ศาลาพระเกี้ยว
ศาลาพระเกี้ยว เป็นอาคารเอนกประสงค์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างในปี พ.ศ. 2508[1] ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของมหาวิทยาลัยหลายอย่าง เช่น จุฬาฯวิชาการ ชั้นใต้ดินเป็นศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลักษณะภายนอกของศาลาพระเกี้ยวเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ รูปทรงคล้ายพระเกี้ยว ในปี พ.ศ. 2559 ศาลาพระเกี้ยวได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์[2]
ศาลาพระเกี้ยว | |
---|---|
Sala Prakieo | |
![]() ศาลาพระเกี้ยวในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 | |
![]() | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | อาคารเอนกประสงค์ |
สถาปัตยกรรม | สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ |
เมือง | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 |
ประเทศ | ![]() |
พิกัด | 13°44′08″N 100°31′53″E / 13.735487°N 100.531432°E |
เริ่มสร้าง | พ.ศ. 2508 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2509 |
ปรับปรุง | ครั้งแรก พ.ศ. 2522 ครั้งที่สอง พ.ศ. 2557 |
ผู้สร้าง | จอมพล ประภาส จารุเสถียร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
โครงสร้าง | คอนกรีตเสริมเหล็กและไม้ |
การออกแบบและการก่อสร้าง | |
สถาปนิก | หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ เลิศ อุรัสยะนันทน์ |
วิศวกร | รชฎ กาญจนะวณิชย์ |
รางวัล | รางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2559 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ |
ประวัติ
แก้นับตั้งแต่ พ.ศ. 2500 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีนิสิตเป็นจำนวนมาก มีการสนับสนุนให้นิสิตทำกิจกรรมในระหว่างศึกษาในมหาวิทยาลัย ทำให้สโมสรนิสิตจำเป็นต้องมีการขยายพื้นที่ปฏิบัติงานจากอาคารจักรพงษ์ที่ใช้อยู่เดิม ในขณะนั้นจอมพล ประภาส จารุเสถียร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยในขณะนั้นมีแนวคิดที่จะสร้างอาคารเอนกประสงค์เพื่อเป็นศูนย์รวมกิจกรรมของนิสิต สภามหาวิทยาลัยจึงอนุมัติให้สร้างอาคารหลังหนึ่งโดยใช้ชื่อว่า ศาลาพระเกี้ยว ขึ้นบริเวณด้านหลังอาคารจุลจักรพงษ์ในปัจจุบัน ใช้งบประมาณการก่อสร้าง 12 ล้านบาท[3]
ศาลาพระเกี้ยวเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2508 สร้างเสร็จลงใน พ.ศ. 2509 มีหม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ เป็นสถาปนิกออกแบบ เลิศ อุรัสยนันทน์เป็นสถาปนิกผู้ช่วยและมีรชฏ กาญจนะวณิชย์เป็นวิศวกรควบคุมการก่อสร้าง หลังจากสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้มีพิธีเปิดในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2510 ซึ่งตรงกับวันครบรอบการประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครบ 50 ปี[4]
ในปี พ.ศ. 2522 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการปิดศาลาพระเกี้ยวเพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซมครั้งใหญ่ เนื่องจากความทรุดโทรมที่เกิดจากการใช้งานมายาวนานและปัญหาฐานรากทรุด ใช้งบประมาณในการซ่อมแซมในครั้งนี้เป็นเงิน 19 ล้านบาท ใช้เวลา 2 ปีครึ่งจึงแล้วเสร็จ[5] หลังจากนั้น 35 ปี ในปี พ.ศ. 2557 ศาลาพระเกี้ยวปิดทำการอีกครั้งเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 2 ประกอบไปด้วยการปรับปรุงชั้นล่าง (ชั้นใต้ดิน) ใช้งบประมาณ 4 ล้านบาท[6] และการปรับปรุงตัวอาคารศาลาพระเกี้ยว ใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท ในครั้งนี้ใช้เวลาปรับปรุง 1 ปีจึงสามารถเปิดทำการได้ในปีการศึกษา 2558[7]
ลักษณะอาคาร
แก้ศาลาพระเกี้ยวเป็นอาคารคอนกรีตเสริมแรงด้วยเหล็ก (คอนกรีตเสริมเหล็ก) 2 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ภายในชั้น 1 เป็นโถงขนาดใหญ่ปูพื้นด้วยไม้ ชั้น 2 เป็นชั้นลอยเกาะติดกับตัวอาคารด้านในรอบด้าน เพดานโปร่งสูง ผนังด้านข้างเป็นหน้าต่างกระจก รูปทรงโดยรวมของตัวอาคารออกแบบให้คล้ายพระเกี้ยว สัญลักษณ์ประจำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2559 ศาลาพระเกี้ยวได้รับการคัดเลือกจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ให้ได้รางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น[8]
ด้วยจุดประสงค์ของโครงการก่อสร้างศาลาพระเกี้ยวคือการเป็นอาคารศูนย์รวมกิจกรรมนิสิต ที่ตั้งของศาลาพระเกี้ยวจึงถูกเลือกให้รายล้อมด้วยอาคารคณะวิชา หน่วยงานและป้ายหยุดรถโดยสารภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือเป็นจุดสัญจรสำคัญของนิสิตและผู้มาติดต่อมหาวิทยาลัย กลุ่มอาคารของคณะและหน่วยงานที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงศาลาพระเกี้ยว เช่น คณะรัฐศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันภาษาและพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
-
ทางเข้าด้านหน้าศาลาพระเกี้ยว ปี พ.ศ. 2561 -
โครงสร้างเสารับน้ำหนักของศาลาพระเกี้ยว -
ภายในศาลาพระเกี้ยว -
ทางเข้าด้านหน้าหลังการซ่อมแซม พ.ศ. 2558
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ศาลาพระเกี้ยว. 7 พฤศจิกายน 2552. http://www.memohall.chula.ac.th/article/ศาลาพระเกี้ยว/ (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์. ประกาศผลการคัดเลือก รางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี 2559. 5 พฤษภาคม 2559. http://www.asa.or.th/en/node/140800 เก็บถาวร 2017-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๙ ทศวรรษ พัฒนาการทางกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพ, กรุงเทพ: บริษัท แปลนพริ้นติ้ง จำกัด, 2552.
- ↑ สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ศาลาพระเกี้ยว. 27 พฤศจิกายน 2557. http://www.prm.chula.ac.th/cen31.html (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๙ ทศวรรษ พัฒนาการทางกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพ, กรุงเทพ: บริษัท แปลนพริ้นติ้ง จำกัด, 2552.
- ↑ สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. โครงการปรับปรุงศาลาพระเกี้ยวชั้นล่าง. 27 พฤศจิกายน 2557. http://www.prm.chula.ac.th/projects.html (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. แจ้งโครงการปรับปรุงศาลาพระเกี้ยว . 14 มีนาคม 2557. http://www.civil.eng.chula.ac.th/news/2014/03/14/225[ลิงก์เสีย] (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ iURBAN. รางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๙ . 24 เมษายน 2559. http://www.iurban.in.th/inspiration/basic-of-the-past-asa59/ (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- หน้าหลักศาลาพระเกี้ยวในเว็บไซต์สำนักกายภาพ จุฬาฯ
- หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ
- สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เก็บถาวร 2016-04-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ศาลาพระเกี้ยวในเว็บไซต์จุฬาฯ