มุน แจ-อิน
มุน แจ-อิน (เกาหลี: 문재인; ฮันจา: 文在寅, เสียงอ่านภาษาเกาหลี: /mun.dʑɛ.in/;[a]; เกิด 24 มกราคม พ.ศ. 2496) เป็นอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน พรรคมินจู ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ถึงปี พ.ศ. 2559 เขาเคยเป็นนักกฎหมาย และหัวหน้าคณะทำงานของอดีตประธานาธิบดี โน มู-ฮย็อน ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555 เขาชนะการเลือกตั้งในเขตซาแซง, ปูซาน ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 มุนได้รับเลือกเป็นตัวแทนของพรรครวมประชาธิปไตย ให้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในปี 2555 หลังจากได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรค แต่เขาก็พ่ายแพ้ให้แก่ประธานาธิบดี พัก กึน-ฮเย ในการเลือกตั้งครั้งนั้น
มุน แจ-อิน | |
---|---|
문재인 | |
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ คนที่ 12 | |
ดำรงตำแหน่ง 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 – 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 | |
นายกรัฐมนตรี | ฮวัง กโย-อัน ยู อิล-โฮ (รักษาการ) ลี นัก-ยอน ช็อง เซ-กยุน ฮง นัม-กี (รักษาการ) คิม บูคยุม |
ก่อนหน้า | ฮวัง กโย-อัน (รักษาการ) |
ถัดไป | ยุน ซ็อก-ย็อล |
หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย | |
ดำรงตำแหน่ง 9 กมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 – 27 มกราคม พ.ศ. 2559 | |
ก่อนหน้า | อัน ช็อล-ซู, คิม ฮัน-กิล |
ถัดไป | คิม ช็อง-อิน (รักษาการ) |
สมาชิกรัฐสภา | |
ดำรงตำแหน่ง 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 – 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 | |
ก่อนหน้า | ชัง เจ-ว็อน |
ถัดไป | ชัง เจ-ว็อน |
เขตเลือกตั้ง | ซาซัง (ปูซาน) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 24 มกราคม พ.ศ. 2496 คยอเจ จังหวัดคย็องซังใต้ สาธารณรัฐเกาหลี |
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
พรรคการเมือง | พรรคประชาธิปไตย |
คู่สมรส | คิม จ็อง-ซุก |
บุตร | ลูกสาว 1, ลูกชาย 1 |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยคย็องฮี (กฎหมาย) |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | เกาหลีใต้ |
สังกัด | กองทัพสาธารณรัฐเกาหลี |
ประจำการ | พ.ศ. 2518–2521 |
ยศ | บย็องจัง |
ชื่อเกาหลี | |
ฮันกึล | 문재인 |
---|---|
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Mun Jaein |
เอ็มอาร์ | Mun Chaein |
ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา
แก้เกิดที่คอเจ, เกาหลีใต้ มุน แจ-อิน เป็นบุตรชายคนแรกของมุน ยง-ฮย็อง (บิดา) และ คัง ฮัน-อ๊ก (มารดา) มีพี่น้องทั้งหมดห้าคน บิดาของเขาเป็นผู้ลี้ภัยจากจังหวัดฮัมคย็องใต้ โดยบิดาของมุนหลบหนีออกมาจากเมืองเกิด ฮัมฮึง ระหว่างการล่าถอยฮัมฮึง บิดาของเขามาตั้งรกรากที่เมืองคอเจ โดยเป็นแรงงานที่ค่ายนักโทษสงครามคอเจ และในที่สุดแล้วครอบครัวของเขาก็ได้มาตั้งรกรากกันที่ปูซาน และมุนเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมัธยมคย็องนัม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ตั้งอยู่นอกโซล ต่อมาเขาเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยคย็องฮี ในสาขากฎหมาย โดยเขาถูกจับกุมและขับไล่ออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งในข้อหาที่เขาเป็นผู้จัดการนักศึกษาเพื่อประท้วงต่อต้านรัฐธรรมนูญยูซิน ต่อมาเขาถูกบังคับให้เข้าระดมพลในกองทัพ และถูกเกณฑ์เข้าไปอยู่ในหน่วยรบพิเศษ ที่ซึ่งเขาเข้ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการทางทหารระหว่างเหตุการณ์การฆาตกรรมโดยใช้ขวาน ภายหลังปลดประจำการ เขาสำเร็จการศึกษาเป็นเนติบัณฑิต และได้รับการตอบรับเข้าสู่สถาบันวิจัยทางตุลาการ และฝึกอบรม โดยเขาได้รับคะแนนสูงสุดเป็นลำดับสองในรุ่น แม้ว่าเขาจะทำคะแนนได้อย่างดีเยี่ยมในการอบรม แต่เขาไม่ได้รับการยอมรับให้เข้าเป็นผู้พิพากษา เนื่องจากเขาเคยเป็นผู้จัดการการประท้วงของนักศึกษา[1] และเขาได้เลือกที่จะเป็นทนายความแทน และในปี พ.ศ. 2559 เขาได้ก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคมินจู
อาชีพ
แก้ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
แก้เมื่อมุน แจ-อิน เป็นทนายความ เขาเป็นหุ้นส่วนและทำงานร่วมกับ โน มู-ฮย็อน[2] พวกเขาเป็นเพื่อนกันจนกระทั่งการถึงแก่อสัญกรรมของโน ในปี พ.ศ. 2552 ระหว่างทำงานร่วมกันโน เขาได้ทำคดีเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมือง เขาเป็นสมาชิกของมินบย็อน (กลุ่มทนายความเพื่อสังคมประชาธิปไตย) และประธานกลุ่มสิทธิมุษยชนที่เนติบัณฑิตยสภาปูซาน
ฮันคยอเร
แก้เขาเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์หัวก้าวหน้า ฮันคยอเร ในปี 2531[3]
การหาเสียงของโน มู-ฮย็อน
แก้เนื่องจากการยืนกรานของโน เขาจึงกลายเป็นผู้จัดการการหาเสียงของโน ในช่วงที่โนเสนอตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดี[4]
สมัยประธานาธิบดีโน มู-ฮย็อน
แก้ภายหลังจากโนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เขากลายเป็นหัวหน้าคณะทำงานและกลายเป็นผู้ใกล้ชิด
การถึงแก่อสัญกรรมของโน มู-ฮย็อน
แก้เมื่อพนักงานอัยการเริ่มสืบสวนโน มู-ฮย็อน ในข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวง มุนเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับโน ภายหลังจากโนกระทำอัตวิบาต มุนได้รับผิดชอบในงานพิธีศพและจัดการเกี่ยวกับธุระส่วนตัว การเปิดตัวของเขาต่อสาธารณชนอย่างสง่างามและมีความน่าไว้วางใจในฐานะผู้ช่วยมือขวาของโน ได้สร้างความประทับใจให้แก่สาธารณชน และกลุ่มเสรีนิยมในเกาหลีใต้ได้หนุนมุนให้เข้าเป็นตัวแทนในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้กับพรรคแซนูรี ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีผู้แทนคือ พัก กึน-ฮเย
เข้าสู่การเมือง
แก้มุนเริ่มต้นทำงานของเขาโดยเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยเขาตีพิมพ์หนังสือบันทึกความทรงจำของเขามีชื่อว่า มุน แจ-อิน: พรหมลิขิต ซึ่งได้กลายเป็นหนังสือขายดีเล่มหนึ่ง[5] ต่อมาความนิยมของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเรื่อยๆ ในการต่อสู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ พัก กึน-ฮเย เช่น จากการสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 มุนประสบความสำเร็จโดยได้รับความนิยมเท่ากันกับพัก[6]
มุนสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากความเสื่อมความนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยมท่านกลางเหตุการณ์อื้อฉาวเกี่ยวกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง ดังที่ผู้เชี่ยวชาญผู้หนึ่งได้กล่าวไว้ว่า "มุนสามารถบรรยายตัวของเขาเองเป็นคนที่มีความคิดเห็นไม่รุนแรงและเป็นผู้นำที่มีเหตุผล ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังกลุ่มคนรุ่นใหม่[7] ในช่วงต้นปี 2555 มุนเสนอตัวเขาชิงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาและดำเนินการหาเสียงทางตะวันตกของปูซาน และเขายังลงรับสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี ก่อนจะพ่ายแพ้ให้แก่ พัก กึน-ฮเย บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดี พัก ช็อง-ฮี[8]
