พรพิมล ธรรมสาร

พรพิมล ธรรมสาร (เกิด 7 มิถุนายน 2507; ชื่อเล่น ก้อย) เป็นศิลปินและนักการเมืองชาวไทย เคยเป็นนักร้องนำวงโอเวชั่นระหว่างปี 2530–2532 ปัจจุบันเป็นสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันสังกัดพรรคภูมิใจไทย หลังย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย

พรพิมล ธรรมสาร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ดำรงตำแหน่ง
24 มีนาคม พ.ศ. 2562 – 20 มีนาคม พ.ศ. 2566
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด 7 มิถุนายน พ.ศ. 2507 (58 ปี)
อำเภองาว จังหวัดลำปาง
พรรค พลังประชาชน (2550-2551)
เพื่อไทย (2551-2564)
ภูมิใจไทย (2564-ปัจจุบัน)
คู่สมรส สมชาย รังสิวัฒนศักดิ์[1]
บุตร 2 คน
ศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
พรพิมล ธรรมสาร
สมัยอยู่ในวงดนตรี โอเวชั่น
สมัยอยู่ในวงดนตรี โอเวชั่น
ข้อมูลพื้นฐาน
แนวเพลงป็อบ สตริง สากล
อาชีพนักร้อง
ค่ายเพลงนิธิทัศน์

ประวัติแก้ไข

เธอได้มาเป็นนักร้องนำของวงสตริงชื่อดังในยุคนั้นอย่าง โอเวชั่น แทน พัชรา แวงวรรณ นักร้องนำคนเก่าที่ นิธิทัศน์ โปรโมชั่น เห็นว่าเหมาะกับร้องเพลงช้ามากกว่าเพลงเร็วจึงได้แยกให้ไปทำอัลบั้มเดี่ยว และทางบริษัทจึงให้วงไปหานักร้องนำคนใหม่ ขาว-ไวยวุฒิ สกุลทรัพย์ไพศาล มือคีย์บอร์ดและนักร้องนำ พี่ชายของ วิรุฬ สกุลทรัพย์ไพศาล (ดำ ฟอร์เอฟเวอร์) จึงได้ชักชวน ก้อย พรพิมล ซึ่งเป็นเพื่อนมาเทสต์เสียงที่บริษัท ซึ่งเธอได้ผ่านการเทสต์เสียงและได้เป็นนักร้องนำคนใหม่ในอัลบั้ม "เริ่มวัยรัก" ใน พ.ศ. 2530 และเมื่ออัลบั้มนี้ขายดีจึงเร่งทำอัลบั้มชุดต่อมาโดยในปี พ.ศ. 2532 พรพิมลได้ออกอัลบั้มชุดใหม่กับวงโอเวชั่น ในชื่อว่า "ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว" หลังจากอัลบั้มนี้ทางบริษัทได้ให้เธอออกมาทำอัลบั้มเดี่ยว ในปี พ.ศ. 2533 ทำให้โอเวชั่นที่กำลังจะหมดสัญญากับนิธิทัศน์ต้องไปสังกัดค่ายอื่น ส่วนเธอได้ออกอัลบั้มเดี่ยวโดยใช้ชื่อเล่นและชื่อจริงของตนเองเป็นชื่ออัลบั้ม โดยในอัลบั้ม "ก้อย ซูเปอร์ฮิต" มีเพลงดังคือเพลง "เอาความรักฉันคืนกลับมา" ซึ่งเป็นเพลงแก้กับเพลง เอาความรักเธอนั้นคืนกลับไป ของดอน สอนระเบียบ และเพลง "สาวอีสานรอรัก" จนโด่งดังเป็นพลุแตกทั่วประเทศ ในช่วงยุคเวลานั้น หลังจากนั้น เธอได้ลาออกไปแต่งงานสมรสกับ สมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน

การทำงานแก้ไข

เธอลงเล่นการเมืองตามสามี เริ่มที่ตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดปทุมธานี ส่วนสามีเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 พรพิมลได้ลงรับสมัครเลือกตั้งระดับชาติเป็นสมัยแรก และได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.ปทุมธานี เขต 2 สังกัดพรรคพลังประชาชน ต่อมาเมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรคจากคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 เธอก็ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 พรพิมลก็ได้ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดปทุมธานีอีกครั้งในนามพรรคเพื่อไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 4 และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง จนกระทั่งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เธอก็ได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.ปทุมธานี เป็นสมัยที่ 3 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย

ในวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2564 กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยมีมติให้นาง พรพิมล ธรรมสาร พ้นสภาพสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมกับนาย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ[2] ต่อมาเธอได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย[3]

ผลงานแก้ไข

อัลบั้มในนาม โอเวชั่นแก้ไข

อัลบั้มเดี่ยวแก้ไข

อัลบั้มที่ร่วมร้องกับศิลปินคนอื่นๆแก้ไข

ผลงานละครแก้ไข

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแก้ไข

พรพิมล ธรรมสาร ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 3 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 จังหวัดปทุมธานี สังกัดพรรคพลังประชาชนพรรคเพื่อไทย
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดปทุมธานี สังกัดพรรคเพื่อไทย
  3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดปทุมธานี สังกัดพรรคเพื่อไทย → พรรคภูมิใจไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก้ไข

อ้างอิงแก้ไข

  1. ชาญว่าไง "พรพิมล" สายบิ๊กแจ๊ส สวมเสื้อภูมิใจไทย
  2. "พรพิมล" ปัดซบภท. รับดีลพรรคการเมืองย้ายค่าย ไม่เกิน30วันรู้คำตอบ
  3. พรพิมล ส.ส. ปทุมธานี ย้ายสังกัดเข้าภูมิใจไทย หลังพรรคเพื่อไทยมีมติขับออกจากสมาชิก
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓ เก็บถาวร 2022-10-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๗, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔ เก็บถาวร 2022-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๗๒, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔

แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข