สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ
สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ (จีน: 赤壁; พินอิน: Chìbì; อังกฤษ: Red Cliff หรือ The Battle of Red Cliff ในสิงคโปร์) เป็นภาพยนตร์จีนอิงประวัติศาสตร์ขนาดยาว ออกฉายพร้อมกันทั่วทวีปเอเชียในวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 เพื่อต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่จีนเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน สร้างจากวรรณคดีชิ้นเอกของจีนเรื่อง สามก๊ก ในตอน โจโฉ แตกทัพเรือ หรือ ศึกผาแดง อำนวยการสร้างและกำกับโดย จอห์น วู โดยภาพยนตร์เริ่มเปิดการถ่ายทำขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 [5] ด้วยทุนสร้างกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ทุนสร้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์เอเชีย โดยแบ่งออกเป็น 2 ภาคใหญ่ ๆ ด้วยกันเฉพาะในเอเชีย (ในภาค 2 ฉาย 22 มกราคม พ.ศ. 2552) ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ส่วนประเทศอื่น ๆ จะฉายในตอนเดียวจบในระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ ในประเทศไทย | |
กำกับ | จอห์น วู |
เขียนบท | จอห์น วู ฉานคาน โค่วเฉิง เซิงเหอหยี |
อำนวยการสร้าง | จอห์น วู เทอเรนซ์ ชาง หาน ซานปิง |
นักแสดงนำ | เหลียงเฉาเหว่ย ทาเคชิ คาเนชิโร่ หลินจื้อหลิง จางเฟิงอี้ ฉางเฉิน เจ้าเหว่ย ฮูจุน ชิโด นากามูระ |
กำกับภาพ | หลี่หยู จางลิ |
ตัดต่อ | แองจี้ แลม หยางฮองหยี โรเบิร์ต อา. เฟอร์เร็ตตี้ (ภาค 1) เดวิด หวู (ภาค 2) |
ดนตรีประกอบ | ทาโร่ อิวาชิโร่ |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | ซัมมิท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ สหมงคลฟิล์ม (ไทย) เอเว๊กซ์กรุ๊ป (ญี่ปุ่น) ไชน่าฟิล์มกรุ๊ป (จีน) โชว์บ๊อกซ์ (เกาหลีใต้) ทเวนตีธ์เซนจูรีฟอกซ์ (ไต้หวัน) |
วันฉาย | 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 (ภาค 1) 22 มกราคม พ.ศ. 2552 (ภาค 2) |
ความยาว | 280 นาที (รวม) 140 นาที (ภาค 1) 140 นาที (ภาค 2) |
ประเทศ | จีน |
ภาษา | จีนกลาง |
ทำเงิน | 248.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[1][2][3][4] |
ข้อมูลจาก All Movie Guide | |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
เนื้อเรื่องย่อ
แก้ภาค 1
แก้ในฤดูร้อน ปี ค.ศ. 208 ยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก โจโฉสมุหนายกผู้พิชิตภาคเหนือและเมืองหลวง อ้างโองการของพระเจ้าเหี้ยนเต้ยกพลกว่า 800,000 นายและกองเรือกว่า 2,000 ลำ ลงสู่ภาคใต้ เพื่อปราบขุนศึกซุนกวนและเล่าปี่ เพื่อหวังยึดครองดินแดนของขุนศึกทั้งสอง โจโฉได้นำพลพิชิตเล่าปี่ได้อย่างง่ายดาย ทำให้เล่าปี่ต้องอพยพราษฎรออกจากเมืองซินเอี๋ย โจโฉได้นำทัพบุกโจมตีขบวนอพยพของเล่าปี่ แต่กวนอูและเตียวหุย น้องร่วมสาบานของเล่าปี่ได้นำทัพมาป้องกันระวังหลังไว้ได้ ส่วนจูล่ง ขุนพลอีกคนของเล่าปี่ได้ขี่ม้าไปช่วยเหลือครอบครัวของเล่าปี่ที่ตกอยู่ในวงล้อมของโจโฉ ถึงแม้จะช่วยภรรยาทั้งสองของเล่าปี่ไม่ได้ แต่จูล่งก็ช่วยทารกบุตรชายของเล่าปี่กลับมาหาเล่าปี่ได้สำเร็จ
หลังจากพ่ายศึก เล่าปี่ได้ส่งขงเบ้งไปเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับซุนกวนแห่งง่อก๊ก เพื่อร่วมมือกันต่อต้านโจโฉ แต่ซุนกวนยังสองจิตสองใจว่าจะร่วมสู้หรือสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ เนื่องด้วยคณะที่ปรึกษานำโดยเตียวเจียวได้เสนอให้ยอมสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ ขณะที่คณะขุนศึกนำโดยเทียเภาได้เสนอให้ร่วมมือกับเล่าปี่สู้โจโฉ แต่ด้วยความเห็นของขงเบ้ง และกุศโลบายการโน้มน้าวอย่างแยบคายของจิวยี่แม่ทัพใหญ่แห่งง่อก๊ก ซุนกวนจึงตัดสินใจประกาศสงครามกับโจโฉ โดยแต่งตั้งให้จิวยี่เป็นแม่ทัพในการสงคราม ขณะเดียวกัน ชัวมอและเตียวอุ๋นแห่งเกงจิ๋วได้มาสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ โจโฉตั้งให้ทั้งสองคนเป็นแม่ทัพเรือ
หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพโจโฉนำโดยแฮหัวเอี๋ยนได้นำกองทัพม้าไปโจมตีกองทัพพันธมิตรของเล่าปี่และซุนกวน แต่ก็ถูกกลศึกโดยปิดล้อมในกระบวนทัพที่ฝ่ายพันธมิตรได้วางแผนเอาไว้แล้วร่วมกัน แฮหัวเอี๋ยนพ่ายศึก แต่จิวยี่ได้ปล่อยตัวแฮหัวเอี๋ยนกลับทัพโจโฉไป ฝ่ายโจโฉก็นำทัพเรือมาตั้งไว้ที่ริมฝั่งตรงข้ามกับผาแดงอันเป็นที่ตั้งค่ายของจิวยี่ รอเวลาเปิดศึกต่อไป
ภาค 2
แก้ซุนซ่างเซียง น้องสาวของซุนกวน ได้ลอบเข้าไปสอดแนมในกองทัพของโจโฉ ขณะนั้นได้เกิดโรคระบาดในกองทัพของโจโฉ โจโฉได้วางแผนส่งศพทหารไปยังง่อก๊ก เพื่อให้การเกิดระบาดในกองทัพพันธมิตร แต่จิวยี่และขงเบ้งได้ควบคุมโรคระบาดได้ทันกาล แต่จากการเกิดโรคระบาด ทำให้เล่าปี่กลับถอนตัวจากกองทัพ ส่วนขงเบ้งยังอยู่ในง่อก๊กต่อไป ฝ่ายกองทัพของโจโฉ ชัวมอและเตียวอุ๋นได้เสนอการโยงเรือติดกันเพื่อแก้ปัญหาการเมาเรือของทหารโจโฉที่ไม่คุ้นชินการรบทางน้ำ
ต่อมา จิวยี่และขงเบ้งได้ร่วมกันวางแผนอันแยบคายในการบั่นทอนกำลังของกองทัพโจโฉ โดยขงเบ้งได้นำกองเรือที่บรรทุกหุ่นฟางมาเต็มลำ ไปหลอกให้ฝ่ายโจโฉยิงเกาทัณฑ์ใส่ขณะที่หมอกลงจัด ได้เกาทัณฑ์มาถึงแสนกว่าดอก ฝ่ายจิวยี่ เมื่อโจโฉส่งเจียวก้านมาเพื่อเกลี้ยกล่อมจิวยี่ จิวยี่ได้แสร้งให้เจียวก้านลักจดหมายสวามิภักดิ์ของชัวมอและเตียวอุ๋นที่จิวยี่ปลอมแปลงขึ้น เมื่อโจโฉได้อ่านจดหมายนั้น ประกอบกับการที่ชัวมอและเตียวอุ๋นได้ยิงเกาทัณฑ์แสนดอกให้ฝ่ายง่อก๊ก ทำให้โจโฉสั่งประหารชัวมอและเตียวอุ๋น
ซุนซ่างเซียงได้เดินทางกลับจากการสอดแนมแล้วนำแผนที่ค่ายโจโฉนำมาเสนอ จิวยี่และขงเบ้งวางแผนที่จะเผากองทัพเรือของโจโฉ ฝ่ายเสียวเกี้ยว ภรรยาของจิวยี่ได้เดินทางไปหาโจโฉเพื่อถ่วงเวลาโจโฉ เพื่อให้แผนการของจิวยี่สัมฤทธิ์ผล สงครามได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดมา อันเป็นประโยชน์ต่อกองทัพง่อก๊กในการเผาทัพของโจโฉ จิวยี่ได้ส่งเรือไฟไปเผาทัพเรือที่โยงติดกันของโจโฉจนวอดวายสิ้น ขณะเดียวกัน เล่าปี่ได้กลับมาร่วมในการโจมตีโจโฉอีกแรง (แท้จริงแล้วเป็นกลลวงซ้อนระหว่างจิวยี่,ซุนกวนและเล่าปี่ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้โจโฉเกิดความชะล่าใจว่าแผนแพร่โรคระบาดของตนเองสำเร็จ) โจโฉได้ถอยกลับมาที่ค่าย กองทัพพันธมิตรได้นำทัพไปตีค่ายของโจโฉ และสามารถชิงตัวเสียวเกี้ยวคืนกลับมาได้ จิวยี่ได้ปล่อยโจโฉกลับไป กองทัพพันธมิตรเล่าปี่และซุนกวนได้รับชัยชนะในที่สุด
นักแสดง
แก้นักแสดงหลัก
แก้- เหลียงเฉาเหว่ย เป็น จิวยี่
- ทาเคชิ คาเนชิโร่ เป็น ขงเบ้ง
- จางเฟิงอี้ เป็น โจโฉ
- ฉางเฉิน เป็น ซุนกวน
- เจ้าเหว่ย เป็น ซุนซ่างเซียง
- ฮูจุน เป็น จูล่ง
- ชิโด นากามูระ เป็น กำเหลง
- หลินจื้อหลิง เป็น เสียวเกี้ยว
- ถงไต้เหว่ย เป็น ซุนจือไฉ่ (ทหารของโจโฉ)
- โย่วหยง เป็น เล่าปี่
- โฮ่วหยง เป็น โลซก
นักแสดงรอง
แก้- ปาเซินจาปู เป็น กวนอู
- แจงจิงเชิง เป็น เตียวหุย
- จางซาน เป็น อุยกาย
- หวางฮุ่ย เป็น โจหอง
- เซี่ยกัง เป็น ฮัวโต๋
- ซ่งเจีย เป็น อิจี้ (สาวใช้ของโจโฉ)
- ซื่อเซี่ยวหง เป็น เจียวก้าน
- ซูเฟิงเหนียน เป็น เตียวเลี้ยว
- กั่วเฉา เป็น งักจิ้น
- ฮุ่เสี่ยวกวง เป็น แฮหัวเอี๋ยน
- ซุยหยีกุย เป็น เคาทู
- เจียงต๋อง เป็น ลิบอง
- หม่าจิง เป็น บุนเพ่ง
- อี้เจิน เป็น ชัวมอ
- เจีย ฮองเว่ย เป็น เตียวอุ๋น
- เจ้าเฉิงซุน เป็น ซุนฮิว
- หวางเจ้าล่าย เป็น เทียหยก
- หวางหนิง เป็น พระเจ้าเหี้ยนเต้
- หวางชิงเซี่ยง เป็น ขงหยง
- ลิฮอง เป็น กำฮูหยิน
- เหอยิน เป็น บิฮูหยิน
- หวางหยีจาง เป็น เทียเภา
- เหมิ่งเหอ หวูลิจิ เป็น กวนเป๋ง
- เฉินฉางไฮ่ เป็น จิ๋นสง
- จางอี้ เป็น เตียวเจียว
- หวูฉี เป็น โกะหยง
การคัดเลือกตัวนักแสดง
แก้- ในขั้นแรก เคน วาตานาเบ้ ได้รับการทาบทามให้รับบท โจโฉ แต่มีกระแสต่อต้านจากคอภาพยนตร์ชาวจีนว่าไม่เหมาะสมที่จะให้ชาวญี่ปุ่นมารับบทบุคคลสำคัญที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ต่อมาจึงเปลี่ยนให้จางเฟิงอี้รับบทโจโฉแทน
- ในขั้นแรก จอห์น วู วางตัวผู้ที่จะรับบทจิวยี่ คือ หลี่หมิง แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น โจวเหวินฟะ แม้จะมีเสียงกล่าวว่าโจวเหวินฟะ สูงวัยเกินไป แต่ทางโจวเหวินฟะ ได้ปฏิเสธบทนี้เนื่องจากติดงานแสดงภาพยนตร์เรื่อง ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง ของผู้กำกับ จางอี้โหมว สำหรับขงเบ้งนั้น จอห์น วู เดิมทีวางตัวให้ เหลียงเฉาเหว่ย รับบทนี้ แต่ในที่สุดก็กลายเป็น เหลียงเฉาเหว่ย ที่รับบทจิวยี่ และขงเบ้ง รับบทโดย ทาเคชิ คาเนชิโร่[6]
ข้อแตกต่างระหว่างภาพยนตร์และวรรณกรรม
แก้- ในวรรณคดี กวนอูนำทหารสมทบเล่าปี่ที่กำลังหนีโจโฉ หลังจากจูล่งช่วยอาเต๊าแล้ว และกวนอูไม่ได้รบต้านข้าศึกด้านหลังเพียงผู้เดียวเหมือนในภาพยนตร์
- ขงเบ้งได้พบและชักจูงซุนกวนให้ร่วมมือกับตนเป็นการส่วนตัวในที่รโหฐาน ไม่เหมือนในภาพยนตร์ ที่ขงเบ้งชักจูงซุนกวนในที่ประชุมขุนนางของง่อก๊ก ท่ามกลางเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นบู๊ของง่อก๊ก และซุนกวนไม่ได้ออกไปล่าเสือเหมือนในภาพยนตร์
- จิวยี่ฝึกทหารที่เมืองชีสอง (ฉสองกุ๋น) ก่อนศึกผาแดง ไม่ได้ฝึกทหารที่ผาแดงเหมือนในภาพยนตร์
- ขงเบ้งพบจิวยี่ครั้งแรกที่จวนรับรอง ไม่เหมือนในภาพยนตร์ที่พบกันในลานฝึกทหารที่ผาแดง และขงเบ้งก็ไม่เคยทำคลอดม้าให้จิวยี่
- โจโฉไม่เคยเห็นเสียวเกี้ยวเลยทั้งชีวิต แต่ในภาพยนตร์โจโฉกล่าวไว้ว่า ไม่เคยลืมหน้านาง ในครั้งที่เจอครั้งแรกกับเกียวก๊กโล บิดาของนาง อีกทั้งเสียวเกี้ยวก็มิได้บุกเข้าไปขอร้องโจโฉให้เลิกสงคราม
- ชัวมอและเตียวอุ๋นสวามิภักดิ์ต่อโจโฉก่อนศึกสะพานเตียงปันเกี้ยว แต่ในภาพยนตร์ ทั้งสองสวามิภักดิ์หลังจากศึกครั้งนั้น
- แฮหัวตุ้น ขุนพลของโจโฉ ตามประวัติศาสตร์นั้น ตาข้างหนึ่งบอดไปตั้งแต่สมัยทำศึกกับลิโป้ แต่ในภาพยนตร์นั้นตาไม่บอด
- ตามวรรณกรรม จิวยี่และขุนพลของจิวยี่ไม่เคยเยี่ยมค่ายของเล่าปี่เหมือนในภาพยนตร์ เช่นกันกับฝ่ายเล่าปี่ที่ไม่เคยไปเยี่ยมง่อก๊กเลย จนกระทั่งถึงงานเลี้ยงขอบคุณที่จิวยี่จัดขึ้นเพื่อลวงเล่าปี่มาสังหาร และเล่าปี่ก็ไม่เคยพบซุนกวนเลยจนกระทั่งข้ามฟากมาแต่งงานกับซุนฮูหยิน
- ในวรรณคดีซุนฮูหยิน น้องสาวของซุนกวน ไม่เคยพบเล่าปี่มาก่อนจนกระทั่งทั้งสองได้แต่งงานกัน ในภาพยนตร์ซุนฮูหยินพบเล่าปี่ในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ และไม่มีบทบาทอะไรในศึกผาแดงเลยแม้น้อยนิด
- ในตอนนี้ น้องสาวของซุนกวน (ซุนฮูหยิน) ยังไม่แต่งงาน ต้องเรียก ซุนชั่งเซียง
- ในวรรณคดี ผู้ที่คิดให้เรือของโจโฉผูกต่อกันเป็นแพคือ บังทอง แต่ในภาพยนตร์กลายเป็นชัวมอ
- ในวรรณคดี เจียวก้านขออาสาเสนอตัวไปเจรจากับจิวยี่เอง แต่ในภาพยนตร์เป็นโจโฉที่สั่งให้เจียวก้านไป และเจียวก้านก็ได้ไปหาจิวยี่ถึง 2 ครั้งเดียวกันและไม่ได้ถูกวางยาพิษแต่อย่างใด
- หลังจากโจโฉประหารชัวมอและเตียวอุ๋นแล้ว โจโฉได้ส่งชัวต๋งและชัวโฮน้องชายของชัวมอแสร้งเข้าไปสวามิภักดิ์ต่อจิวยี่ด้วยเพื่อสืบความลับ แต่จิวยี่รู้ทันและแกล้งส่งข่าวผิดไปให้โจโฉ แต่ในภาพยนตร์กลับไม่มีสองคนนี้
- ชัวมอและเตียวอุ๋นถูกประหารเพราะโจโฉระแวง หลังจากได้สารลวงของจิวยี่จากเจียวก้าน ไม่ได้เกิดจากการยิงธนูใส่เรือฟางของขงเบ้ง และสองคนนี้ถูกประหารก่อนที่ขงเบ้งจะทำอุบายเรือฟางยืมลูกธนูจากโจโฉด้วย
- ก่อนที่จิวยี่จะสั่งให้ขงเบ้งหาธนู มีแต่เพียงขงเบ้งเท่านั้นที่ให้สัญญาว่าถ้าหาให้ไม่ได้ภายในกำหนดจะยอมให้ประหารชีวิต ตัวจิวยี่เองหาได้ทำสัญญาเช่นนั้นต่อขงเบ้งไม่
- กองทัพของเล่าปี่ไม่เคยถอนตัวเหมือนในภาพยนตร์
- อุยกายจะต้องถูกโบยเพื่อลวงให้โจโฉตายใจ แต่ในภาพยนตร์ไม่มี และกำเหลงก็ไม่ได้เสียชีวิตในศึกครั้งนี้ด้วย
- ก่อนที่จะเกิดศึกนี้ เสียวเกี้ยวภรรยาของจิวยี่ก็มีบุตรกับจิวยี่ 3 คนแล้ว เป็นชาย 2 หญิง 1 แต่ในภาพยนตร์เสียวเกี้ยวเพิ่งตั้งครรภ์บุตรคนแรก
- ก่อนที่ลมบูรพาจะพัดมา ขงเบ้งจะต้องทำพิธีเรียกลมที่เขาลำปิสาน และจิวยี่ส่งชีเซ่งและเตงฮองไปสังหารแต่ไม่สำเร็จ เพราะขงเบ้งหนีไปได้เสียก่อนตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้ากับจูล่ง
- บทบาทของทั้งจิวยี่และซุนกวนไม่ได้บุกเข้าไปถึงกลางค่ายโจโฉซึ่ง ๆ หน้า และบทบาทของกองทัพเล่าปี่ก็ไม่ได้บุกเข้าไปถึงกลางค่ายโจโฉด้วยเช่นกัน หากแต่คอยดักอยู่ตามทางหนีของโจโฉ
- หมอฮัวโต๋เป็นผู้รักษาอาการปวดศีรษะให้โจโฉหลังจากนี้นับสิบปี เป็นช่วงเวลาก่อนโจโฉจะเสียชีวิตไม่นาน แต่ในภาพยนตร์หมอฮัวโต๋กลับมีบทบาทในการรักษาโจโฉแล้ว
- ในวรรณกรรม ซุนกวนไม่ได้ร่วมรบกับจิวยี่ในศึกผาแดงเหมือนในภาพยนตร์
- ในภาพยนตร์มีการฉากการรบภาคพื้นดินโดยใช้กระบวนทัพพยุหะแปดกุญแจทอง แต่ในวรรณกรรมกระบวนทัพนี้ไม่ได้ใช้ในศึกผาแดง แต่โช้โดยโจหยินเมื่อครั้งที่โจโฉสั่งให้โจหยินและลิเตียนยกตีซินเอี๋ยที่เล่าปี่เป็นเจ้าเมืองอยู่ แต่กระบวนการทัพกลับถูกตีแตกด้วยกลอุบายของชีซีซึ่งขณะนั้นเป็นที่ปรึกษาให้เล่าปี่
- ในภาพยนตร์กองทัพเรือของโจโฉคล้องด้วยโซ่เหล็กด้วยคำแนะนำของชัวมอ แต่วรรณกรรมบอกวิธีคล้องโซ่เหล็กคือ บังทอง
- ในวรรณกรรม จิวยี่ส่งคนไปตามล่าขงเบ้งทันทีที่ลมเปลี่ยนทิศ และขงเบ้งก็ได้หลบหนีไปพร้อมจูล่ง แต่ในภาพยนตร์ไม่มี
เพลงประกอบภาพยนตร์
แก้- 久遠の河 (Kuon no kawa) ขับร้องโดย alan
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ Total Gross: Red Cliff (Part I + Western release) (Without Italy and U.S.)
- ↑ Total Gross: Red Cliff (Part II)
- ↑ Italy Box Office: November 13–15, 2009
- ↑ Total American Gross: Red Cliff
- ↑ ""หลิวเต๋อหัว-หลีหมิง" ตบเท้าลง "สามก๊ก" คว้าบท "จูล่ง-จิวยี่"". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-07. สืบค้นเมื่อ 2010-02-17.
- ↑ "ชื่อปี้ (สามก๊ก) ระดมนักแสดง เปิดกล้องปลายเดือนมีนาคมนี้ ..." คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-03. สืบค้นเมื่อ 2010-02-17.