สุเทพ วงศ์กำแหง

เรืออากาศตรี สุเทพ วงศ์กำแหง (12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 – 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563) เป็นนักร้องชายเพลงไทยสากลชาวไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา สุเทพ วงศ์กำแหง ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2533

สุเทพ วงศ์กำแหง
เรืออากาศตรีสุเทพ.jpg
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477
เรืออากาศตรี สุเทพ วงศ์กำแหง
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
เสียชีวิต27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 (85 ปี)[1][2]
จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
คู่สมรสผุสดี อนัคฆมนตรี
บุตรฤทธิไกร วงศ์กำแหง
อาชีพนักร้อง, นักแสดง, ผู้กำกับภาพยนตร์, นักการเมือง, จิตรกร
ปีที่แสดงพ.ศ. 2493 - 2563
สังกัดห้างแผ่นเสียงคาเธ่ย์
ห้างแผ่นเสียงลัคกี้ แบมบู
กรุงไทย
อโซน่า
ตรามงกุฎ
เมโทร
นิธิทัศน์
แม่ไม้เพลงไทย
โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
ศิลปินแห่งชาติพ.ศ. 2533 - สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง)
ภาพปกแผ่นเสียงลองเพลย์ไทยตรามงกุฎ ของห้างแผ่นเสียงคาเธ่ย์ ที่ขายดีที่สุดในปี พ.ศ. 2506 - 2508 วาดปกโดย สมบูรณ์สุข นิยมศิริ (ศิลปินแห่งชาติ)

ประวัติแก้ไข

เรืออากาศตรี สุเทพ วงศ์กำแหง เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ศึกษาตั้งแต่เบื้องต้นจนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 ที่จังหวัดบ้านเกิด ความมีแววของการเป็นนักร้องเริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยที่เป็นนักเรียน โดยมักจะได้รับมอบหมายให้เป็นต้นเสียงร้องเพลงชาติที่โรงเรียนเสมอ

ครั้นจบชั้นมัธยมปีที่ 6 ได้ย้ายมาอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพมหานคร ด้วยนิสัยรักการวาดเขียนและงานศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเพาะช่าง ซึ่งระหว่างที่ศึกษาอยู่นั้นนอกจากจะแสดงฝีมืออย่างโดดเด่นในทางศิลปะแล้วยังเป็นนักร้องเสียงดีประจำห้องเรียน เวลาว่างมักจะฝึกซ้อมร้องเพลงเสมอตามแบบอย่างของนักร้องที่ชื่นชอบ เช่น วินัย จุลละบุษปะ, สถาพร มุกดาประกร, ปรีชา บุณยเกียรติ ฯลฯ

สุเทพได้มีโอกาสรู้จักและคุ้นเคยกับ ไสล ไกรเลิศ นักประพันธ์เพลง เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กัน ไศลเห็นแววความสามารถของสุเทพจึงชักชวนให้มาช่วยงาน เช่น เขียนโน้ตเพลง เขียนตัวหนังสือ ตลอดจนติดตามไปช่วยงานในธุรกิจบันเทิงต่าง ๆ เสมอ ทำให้สุเทพเริ่มคุ้นเคยกับบุคคลในวงการเพลงหลายคน ทั้งยังได้รับโอกาสให้ร้องเพลงสลับฉากละคร ร้องเพลงตามงานบันเทิงต่าง ๆ รวมถึงการทดลองเสียงแทนนักร้องตัวจริงก่อนที่จะทำการอัดเสียงเสมอ จากการที่ร้องเพลงได้อย่างดีเด่น ทำให้สุเทพได้ร้องเพลงบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ไสล ไกรเลิศ ได้พา สุเทพ วงศ์กำแหง ไปฝากกับ เปรื่อง ชื่นประโยชน์ จนได้รับคัดเลือกให้ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงของตนเอง และได้ใช้ชื่อในการบันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกว่า "ศุภชัย ชื่นประโยชน์" มีผลงานในการบันทึกแผ่นเสียงในยุคแรกเช่นเพลง "รำพรรณรำพึง", "เฉิดโฉม", "นิ่มนวล" ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากพลอากาศเอกทวี จุลละทรัพย์ ผู้ชื่นชอบการร้องเพลงของสุเทพ โดยช่วยส่งเสริมในทางต่าง ๆ ครั้นสุเทพเข้ารับการเกณฑ์ทหาร พลอากาศเอกทวีจึงได้ชักชวนให้เข้ารับราชการในกองทัพอากาศ โดยได้ประจำอยู่ที่วงดุริยางค์ทหารอากาศ ซึ่งมี นาวาอากาศโท ปรีชา เมตไตรย์ เป็นผู้ควบคุมวง ระหว่างนั้นสุเทพได้บันทึกแผ่นเสียงมากขึ้น และสถานีวิทยุต่าง ๆ ก็ได้นำเพลงที่เขาร้องบันทึกแผ่นเสียงไปเปิดจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างรวดเร็ว

