วิกิพีเดีย

เคอร์ติส โจนส์

เคอร์ติส จูเลียน โจนส์ (เกิดวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2001) เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นตำแหน่งกองกลางให้กับลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติอังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี

เคอร์ติส โจนส์
โจนส์กับลิเวอร์พูลรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ใน ค.ศ. 2017
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม เคอร์ติส จูเลียน โจนส์[1]
วันเกิด (2001-01-30) 30 มกราคม ค.ศ. 2001 (23 ปี)[2]
สถานที่เกิด ลิเวอร์พูล อังกฤษ
ส่วนสูง 1.85 m (6 ft 1 in)[2]
ตำแหน่ง กองกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
 ลิเวอร์พูล
หมายเลข 17
สโมสรเยาวชน
2010–2019 ลิเวอร์พูล
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2019– ลิเวอร์พูล 80 (7)
ทีมชาติ‡
2016–2017 อังกฤษ อายุไม่เกิน 16 ปี[3] 6 (1)
2017 อังกฤษ อายุไม่เกิน 17 ปี 3 (0)
2018–2019 อังกฤษ อายุไม่เกิน 18 ปี 10 (1)
2019 อังกฤษ อายุไม่เกิน 19 ปี 4 (0)
2020–2023 อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี 20 (5)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 4 เมษายน 2024
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 26 มีนาคม 2023

สโมสรอาชีพ แก้

ลิเวอร์พูล แก้

โจนส์ลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่เมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2019 ในเอฟเอคัพรอบสาม นัดที่ออกไปเยือนวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์[4] ต่อมาเขาได้ลงเล่นนัดที่สองให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2019 ในรายการอีเอฟแอลคัพ นัดที่พบกับมิลตันคีนส์ดอนส์ โดยเขาถูกเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัดนั้น[5]

ต่อมาในอีเอฟแอลคัพ นัดที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านพบกับอาร์เซนอล เขายิงลูกโทษจนทำให้ลิเวอร์พูลสามารถเอาชนะในการยิงลูกโทษหลังต่อเวลาพิเศษได้[6] เขาลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2019 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนัดที่ออกไปเยือนบอร์นมัท[7]

ในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2020 โจนส์ทำประตูชัยช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะเอฟเวอร์ตันในเอฟเอคัพ ฤดูกาล 2019–20 1–0 ถือเป็นประตูแรกในนามสโมสรของเขา[8] โดยในวันที่เขายิงประตูนั้น เขาอายุ 18 ปี 340 วัน กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี นับตั้งแต่ที่ ร็อบบี ฟาวเลอร์ เคยทำได้ใน ค.ศ. 1994[9] [10] ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ในเอฟเอคัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ โจนส์กลายเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูลที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ 19 ปี 5 วัน ทำลายสถิติของอเล็กซ์ เรเบ็ค ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ชรูว์สบรีทาวน์ จากลีกวัน 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[11]

ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 โจนส์ตัดสินใจตอสัญญาระยะยาวกับทางสโมสรลิเวอร์พูล[12] ต่อมา ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 โจนส์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แอสตันวิลลา 2-0[13] จบฤดูกาล โจนส์ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[14]

ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2020 ฟุตบอลลีกคัพ รอบ 3 โจนส์ยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลิงคอล์นซิตี 7-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 4 ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[15] ต่อมา ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2020 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม D โจนส์ทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาเอฟเซ อายักซ์ จากเนเธอร์แลนด์ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[16] ต่อมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 โจนส์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ที่บรามอลล์เลน 2-0[17]

ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2021 โจนส์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 นัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เบรนต์ฟอร์ด ที่เบรนต์ฟอร์ดคอมมิวนิตีสเตเดียม 3-3

ในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2023 โจนส์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022–23 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4-3[18] ต่อมา ในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 โจนส์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 3-0[19]

ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2023 ฟุตบอลลีกคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ โจนส์ยิงประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 5-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลลีกคัพ ได้สำเร็จ[20] ต่อมา ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2024 โจนส์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4-2[21] ต่อมา ในวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2024 ฟุตบอลลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก โจนส์ยิงประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฟูลัม 2-1[22] ต่อมา ในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2024 เอฟเอคัพ รอบ 4 โจนส์ทำประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 5-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[23]

สถิติอาชีพ แก้

ณ วันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2024
สโมสร ฤดูกาล ลีก เอฟเอคัพ อีเอฟแอลคัพ ยุโรป อื่น ๆ ทั้งหมด
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
ลิเวอร์พูล 2018–19[24] พรีเมียร์ลีก 0 0 1 0 0 0 0 0 0 0 1 0
2019–20[25] พรีเมียร์ลีก 6 1 4 2 2 0 0 0 0 0 12 3
2020–21[26] พรีเมียร์ลีก 24 1 2 0 2 2 5[a] 1 1[b] 0 34 4
2021–22[27] พรีเมียร์ลีก 15 1 4 0 4 0 4[a] 0 — 27 1
2022–23[28] พรีเมียร์ลีก 18 3 2 0 0 0 2[a] 0 1[b] 0 23 3
2023–24 พรีเมียร์ลีก 17 1 2 1 5 3 4[c] 0 — 28 5
รวม 80 7 15 3 13 5 15 1 2 0 125 16
Liverpool U21 2019–20[25] — — — — — 1[d] 0 1 0
รวมทั้งหมด 80 7 15 3 13 5 15 1 3 0 126 16
  1. ↑ 1.0 1.1 1.2 Appearance(s) in UEFA Champions League
  2. ↑ 2.0 2.1 Appearance in FA Community Shield
  3. ↑ Appearances in UEFA Europa League
  4. ↑ Appearance(s) in EFL Trophy

เกียรติประวัติ แก้

ลิเวอร์พูล

ทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี

รางวัลส่วนตัว

  • UAE Sports Chain Cup Player of the Tournament: 2019[30]

อ้างอิง แก้

  1. ↑ "List of Players under Written Contract Registered Between 01/01/2018 and 31/01/2018". The Football Association. p. 5. สืบค้นเมื่อ 31 October 2019.
  2. ↑ 2.0 2.1 "Curtis Jones: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 31 October 2019.
  3. ↑ "England - C. Jones - Profile with news, career statistics and history - Soccerway". us.soccerway.com.
  4. ↑ "Wolverhampton Wanderers vs. Liverpool - 7 January 2019 - Soccerway". uk.soccerway.com.
  5. ↑ "MK Dons 0–2 Liverpool". BBC Sport. 25 September 2019.
  6. ↑ "Liverpool vs Arsenal result: Prodigy Curtis Jones settles Carabao Cup epic in game that had it all". The Independent. 30 October 2019.
  7. ↑ "Fabinho's message for Curtis Jones after Liverpool youngster makes Premier League debut at Bournemouth". Liverpool Echo. 7 December 2019.
  8. ↑ "Klopp's teenagers and reserves serve Ancelotti with a painful reality-check". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 5 January 2020.
  9. ↑ "Teenager Jones lights up Anfield with stunning derby winner". Belfast Telegraph. สืบค้นเมื่อ 5 January 2020.
  10. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพ
  11. ↑ Match Report: หงส์หนุ่มเฉือนชนะชรูว์สบิวรีในนัดรีเพลย์ เอฟเอ คัพ
  12. ↑ เคอร์ติส โจนส์ เซ็นสัญญาใหม่กับสโมสรลิเวอร์พูล
  13. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ชนะวิลลา
  14. ↑ อัลบั้มภาพ: ทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
  15. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกถล่มลินคอล์น ซิตี้ เข้ารอบคาราบาว คัพ
  16. ↑ Match Report: โจนส์ซัดประตูชัยให้ลิเวอร์พูลเข้า 16 ทีมสุดท้ายชปล
  17. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปคว้าชัยเหนือเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
  18. ↑ Match Report: โชต้ายิงนาทีสุดท้ายให้ลิเวอร์พูลชนะสเปอร์ส
  19. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0
  20. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มเวสต์แฮม 5-1 เข้ารอบรองฯ คาราบาว คัพ
  21. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิล 4-2
  22. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเอาชนะฟูแล่ม 2-1 (คาราบาว คัพ)
  23. ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มนอริชผ่านเข้ารอบ 5 เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ
  24. ↑ "Games played by เคอร์ติส โจนส์ in 2018/2019". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 5 December 2020.
  25. ↑ 25.0 25.1 "Games played by เคอร์ติส โจนส์ in 2019/2020". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 5 December 2020.
  26. ↑ "Games played by เคอร์ติส โจนส์ in 2020/2021". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 19 December 2020.
  27. ↑ "Games played by เคอร์ติส โจนส์ in 2021/2022". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 15 September 2021.
  28. ↑ "Games played by เคอร์ติส โจนส์ in 2022/2023". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 30 July 2022.
  29. ↑ Poole, Harry (21 December 2019). "Liverpool 1–0 Flamengo". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 21 December 2019.
  30. ↑ "England U18s seal second spot in UAE tournament after thrilling victory over Mexico - 24 March 2019". The FA.com.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

 
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ เคอร์ติส โจนส์
  • Profile at the Liverpool F.C. website
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=เคอร์ติส_โจนส์&oldid=11421567"