สโมสรฟุตบอลบางกอก
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สโมสรฟุตบอลบางกอก เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย ปัจจุบันเล่นอยู่ในไทยลีก 2
ชื่อเต็ม | สโมสรฟุตบอลบางกอก เอฟซี | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา | กระทิงเพลิง | |||
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2542 | |||
สนาม | สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี (ชั่วคราว) | |||
เจ้าของ | บจก.บางกอก เอฟซี แมเนจเมนต์ | |||
ประธาน | พรทัต อมตวิวัฒน์ | |||
ผู้จัดการ | อิศเรศ พึ่งเสือ | |||
ผู้ฝึกสอน | กฤษกร กระสายเงิน | |||
ลีก | ไทยลีก 2 | |||
2566–67 | ไทยลีก 3 ชนะเลิศ (ระดับประเทศ) (เลื่อนชั้น) | |||
|
ประวัติสโมสร
แก้ยุคโปรลีก
แก้สมาคมกีฬากรุงเทพมหานคร ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 ได้ลงทำการแข่งขันในโปรวินเชียลลีก ตามแผนพัฒนาการกีฬาเพื่อการอาชีพซึ่งก่อตั้งโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเชิญสมาคมกีฬาจังหวัดต่างๆที่ได้รับการคัดสรร มาเข้าร่วมแข่งขันในระบบลีกและทาง สมาคมกีฬากรุงเทพมหานคร ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขัน โดยมี ทวีศักดิ์ เดชเดโช เป็นผู้จัดการทีมคนแรก[1] โดยในปีแรกของการแข่งขัน (ฤดูกาล 2542/43) สมาคมฯ จบอันดับที่ 7 มี 24 คะแนน
ต่อมาในฤดูกาล 2546 ทางฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ได้กำหนดชื่อของทีมจังหวัดที่เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อให้ดูเป็นสากลมากขึ้น โดยทีมได้เปลื่ยนชื่อเป็น บางกอก บราโว่ โดยในปีนั้น ทีมทำผลงานได้ไม่ดีนักโดยจบอันดับที่ 9 จาก 12 ทีม มี 26 คะแนน โดยผู้ทำประตูสูงสุดของทีม ในเวลานั้นคือ กริชธิชัย สารกุล โดยทำไป 9 ประตู ก่อนที่ใน ฤดูกาล 2547 เจ้าตัวทำผลงานได้ดี โดยเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของลีกโดยทำประตูไป 11 ประตูร่วมกับ ภานุวัฒน์ ดวงทอง เพื่อนร่วมทีมและโคเน่ คาสซิม ของ สโมสรนครปฐม ฮันเตอร์
เข้าสู่ระบบลีก
แก้ใน พ.ศ. 2550 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ทำการรวมลีกทั้งโปรวินเชียลลีก และไทยแลนด์ลีก เข้าด้วยกัน ซึ่งทีมได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งดิวิชั่น1 ในสายเอ แต่ผลงานของทีมกลับเลวร้าย โดยจบอันดับที่ 11 จาก 12 ทีม (ในปีนั้น สายหนึ่งตกชั้น 5 ทีม) ทำให้ต้องตกชั้นลงไปแข่งขันใน ดิวิชั่น2
พ.ศ. 2551 ในการแข่งดิวิชั่น 2 โดยอยู่ในสายบี แต่ผลงานของทีมกลับไม่ดีนัก โดยทำผลงานจบอันดับที่ 11 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย จากทั้งหมด 11 ทีม โดยที่ทีมตกชั้นไปเล่นในโปรลีก
พ.ศ. 2552 สโมสรได้ลงแข่งขันในลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 ซึ่งเป็นการแข่งขันฤดูกาลแรกของฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ในส่วนของสโมสรที่อยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ประจำปี 2552 หลังจากมีการปรับการแข่งขันจากฤดูกาล ฤดูกาล 2551 ที่ไม่ได้แบ่งออกเป็นลีกย่อยในแต่ละภูมิภาค
ปี พ.ศ. 2553 สโมสรได้ปรับเปลื่ยนโครงสร้างการบริหารให้เป็นมืออาชีพมากขึ้นและเปลื่ยนสัญลักษณ์ของสโมสรทั้งหมด โดยเปลื่ยนชื่อเป็น บางกอก เอฟซี โดยใช้สัญลักษณ์วัวกระทิง มีเสาชิงช้าเป็นพื้นหลังเป็นสัญลักษณ์สโมสร รวมไปถึงการเปลื่ยนแปลงผู้บริหารโดย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานสโมสรและแต่งตั้ง ทองสุข สัมปหังสิต เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนและประธานเทคนิคควบคู่กัน[2] และ กลับมาใช้ สนามเฉลิมพระเกียรติ บางมด เป็นสนามเหย้า ได้ทำการปรับปรุงใหม่รองรับแฟนบอลได้ถึง 8,000 ที่นั่ง โดยฤดูกาลนี้สโมสรยังคงลงเล่นใน ดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2553 สโมสรทำผลงานได้ดีจบฤดูกาล สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศของโซนกรุงเทพฯและปริมณฑล เข้าสู่ แชมเปี้ยนส์ ลีกโดย จบอันดับที่ 4 ของกลุ่มบี แต่ยังได้สิทธิ์เพลย์ออฟ เลื่อนชั้น หลังจากที่ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้ประกาศที่จะเพิ่มจำนวนสโมสรที่เข้าร่วมแข่งขัน ดิวิชั่น 1 เป็น 18 ทีม โดยสโมสรสมารถเอาชนะ สโมสรนราธิวาส เอฟซี ด้วยประตูรวม 2-11 (นัดแรก ชนะ 1-7 นัดที่ 2 ชนะ 1-4) ทำให้ได้สิทธิ์เลื่อนชั้น แข่งขันในดิวิชั่น 1
ดิวิชั่น 1
แก้ผลงานของสโมสรในปีแรก ๆ จบอยู่ที่กลางตาราง โดยในฤดูกาลแรกที่เลื่อนชั้นขึ้น (ไทยลีกดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2554) สโมสรจบอันดับที่ 11 และ ไทยลีกดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2555 จบอับดันที่ 10
ในฤดูกาล 2556 และฤดูกาล 2557 สโมสรมีลุ้นเลื่อนชั้นขึ้นไทยพรีเมียร์ลีก โดยผลงานของสโมสร จบในอันดับที่ 4 สองฤดูกาลติด
ต่อมาสโมสรเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน โดยผลงานของทีมเริ่มตกต่ำ โดยใน ฤดูกาล 2558 จบอันดับ 13 และฤดูกาล 2559 สโมสรต้องหนีตกชั้นอย่างหนัก แต่สามารถรอดตกชั้นมาได้ สโมสรได้มีการเปลื่ยนแปลงฝ่ายบริหาร ผู้เล่น และทีมงานผู้ฝึกสอน โดยทางสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ทำการเทคโอเวอร์สโมสรหลังจากที่กลุ่มผู้บริหารเก่าไม่ทำบริหารทีมต่อไป[3] และแต่งตั้งให้ยุทธนา ทวีสรรพสุข อดีตผู้จัดการ พัทยา ยูไนเต็ด มาดูแลสโมสรโดยผู้เล่นส่วนใหญ่คือ อดีตนักฟุตบอลเยาวชนของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ อดีตผู้เล่นบางส่วนของบีอีซี เทโรศาสน และพัทยา ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2560 สโมสรก็ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังโดยจบฤดูกาลอันดับที่ 17 ตกชั้นสู่ไทยลีก 3
ไทยลีก 3
แก้ในฤดูกาล 2561 บางกอกเอฟซีภายใต้การดูแลของเมืองทองยูไนเต็ด ได้ย้ายสนามเหย้าจากสนามบางมดไปยังสนามมาร์วิน(สนามซ้อมเมืองทอง) โดยในปีนั้นทีมจบฤดูกาลในอันดับที่ 5 ของการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 3 โซนบน ซึ่งทีมชุดนั้นประกอบไปด้วยดาวรุ่งจากอคาเดมี่เมืองทองยูไนเต็ดทั้งทีม อาทิเช่น ปรเมศย์อาจวิไล กรวิชญ์ ทะสา วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละครเป็นต้น