ภายหลังออกจากกองทัพอากาศ สุเทพได้ร้องเพลงเป็นอาชีพหลัก เขาได้เข้าร่วมกับคณะชื่นชุมนุมศิลปิน มีโอกาสร้องเพลงทั้งในรายการวิทยุและโทรทัศน์อยู่เนือง ๆ ทำให้ชื่อเสียงของเขาเริ่มเพิ่มขึ้น งานต่าง ๆ จึงหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ในช่วงนั้นวงการภาพยนตร์ไทยกำลังเฟื่องฟู เขาจึงมีงานร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ มีโอกาสร้องเพลงคู่กับสวลี ผกาพันธุ์ นักร้องยอดนิยมในเวลานั้นอยู่เสมอ หากใครซื้อแผ่นเสียงของสวลีไปก็มักจะมีเสียงสุเทพติดไปด้วย ชื่อเสียงของสุเทพจึงโด่งดังขึ้นเป็นอย่างมาก เขาจึงถือว่าความสำเร็จในเบื้องต้นส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากการได้ร้องเพลงคู่กับสวลี ผกาพันธุ์

จุดเด่นของสุเทพคือการมีน้ำเสียงที่ดี มีลีลาในการร้องเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นุ่มนวลชวนฟัง อารมณ์ที่แสดงออกมาทางน้ำเสียงและสีหน้านั้นก็สามารถสะกดใจผู้ฟังให้คล้อยตามและเข้าถึงอารมณ์ของเพลงนั้น ประกอบกับการที่เอาใจใส่อย่างจริงจังในการทำงาน ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จนได้รับฉายาจาก รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ ว่า "นักร้องเสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์" มีผลงานดีเด่นต่อเนื่องมานานกว่า 40 ปี

ในช่วงปี พ.ศ. 2498 - 2500 สุเทพได้ร่วมเดินทางไปฮ่องกง และ สาธารณรัฐประชาชนจีนกับศิลปินแขนงต่าง ๆ กลุ่มใหญ่ จากนั้นเดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อศึกษาด้านการวาดภาพที่เขารักในอดีต ระหว่างนั้นก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลงคนไทย เขาศึกษาการวาดภาพตามและร้องเพลงที่ญี่ปุ่นประมาณ 3 ปี จึงเดินทางกลับประเทศไทย

งานร้องเพลงของ สุเทพ วงศ์กำแหง สามารถแบ่งออก 3 ช่วง ตามช่วงเวลาดังนี้

  • ช่วงแรก คือช่วงเริ่มต้นก่อนที่จะเดินทางไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนมากเป็นงานร้องเพลงประกอบละครและภาพยนตร์ งานอัดแผ่นเสียง และงานร้องเพลงตามไนต์คลับเพลงดังที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากเป็นพิเศษในช่วงนั้นก็คือเพลงรักคุณเข้าแล้ว ซึ่งประพันธ์ทำนองโดย สมาน กาญจนผลิน และประพันธ์เนื้อร้องโดย สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ เพลงนี้ถือเป็นเพลงอมตะที่ยังเป็นที่นิยมต่อเนื่องตลอดมา นอกจากนั้นยังมีเพลง "คุณจะงอนมากไปแล้ว", "ผมต้องวิวาห์เสียที", "เพียงคำเดียว", "นางอาย", "สวรรค์มืด", "เท่านี้ก็ตรม" "รักอย่ารู้คลาย" และ "ลาก่อนสำหรับวันนี้" เป็นต้น
  • ช่วงที่สอง ปี พ.ศ. 2503 ภายหลังจากที่เดินทางกลับประเทศไทย แฟนเพลงให้การต้อนรับการอย่างอบอุ่น เขาจึงมีงานร้องเพลงมากมาย เพลงดัง ๆ ที่เขาขับร้องในช่วงนั้น ได้แก่ เพลง "บ้านเรา", "เกิดมาอาภัพ", "อาลัยโตเกียว", "อนิจจา", "จะคอยขวัญใจ", "ลาทีความระทม", "แม่กลอง", "สายลมเหนือ", "เธออยู่ไหน" และ "ครวญ" เป็นต้น และอีกหลายสิบเพลงที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จมากที่สุด และได้ตั้ง "คณะสุเทพโชว์" โดยมีสมาชิก "ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา", "ธานินทร์ อินทรเทพ", "มนูญ เทพประทาน", "นริศ ทรัพย์ประภา" และ "อดุลย์ กรีน"

