มาริษา อมาตยกุล
จ่าตรีหญิง มาริษา อมาตยกุล หรือ นางมาริษา ธรรมฐิติ นักร้องวงสุนทราภรณ์ เจ้าของเสียงเพลง "ริมฝั่งน้ำ" กับทรงผม "สวอน" ที่ผู้ชมจดจำคุ้นเคยตลอดมากว่า 60 ปี
มาริษา อมาตยกุล | |
---|---|
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | 22 ตุลาคม พ.ศ. 2482 มาริษา อมาตยกุล จังหวัดธนบุรี ประเทศไทย |
คู่สมรส | ประสงค์ ธรรมฐิติ (2505 - 2545) |
อาชีพ | ทหารเรือ นักแสดง นักร้อง |
ปีที่แสดง | พ.ศ. 2501 - ปัจจุบัน |
สังกัด | วงดนตรีสุนทราภรณ์ วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ |
ประวัติ
แก้ภูมิหลัง
แก้เกิดที่ฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2482 มีพี่น้อง 5 คน มีชื่อเล่นว่า แต๋ว เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนสตรีวรนาถและเรียนต่อที่โรงเรียนสตรีวิทยา
ชีวิตนักร้อง
แก้หลังสำเร็จการศึกษามาริษาเข้ารับราชการที่กรมยุทธการทหารเรือ ติดยศจ่าตรี โดยมาริษาชื่นชอบการร้องเพลงของวงสุนทราภรณ์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเพลงของมัณฑนา โมรากุลที่กำลังมีชื่อเสียงมากในขณะนั้น เธอจึงมักชอบครวญเพลงขับกล่อมคลายเหงาในยามปฏิบัติหน้าที่และยามว่างเว้นภารกิจ เพราะทุกวินาทีในคราบเครื่องแบบทหารรั้วของชาติ มาริษาไม่เคยละทิ้งฝันแห่งความตั้งใจที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์หรือวงดนตรีสุนทราภรณ์เลย
ต่อมากองทัพเรือเล็งเห็นแววความสามารถ จึงส่งเธอเข้าประกวดร้องเพลงในรายการไนติงเกลทางโทรทัศน์ช่อง 7 เมื่อ พ.ศ. 2501 มาริษาเลือกขับร้องเพลงเสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น ซึ่งเธอก็ไม่ได้รางวัลจากการประกวดเลยแต่การเข้าประกวดในครั้งนี้ทำให้มาริษามีโอกาสได้พบกับ ครูแก้ว อัจฉริยะกุล เพื่อนสนิทของครูเอื้อ สุนทรสนาน ครูแก้วจึงนำเธอไปฝากเข้าวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ โดยที่ครูเอื้อไม่ได้ให้มาริษาร้องเพลงทดสอบก็รับเข้าเป็นนักร้องเลยทันที มาริษาอยู่ในโครงการ "ดาวรุ่งพรุ่งนี้"ยุคแรกๆ ร่วมกับบุษยา รังสี และ อ้อย อัจฉรา ขณะที่ผู้ใหญ่ในกองทัพเรือคัดค้านด้วยความห่วงใย
หลังจากได้ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์และวงดนตรีสุนทราภรณ์ มาริษาได้รับเลือกให้ร้องเพลงรอคำรักร้องออกงานต่างๆ แต่เมื่อถึงคราวอัดแผ่นครูเอื้อได้มอบเพลงนี้ให้รวงทอง ทองลั่นธมนักร้องสุนทราภรณ์รุ่นพี่บันทึกเสียง และนำเพลงพี่รักจริงให้มาริษาบันทึกเสียงเป็นเพลงแรกแทน มาริษาโด่งดังอย่างสุดขีดเมื่อได้บันทึกเสียงเพลงจังหวะรุมบ้าชื่อ ริมฝั่งน้ำ(ต้นฉบับโดย ชวลีย์ ช่วงวิทย์) ซึ่งกลายเป็นงานสร้างชื่อเสียง เมื่อมีการเปิดเพลงดังกล่าวตามสถานีวิทยุต่างๆ
