วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร

พระอารามหลวงสำคัญประจำจังหวัดนครปฐม
(เปลี่ยนทางจาก องค์พระปฐมเจดีย์)

วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร[1] ตั้งอยู่ที่ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม มีจุดเด่นที่สำคัญคือ พระปฐมเจดีย์ หรือ พระธมเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่และสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย (120.45 เมตร)

วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
พระปฐมเจดีย์
แผนที่
ชื่อสามัญวัดพระปฐมเจดีย์
ที่ตั้งตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
ประเภทพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร
นิกายเถรวาท มหานิกาย
พระประธานพระศิลาขาว
พระพุทธรูปสำคัญพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธนรเชษฐ์
เจ้าอาวาสพระธรรมวชิรเจติยาจารย์ (ชัยวัฒน์ ปญฺญาสิริ)
ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส
ความพิเศษพระปฐมเจดีย์
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

องค์พระปฐมเจดีย์ปัจจุบันนี้ เป็นพระเจดีย์ทรงลังกา แบบสุโขทัย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งสร้างครอบเจดีย์เดิมถึงสององค์ ได้แก่ เจดีย์ทรงสถูปสาญจีตามแบบอินเดียยุคพระเจ้าอโศกมหาราช และเจดีย์ทรงขอมโบราณ

นอกจากองค์พระปฐมเจดีย์แล้ว ในลานชั้นลดด้านทิศใต้องค์พระปฐมเจดีย์และพระอุโบสถมีพระประธาน พระพุทธรูปศิลาขาว ซึ่งเป็นสองในสี่พระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาท ปางแสดงธรรม ที่สร้างขึ้นในยุคทวารวดี[2]

พระปฐมเจดีย์

องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทย อยู่ภายในวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร มีประวัติความเป็นมายาวนาน เชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระโคตมพุทธเจ้า

องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างเป็นไม้ซุง รัดด้วยโซ่เส้นมหึมา ก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ประกอบด้วยวิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้น ถือเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึงวันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็นประจำทุกปี

ประวัติ

องค์พระปฐมเจดีย์
พระธมเจดีย์
 
ภาพถ่ายองค์พระปฐมเจดีย์ในสมัยรัชกาลที่ 8
 
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทมหาธาตุเจดีย์/พระปรางค์
สถาปัตยกรรม
  • องค์แรก: ทรงบาตรคว่ำ หรือทรงสถูปสาญจีตามแบบอินเดีย
  • องค์ที่สอง: ทรงขอมโบราณ
  • องค์ปัจจุบัน: ทรงระฆังคว่ำแบบลังกา
เมืองอำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
ประเทศ  ประเทศไทย
เริ่มสร้าง
  • องค์แรก: ราวปี พ.ศ. 1100[3]
  • องค์ที่สอง: ราวปี พ.ศ. 1800[3]
  • องค์ปัจจุบัน: พ.ศ. 2396[4]
ผู้สร้าง
ข้อมูลทางเทคนิค
โครงสร้างก่ออิฐถือปูนประดับด้วยกระเบื้อง
เจดีย์องค์แรกและองค์ที่สองถูกครอบด้วยเจดีย์องค์ปัจจุบัน

พระปฐมเจดีย์ หรือเดิมเรียกว่า พระธมเจดีย์ มีฐานะเป็นมหาธาตุหลวง ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชวินิจฉัยว่า พระธมเจดีย์องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อคราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราชเดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิก็เป็นได้ เพราะเจดีย์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำหรือทรงมะนาวผ่าซีกแบบเดียวกับพระสถูปสาญจี แต่ปรากฏว่ามียอดเป็นแบบปรางค์ ซึ่งพระองค์ฯ มีพระราชวินิจฉัยว่า อาจมีเจ้านายพระองค์ใดมาบูรณะไว้ก็เป็นได้ ซึ่งตรงกับความใน ศิลาจารึกหลักที่ 2 (ศิลาจารึกวัดศรีชุม) ของพระมหาเถรศรีศรัทธา อันได้กล่าวไว้ว่า พระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ท่านทรงได้แวะมาบูรณะพระธมเจดีย์องค์นี้ ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับเมืองราด เมื่อคราวที่ท่านเสด็จกลับจากศึกษาศาสนาพุทธในประเทศศรีลังกา ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานนามใหม่ว่า พระปฐมเจดีย์

