พรพิมล ธรรมสาร
พรพิมล ธรรมสาร (เกิด 7 มิถุนายน พ.ศ. 2507) ชื่อเล่น ก้อย เป็นศิลปินและนักการเมืองชาวไทย เคยเป็นนักร้องนำวงโอเวชั่นระหว่างปี 2530–2532 และอดีตสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี สังกัดพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันสังกัดพรรคภูมิใจไทย
พรพิมล ธรรมสาร | |
---|---|
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี | |
ดำรงตำแหน่ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 – 20 มีนาคม พ.ศ. 2566 (15 ปี 87 วัน) | |
ก่อนหน้า | เกียรติศักดิ์ ส่องแสง |
ถัดไป | มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ |
ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 26 กันยายน พ.ศ. 2566 | |
นายกรัฐมนตรี | เศรษฐา ทวีสิน |
รัฐมนตรีช่วย | ทรงศักดิ์ ทองศรี |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 มิถุนายน พ.ศ. 2507 อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | พลังประชาชน (2550–2551) เพื่อไทย (2551–2564) ภูมิใจไทย (2564–ปัจจุบัน) |
คู่สมรส | สมชาย รังสิวัฒนศักดิ์[1] |
บุตร | 2 คน |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ |
พรพิมล ธรรมสาร | |
---|---|
สมัยอยู่ในวงดนตรี โอเวชั่น | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
แนวเพลง | ป็อบ สตริง สากล คันทรี่ เพื่อชีวิต ลูกทุ่ง |
อาชีพ | นักร้อง |
ค่ายเพลง | นิธิทัศน์ |
ประวัติ
แก้เธอได้มาเป็นนักร้องนำของวงสตริงชื่อดังในยุคนั้นอย่าง โอเวชั่น แทน พัชรา แวงวรรณ นักร้องนำคนเก่าที่ นิธิทัศน์ โปรโมชั่น เห็นว่าเหมาะกับร้องเพลงช้ามากกว่าเพลงเร็วจึงได้แยกให้ไปทำอัลบั้มเดี่ยว และทางบริษัทจึงให้วงไปหานักร้องนำคนใหม่ ขาว-ไวยวุฒิ สกุลทรัพย์ไพศาล มือคีย์บอร์ดและนักร้องนำ พี่ชายของ วิรุฬ สกุลทรัพย์ไพศาล (ดำ ฟอร์เอฟเวอร์) จึงได้ชักชวน ก้อย พรพิมล ซึ่งเป็นเพื่อนมาเทสต์เสียงที่บริษัท ซึ่งเธอได้ผ่านการเทสต์เสียงและได้เป็นนักร้องนำคนใหม่ในอัลบั้ม "เริ่มวัยรัก" ใน พ.ศ. 2530 และเมื่ออัลบั้มนี้ขายดีจึงเร่งทำอัลบั้มชุดต่อมาโดยในปี พ.ศ. 2532 พรพิมลได้ออกอัลบั้มชุดใหม่กับวงโอเวชั่น ในชื่อว่า "ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว" หลังจากอัลบั้มนี้ทางบริษัทได้ให้เธอออกมาทำอัลบั้มเดี่ยว ในปี พ.ศ. 2533 ทำให้โอเวชั่นที่กำลังจะหมดสัญญากับนิธิทัศน์ต้องไปสังกัดค่ายอื่น ส่วนเธอได้ออกอัลบั้มเดี่ยวโดยใช้ชื่อเล่นและชื่อจริงของตนเองเป็นชื่ออัลบั้ม โดยในอัลบั้ม "ก้อย ซูเปอร์ฮิต" มีเพลงดังคือเพลง "เอาความรักฉันคืนกลับมา" ซึ่งเป็นเพลงแก้กับเพลง เอาความรักเธอนั้นคืนกลับไป ของดอน สอนระเบียบ และเพลง "สาวอีสานรอรัก" จนโด่งดังเป็นพลุแตกทั่วประเทศ ในช่วงยุคเวลานั้น หลังจากนั้น เธอได้ลาออกไปแต่งงานสมรสกับ สมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน
งานการเมือง
แก้เธอลงเล่นการเมืองตามสามี เริ่มที่ตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดปทุมธานี ส่วนสามีเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 พรพิมลได้ลงรับสมัครเลือกตั้งระดับชาติเป็นสมัยแรก และได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.ปทุมธานี เขต 2 สังกัดพรรคพลังประชาชน ต่อมาเมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรคจากคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 เธอก็ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 พรพิมลก็ได้ลงสมัครเลือกตั้ง สส. จังหวัดปทุมธานีอีกครั้งในนามพรรคเพื่อไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 4 และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง จนกระทั่งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เธอก็ได้รับเลือกให้เป็น สส.ปทุมธานี เป็นสมัยที่ 3 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย
ในวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2564 กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยมีมติให้นาง พรพิมล ธรรมสาร พ้นสภาพสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมกับนาย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ[2] ต่อมาเธอได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย[3] ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เธอลงสมัคร สส. จังหวัดปทุมธานี เขต 7 อีกครั้ง แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยพ่ายแพ้ให้กับประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ของพรรคก้าวไกล[4] ต่อมาในวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566 ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งให้พรพิมลเป็นข้าราชการการเมือง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ทรงศักดิ์ ทองศรี) โดยให้มีผลทันที[5]
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แก้พรพิมล ธรรมสาร ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 3 สมัย คือ
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 จังหวัดปทุมธานี สังกัดพรรคพลังประชาชน (พ.ศ. 2541) → พรรคเพื่อไทย
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดปทุมธานี สังกัดพรรคเพื่อไทย
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดปทุมธานี สังกัดพรรคเพื่อไทย → พรรคภูมิใจไทย
ผลงานในวงการบันเทิง
แก้อัลบั้มเดี่ยว
แก้- ตลับทองจากก้อย (2532) (นิธิทัศน์)
- ซูเปอร์ฮิต 1 (2533) (นิธิทัศน์)
- ซูเปอร์ฮิต 2 (2533) (นิธิทัศน์)
- ซูเปอร์ฮิต 3 (2534) (นิธิทัศน์)
- ซูเปอร์บูม (2534) (นิธิทัศน์)
- เพลงหวานซูเปอร์คลาสสิค (2534) (นิธิทัศน์)
- โกหกไม่ลง (2534) (นิธิทัศน์)
- อมตะซูเปอร์คลาสสิค 1 (2534) (นิธิทัศน์)
- อมตะซูเปอร์คลาสสิค 2 (2534) (นิธิทัศน์)
- ฮิตเป็นตัน (2536) (นิธิทัศน์)
- MEGADANCE เกือบจะสาย (2537) (นิธิทัศน์)
- สุดจะรอไหว เปาบุ้นจิ้น (2537) (นิธิทัศน์)
- รักไม่แปรเปลี่ยน (2538) (นิธิทัศน์)
- คลาสสิคสเปเชียล 1 คนใจดำ (2538) (นิธิทัศน์)
- คลาสสิคสเปเชียล 2 เชียงรายรำลึก (2538) (นิธิทัศน์)
- คลาสสิคสเปเชียล 3 ความรักไม่รู้จบ (2538) (นิธิทัศน์)
- 3 ช่า ซูเปอร์บูม (ซูเปอร์ 3 ช่า ขอให้รวย) (2539) (นิธิทัศน์)
- ซูเปอร์ 3 ช่า หนูไม่ยอม (2540) (นิธิทัศน์)
- ก้อย ร้อยล้าน 1 (กรุงไทย)
- ก้อย ร้อยล้าน 2 (กรุงไทย)
อัลบั้มที่ร่วมร้องกับศิลปินคนอื่นๆ
แก้- เพลงคู่ซูเปอร์ฮิต (ร่วมกับ ดอน สอนระเบียบ) (2533) (นิธิทัศน์)
- เมดเล่ย์ซูเปอร์ฮิต มันส์ไม่หยุด 1 (ร่วมกับ จุ๋ง ไพจิตร , อิ๋ว พิมพ์โพยม , โหน่ง ศิรินันท์ , ดอน สอนระเบียบ , ดำ ฟอร์เอฟเวอร์ , ตู้ ดิเรก , ตี๋ วสันต์) (2535) (นิธิทัศน์)
- เมดเล่ย์ซูเปอร์ฮิต มันส์ไม่หยุด 2 (ร่วมกับ จุ๋ง ไพจิตร , อิ๋ว พิมพ์โพยม , โหน่ง ศิรินันท์ , ดอน สอนระเบียบ , ดำ ฟอร์เอฟเวอร์ , ตู้ ดิเรก , ตี๋ วสันต์) (2535) (นิธิทัศน์)
- เมดเล่ย์เพชร (ร่วมกับ จุ๋ง ไพจิตร , โหน่ง ศิรินันท์) (2535) (นิธิทัศน์)
ละคร
แก้- 2533 กะเหรี่ยงตกดอย ช่อง 9
ภาพยนตร์
แก้- 2530 นานาจิตตัง
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2566 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[6]
- พ.ศ. 2563 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[7]
อ้างอิง
แก้- ↑ ชาญว่าไง "พรพิมล" สายบิ๊กแจ๊ส สวมเสื้อภูมิใจไทย
- ↑ "พรพิมล" ปัดซบภท. รับดีลพรรคการเมืองย้ายค่าย ไม่เกิน30วันรู้คำตอบ
- ↑ พรพิมล ส.ส. ปทุมธานี ย้ายสังกัดเข้าภูมิใจไทย หลังพรรคเพื่อไทยมีมติขับออกจากสมาชิก
- ↑ บูรพาวิถี, ประชา (2023-05-16). "ผลเลือกตั้ง 2566 'ล้มช้าง' ทั้งแผ่นดิน ปรากฏการณ์ 'กระแส' ชนะกระสุน". มังกรซ่อนพยัคฆ์. กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 2023-10-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ เช็ครายชื่อ! ครม.มีมติแต่งตั้งข้าราชการหลายตำแหน่ง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาน ประจำปี ๒๕๖๖, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๔ ข หน้า ๓, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๗, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