พระตะบอง หรือ บัตดอมบอง (เขมร: បាត់ដំបង) เป็นเมืองหลักของจังหวัดพระตะบอง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ก่อตั้งขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 11 โดยกษัตริย์เขมร รู้จักกันในฐานะแหล่งปลูกข้าวชั้นนำของประเทศ สมัยก่อนเคยเป็นเมืองสยาม แต่ต่อมาก็ได้เป็นเมืองของกัมพูชา เมืองนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสังแก

พระตะบอง

បាត់ដំបង
เมือง
บนลงล่าง ซ้ายไปขวา: เมืองพระตะบอง, วัดด็อมเร็ยซอ, ตลาดซานัด ตลาดใหญ่พระตะบอง, อนุสาวรีย์ตาตัมบอง, วัดพิพิธธาราม, ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พระตะบอง, มุมสูง, ประเพณีแข่งเรือริมแม่น้ำสังแก
พระตะบองตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา
พระตะบอง
พระตะบอง
ตำแหน่งของเมืองพระตะบอง
พิกัด: 13°06′N 103°12′E / 13.100°N 103.200°E / 13.100; 103.200
ประเทศ กัมพูชา
จังหวัดพระตะบอง
ก่อตั้งศตวรรษที่ 11
อย่างเป็นทางการค.ศ. 1907
การปกครอง
 • ประเภทเทศบาลนคร
ประชากร
 (2009)
 • ทั้งหมด250,000 คน
 [1]
เขตเวลาUTC+7 (เวลามาตรฐานกัมพูชา)
เว็บไซต์City of Battambang

ประวัติศาสตร์ แก้

ในสมัยประวัติศาสตร์บริเวณเมืองพระตะบอง เป็นที่อยู่อาศัยของผู้คน จนกระทั่งมีการสร้างเป็นเมืองมาโดยตลอด ปรากฏหลักฐานที่เป็นศิลาจารึกภาษาสันสฤตและภาษาเขมรโบราณ ตั้งแต่สมัยก่อนเมืองพระนครถึงสมัยเมืองพระนคร แต่จากข้อมูลในศิลาจารึกที่พบในปัจจุบัน ยังไม่พบศิลาจารึกหลักใดกล่าวถึงชื่อเมืองพระตะบอง เข้าใจว่าชื่อเมืองพระตะบองเป็นการตั้งชื่อในภายหลัง เมืองพระตะบองมีศาสนสถานที่สร้างขึ้นในสมัยก่อนเมืองพระนครถึงสมัยเมืองพระนครตอนปลายจำนวนมาก ปราสาทที่มีขนาดใหญ่และค่อนข้างสมบูรณ์คือ ปราสาทบานันและปราสาทเอกพนม เป็นต้น

จากจารึกวัดเอกพนม K.211 จารึกขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1570 ตรงกับ รัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ในจารึกได้กล่าวถึง การถวายของจำนวนหนึ่งให้แก่เมืองที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงปราสาทซึ่งประดิษฐานงพระกมรเตงอัญศิวลิงก์ เมืองนั้นชื่อว่าเมือง อโมฆะปุระ (Amoghapura) เอเตียน อายโมนิเยร์สันนิษฐานว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของพระตะบองปัจจุบัน น่าจะเคยเป็นเมือง อโมฆะปุระ ในสมัยเมืองพระนคร[2] บทบาทของเมืองพระตะบองในประวัติศาสตร์เริ่มชัดเจนขึ้น ในสมัยหลังเมืองพระนคร เนื่องจากกัมพูชาได้ย้ายเมืองหลวงจากเมืองพระนครที่เคยเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมืองในสมัยเมืองพระนคร มาตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลสาบคือ เมืองศรีสันธร พนมเปญ ละแวก และเมืองอุดงค์ ทำให้พระตะบองกลายเป็นเมืองสำคัญที่ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางเดินทัพของสยามเพื่อไปรบกับเขมร ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลางจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เส้นทางที่ใช้คือเส้นทางปราจีนบุรี-พระตะบองเป็นหลักแทนเส้นทางเมืองพิมาย-เมืองพระนครที่จะต้องอ้อมทะเลสาบ[3] ชื่อเมืองพระตะบองจึงได้ปรากฏขึ้นในเอกสารพระราชพงศาวดารต่าง ๆ ทั้งของไทยและเขมร ในพระราชพงศาวดารของไทยปรากฏใน 2 ชื่อด้วยกันคือ เมืองปัตตะบองและเมืองพระตะบอง และในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นโดยเฉพาะในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมืองพระตะบองยังมีหน้าที่เป็นเมืองหน้าด่านของสยาม เพื่อป้องกันศึกสงครามกับญวน

หลังจากที่เมืองพระตะบองอยู่ภายใต้การปกครองสยามในต้นสมัยรัตนโกสินทร์ สยามได้แต่งตั้งเจ้าเมืองพระตะบองคนแรกชื่อ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) เมื่อ พ.ศ. 2337 โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งการแต่งตั้งผู้นำของเมืองพระตะบองในระยะต่อมาก็ยังคงรับการแต่งตั้งจากกษัตริย์สยามจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมัยนี้ฝรั่งเศสได้เริ่มเข้ามาตั้งอาณานิคมที่อินโดจีน ทางทิศตะวันออกของสยาม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ปฏิรูปเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของสยาม คือการจัดดินแดนอำนาจการปกครองใหม่ เพื่อดึงอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางและเพื่อช่วยป้องกันอำนาจของพวกตะวันตก ใน พ.ศ. 2439 พระองค์ทรงได้โปรดเกล้าฯ ให้ 4 จังหวัดของเขมรคือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ เมืองศรีโสภณ และเมืองพระสรุก รวมกันเป็นมณฑลบูรพา และทรงแต่งตั้งพระยาศักดาภิเดชวรฤทธิ เป็นสมุหเทศาภิบาล ต่อมาทรงแต่งตั้ง เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เป็นสมุหเทศาภิบาลแทน[4]

ภูมิอากาศ แก้

ข้อมูลภูมิอากาศของพระตะบอง
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 31.1
(88)
33.3
(92)
35
(95)
35.6
(96)
33.9
(93)
32.8
(91)
31.7
(89)
31.7
(89)
31.1
(88)
30
(86)
30
(86)
30
(86)
32.18
(89.9)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 19.4
(67)
21.1
(70)
22.8
(73)
24.4
(76)
24.4
(76)
24.4
(76)
24.4
(76)
24.4
(76)
23.9
(75)
23.3
(74)
22.2
(72)
20
(68)
22.92
(73.3)
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) 5
(0.2)
18
(0.7)
48
(1.9)
86
(3.4)
157
(6.2)
147
(5.8)
155
(6.1)
155
(6.1)
259
(10.2)
224
(8.8)
84
(3.3)
25
(1)
1,364
(53.7)
แหล่งที่มา: Weatherbase [5]
 
วัดพิพิธธาราม

สถานที่น่าสนใจ แก้

 
ถนนสายหนึ่งในเมืองพระตะบอง
 
ภาพแกะสลักเรื่องรามายณะ
 
วัดพนมเอก เมืองพระตะบอง

เมืองพี่น้อง แก้

อ้างอิง แก้

  1. http://books.google.com/books?id=PD8DseEWyuoC
  2. Etienne Aymonier, Khmer Heritage in the Old Siamese Province of Cambodia with Special Emphasis on Temples, 94-96
  3. พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ ภาษาไทยเขมร (กรุงเทพฯ: คณะกรรมการสมาคมวัฒนธรรมไทย-กัมพูชา กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ, 2552), 64.
  4. ประชุมพงศาวดาร เล่ม 12 (ประชุมพงศาวดารภาคที่ 15-18) (กรุงเทพฯ : คุรุสภา, 2507), 137-138
  5. "Weatherbase: Historical Weather for Batdambang, Cambodia". Weatherbase. 2011. Retrieved on November 24, 2011.

บรรณานุกรม แก้

  • Analyzing Development Issues Trainees, ADI Team, and Cooperation Committee for Cambodia. Labour Migration to Thailand and the Thai-Cambodian Border Recent Trends in Four Villages of Battambang Province. Small-scale research report. [Phnom Penh?]: Cooperation Committee for Cambodia, 2003.
  • Catalla, Rebecca F. Crossing Borders, Crossing Norms Vulnerability and Coping in Battambang Province. SCVCS report, #5. Phnom Penh, Cambodia: UNICEF/AFSC, 2000. ISBN 0910082413
  • Kassie, Alebachew, and Nguon Sokunthea. Credit and Landlessness Impact of Credit Access on Landlessness in Cheung Prey and Battambang Districts. Phnom Penh: Oxfam GB Cambodia Land Study Project, 2000.
  • Mourer, Cécile, and Roland Mourer. The Prehistoric Industry of Laang Spean, Province of Battambang, Cambodia. Sydney: Australasian Medical Pub, 1970.
  • Robinson, Court, Suphāng Čhanthawānit, and Lekha Nou. Rupture and Return Repatriation, Displacement, and Reintegration in Battambang Province, Cambodia. Bangkok: The Center, 1994. ISBN 9746311301
  • Grant Ross, Helen. Battambang = Pâtṭaṃpaṅ = Bad Dambaung = Le bâton perdu : histoire d'une ville. Phnom Penh, Cambodge: 3DGraphics Pub, 2003. ISBN 9799697441 in French and Khmer
  • Tūc, Jhuaṅ. Battambang During the Time of the Lord Governor. Phnom Penh: Cedoreck, 1994.
  • Vinary, Vonn. "All Our Livelihoods Are Dead" Landlessness and Aquatic Resources in Battambang Province. [Phnom Penh]: Oxfam GB Cambodia Land Study Project, 2000.
  • Wallgren, Pia, and Ray Sano. Report on the Reconciliation Areas Based on in-Depth Interviews Conducted in Six Villages in Battambang, Banteay Meanchey and Siem Reap Provinces. Phnom Penh: UNDP/CARERE, 2000.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้