ฤดูกาล 2562 ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร โดยได้คุณพอล พรทัต อมตวิวัฒน์ เข้ามาถือสิทธิ์ทำทีมแทนเมืองทองยูไนเต็ด แต่ยังใช้สนามของเมืองทองเป็นสนามเหย้าอยู่ในฤดูกาลนั้น โดยมีการปรับเปลี่ยนทีมใหม่ทั้งหมดตั้งแต่โลโก้ ทีมงานและนักเตะ
ฤดูกาล 2563-64 เกิดปัญหาโควิดขึ้น จึงมีการรวมไทยลีก 3 และไทยลีก 4 เข้าด้วยกัน โดยบางกอกเอฟซีได้เล่นในไทยลีก 3 โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยได้ย้ายสนามเหย้าไปใช้สนามม.กรุงเทพ
ฤดูกาล 2564-65 บางกอกเอฟซีได้กลับมาใช้สนามเหย้าที่สนามบางมดอีกครั้ง โดยช่วงแรกยังคงต้องแข่งแบบปิดโดยไม่มีผู้ชมเพราะปัญหาโควิด 19
ฤดูกาล 2565-66 เป็นฤดูกาลที่บางกอกเอฟซีทำผลงานได้ดีโดยจบในอันดับที่ 2 ของโซนกรุงเทพฯปริมณฑลโดยแพ้อันดับ 1 นอร์ทกรุงเทพที่คะแนนมินิลีกเท่านั้น
ฤดูกาล 2566-67 ในการแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2566–67 รอบ 16 ทีมสุดท้าย สโมสรสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเอาชนะทีมแชมป์เก่าอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไปได้ 5–4 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และนับเป็นครั้งแรกที่สโมสรจากลีกระดับต่ำกว่าไทยลีกสามารถเอาชนะบุรีรัมย์ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยในประเทศได้ ส่วนผลงานในลีกบางกอกเอฟซีก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยสามารถคว้าแชมป์โซนกรุงเทพฯปริมณฑลได้สำเร็จ โดยแพ้ไปเพียงแค่นัดเดียวและทำสถิติชนะติดต่อกันสูงสุดอีกด้วยและในรอบแชมเปี้ยนลีกบางกอกเอฟซีสามารถทำผลงานจบในอันดับที่ 1 ของกลุ่มตอนล่างโดยได้สิทธิเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในไทยลีก 2 ฤดูกาลต่อไปและไปชิงแชมป์ประเทศกับอันดับ 1 ของกลุ่นตอนบน โดยนัดแรกบุกไปเสมอศรีสะเกษ 1-1 ในนัดที่สองเปิดบ้านเอาชนะ 2-1 คว้าแชมป์ไปครอง
-
ฤดูกาล 2542
-
ฤดูกาล 2546
-
ฤดูกาล 2548
-
ฤดูกาล 2555
ผลงานของสโมสรในแต่ละฤดูกาล
แก้ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอ คัพ | ลีกคัพ | ลีก 3 คัพ | ผู้ทำประตูสูงสุด | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลีก | แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | แต้ม | อันดับ | ชื่อ | ประตู | ||||
2542/43 | โปรลีก | 22 | 6 | 6 | 10 | 32 | 37 | 24 | อันดับ 7 | |||||
2543/44 | โปรลีก | 22 | 5 | 6 | 11 | 26 | 42 | 21 | อันดับ 9 | มนัส สุคันธจันทร์ | 8 | |||
2545 | โปรลีก สาย บี | 10 | 0 | 1 | 9 | 8 | 24 | 1 | อันดับ 11 | |||||
2546 | โปรลีก | 22 | 5 | 11 | 6 | 28 | 29 | 26 | อันดับ 9 | กริชธิชัย สารกุล | 9 | |||
2547 | โปรลีก | 18 | 8 | 4 | 6 | 36 | 32 | 28 | อันดับ 5 | กริชธิชัย สารกุล ภานุวัฒน์ ดวงทอง |
11 | |||
2548 | โปรลีก | 22 | 5 | 8 | 9 | 25 | 27 | 23 | อันดับ 8 | |||||
2549 | โปรลีก | 30 | 9 | 12 | 9 | 31 | 34 | 39 | อันดับ 9 | |||||
2550 | ดิวิชั่น 1 สาย เอ | 22 | 5 | 8 | 9 | 27 | 35 | 23 | อันดับ 11 | |||||
2551 | ดิวิชั่น 2 สาย บี | 20 | 2 | 3 | 15 | 16 | 47 | 9 | อันดับ 11 | |||||
2552 | ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯ | 18 | 5 | 7 | 6 | 18 | 25 | 22 | อันดับ 6 | |||||
2553 | ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯ | 24 | 14 | 6 | 4 | 49 | 18 | 48 | ชนะเลิศ | |||||
2554 | ดิวิชั่น 1 | 34 | 13 | 3 | 18 | 56 | 63 | 42 | อันดับ 11 | ซามูเอล คูวาคู | 14 | |||
2555 | ดิวิชั่น 1 | 34 | 11 | 9 | 14 | 62 | 55 | 42 | อันดับ 10 | ลี ทรัค | 23 | |||
2556 | ดิวิชั่น 1 | 34 | 18 | 8 | 8 | 69 | 54 | 62 | อันดับ 4 | รอบก่อนรองชนะเลิศ | ลี ทรัค | 23 | ||
2557 | ดิวิชั่น 1 | 34 | 14 | 15 | 5 | 53 | 37 | 57 | อันดับ 4 | รอบก่อนรองชนะเลิศ | วาเรซี่ จูเนียร์ | 16 | ||
2558 | ดิวิชั่น 1 | 38 | 14 | 7 | 17 | 44 | 49 | 49 | อันดับ 13 | รอบสอง | รอบแรก | ราโดเมียร์ ราโดวิช | 15 | |
2559 | ดิวิชั่น 1 | 26 | 4 | 11 | 11 | 26 | 41 | 23 | อันดับ 14 | รอบแรก | รอบแรก | ดักกลาส โรดริเกวซ | 9 | |
2560 | ไทยลีก 2 | 32 | 8 | 5 | 19 | 47 | 64 | 29 | อันดับ 17 | รอบแรก | คัดเลือก | ฌูเวา เปาลู ซาเลส | 23 | |
2561 | ไทยลีก 3 โซนบน | 26 | 10 | 7 | 9 | 35 | 36 | 37 | อันดับ 5 | รอบแรก | รอบคัดเลือกรอบสอง | ปรเมศย์ อาจวิไล | 7 | |
2562 | ไทยลีก 3 โซนบน | 24 | 11 | 4 | 9 | 47 | 35 | 37 | อันดับ 5 | รอบคัดเลือก | รอบคัดเลือกรอบสอง | Ibrahim Dicko | 15 | |
2563–64 | ไทยลีก 3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล | 20 | 13 | 5 | 2 | 40 | 18 | 44 | อันดับ 3 | รอบ 64 ทีมสุดท้าย | รอบคัดเลือกรอบแรก | บรรลือ ทองเกลี้ยง | 7 | |
2564–65 | ไทยลีก 3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล | 26 | 15 | 8 | 3 | 55 | 19 | 53 | อันดับ 2 | รอบ 32 ทีมสุดท้าย | รอบคัดเลือกรอบสอง | ไคกี รีเบย์รู | 18 | |
ไทยลีก 3 รอบแชมเปี้ยนส์ลีก โซนตอนล่าง |
5 | 1 | 0 | 4 | 3 | 14 | 3 | อันดับ 6 | ||||||
2565–66 | ไทยลีก 3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล | 26 | 15 | 8 | 3 | 48 | 29 | 53 | อันดับ 2 | รอบแรก | รอบ 32 ทีมสุดท้าย | บรรลือ ทองเกลี้ยง | 11 | |
ไทยลีก 3 รอบแชมเปี้ยนส์ลีก โซนตอนล่าง |
5 | 1 | 1 | 3 | 2 | 7 | 4 | อันดับ 5 | ||||||
2566–67 | ไทยลีก 3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล | 26 | 18 | 7 | 1 | 59 | 19 | 61 | อันดับ 1 | รอบก่อนรองชนะเลิศ | รอบ 32 ทีมสุดท้าย | รอบคัดเลือกรอบสอง | วิชญะ พรประสาท ดูดู ลีมา |
14 |
ไทยลีก 3 รอบแชมเปี้ยนส์ลีก โซนตอนล่าง |
5 | 3 | 2 | 0 | 9 | 4 | 11 | อันดับ 1 | ||||||
2567–68 | ไทยลีก 2 | ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขัน | 14 |
ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับสาม | เลื่อนชั้น | ตกชั้น |
ที่ตั้งและสนามแข่ง
แก้พิกัด | ที่ตั้ง | สนาม | ความจุ | ปีที่ใช้ |
---|---|---|---|---|
13°46′00″N 100°33′10″E / 13.766570°N 100.552823°E | ดินแดง กรุงเทพมหานคร | สนามไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง | 10,000 | 2542–2550 |
