บีตา-แคโรทีน
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
บีตา-แคโรทีน (อังกฤษ: β-carotene) เป็นรงควัตถุสีแดง-ส้มเข้มที่พบมากในพืชและผลไม้ เป็นสารประกอบอินทรีย์และในทางเคมีจัดเป็นไฮโดรคาร์บอน หรือให้เจาะจงคือ เทอร์พีนอยด์ (ไอโซพรีนอยด์) ซึ่งสะท้อนว่ามาจากหน่วยไอโซพรีน เบต้าแคโรทีนชีวสังเคราะห์จากเจรานิลเจรานิลไพโรฟอสเฟต (geranylgeranyl pyrophosphate) บีตา-แคโรทีนอยู่ในกลุ่มแคโรทีน ซึ่งเป็นเตตระเทอร์พีน ซึ่งสังเคราะห์ทางชีวเคมีจากแปดหน่วยไอโซพรีนและมี 40 คาร์บอน บีตา-แคโรทีนแตกต่างจากแคโรทีนชนิดอื่น คือ มีวงแหวนบีตาที่ทั้งสองปลายของโมเลกุล การดูดซึมบีตา-แคโรทีนเพิ่มขึ้นหากรับประทานกับไขมัน เพราะแคโรทีนละลายในไขมัน
บีตา-แคโรทีน | |
---|---|
![]() | |
![]() | |
ชื่อตาม IUPAC | β,β-carotene |
เลขทะเบียน | |
เลขทะเบียน CAS | [7235-40-7] |
PubChem | |
SMILES | |
คุณสมบัติ | |
สูตรโมเลกุล | C40H56 |
มวลโมเลกุล | 536.87 g mol−1 |
ลักษณะทางกายภาพ | red-purple solid |
ความหนาแน่น | 0.941 ± 0.06 g/cm3 |
จุดหลอมเหลว |
180-182 °C |
ความสามารถละลายได้ ใน น้ำ | Insoluble in cold water or hot water. Soluble in diethyl ether, acetone, benzene, chloroform, carbon disulfide. Moderately soluble in petroleium ether, oils.Very slightly soluble in methanol.
Soluble in fat solvents |
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa | |
สถานีย่อย:เคมี |
สำหรับขนาดรับประทานของวิตามินเอเพื่อรักษาสุขภาพโดยทั่วไปคือ 5,000 หน่วยสากล (IU) ซึ่งเทียบเท่ากับเบต้าแคโรทีน 3 มิลลิกรัม และสำหรับปริมาณที่สมเหตุสมผลของบีตา-แคโรทีนที่แนะนำให้รับประทานต่อวันเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงคือ 15 มิลลิกรัม ในขณะที่การรับประทานเพื่อหวังผลในรักษาจะต้องได้รับในปริมาณมากกว่านี้
แหล่งอาหาร แก้ไข
บีตา-แคโรทีนมีในพืชสีเหลืองและสีส้ม และผักที่มีสีเขียว เช่น
- แคร์รอต
- ฟักทอง
- หน่อไม้ฝรั่ง
- ข้าวโพดอ่อน
- แตงโม
- แคนตาลูป
- มะละกอสุก
- บรอกโคลี
- มะระ
- ผักบุ้ง
- ต้นหอม
- ผักคะน้า
- ผักตำลึง
ส่วนเหตุที่อาหารบางชนิดมีสีเขียว เป็นเพราะสีของบีตา-แคโรทีนถูกสีเขียวของคลอโรฟิลล์บดบัง
ผลข้างเคียง แก้ไข
บีตา-แคโรทีนนับเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญสำหรับสุขภาพของมนุษย์ อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามีรายงานของการขาดบีตา-แคโรทีนเลย แม้ว่าการวิจัยจำนวนมากจะระบุว่า การเสริมด้วยบีตา-แคโรทีนใช้ในคนที่มีอาการขาดวิตามินเอ แต่ก็ยังคงไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่แสดงถึงอาการขาดบีตา-แคโรทีน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการแนะนำว่าเราควรรับประทานบีตา-แคโรทีนเข้าสู่ร่างกายโดยการบริโภคผักสดและผลไม้สด
สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเป็นผลเสียต่อร่างกายจากบีตา-แคโรทีน ขณะนี้ได้พบแล้ว แม้จากการวิจัยพบว่าวิตามินเออาจเป็นพิษได้ถ้ารับประทานในปริมาณที่สูงกว่า 25,000 หน่วยสากล (IU) ต่อวัน แต่ไม่พบว่าบีตา-แคโรทีนมีความเป็นพิษ เมื่อรับประทานในปริมาณสูง ส่วนการมีปฏิกิริยากับสารอื่นไม่พบรายงานว่ามีปฏิกิริยาของบีตา-แคโรทีนกับยาสมุนไพร รวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใดๆ