สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม หรือ สมเด็จพระบรมราชาที่ 1 หรือ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงธรรมอันมหาประเสริฐ[1] เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. 2153 ถึง พ.ศ. 2171 แห่งราชวงศ์สุโขทัย รัชสมัยของพระองค์แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรอยุธยาหลังจากได้รับเอกราชจากอาณาจักรตองอู หลังรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง และได้เห็นการเริ่มต้นการค้าขายกับต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวดัตช์และญี่ปุ่น พระเจ้าทรงธรรมทรงบรรจุทหารรักษาพระองค์ด้วยทหารรับจ้างชาวต่างชาติ โดยเฉพาะที่โดดเด่นที่สุดคือชาวญี่ปุ่นนาม ยามาดะ นางามาซะ หรือออกญาเสนาภิมุข เจ้ากรมทหารอาสาญี่ปุ่น
สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม | |
---|---|
สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงธรรมอันมหาประเสริฐ | |
พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ณ ศาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม, อำเภอพระพุทธบาท, จังหวัดสระบุรี | |
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา | |
ครองราชย์ | 2153–2171 (17 ปี) |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ |
ถัดไป | สมเด็จพระเชษฐาธิราช |
พระมหาอุปราช | จมื่นศรีเสารักษ์ |
สมุหนายก | เจ้าพระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมัด) |
พระราชสมภพ | พ.ศ. 2135 พระศรีสิน |
สวรรคต | 12 ธันวาคม พ.ศ. 2171 (36 พรรษา) |
พระราชบุตร | สมเด็จพระเชษฐาธิราช พระพันปีศรีสิน สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ |
ราชวงศ์ | สุโขทัย |
พระราชบิดา | สมเด็จพระเอกาทศรถ |
พระราชมารดา | พระสนมไม่ปรากฏพระนาม |
พระราชประวัติ
แก้พระอินทราชาเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเอกาทศรถ ประสูติจากพระสนมชั้นเอก พระองค์ผนวชเป็นพระภิกษุ ๘ ปี จนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระพิมลธรรมอนันตปรีชา ก่อนที่ขุนนางจะเชิญพระองค์ลาผนวชขึ้นครองราชสมบัติโดยมีพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมขณะพระชนมายุได้ 29 พรรษา[2]: 205–206
กบฏ
แก้สมเด็จพระเอกาทศรถสวรรคตเมื่อปี 2153/54 และสืบทอดราชบัลลังก์โดยสมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ พระราชโอรสที่ประสูติจากสมเด็จพระอัครมเหสี พระองค์ครองราชย์ไม่ถึงปีและไม่ได้แสดงความสามารถใด ๆ จึงถูกจับสำเร็จโทษที่วัดโคกพระยา ก่อนที่พระองค์จะสวรรคต พ่อค้าชาวญี่ปุ่นบุกเข้าไปในพระราชวังและจับองค์กษัตริย์เป็นตัวประกัน พระองค์ได้รับการปล่อยตัวหลังจากสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายชาวญี่ปุ่นคนใด[2]: 203–205 พวกกบฏญี่ปุ่นจึงจับสมเด็จพระสังฆราชไว้เป็นหลักฐานจนสามารถหนีออกนอกประเทศได้[3]
ราชการสงคราม
แก้เสียเมืองตะนาวศรี
แก้พ.ศ. 2146 เมืองตะนาวศรี ถูกกองทัพพม่าเข้าล้อมเมืองจึงส่งหนังสือมาแจ้งให้ยกกองทัพไปช่วยป้องกันเมือง สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมจึงตรัสให้พระยาพิชัยสงครามเป็นแม่ทัพยกไปช่วยป้องกัน แต่เมื่อยกมาถึงด่านสิงขรมีนายทัพนายกองเข้ามาแจ้งว่าเมืองตะนาวศรีเสียแก่พม่าแล้ว สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมจึงให้ยกทัพกลับ ด้วยเหตุนี้กรุงศรีอยุธยาจึงต้องเสียตะนาวศรีอันเป็นเมืองท่าที่สำคัญทางตะวันตกในทะเลอันดามัน
สงครามกับกัมพูชา
แก้พ.ศ. 2164 พระไชยเชษฐาที่ 2 กษัตริย์แห่งกัมพูชาได้ย้ายราชธานีจากกรุงศรีสุนทร ไปยังกรุงอุดงมีชัย และได้ทำการไม่ส่งบรรณาการไม่ขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา ซึ่งกัมพูชาเป็นประเทศราชมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงยกทัพ โดยพระองค์ทรงเป็นแม่ทัพบก ให้พระศรีศิลป์เป็นแม่ทัพเรือ พระไชยเชษฐาทรงใช้วิธีเจรจาหน่วงเวลาและรวบรวมกำลังพลเพื่อรบ กองทัพเรือของพระศรีศิลป์เมื่อรอเวลานานก็ขาดแคลนเสบียงจนต้องถอยทัพ พระไชยเชษฐาจึงส่งกองทัพตามตีจนฝ่ายอยุธยาต้องแตกพ่ายไป
เชียงใหม่ซึ่งเคยเป็นประเทศราชมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชต่างก็พากันแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา
พระราชกรณียกิจ
แก้วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา
แก้สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงเป็นนักปราชญ์ รอบรู้ในวิชาการหลายด้าน มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทรงประพฤติราชธรรมอย่างมั่นคง เป็นที่รักใคร่นับถือของบรรดาราษฎรและชาวต่างชาติ พระกรณียกิจส่วนใหญ่ของพระองค์ มุ่งส่งเสริมทำนุบำรุงศาสนาพุทธในด้านต่าง ๆ เช่น โปรดเกล้าฯ ให้คัดลอกพระไตรปิฎกภาษาบาลีฉบับสมบูรณ์เป็นจำนวนมาก ทรงให้นักปราชญ์ราชบัณฑิตแต่งมหาชาติคำหลวงถวาย นับเป็นวรรณคดีชิ้นสำคัญของสมัยอยุธยา ได้มีผู้พบรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาสุวรรณบรรพต แขวงเมืองสระบุรี พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปครอบรอบพระพุทธบาท พร้อมทั้งสร้างพระอุโบสถ พระวิหารการเปรียญ กับกุฏิสงฆ์ ถวายให้เป็นสมบัติในพระพุทธศาสนา พระพุทธบาทสระบุรีจึงมีความสำคัญ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของพุทธศาสนิกชนตั้งแต่นั้นมาตราบถึงปัจจุบัน
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
แก้พระองค์ทรงมีสัมพันธ์ไมตรีกับบรรดาต่างประเทศที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับไทย ทำให้กรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองท่าที่สำคัญในภูมิภาคแถบนี้ของโลก ชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะฮอลันดา อังกฤษและญี่ปุ่น ที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับไทยตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ พระองค์ก็ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ริมคลองปลากด เหนือเมืองสมุทรปราการ ให้ชาวฮอลันดาตั้งคลังสินค้า และส่วนชาวญี่ปุ่น ปรากฏว่ามีชาวญี่ปุ่นสมัครเข้ารับราชการที่กรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก จนได้มีการจัดตั้งกรมอาสาญี่ปุ่น ขึ้นมาช่วยราชการกรุงศรีอยุธยา ชาวญี่ปุ่นที่มีบทบาทสำคัญในวงการเมืองในรัชสมัยของพระองค์คือยามาดะ นางามาซะ ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นออกญาเสนาภิมุข
สวรรคต
แก้สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงพระประชวรเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ขึ้น 6 ค่ำ จ.ศ. 989 หรือราว ธันวาคม พ.ศ. 2170 ขณะที่พระองค์ประชวรหนัก มีพระราชประสงค์จะมอบราชสมบัติให้พระราชโอรสองค์ใหญ่ คือ พระเชษฐาธิราชกุมาร โดยทรงมอบให้ออกญาศรีวรวงศ์ จางวางมหาดเล็ก ซึ่งเป็นพระญาติที่ไว้วางพระทัยเป็นผู้ดูแลพระเชษฐาธิราชจนกว่าจะได้ครองราชย์ จนอีก 1 เดือนกับอีก 16 วันถัดมาก็เสด็จสวรรคต แต่ชาวฮอลันดาได้บันทึกไว้ว่าพระองค์สวรรคตเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2171 สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมครองราย์ได้ 17 ปี
พระราชสันตติวงศ์
แก้สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมมีพระราชโอรส 3 พระองค์ ได้แก่ พระเชษฐาธิราชกุมาร พระพันปีศรีสิน และพระอาทิตยวงศ์ ส่วนจดหมายเหตุวันวลิตระบุว่า พระองค์มีพระราชโอรส 9 พระองค์ พระราชธิดา 8 พระองค์
ใน คำให้การชาวกรุงเก่า ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม มีพระมเหสีสองพระองค์ คือพระนางจันทราชา และพระนางขัตติยเทวี มีพระราชธิดาด้วยกันองค์ละสี่พระองค์ รวมมีพระราชธิดาทั้งหมดแปดพระองค์ ดังนี้[4]
|
|
พงศาวลี
แก้พงศาวลีของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
แก้- เชิงอรรถ
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. หน้า 261-4. ISBN 978-616-7146-08-9
- ↑ 2.0 2.1 Rajanubhab, D., 2001, Our Wars With the Burmese, Bangkok: White Lotus Co. Ltd., ISBN 9747534584
- ↑ François-Henri Turpin (1771). Histoire Civile Et Naturelle Du Royaume De Siam Et Des Révolutions Qui Ont Bouleversé Cet Empire Jusqu'en 1770. ISBN 978-1272336462.
- ↑ ประชุมคำให้การกรุงศรีอยุธยา รวม 3 เรื่อง, หน้า 90-91
- บรรณานุกรม
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ภาค 1. สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พิมพ์ขึ้นเป็นส่วนพระราชกุศลทานมัยในงานพระศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรเสฐสุดา, พระอรรคชายาเธอ กรมขุนอรรควรราชกัญญา, สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนพิจิตรเจษฎจันทร์ และสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี. พ.ศ. 2455.
{{cite book}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
(help) - ประชุมคำให้การกรุงศรีอยุธยา รวม 3 เรื่อง. กรุงเทพฯ : แสงดาว, 2553. 536 หน้า. ISBN 978-616-508-073-6
ดูเพิ่ม
แก้ก่อนหน้า | สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ (พ.ศ. 2153 - พ.ศ. 2154) |
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2154 - 2171) |
สมเด็จพระเชษฐาธิราช ( พ.ศ. 2171 - พ.ศ. 2173) |