13°48′07″N 100°47′27″E / 13.801944°N 100.790833°E | มีนบุรี กรุงเทพมหานคร | สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา | 10,000 | 2551–2552 |
13°38′48″N 100°29′34″E / 13.646667°N 100.492778°E | ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร | สนามเฉลิมพระเกียรติ บางมด | 8,126 | 2553– |
ผู้เล่น
แก้ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
แก้หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ทีมสตาฟประจำสโมสร
แก้ตำแหน่ง | ชื่อ |
---|---|
ประธานสโมสร | กฤษฎี ตั้งจิตถนอมสิน |
ผู้จัดการทีม | อิศเรศ พึ่งเสือ |
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | กฤษกร กระสายเงิน |
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน | มามาดู โฟฟาน่า |
ผู้ฝึกสอน
แก้ทำเนียบหัวหน้าผู้ฝึกสอน ตั้งแต่ปี 2553-ปัจจุบัน
ชื่อ | สัญชาติ | ช่วงเวลา | เกียรติยศ |
---|---|---|---|
เอนก เดชมิตร | ไทย | 2546 | |
สุรศักดิ์ ใจมั่น | ไทย | 2552 | |
ทองสุข สัมปหังสิต | 2553–2555 | ดิวิชัน 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑล
| |
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง | 2555 – 2556 | ||
รอยเตอร์ โมไรร่า | 2556 – พ.ย. 2556 | ||
ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก | ธ.ค. 2556 – ส.ค. 2557 | ||
มีลอช ยอกซิช | ส.ค. 2557 – พ.ย. 2558 | ||
เอกวีร์ สิริโภคาศัย | พ.ย. 2558 – มิ.ย. 2559 | ||
สุธี สุขสมกิจ | มิ.ย. 2559 – พ.ย. 2559 | ||
ศุภชาติ มานะกิจ | ก.พ. 2560 – มี.ค. 2560 | ||
สระราวุฒิ ตรีพันธ์ | มี.ค. 2560 – ก.พ. 2561 | ||
จักรราช โทนหงษา | 2561 | ||
ฌอน เซนส์บิวรี่ | 2562 | ||
Zarko Djalovic | พ.ย. 2562 – ส.ค. 2563 | ||
Sebastian Neumann | ก.ย. 2563 – ก.ค. 2565 | ไทยลีก 3 ฤดูกาล 2564–65
| |
กฤษกร กระสายเงิน | ก.ค. 2565 – | ไทยลีก 3 ฤดูกาล 2566–67
|
เกียรติประวัติ
แก้- ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2
- ชนะเลิศ โซนกรุงเทพและปริมณฑล : 2553
สโมสรพันธมิตร
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ https://web.archive.org/web/20060219060720/http://www.bkkfc.com/first_team.php Bravo First Team - Bangkok Bravo FC
- ↑ http://www.siamsport.co.th/Column/100522_106.html ณัฎฐพล ทีปสุวรรณ & ทองสุข สัมปหังสิต ชายผู้พลิกบางกอก เอฟซีจากดินสู่ดาว - สยามกีฬา
- ↑ http://toptowin.net/“เมืองทองฯ”-เตรียมเทคโอเวอร์-พร้อมเสริมทัพแกร่ง-“บางกอก-เอฟซี”/เก็บถาวร 2021-08-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน “เมืองทองฯ” เตรียมเทคโอเวอร์ พร้อมเสริมทัพแกร่ง “บางกอก เอฟซี” - TopToWin
- ↑ บางกอก เอฟซี เซ็นพันธมิตร เวกัลตะ เซนได 3 ปี พัฒนาโค้ช-นักเตะ-เยาวชน
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- สโมสรฟุตบอลบางกอก เอฟซี เก็บถาวร 2013-05-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สโมสรฟุตบอลบางกอก ที่เฟซบุ๊ก