ด้วยความที่เธอมีน้ำเสียงที่เข้มแข็งแกมหวาน ต่างจากนักร้องหญิงในยุคนั้น จึงมักได้รับเลือกให้ร้องเพลงทำนองออกสากลหรือเพลงแนวจังหวะไมเนอร์ แนวโรแมนติก เช่น เพลงยัง เพลงเกาะสมุย เพลงเดือนหงาย เพลงสาส์นสวาท เพลงคลื่นกรรม เพลงหนี้รัก และด้วยความชื่นชอบเสียงของมัณฑนา โมรากุลมาก จึงมักได้เพลงเก่าๆที่มัณฑณาขับร้องไว้นำมาบันทึกเสียงใหม่อีกครั้ง เช่น สาริกาชมเดือน รักอะไร สร้างระเบียบ เสียงดุเหว่า ชมดอกฟ้า บ้านแสนสุข นอกจากน้ำเสียงที่ไพเราะแล้วสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอ คือ ผมทรงสวอนซึ่งเป็นที่จดจำของบรรดาแฟนเพลงมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่สิ้นเสาหลักอย่างครูเอื้อ สุนทรสนานไป เหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ ต่างอำลาชีวิตข้าราชการไป แต่มาริษายังยืนหยัดรับราชการอยู่ที่กรมประชาสัมพันธ์ กระทั่งได้ดำรงตำแหน่ง ผอ.ส่วนบริหารการดนตรีก่อนเกษียณอายุข้าราชการในปี 2543 ซึ่งในขณะรับราชการมาริษาได้มีส่วนร่วมในการจัดคอนเสิร์ต "เสียงสวรรค์วันประชา" ที่เชื้อเชิญเหล่านักร้องรุ่นเก่าลายครามกลับคืนสู่เวที เพื่อหารายได้มอบให้ทายาทครอบครัวศิลปิน ถือเป็นความภาคภูมิใจส่วนหนึ่งที่เธอได้มีโอกาสช่วยเหลือพี่น้องศิลปินด้วยกัน
ชีวิตส่วนตัว
แก้มาริษาสมรสกับ นายประสงค์ ธรรมฐิติ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2505 มีบุตรหนึ่งคน ชื่อ ปัทมา ธรรมฐิติ และยังมีหลานชายที่อยู่ในวงการนักร้องด้วยกัน คือ ตู้ ดิเรก อมาตยกุล
ตัวอย่างผลงาน
แก้ผลงานการแสดง
แก้- วานลมจูบ (เป็นนางเอกคู่กับทนงศักดิ์ ภักดีเทวา)
- ผู้เนรมิต (ร่วมกับชาลี อินทรวิจิตร)
ผลงานเพลง
แก้ริมฝั่งน้ำ , ฝนตั้งเค้า , เดือนหงาย , เพียงปลายก้อย , เกาะสมุย , รักอะไร , อยากมีรักหวาน , สาริกาชมเดือน , หงส์สะบัดบาป , กรงที่ขังใจ , ประชดอารมณ์ , ยัง , อย่าทำให้ช้ำอีกเลย , สาส์นสวาท , นี่หรือเธอรัก , หนี้รัก , คลื่นกรรม , รักหนึ่งในดวงใจ , ตลุงเสดสา , อี่นาย , สร้างระเบียบ , รักที่หวัง , กลางวันจันทร์จาก , เดือนโกง , ยากใจ , สาริกาชมเดือน, รักที่หวัง, นี่หรือเธอรัก, คุณขาอย่าลวง, พี่รักจริง (คู่ สมศักดิ์ เทพานนท์) , บ้านนาราตรี (คู่ สมศักดิ์ เทพานนท์) , รื่นเริงใจ (ร่วมกับ ศรีสุดา รัชตะวรรณ วรนุช อารีย์) ไร้รักไร้ผล (ร่วมกับ ศรีสุดา รัชตะวรรณ วรนุช อารีย์) , สามนัด (ร่วมกับ เลิศ ประสมทรัพย์,ศรีสุดา รัชตะวรรณ,วรนุช อารีย์) ดำเนินทราย ร้องคู่กับวินัย จุลบุษปะ ต้นฉบับมัณฑนา โมรากุล,วินัย จุลบุษปะ เป็นต้น ฯลฯ[1]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2542 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)[2]
- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)[3]
อ้างอิง
แก้- ↑ ซีดีรวมเพลงของมาริษา อมาตยกุล ,สุนทราภรณ์-เมโทรแผ่นเสียง-เทป 2543
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี 2542 เล่ม 117 ตอนพิเศษ 4 ข ราชกิจจานุเบกษา 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี 2539 เล่ม 113 ตอนพิเศษ 25 ข ราชกิจจานุเบกษา 25 ธันวาคม พ.ศ. 2539