ในเรื่องนี้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีบางท่านได้ระบุว่า พระปฐมเจดีย์ไม่ได้เป็นเจดีย์ที่เก่าที่สุดของสุวรรณภูมิ แต่เป็นพระมหาธาตุหลวงในยุคทวารวดีมากกว่า เนื่องด้วยเหตุผลประกอบหลายประการ โดยเฉพาะการค้นพบเจดีย์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าพระธมเจดีย์และหลักฐานลายลักษณ์อักษร ที่ระบุว่า "พระเจดีย์องค์นี้เดิมขอมเรียก พระธม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาวขอมจริง ๆ หรือชาวลวรัฐ ซึ่งสมัยนั้นเราก็เรียกว่าขอม เช่น ขอมสบาดโขลญลำพง คำว่า ธม สำหรับชาวขอมนั้นแปลว่า ใหญ่ ตรงกับคำเมืองว่า หลวง ซึ่งเราก็เรียกพระนครธม ว่า พระนครหลวง ด้วยเหตุผลเดียวกัน

นอกจากนี้วัดพระปฐมเจดีย์ยังเป็นที่พระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสรีรางคารพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีในรัชกาลที่ 6 และพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งบรรจุไว้ที่ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่พระวิหารทิศเหนือองค์พระปฐมเจดีย์

พระร่วงโรจนฤทธิ์

ปี พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประพาสหัวเมืองเหนือ ได้ทอดพระเนตรพระพุทธรูปโบราณเป็นอันมาก แต่มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ศรีสัชนาลัย (จังหวัดสุโขทัย) ประกอบด้วยพระลักษณะงามเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย แต่ชำรุดมากเหลืออยู่แต่พระเศียร พระหัตถ์และพระบาท จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญลงมากรุงเทพฯ แล้วให้ช่างปั้นสถาปนาขึ้นมาบริบูรณ์เต็มพระองค์ และโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีเททองหล่อขึ้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2456 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร

พระร่วงโรจนฤทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั่วไป ชื่อเต็มคือ พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร ตามประกาศกระแสพระบรมราชโองการลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2466 แต่ประชาชนทั่วไปจะเรียกว่า หลวงพ่อพระร่วง หรือ พระร่วงโรจนฤทธิ์

พระร่วงโรจนฤทธิ์ มีขนาดความสูงวัดจากพระบาทถึงพระเกศ 7.42 เมตร หรือราว 12 ศอก 4 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะแบบสุโขทัย ประทับยืนอยู่บนฐานทองเหลืองลายบัวคว่ำบัวหงาย ทำวงพระพักตร์ตามยาว พระหนุเสี้ยมนิ้วพระหัตถ์และพระบาทไม่เสมอกัน ห้อยพระหัตถ์ซ้ายลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ขวายกตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้าระดับพระอุระ เป็นกิริยาห้าม มีพระอุทรพลุ้ยออกมา ห่มจีวรบางคลุมแนบติดพระวรกาย บ่ายพระพักตร์สู่ทิศเหนือ ทำด้วยโลหะทองเหลืองหนัก 100 หาบ

การอัญเชิญพระร่วงโรจนฤทธิ์ เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2457 จำเป็นต้องแยกชิ้นมาและมาประกอบเข้าด้วยกันที่จังหวัดนครปฐม แล้วเสร็จเป็นองค์สมบูรณ์เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458

หลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว ตามความในพระราชพินัยกรรมของพระองค์ระบุว่า ให้บรรจุพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ไว้ใต้ฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่องค์พระปฐมเจดีย์ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2469 จึงได้ทำพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร ณ ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตามพระราชประสงค์ทุกประการ

ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 หลังจากพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในวันที่ 17 มีนาคม พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสรีรางคารมาประดิษฐานไว้ที่ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์ เคียงข้างพระบรมราชสรีรางคารของพระสวามี

และในปี พ.ศ. 2555 หลังจากพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในวันที่ 12 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสรีรางคารมาประดิษฐานไว้ที่ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์เช่นกัน เคียงข้างพระบรมราชสรีรางคารของพระชนกนาถ และพระสรีรางคารของพระชนนี

ลำดับเจ้าอาวาส

เท่าที่มีบันทึกไว้ ลำดับเจ้าอาวาสมีดังนี้[7]

ลำดับที่ รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ
1 เจ้าอธิการแป้น ก่อน พ.ศ. 2400 พ.ศ. 2408
2 พระสนิทสมณคุณ (แก้ว) พ.ศ. 2408 พ.ศ. 2411
3 พระปฐมเจติยานุรักษ์ (กล่ำ) พ.ศ. 2411 พ.ศ. 2447
4 พระราชโมลี (ช้อน โสณุตฺตโร) พ.ศ. 2453 พ.ศ. 2455
5 พระพุทธรักขิต (พลอย) พ.ศ. 2455 พ.ศ. 2462
6 พระธรรมวโรดม (โชติ ธมฺมปฺปโชติโก) พ.ศ. 2465 พ.ศ. 2497
7 พระธรรมสิริชัย (ชิต ชิตวิปุโล) พ.ศ. 2497 พ.ศ. 2527
8 พระราชสิริชัยมุนี (โชติ) พ.ศ. 2528 พ.ศ. 2535
9 พระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม) พ.ศ. 2536 พ.ศ. 2567
10 พระธรรมวชิรเจติยาจารย์ (ชัยวัฒน์ ปญฺญาสิริ)[8]
ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส
พ.ศ. 2567 ปัจจุบัน

ระเบียงภาพ

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสังฆการี เรื่อง จัดระเบียบพระอารามหลวง เก็บถาวร 2011-11-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๒, ตอน ๐ ก, ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๘, หน้า ๒๘๔
  2. พระพุทธรูปศิลาขาว (ทวารวดี) จากนครปฐม ถูกขนย้ายไปอยุธยา, สุจิตต์ วงษ์เทศ (มติชนออนไลน์) .วันที่ 13 กันยายน 2560
  3. 3.0 3.1 3.2 พระปฐมเจดีย์ที่เห็น ไม่ใช่องค์แรก!! ยังมีอีก ๒ ซ้อนกันอยู่ภายใน รวมมีถึง ๓ องค์!, ผู้จัดการออนไลน์ .วันที่ 3 ตุลาคม 2559
  4. องค์พระปฐมเจดีย์เมื่อ'ด้านข้างเป็นด้านหน้า', คมชัดลึกออนไลน์ .วันที่ 9 พ.ย. 2555
  5. พระปฐมเจดีย์, http://www.jedeethai.com/ .สืบค้นเมื่อ 13/04/2561
  6. นมัสการ...พระปฐมเจดีย์, https://travel.kapook.com/ .สืบค้นเมื่อ 13/04/2561/
  7. สุธี สูงกิจบูลย์. ประวัติ - วัตถุมงคล พระธรรมวโรดม (โชติ ธมฺมปฺปโชติกเถระ). นครปฐม : เพชรเกษมการพิมพ์, 2557. 215 หน้า. หน้า 64.
  8. chanhena, Bandit. "แต่งตั้ง "พระธรรมวชิรเจติยาจารย์" เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์". เดลินิวส์. สืบค้นเมื่อ 2025-02-20.

แหล่งข้อมูลอื่น

13°49′01″N 100°03′36″E / 13.816930°N 100.059980°E / 13.816930; 100.059980