มะระ

สปีชีส์ของพืช

มะระขี้นก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Momordica charantia) เป็นผักผลไม้พื้นบ้านที่ขึ้นได้ทั่ว ๆ ไป ลูกเล็กรูปร่างคล้ายกระสวย ผิวเปลือกขรุขระและมีปุ่มยื่นออกมา ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีเหลืองอมแดง ปลายผลจะแตกเป็น 3 แฉก นกชอบมาจิกกินทั้งผลและเมล็ด แล้วก็ถ่ายเมล็ดไว้ตามที่ต่าง ๆ จึงเรียกกันว่ามะระขี้นก

มะระ
ภาพวาดพืชส่วนลำต้น
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขการจำแนกนี้
โดเมน: ยูแคริโอต
Eukaryota
อาณาจักร: พืช
Plantae
เคลด: พืชมีท่อลำเลียง
Tracheophytes
เคลด: พืชดอก
Angiosperms
เคลด: พืชใบเลี้ยงคู่แท้
Eudicots
เคลด: โรสิด
Rosids
อันดับ: อันดับแตง
Cucurbitales
วงศ์: วงศ์แตง
Cucurbitaceae
สกุล: Momordica
Momordica
L.
สปีชีส์: Momordica charantia
ชื่อทวินาม
Momordica charantia
L.
มะระขี้นก ในภาพแสดงแบบเต็มผล ผ่าตามยาว และผ่าตามขวาง

มะระขี้นก มีรสขมกว่ามะระจีน จึงนิยมกินในหมู่ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ผลอ่อนนำไปต้มหรือเผากินได้ทั้งลูก ผลแก่ต้องนำมาผ่ากลาง คว้านเมล็ดออกเสียก่อน การลดความขมของมะระขี้นกนั้นทำได้โดยต้มน้ำให้เดือดจัด ใส่เกลือสักหยิบมือ ลวกมะระในน้ำเดือดสักครู่ มะระจะยังคงมีผลสีเขียวสด หรือจะต้มกินกับน้ำพริกก็ได้ บางครั้งราดด้วยกะทิสดเพื่อเพิ่มรสชาติ

การปรุงแกงจืดมะระขี้นกยัดไส้หมูสับ ต้องต้มนานหน่อยให้ความขมจางลง หรือปรุงอาหารเผ็ด เช่น พะแนงมะระขี้นกยัดไส้ หรือเป็นแกงเผ็ดก็ได้ ถ้าจะนำไปปรุงอาหารผัด เช่น ผัดกับไข่ ให้ต้มน้ำแล้วเททิ้งหนึ่งครั้ง

นอกจากใช้ผลเป็นอาหารแล้ว ใบของมะระขี้นกก็นำมาทำอาหารได้ แต่ไม่นิยมกินสดเพราะมีรสขม ยอดมะระลวกเป็นผักจิ้มกินกับน้ำพริก หรือกับปลาป่นของชาวอีสาน ยิ่งเด็ดยิ่งแตกยอดเพิ่มอีก ทางภาคเหนือนิยมนำยอดมะระสดมากินกับลาบ หรือนำไปทำแกงคั่ว แกงเลียง และแกงป่า ได้รสน้ำแกงที่ขมเฉพาะตัว

ทางอีสานนิยมนำใบมะระขี้นกใส่ลงไปในแกงเห็ดแบบพื้นบ้านจะทำให้แกงมีรสขมนิด ๆ กลมกล่อมมาก บ้างนิยมนำใบมะระมาต้มหรือลวกจิ้มน้ำพริก

คุณค่าทางโภชนาการ

แก้

ประโยชน์ทางยา

แก้

สรรพคุณของมะระขี้นก คือช่วยเจริญอาหาร การที่ผลมะระขี้นกช่วยเจริญอาหารได้ เพราะในเนื้อผลมีสารที่มีรสขมกระตุ้นให้น้ำย่อยออกมามากขึ้น จึงทำให้รับประทานอาหารได้เพิ่มขึ้น ใช้ผลมะระปิ้งไฟ หรือลวกจิ้มน้ำพริก และยับยั้งเชื้อ HIV หรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

  • ใช้เมล็ดจากผลสุก 30 กรัม แกะเมล็ด ล้างเนื้อเยื่อสีแดงที่หุ้มเมล็ดออก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ กะเทาะเมล็ดเปลือกมะระ ควรกะเทาะในภาชนะที่เย็น เช่น ในที่มีอุณหภูมิต่ำ จะได้เนื้อในสีขาว ควรสวมถุงมือยางขณะทำ
  • นำเนื้อใน มาล้างน้ำให้สะอาด เติมน้ำหรือน้ำเกลือที่แช่เย็นลงไป 90-100 มิลลิลิตร ปั่นในเครื่องปั้นที่แช่เย็น แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ชั้น จะได้น้ำยาสีขาวขุ่น
  • น้ำยาสีขาวขุ่น ใช้สวนทวารหนัก ครั้งละ 10 มิลลิลิตร วันละครั้ง
  • ถ้านำน้ำ ที่ปั่นไปแช่ตู้เย็น จะแยกเป็น 2 ชั้น ให้ใช้ชั้นบนที่มีลักษณะใส

ข้อควรระวัง

  • การสวนทวาร ควรใช้วาสลินช่วยหล่อลื่นก่อนการสวน
  • ทุกขั้นตอนให้ระวังเรื่องความสะอาด
  • ต้องรักษาความเย็นตลอดเวลา

มะระ

แก้

คุณค่าทางโภชนาการ

แก้
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
พลังงาน79 กิโลจูล (19 กิโลแคลอรี)
4.32 g
น้ำตาล1.95 g
ใยอาหาร2 g
0.18 g
0.84 g
วิตามิน
วิตามินเอ
(1%)
6 μg
(1%)
68 μg
1323 μg
ไทอามีน (บี1)
(4%)
0.051 มก.
ไรโบเฟลวิน (บี2)
(4%)
0.053 มก.
ไนอาซิน (บี3)
(2%)
0.28 มก.
(4%)
0.193 มก.
วิตามินบี6
(3%)
0.041 มก.
โฟเลต (บี9)
(13%)
51 μg
วิตามินซี
(40%)
33 มก.
วิตามินอี
(1%)
0.14 มก.
วิตามินเค
(5%)
4.8 μg
แร่ธาตุ
แคลเซียม
(1%)
9 มก.
เหล็ก
(3%)
0.38 มก.
แมกนีเซียม
(5%)
16 มก.
แมงกานีส
(4%)
0.086 มก.
ฟอสฟอรัส
(5%)
36 มก.
โพแทสเซียม
(7%)
319 มก.
โซเดียม
(0%)
6 มก.
สังกะสี
(8%)
0.77 มก.
องค์ประกอบอื่น
น้ำ93.95 g

ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่
แหล่งที่มา: USDA FoodData Central

ประโยชน์ทางยา

แก้

อ้างอิง

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้

แม่แบบ:WestAfricanPlants