"ธานินทร์ อินทรเทพ" ชายหนุ่มที่คลั่งไคล้เสียงเพลงมาแต่เด็ก เป็นลูกศิษย์ พยงค์ มุกดา ศิลปินแห่งชาติ ครูพยงค์เห็นหน่วยก้านจึงพามาให้อยู่ในทีมของสุเทพ วงศ์กำแหง จากนั้นสุเทพได้เปลี่ยนนามสกุลจากเดิม "อินทรแจ้ง" เป็น "อินทรเทพ" เขาจึงเป็นชาวเทพคนแรกของค่าย

"มนูญ เทพประทาน" ครูสอนหนังสือจากต่างจังหวัด ชอบร้องเพลงลูกกรุง มาหาสุเทพเพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ สุเทพจึงส่งไปร้องในไนต์คลับ เห็นซุ่มเสียงดีจึงรับเป็นทีมงานให้ใช้นามสกุลในการร้องว่า "เทพประทาน"

  • ช่วงที่สาม ปี พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา นับว่าเป็นช่วงที่เขาก้าวไปถึงจุดสูงสุดทั้งด้านชื่อเสียงและผลงานทั้งหมด รวมถึงสุเทพได้สร้างลูกศิษย์และตั้งคณะว่า "สุเทพจูเนียร์" โดยมีสมาชิก "ชรัมภ์ เทพชัย", "อุมาพร บัวพึ่ง", "พรหมเทพ เทพรัตน์" เป็นต้น
 
"สุเทพ วงศ์กำแหง" มางานรำลึก "ศาสตราจารย์พิเศษ จิตร บัวบุศย์" (ศิลปินแห่งชาติ) ที่โรงเรียนเพาะช่าง ก่อนเสียชีวิตเพียงเวลา 3 เดือน

คำประกาศเกียรติคุณแก้ไข

สุเทพ วงศ์กำแหง เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นศิลปินนักร้องเพลงไทยสากลที่มีผลงานดีเด่นทั้งในและนอกประเทศเป็นเวลาอันต่อเนื่องกันมากว่า 40 ปี มีผลงานขับร้องที่ประจักษ์ชัดเจนในความสามารถอันสูงส่ง ได้พัฒนาวิธีการขับร้องเพลงไทยสากลอย่างไพเราะ และทวีความงดงามในศิลปะแขนงนี้ยิ่งขึ้นเป็นลำดับ เป็นผู้ตั้งใจทำงานอย่างต่อเนื่องจนปรากฏผลงานเพลงมากมาย เช่น ขับร้องเพลงประกอบในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เพลงไทยสากลทั่วไป เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพลงอันเกี่ยวด้วยพระศาสนา และจริยธรรม ตลอดจนใช้ความสามารถในเชิงศิลปะสร้างสรรค์อำนวยคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติเสมอมา ทั้งได้ถ่ายทอดความรู้ความสามารถแก่ศิษย์เป็นจำนวนมาก จากความสามารถดังกล่าวยังส่งผลให้เขาได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง รางวัลเสาอากาศทองคำในฐานะนักร้องยอดเยี่ยม 2 ครั้ง และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย สุเทพยังบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการ คุณงามความดีที่ได้กระทำอย่างต่อเนื่องมานี้เป็นที่ชื่นชมชัดเจนในหมู่ประชาชนคนไทยโดยทั่วไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต

สุเทพ วงศ์กำแหง จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล – ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2533

การศึกษาแก้ไข

  • โรงเรียนวัดสมอราย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
  • โรงเรียนประจำอำเภอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

การทำงานแก้ไข

  • ร้านตัดเสื้อ ตำแหน่งเขียนตัวหนังสือ
  • กองทัพอากาศ ยศจ่าอากาศตรี

รางวัลและเกียรติคุณแก้ไข

  • รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน
  • รางวัลเสาอากาศทองคำ
  • โล่เพชร
  • โล่เกียรติยศ สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย
  • ปริญญาบัตรศึกษาศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ศิลปกรรม
  • โล่เกียรติยศ วัดไทยในลอสแอนเจลิส
  • ปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิตกิติมาศักดิ์ (ศิลปกรรม) สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
  • โล่เกียรติยศพระราชทาน สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2525
  • รางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2533

งานการเมืองแก้ไข

สุเทพเป็นศิลปินที่สนใจการเมือง มีส่วนสนับสนุนนักศึกษาให้เรียกร้องประชาธิปไตยสมัยเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 เป็นสมาชิกพรรคแนวร่วมสังคมนิยม ต่อมาได้สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคพลังใหม่ และได้รับเลือกตั้งหลายสมัย มีโอกาสทำงานรับใช้สังคมมากขึ้น นับเป็นศิลปินที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศอย่างสม่ำเสมอตลอดมา

ในปี พ.ศ. 2525 เคยเข้าร่วมก่อตั้งและเป็นเลขาธิการพรรคพลังใหม่ ซึ่งนำโดยนายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ หัวหน้าพรรค ร้อยตรีสมหวัง ศรีชัย รองหัวหน้าพรรค และแกนนำคนสำคัญอาทิเช่น ชัชวาลย์ ชมภูแดง บรรลือ ชำนาญกิจ ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์[3] ในปี พ.ศ. 2530 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคกิจประชาคม[4]

สุเทพเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคพลังธรรม ในปี พ.ศ. 2531

สุเทพได้ร่วมลงนามทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2549 โดยอ้างอิงความตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540[5]

เคยขึ้นเวทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 ในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2551 และร้องเพลง “คน” และ “อำนาจเงิน” โดยไม่มีดนตรีประกอบ[6]

เพลงที่ร้องประกอบภาพยนตร์และละครโทรทัศน์แก้ไข

  • สกาวเดือน จากภาพยนตร์เรื่อง สกาวเดือน
  • แผ่นดินของเรา จากภาพยนตร์เรื่อง โพระดก
  • มนต์รักบ้านนา จากภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักบ้านนา พ.ศ. 2505
  • ดอกอ้อ จากภาพยนตร์เรื่อง ดอกอ้อ พ.ศ. 2511
  • แววมยุรา จากภาพยนตร์เรื่อง แววมยุรา พ.ศ. 2501
  • ยอดพธูเมืองแปร จากละครโทรทัศน์เรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ พ.ศ. 2509 - 2510
  • ปองใจรัก จุฬาตรีคูณ จากละครโทรทัศน์เรื่อง จุฬาตรีคูณ'
  • ปูจ๋า สกุลกา ร้อยป่า น้ำค้าง จากภาพยนตร์เรื่อง ปูจ๋า สกุลกา ร้อยป่า น้ำค้าง
  • ดอกแก้ว จากภาพยนตร์เรื่อง ดอกแก้ว พ.ศ. 2505
  • พะเนียงรัก จากภาพยนตร์เรื่อง พะเนียงรัก พ.ศ. 2506
  • สวรรค์มืด เทขยะ พิศภาพดวงใจ มนต์รักดวงใจ จากภาพยนตร์เรื่อง สวรรค์มืด
  • ละอองดาว จากภาพยนตร์เรื่อง ละอองดาว พ.ศ. 2507
  • รักแท้ จากภาพยนตร์เรื่อง ในม่านเมฆ พ.ศ. 2509
  • หนึ่งนุช’ จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช' พ.ศ. 2514

เพลงประเภททั่วไป ซึ่งมีมากกว่า 3,000 เพลง เช่นแก้ไข

  • ในโลกแห่งความฝัน (แผ่นเสียงทองคำพระราชทาน)
  • ใจพี่ (แผ่นเสียงทองคำพระราชทาน)
  • ครวญ (แผ่นเสียงทองคำพระราชทาน)
  • ตัวไกลใจยัง (แผ่นเสียงทองคำพระราชทาน พ.ศ. 2522)
  • ดาวลอย
  • เพียงคำเดียว
  • ดอกแก้ว
  • คำคน ลาก่อนสำหรับวันนี้
  • ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก
  • ชั่วนิจนิรันดร
  • โลกนี้คือละคร
  • คนจะรักกัน
  • บทเรียนก่อนวิวาห์
  • คืนหนึ่ง
  • วิญญาณในภาพถ่าย
  • หวานรัก
  • ชื่นรัก
  • เสน่หา

เพลงประเภทปลุกใจและศาสนาแก้ไข

  • เทิดพระเกียรติพระปิยมหาราช
  • สดุดีมหาราชา
  • พลังไทย
  • พระรัตนตรัย
  • พุทธธรรม
  • เดือนเพ็ญตรัสรู้
  • ใต้ร่มพระบารมี

คอนเสิร์ตแก้ไข

  • คอนเสิร์ต เกิดมาเพื่อเพลง 77 ปี สุเทพ วงศ์กำแหง (2554)
  • คอนเสิร์ต รักเธอเสมอ (2554)
  • คอนเสิร์ต เพชรในเพลง (2554)
  • คอนเสิร์ต เพลงคู่ ครูเพลง (2555)
  • คอนเสิร์ต ชมวัง...ฟังเพลง (2555)
  • คอนเสิร์ต เพชรในเพลง ครั้งที่ 2 (2555)
  • คอนเสิร์ต หนังไทยในเสียงเพลง (2555)
  • คอนเสิร์ต 89 ปี ชาลี อินทรวิจิตร (2555)
  • คอนเสิร์ต บ้านเมืองสวยด้วยเสียงเพลง (2555)
  • คอนเสิร์ต ตามรอยแพร บนฟองเบียร์ สู่ปีที่ 80 สุเทพ วงศ์กำแหง (2556)
  • คอนเสิร์ต เพลงทำนอง...สองครู (2556)
  • คอนเสิร์ต เมื่อเพลงพาไป (2557)
  • คอนเสิร์ต กล่อมกรุง (2557)
  • คอนเสิร์ต รัตนโกสินทร์ (2557)
  • คอนเสิร์ต รักปักใจ ลินจง (2557)
  • คอนเสิร์ต 100 ปี กาญจนะผลิน (2557)
  • คอนเสิร์ต จุฬาฯ พาเพลิน ลีลาไทยในบทเพลง (2557)
  • คอนเสิร์ต รวมใจชาวอีสาน (2558)
  • คอนเสิร์ต บี พงษ์พันธ์ วันแมนโชว์ (2558)
  • คอนเสิร์ต ที่สุดที่ดี เพื่อพี่รี่ สวลี ผกาพันธุ์ (2558)
  • คอนเสิร์ต Master of Voices 3 ตำนานเพลงรักแห่งสยาม (2558)
  • คอนเสิร์ต กล่อมกรุง 2 (2558)
  • คอนเสิร์ต 40 ปี อุมาพร (2559)
  • คอนเสิร์ต สองวัยใจเดียวกัน (2559)
  • คอนเสิร์ต 93 ปี ชาลี อินทรวิจิตร เพลงหนังคู่แผ่นดิน (2559)
  • คอนเสิร์ต ''สองวัยใจเดียวกัน'' ครั้งที่ 2 (2561)
  • คอนเสิร์ต พลังแห่งรัก สุเทพ วงศ์กำแหง (2562)

ผลงานการแสดงละครแก้ไข

  • เงิน เงิน เงิน (2540)

ผลงานการแสดงภาพยนตร์แก้ไข

  • ขบวนเสรีจีน (2502)
  • เงิน เงิน เงิน (2508)
  • สาวขบเผาะ (2515)
  • วิมานดารา (2517)
  • เดือนเสี้ยว (2528)
  • ด๊อกเตอร์ครก (2535)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก้ไข

อ้างอิงแก้ไข

  1. ปิดตำนาน'สุเทพ วงศ์กำแหง'นักร้องเสียงขยี้ฟองเบียร์
  2. วงการเพลงสุดเศร้า! สิ้น ศิลปินแห่งชาติ สุเทพ วงศ์กำแหง เสียชีวิตในวัย 86 ปี
  3. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจดทะเบียนพรรคการเมือง
  4. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคกิจประชาคม
  5. นายกรัฐมนตรีพระราชทาน
  6. "สุเทพ วงศ์กำแหง: 'อำนาจเงิน' และ 'คน' บทเวทีพันธมิตรฯ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-17. สืบค้นเมื่อ 2010-10-21.
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-11-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๗ ตอนที่ ๒๔๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓
  8. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-11-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๕ ตอนที่ ๒๐๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๑
  9. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-06-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๑๔, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๘

แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข