สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ

พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร (ประสูติ: 29 เมษายน พ.ศ. 2548) พระนามเดิม : พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี (เมื่อครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร)

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ
เจ้าฟ้าชั้นเอก
มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
พระรูปในปี พ.ศ.2562
ประสูติ29 เมษายน พ.ศ. 2548 (19 ปี)
โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ราชวงศ์จักรี
ราชสกุลมหิดล
พระบิดาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระมารดาศรีรัศมิ์ สุวะดี
ศาสนาพุทธเถรวาท
ลายพระอภิไธย

แม้จะมีพี่ชายอีก 4 ท่าน แต่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ยังไม่ทรงถูกถอดออกจากฐานันดรศักดิ์พระราชวงศ์ จึงทรงดำรงฐานะเป็นรัชทายาทโดยสันนิษฐานของราชวงศ์จักรี ตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทยที่บัญญัติโดยกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467[1]

พระประวัติ

ประสูติกาล

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประสูติเมื่อวันศุกร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 5 ปีระกา สัปตศก จ.ศ. 1367 ตรงกับวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548 เวลา 18.35 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ยังทรงเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระองค์มีพระอิสริยยศเดิมเมื่อครั้งแรกประสูติคือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ และนอกจากนี้พระองค์ยังทรงมีพระเชษฐภิคินีต่างพระมารดาทั้งสองพระองค์ได้แก่

คณะแพทย์ถวายพระประสูติโดยการผ่าตัด เมื่อแรกประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงมีน้ำหนัก 2,680 กรัม ความยาวพระองค์ 47 เซนติเมตร รอบพระเศียร 31 เซนติเมตร ลืมพระเนตรเวลา 19.00 น. มีพระพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง พระเนตรโต พระนาสิกโด่ง[2]

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชหัตถเลขาเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ให้ขนานพระนามว่า "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ" หมายถึง "ผู้ทำประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง, ผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วง" และพระราชทานเสมาอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ทองคำ

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เขียนพระนามของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เป็นภาษาอังกฤษ ว่า His Royal Highness Prince Dipangkorn Rasmijoti[3]

พระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ได้มีพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ตามพระราชประเพณีในพระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ มีพระชนมายุครบ 1 เดือน

นอกจากนี้ ในวาระที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเจริญพระชันษาครบ 1 ปี ในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2549 กรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ชนิดราคา 50 บาท ทำด้วยทองแดงผสมนิกเกิล น้ำหนัก 21 กรัม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 36 มิลลิเมตร จำนวนผลิตไม่เกิน 500,000 เหรียญ ลวดลายด้านหน้ากลางเหรียญมีพระรูป พระเจ้าหลานเธอฯ ผินพระพักตร์ทางเบื้องซ้าย ภายในวงขอบเหรียญด้านขวามีข้อความว่า "พระองค์เจ้า" ด้านซ้ายมีข้อความว่า "ทีปังกรรัศมีโชติ" ด้านหลังกลางเหรียญมีข้อความว่า "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเจริญพระชันษา 1 ปี 29 เมษายน 2549 50 บาท" ภายในวงขอบเหรียญด้านขวา มีรูปลูกไก่ยืนอยู่บนหัวเม็ดทรงมัณฑ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งสำหรับม้วนเก็บแผ่นจารึก เบื้องล่างมีข้อความว่า "ประเทศไทย"

การศึกษา

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร พระองค์ทรงเริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดาในพระราชวังดุสิต ก่อนเสด็จไปทรงศึกษาต่อต่างประเทศที่โรงเรียนนานาชาติบาวาเรีย (BIS) ในบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี

สถาปนาและเฉลิมพระนาม

เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สถาปนาพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร[4]

พระกรณียกิจ

 
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติขณะทรงฝึกทางทหารเบื้องต้นที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ได้เสด็จไปยังห้องสมุดฝ่ายประถมศึกษาโรงเรียนจิตรลดา เพื่อร่วมกิจกรรมงานสัปดาห์รักการอ่าน[5]

วันที่ 2 ตุลาคม ในปีเดียวกันนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร พระองค์ก็ได้ทรงรับเกียรติบัตรพร้อมรางวัล "งานประหยัดน้ำ-ไฟ" ที่จัดขึ้นประจำในโรงเรียนจิตรลดา ด้วยพระองค์ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อพระสหาย[6]

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ได้เสด็จไปยังสนามกีฬากลาง พื้นที่ควบคุมในพระองค์ 904 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในการประทานถ้วยรางวัลพระราชทานและถ้วยรางวัลประทานแก่ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับประเภทต่าง ๆ ในรายการ "หนูน้อยเจ้าเวหา"[7][8]

และในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ได้ทรงร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา "เราทำความดี ด้วยหัวใจ" โดยทรงทำความสะอาดภายในสุสานหลวงและวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร รวมทั้งประทานน้ำดื่ม อาหาร และพิมเสนน้ำแก่พสกนิกรที่มาร่วมในพระราชพิธีฯ ณ บริเวณศาลหลักเมืองอีกด้วย[9]