ผู้นำฝ่ายค้าน
แก้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 มุนได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคพันธมิตรการเมืองใหม่เพื่อประชาธิปไตย ภายหลังจากหัวหน้าพรรคคนเก่า และคู่แข่งในการลงสมัครคัดเลือกประธานาธิบดี อัน ช็อล-ซู ออกจากพรรคไป มุนได้มองหานักการเมืองที่มีชื่อเสียงโดดเด่นหลายคน เช่น อดีตตำรวจ พโย ช็อง-ว็อน, นักวิจารย์การเมือง อี ช็อล-ฮี และอดีตเลขาธิการของประธานาธิบดีพัก โช อึง-ชุน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในปี พ.ศ. 2559 ภายหลังจากสรรหาบุคคลต่างๆเข้าสู่พรรค เขาได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อหลีกทางให้กับ คิม ช็อง-อิน[9]
ชีวิตส่วนตัว
แก้มุนสมรสแล้วและมีบุตรสาวหนึ่งคนและบุตรชายหนึ่งคน เขานับถือเป็นโรมันคาทอลิก
ประสบการณ์การทำงาน
แก้- มกราคม พ.ศ. 2559 - ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน
- ธันวาคม พ.ศ. 2555- ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ครั้งที่ 18
- พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - สมาชิกรัฐสภาเขตซาซัง, ปูซาน
- สิงหาคม พ.ศ. 2550 - ประธานการส่งเสริมการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-ใต้ ครั้งที่ 2
- มีนาคม พ.ศ. 2550 ~ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 - หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีโน มู-ฮย็อน
- มกราคม พ.ศ. 2548 ~ พฤษภาคม พ.ศ. 2549 - เลขานุการประธานาธิบดีอาวุโสสำหรับกิจการพลเรือน
- พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ~ มกราคม พ.ศ. 2548 - เลขานุการประธานาธิบดีอาวุโสสำหรับกิจการสังคม
- พ.ศ. 2546 ~ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 -เลขานุการประธานาธิบดีอาวุโสสำหรับกิจการพลเรือน
หมายเหตุ
แก้- ↑ แจ-อิน แบบเดี่ยวออกเสียงเป็น เสียงอ่านภาษาเกาหลี: /t͡ɕɛ.in/
อ้างอิง
แก้- ↑ "대선주자 인물탐구 민주통합당 문재인". 경남신문. 2012-08-13.
- ↑ http://www.tvreport.co.kr/?c=news&m=newsview&idx=188020"Tv report"
- ↑ UnMyeong (destiny). Seoul: Moon Jae In. 2011. pp. 196~205. ISBN 978-89-7777-188-8.
- ↑ UnMyeong (destiny). Seoul: Moon Jae In. 2011. pp. 196~205. ISBN 978-89-7777-188-8.
- ↑ Evan Ramstad Wall Street Journal, Moon Jae-in Steps Back Into the Spotlight, July 21, 2011
- ↑ "Presidential poll: Moon Jae-in neck-and-neck with Park Geun-hye Andy Jackson Feb 18, 2012". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-14. สืบค้นเมื่อ 2016-07-20.
- ↑ "Moon rises in open South Korea presidential race Reuters". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-29. สืบค้นเมื่อ 2016-07-20.
- ↑ Associated Press (19 December 2012). "Dictator's daughter elected South Korea's first female president". National Post. สืบค้นเมื่อ 19 December 2012.
- ↑ Associated Press (19 December 2012). "Dictator's daughter elected South Korea's first female president". National Post. สืบค้นเมื่อ 19 December 2012.
ข้อมูลเพิ่มเติม
แก้- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ มุน แจ-อิน
- แม่แบบ:Wikisource author-inline
- วิกิคำคม มีคำคมที่กล่าวโดย หรือเกี่ยวกับ มุน แจ-อิน
- มุน แจ-อิน บน Twitter
- Moon Jae-in Camp (ในภาษาเกาหลี)
- ข้อมูลการออกสื่อ บน ซี-สแปน
- มุน แจ-อิน ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส