2021.
  256. Bowenbank, Starr (December 1, 2022). "BLACKPINK Reflects on 'Born Pink' Era With 'Born Pink Memories': See the Teaser". Billboard. สืบค้นเมื่อ December 1, 2022.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้