ด้านศาสนา

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงประกอบพระกรณียกิจตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำนุบำรุงพระศาสนาทุกครั้งที่เสด็จกลับประเทศไทย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร จะเสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศลและทรงสนทนาธรรมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่อยู่เสมอ ดังเช่น เสด็จไปถวายสักการะเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ในการนี้ ทรงบำเพ็ญพระกุศลถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ทรงสนทนาธรรม และทรงสดับพระโอวาทที่เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงรับพระราชทานถวายแม้ในคราว สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินยังต่างจังหวัด โอกาสนี้ เสด็จไปยังสถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อทรงบำเพ็ญพระกุศล และทรงสนทนาธรรมกับพระธรรมพัชรญาณมุนี เป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งพระกรณียกิจนี้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรมาโดยตลอด

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ในโอกาสนี้ ทรงเยี่ยมราษฎร ที่มาเฝ้ารับเสด็จจำนวนมาก เพื่อชื่นชมพระบารมี

มูลนิธิ/องค์กรในพระอุปถัมภ์

  • สโมสรผู้รักสวนสัตว์แห่งประเทศไทย[10]

พระเกียรติยศ

ธรรมเนียมพระยศของ
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร
สิริวิบูลยราชกุมาร
 
ธงประจำพระอิสริยยศ
 
ตราประจำพระองค์
 
ธงประจำพระองค์
การทูลใต้ฝ่าพระบาท
การแทนตนข้าพระพุทธเจ้า
การขานรับพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ
ลำดับโปเจียม10

พระอิสริยยศ

  • พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ (29 เมษายน พ.ศ. 2548 – 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562)
  • สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร[4] (5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – ปัจจุบัน)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

สิ่งอันเนื่องด้วยพระนาม

การศึกษา
การแพทย์ และการสาธารณสุข
ศาสนสถาน
พรรณไม้
  • เฟินรัศมีโชติ ชื่อวิทยาศาสตร์: Blechnum x rasmijoti ‘The Royal Project’ ใน วงศ์: Blechnaceae[12][13][14][15][16][17]
อื่น ๆ

พงศาวลี

อ้างอิง

  1. ไชยพร, ไชยันต์ (18 เมษายน 2022). "ว่าด้วยผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามประเพณีการปกครองของอังกฤษ (ตอนที่ ๘)". ไทยโพสต์. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  2. "สำนักพระราชวังแถลงหม่อมศรีรัศมิ์มี "พระประสูติกาล" พระโอรสในสมเด็จพระบรมฯ นน. 2,680 กรัม - พสกนิกรปีติ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-20. สืบค้นเมื่อ 2008-05-01.
  3. พระองค์ทีฯ ทรงพระสำราญกับกิจกรรมการเรียนรู้
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 "ประกาศสถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 136 (15 ข): 10. 5 พฤษภาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 2019-05-05.
  5. "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงร่วมกิจกรรม งานสัปดาห์รักการอ่าน" (Press release). สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์. 20 สิงหาคม 2551. สืบค้นเมื่อ 29 กรกฎาคม 2555. {{cite press release}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  6. "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงรับเกียรติบัตรงานประหยัดน้ำ-ไฟ" (Press release). สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์. 2 ตุลาคม 2551. สืบค้นเมื่อ 29 กรกฎาคม 2555. {{cite press release}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  7. "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ประทานถ้วยรางวัลพระราชทานและถ้วยรางวัลประทาน แก่ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ในรายการ "หนูน้อยเจ้าเวหา" เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร" (Press release). สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์. 22 กรกฎาคม 2555. สืบค้นเมื่อ 29 กรกฎาคม 2555. {{cite press release}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  8. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ประทานถ้วยรางวัลพระราชทานแก่ผู้ชนะเลิศการแข่งขันในรายการ "หนูน้อยจ้าวเวหา" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร[ลิงก์เสีย]
  9. พระองค์ทีปังกรฯ ทรงทำกิจกรรมจิตอาสาวัดราชบพิธฯ พสกนิกรปลื้มปีติ ทรงโน้มพระวรกายประทานสิ่งของ
  10. "สโมสรผู้รักสวนสัตว์แห่งประเทศไทย องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์". สืบค้นเมื่อ 2024-05-21.
  11. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๑๓๓, ตอน ๓๓ ข, ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙, หน้า ๑
  12. Blechnaceae
  13. "การพัฒนาสายพันธุ์เฟิน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-09. สืบค้นเมื่อ 2022-05-12.
  14. "uniserv". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-07. สืบค้นเมื่อ 2019-05-18.
  15. rasmijoti
  16. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-18. สืบค้นเมื่อ 2019-05-18.
  17. บทความไลฟ์สไตล์

แหล่งข้อมูลอื่น