เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หรือเป็นที่รู้จักในนาม เจ้าป้า (16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 — 13 มีนาคม พ.ศ. 2548) เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือ ธิดาของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ และเป็นนัดดาของเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย[1]
เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ | |
---|---|
เกิด | เจ้าประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย |
เสียชีวิต | 13 มีนาคม พ.ศ. 2548 (69 ปี) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
คู่สมรส | ทิพย์ อัศวรักษ์ (หย่า) |
คู่รัก | พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช (เลิกรา) เอดิลเบอร์โต้ โรเมโร |
บุตร | ทินกร อัศวรักษ์ |
บิดามารดา | เจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ เจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ |
ประวัติ
แก้ชีวิตตอนต้น
แก้เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในครอบครัวชนชั้นเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งนครเชียงใหม่ เป็นธิดาคนเล็กจากทั้งหมด 3 คนของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ มีพี่ชายและพี่สาวคือ เจ้าพงษ์กาวิล ณ เชียงใหม่ และเจ้าศิริกาวิล สิงหรา ณ อยุธยา
เมื่อแรกเกิดได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่า "ประกายกาวิล" ต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา และหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ซึ่งขณะนั้นได้ประทับอยู่ในเชียงใหม่และได้เข้าพบเจ้าแก้วนวรัฐ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภาทรงสังเกตว่าหม่อมกอบแก้วมองธิดาน้อยด้วยความเอ็นดู เจ้ากาวิละวงศ์เห็นเช่นนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า "ยกให้หม่อมเป็นแม่อุปถัมภ์แล้ว ขอให้โตขึ้นสวยเหมือนหม่อมยิ่งดี" หม่อมกอบแก้วก้มลงมองเด็กน้อยพลางกล่าวกับพระสวามีว่า "ทรงประทานชื่อซิเพคะ จะได้เป็นที่รู้กันว่าเขายกให้เรา ต่อไปจะได้จำกันได้" พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ผู้เป็นสวามี จึงตรัสถามว่า "ชื่อกอบแก้วอีกคนไหม"[2] แต่เมื่อไปเติมชื่อรวมเข้านามพระราชทานนั้น ตัว บ.ใบไม้กลับหายไป จึงเหลือเพียง "กอแก้วประกายกาวิล" นับแต่นั้น
การศึกษา
แก้เจ้ากอแก้วประกายกาวิล เข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จนอายุได้ 10 ขวบ จึงย้ายลงมาเป็นนักเรียนประจำที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย จังหวัดพระนคร เมื่ออายุได้ 12 ปี ก็ศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรในระดับมัธยมศึกษาที่ราเวนส์คอฟต์ (Raven's Croft) ในอีสต์บอร์น ระดับเตรียมอุดมศึกษาที่วิทยาลัยเทคนิคเซาแทมป์ตัน (Southampton Technical College) แล้วย้ายไปลอนดอนเพื่อเรียนด้านเลขาที่วิทยาลัยพิตแมน (Pitman College) และเข้าศึกษาด้านมารยาทและการเข้าสังคมที่ลูซี เคลย์ตัน (Lucy Clayton) ก่อนย้ายไปที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศสเพื่อศึกษาต่อด้านภาษา มารยาท และการเข้าสังคมจนจบหลักสูตร[1]
ทั้งนี้เจ้ากอแก้วประกายกาวิล สามารถใช้ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว[1]
การทำงาน
แก้ด้านการทำงาน เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเรียนจบกลับเมืองไทย พ.ศ. 2499 ทำงานที่บริษัท CTO. Lines สาขาประเทศไทย ในสังกัดบริษัทเคี่ยงหงวน จำกัด พ.ศ. 2503 ทำงานด้านเลขานุการและมัคคุเทศก์บริษัทซีต้า แทรเวล พ.ศ. 2505 ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต (โรงแรมแอมบาสซาเดอร์) พ.ศ. 2519 ประชาสัมพันธ์ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์ พ.ศ. 2524 ตราบจนสิ้นชีวิต อยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์และการตลาดของบริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป
ถึงแก่กรรม
แก้เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ถึงแก่กรรมด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกรุนแรง จากที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคปอดอักเสบทั้งสองข้าง และโรคเนื้องอกในสมอง เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ถึงแก่กรรมเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2548 ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพมหานคร สิริอายุได้ 69 ปี[3]
โดยศพตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาเสถียรไทย วัดธาตุทอง ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานหีบทองทึบประดับเกียรติยศ รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และทรงรับในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน ซึ่งศพของเจ้ากอแก้วประกายกาวิลได้รับการตกแต่งให้สวยงามในเครื่องแต่งกายโทนสีม่วง[4] และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดธาตุทองเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548[5]
ชีวิตส่วนตัว
แก้เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ สมรสกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตร 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ (ชื่อเล่น: กุ๊กกี้; เสียชีวิต 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558) ต่อมาหย่าขาดจากกัน แล้วใช้ชีวิตคู่กับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช 6 ปี ก่อนเป็นคู่ชีวิตเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์บิสเนส เดย์[6] แต่ชีวิตคู่ครั้งหลังกับนายโรเมโรนี้เจ้ากอแก้วประกายกาวิลได้แท้งไปเสียสองครั้ง จึงไม่มีบุตรด้วยกัน[7]
เจ้ากอแก้วประกายกาวิล สูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี สวมเสื้อเกาะอกมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ดื่มเหล้า แต่งหน้าจัด แต่งกายฉูดฉาด ซึ่งขัดประเพณีนิยมในขณะนั้นจนขึ้นชื่อว่าเป็นสาวเปรี้ยวแห่งยุค[8] โดยมีเอกลักษณ์ประจำตัวในปัจฉิมวัยคือย้อมผมสีม่วงอันรวมไปถึงเสื้อผ้าอาภรณ์ที่มีสีเดียวกันด้วย ที่เธอเคยกล่าวถึงผมสีม่วงนี้ว่า "ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ"[9] ในอดีตเคยประกวดนางงามแปซิฟิกของสายการบินแพนอเมริกัน (ปัจจุบันคือ สายการบินแพนอเมริกันเวิลด์) ด้วยความสามารถทางภาษาทำให้เธอติด 1 ใน 3 ทีเดียว[1]
นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของสมญา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" สถิติบันทึกเคยตัดริบบิ้นวันเดียว 8 งาน เนื่องจากงานแรกที่เจ้าป้าได้รับเชิญให้ไปตัดริบบิ้นก็พบว่ามีกิจการรุ่งเรือง เจ้าของกิจการจำนวนมากจึงให้เจ้าป้าไปตัดอยู่เสมอ ๆ ด้วยเจ้าป้ารู้จังหวะจะโคนเวลาที่จะตัด รู้ว่าควรจรดกรรไกรตอนไหน และเว้นเวลาให้นักข่าวเตรียมกล้องก่อนตัด ส่วนฉายา "สาวสองพันปี" นั้น เพราะเจ้ากอแก้วประกายกาวิลนั้นยังสวยตลอดเวลา ไม่ว่าจะในวัยใดก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองโทรม[1] เจ้ากอแก้วประกายกาวิลจะเปรยอยู่เสมอ ๆ เกี่ยวกับทัศนคติจากคนรอบตัว "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลกเอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา มันต้องมีอะไรสักอย่างหนึ่งสิที่ทำให้เขานึกถึงเรา เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย..."[9]
ผลงานในวงการบันเทิง
แก้ผลงานภาพยนตร์
แก้- พ.ศ. 2502: รอยเสือ สุรสิทธิ์, ลือชัย, เจ้ากอแก้วประกายกาวิล, พันคำ
- พ.ศ. 2520: ทางชีวิต กรุง, สรพงศ์, เนาวรัตน์, ทัศน์วรรณ, อัศวิน, เจ้ากอแก้วประกายกาวิล
- พ.ศ. 2524: ฟ้าเพียงดิน ภาณุมาศ, สุพรรษา, เจ้ากอแก้วประกายกาวิล
- พ.ศ. 2526: ขอรักเธออีกสักครั้ง ทูน, นิรุตติ์, อมรรัตน์, เจ้ากอแก้วประกายกาวิล
- พ.ศ. 2526: นิสิตใหม่ ไพโรจน์, มนฤดี, เจ้ากอแก้วประกายกาวิล
- พ.ศ. 2527: สวัสดีคุณนาย สรพงศ์, ปิยะมาศ, วิยะดา, เจ้ากอแก้วประกายกาวิล
- พ.ศ. 2529: ด้วยรักและผูกพัน ธงไชย, กาญจนา, เจ้ากอแก้วประกายกาวิล
- พ.ศ. 2545: ผู้หญิง 5 บาป คลาวเดีย, ชุติมา, ศลยา, ทอฝัน, กมลชนก, เจ้ากอแก้วประกายกาวิล
- พ.ศ. 2547: บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม
ละครโทรทัศน์
แก้ลำดับสาแหรก
แก้พงศาวลีของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 "ปิดตำนาน "เจ้าป้า".....สาวเปรี้ยวตลอดกาล!!!!". ASTV ผู้จัดการออนไลน์. 13 มีนาคม 2548. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2558.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ ลดา รุธิรกนก. มณีในอาทิตย์. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์. 2549, หน้า 223-224
- ↑ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=yyswim&month=03-2005&date=16&group=3&gblog=53
- ↑ "สรุปข่าวในรอบสัปดาห์ 7-13 มีนาคม 48". ASTV ผู้จัดการออนไลน์. 14 มีนาคม 2548. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-03-30. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2558.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ [su-usedbook.com/products_detail/view/4200901 "หนังสืออนุสรณ์ เจ้ากอแก้ว ประกายกาวิล ณ เชียงใหม่"]. https://www.su-usedbook.com/. สืบค้นเมื่อ 2022-08-15.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่า|url=
(help); แหล่งข้อมูลอื่นใน
(help)|website=
- ↑ ""กุ๊กกี้" สัญญาจะทำดีเพื่อแม่". ASTV ผู้จัดการออนไลน์. 13 มีนาคม 2548. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2558.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว (26 กรกฎาคม 2550). "คำตอบที่สำคัญอย่างยิ่งของชีวิต จากเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2558.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "เมื่อเจ้าป้าถูกนินทา สมัยยังมีชีวิต!?!". ASTV ผู้จัดการออนไลน์. 14 มีนาคม 2548. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2558.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 9.0 9.1 "ย้อนรอยตำนาน "ผมสีม่วง" ของ "เจ้าป้า"". MGR Online. 12 มีนาคม 2548. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-03-19. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)