ประเทศคอสตาริกา
สาธารณรัฐคอสตาริกา República de Costa Rica (สเปน) | |
---|---|
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | ซานโฮเซ 9°56′N 84°5′W / 9.933°N 84.083°W |
ภาษาราชการ | สเปน |
ภาษาพื้นเมือง | |
กลุ่มชาติพันธุ์ (ค.ศ. 2011[2]) | |
ศาสนา (ค.ศ. 2021)[4] |
|
การปกครอง | รัฐเดี่ยว สาธารณรัฐระบบประธานาธิบดี |
โรดริโก ชาเบส โรเบลส | |
เอสเตฟัน บรูเนร์ | |
มาริ มูนิเบ | |
สภานิติบัญญัติ | สภานิติบัญญัติ |
ประกาศเอกราช | |
• จากสเปน | 15 กันยายน ค.ศ. 1821 |
1 กรกฎาคม ค.ศ. 1823 | |
14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1838 | |
• ได้รับการยอมรับจากสเปน | 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1850 |
• รัฐธรรมนูญ | 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1949[2] |
พื้นที่ | |
• รวม | 51,100 ตารางกิโลเมตร (19,700 ตารางไมล์) (อันดับที่ 126) |
1.05 (ใน ค.ศ. 2015)[5] | |
ประชากร | |
• ค.ศ. 2022 ประมาณ | 5,204,411[6] (อันดับที่ 124) |
220 ต่อตารางไมล์ (84.9 ต่อตารางกิโลเมตร) (อันดับที่ 107) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 128,134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[7] |
• ต่อหัว | 24,490 ดอลลาร์สหรัฐ[7] |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 65,314 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[7] |
• ต่อหัว | 12,483 ดอลลาร์สหรัฐ[7] |
จีนี (ค.ศ. 2020) | 49.7[8] สูง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2021) | 0.809[9] สูงมาก · อันดับที่ 58 |
สกุลเงิน | โกลอน (CRC) |
เขตเวลา | UTC−6 (เขตเวลาตอนกลาง) |
ขับรถด้าน | ขวามือ |
รหัสโทรศัพท์ | +506 |
โดเมนบนสุด | .cr .co.cr |
คอสตาริกา (สเปน: Costa Rica, ออกเสียง: [ˈkosta ˈrika]; แปลว่า ชายฝั่งอันมั่งคั่ง) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐคอสตาริกา (República de Costa Rica) เป็นประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง มีอาณาเขตจรดประเทศนิการากัวทางทิศเหนือ จรดทะเลแคริบเบียนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จรดประเทศปานามาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จรดมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และมีพรมแดนทางทะเลจรดประเทศเอกวาดอร์ทางทิศใต้ของอิสลาเดลโกโก มีประชากรประมาณ 5 ล้านคน[10] ในพื้นที่ขนาด 51,060 ตารางกิโลเมตร (19,710 ตารางไมล์) โดยมีประชากรประมาณ 333,980 คนอาศัยอยู่ในซานโฮเซซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุด และมีประชากรประมาณสองล้านคนอาศัยอยู่ในเขตมหานครโดยรอบ[11]
คอสตาริกาเป็นรัฐเอกราชและเป็นรัฐเดี่ยวที่มีการปกครองในรูปแบบสาธารณรัฐรัฐธรรมนูญระบบประธานาธิบดี มีประชาธิปไตยที่ยาวนานและมีเสถียรภาพ และมีแรงงานที่ได้รับการศึกษาสูง[12] ประเทศนี้ใช้จ่ายประมาณร้อยละ 6.9 ของงบประมาณ (ค.ศ. 2016) ไปกับการศึกษา ในขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 4.4[12] เศรษฐกิจของประเทศซึ่งครั้งหนึ่งเคยพึ่งพาการเกษตรอย่างมากได้คลี่คลายไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ เช่น การเงิน บริการลูกค้าธุรกิจสำหรับบริษัทต่างชาติ เภสัชกรรม การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นต้น บริษัทด้านการผลิตและบริการหลายแห่งจากต่างประเทศเปิดดำเนินการในเขตการค้าเสรีของคอสตาริกาที่ซึ่งพวกเขาได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนและแรงจูงใจด้านภาษี[13]
คอสตาริกาเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองโบราณหลายกลุ่มก่อนที่จะตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 16 บริเวณนี้ยังคงเป็นอาณานิคมรอบนอกของสเปนจนกระทั่งได้รับเอกราชในฐานะส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเม็กซิโกที่ 1 จากนั้นได้กลายเป็นสมาชิกของสหพันธ์สาธารณรัฐอเมริกากลาง และประกาศเอกราชจากสหพันธ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1847 บทสรุปของสงครามกลางเมืองใน ค.ศ. 1948 นำไปสู่การยกเลิกกองทัพอย่างถาวรใน ค.ศ. 1949 คอสตาริกาจึงกลายเป็นหนึ่งในชาติเอกราชเพียงไม่กี่ชาติที่ไม่มีกองทัพประจำการ[14][15][16]
คอสตาริกาทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องในการจัดอันดับดัชนีการพัฒนามนุษย์ (เอชดีไอ) โดยอยู่ในอันดับที่ 58 ของโลกใน ค.ศ. 2022[17] โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) กล่าวถึงประเทศนี้ว่าสามารถบรรลุการพัฒนามนุษย์ในระดับที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ที่มีระดับรายได้เท่ากัน โดยมีดัชนีการพัฒนามนุษย์และความเสมอภาคที่ดีกว่าค่ามัธยฐานของภูมิภาค[18] นอกจากนี้ คอสตาริกายังทำผลงานได้ดีในการจัดอันดับสถานะประชาธิปไตย เสรีภาพสื่อ และความสุขเชิงอัตวิสัย โดยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพสื่อมากที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ตามดัชนีเสรีภาพสื่อ มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดเป็นอันดับที่ 37 ตามดัชนีเสรีภาพในโลก และมีความสุขมากที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ตามรายงานความสุขโลก
ภูมิศาสตร์
แก้มีพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางกิโลเมตร เทียบกับประเทศไทยแล้วเล็กกว่ากันถึง 10 เท่า มีจำนวนประชากรเพียง 5 ล้านคน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ทำให้มีพืชพันธุ์ไม้อุดมสมบูรณ์ที่ไม่สามารถพบได้ในประเทศอื่น มีพื้นที่เป็นเขตป่าสงวนมากถึงร้อยละ 25 ของประเทศ และถือเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกาที่ออกกฎหมายห้ามล่าสัตว์ทุกชนิด และมูลนิธินิวอีโคโนมิค (NEF) ได้ประกาศให้เป็นประเทศที่มีความเขียวชอุ่ม หรือมีป่าไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกอีกด้วย[19]
การเมืองการปกครอง
แก้รูปแบบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข
ประธานาธิบดี ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งได้เป็นระยะเวลา 4 ปีเพียงครั้งเดียว นาย Oscar ARIAS Sanchez (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2549) นาง Laura Chinchilla จากพรรค (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2553)
ฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นระบบรัฐสภาเดียว มีสมาชิกสภานิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้ง 57 คน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ฝ่ายตุลาการ ศาลสูงสุดของประเทศ (Supreme Court) มาจากการเลือกตั้งโดย สมาชิกสภานิติบัญญัติ มีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี การเลือกตั้งครั้งต่อไป กุมภาพันธ์ 2548 พรรคการเมืองสำคัญ Social Christian Unity Party (PUSC) (พรรครัฐบาล) Democrat Party National Liberation Party (Partido Liberacion Nacional)
การต่างประเทศ
แก้ความสัมพันธ์กับสหรัฐ
แก้คอสตาริกาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการดำเนินความร่วมมือภายใต้กรอบ Organization of the American States (OAS) และความใกล้ชิดกับสหรัฐ ฯ โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันประเทศซึ่งคอสตาริกาได้ยกเลิกกองกำลังทหาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2492 นอกจากนี้ คอสตาริกายังให้ความสำคัญกับการต่อต้านการค้ายาเสพติด โดยเป็นประเทศแรกในอเมริกากลางที่ลงนามใน Maritime Counter-Narcotics Agreement กับสหรัฐ ซึ่งเป็นความร่วมมือเพื่อต่อต้านการลักลอบขนส่งยาเสพติดในน่านน้ำคอสตาริกา
กองทัพ
แก้คอสตาริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่มีกองทัพ คอสตาริกายกเลิกกองทัพในปี พ.ศ. 2491 เพื่อแก้ปัญหาที่เป็นรากเหง้าทางการเมืองที่มีการรัฐประหารจากกองทัพที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทต่างชาติ
การแบ่งเขตการปกครอง
แก้คอสตาริกาแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 จังหวัด ได้แก่
ธง | ชื่อจังหวัด | แผนที่ | เมืองหลัก | เนื้อที่ (ตร.กม.) |
ประชากร (คน) |
ดัชนีการพัฒนามนุษย์ ค.ศ. 2015[20] |
---|---|---|---|---|---|---|
กัวนากัสเต | ลิเบเรีย | 10,141 | 354,154 | 0.755 | ||
การ์ตาโก | การ์ตาโก | 3,124 | 490,903 | 0.786 | ||
ซานโฮเซ | ซานโฮเซ | 4,966 | 1,404,242 | 0.792 | ||
ปุนตาเรนัส | ปุนตาเรนัส | 11,266 | 410,929 | 0.741 | ||
ลิมอน | ลิมอน | 9,189 | 386,862 | 0.735 | ||
อาลาฮูเอลา | อาลาฮูเอลา | 9,757 | 885,571 | 0.778 | ||
เอเรเดีย | เอเรเดีย | 2,657 | 433,677 | 0.807 |
เศรษฐกิจ
แก้ข้อมูลดัชนีเศรษฐกิจ
แก้ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของคอสตาริกาประจำเดือนธันวาคม 2553 ชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตต่ำ และเป็นไปในแนวทางเดียวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวลดลงเรื่อย ๆ ตลอดปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนธันวาคม 2553 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศลดลงอีกร้อยละ 2.3 จากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ไปอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มีบางภาคเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวได้ ได้แก่ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 9.10 รวมทั้งอุตสาหกรรมการขนส่ง การสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งขยายตัวร้อยละ 6.42 ส่วนภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก ในขณะที่ภาคธุรกิจก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคการเหมืองแร่ และเหมืองหินมีอัตราการเจริญเติบโตที่ติดลบ
สินค้าส่งออกของคอสตาริกาที่สำคัญและถือเป็นสินค้าที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุด คือ กล้วยหอม[21]
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ
แก้ในปี 2553 คอสตาริกามีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 4.584 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โครงสร้างการผลิตภายในประเทศ
แก้- ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (2549) 2.225 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
- อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (2550) ร้อยละ 7
- รายได้ประชาชาติต่อหัว (2550) 13,500 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ปี
- หนี้ต่างประเทศ (2550) ร้อยละ 7.163 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (พฤษภาคม 2550) 3.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- สินค้าเกษตรสำคัญ กล้วย (คอสตาริกาเป็นผู้ส่งออกกล้วยมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากเอกวาดอร์) กาแฟ เมล็ดโกโก้ ข้าว และถั่ว
- สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ อาหารและเครื่องดื่ม สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ กระดาษ เคมีภัณฑ์พลาสติก และผลิตภัณฑ์ยาง
- สินค้าบริการสำคัญ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (ทำรายได้เข้าประเทศกว่าร้อยละ 60)
- การนำเข้า มูลค่า 1.184 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (2550) ในปี 2553 มูลค่า 1.332 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
- สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น
- น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เวชภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้าง
- ส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องประมวลผล วงจร รวมโมโนลิทิก กระดาษคราฟต์
- ประเทศคู่ค้าตลาดนำเข้าหลัก
- สหรัฐ ร้อยละ 44.72
- เม็กซิโก ร้อยละ 7.65
- ญี่ปุ่น ร้อยละ 4.36
- บราซิล ร้อยละ
- เวเนซุเอลา ร้อยละ 5.56
- จีน ร้อยละ 5.15
- การส่งออก มูลค่า 9.232 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2550) ในปี 2553 มูลค่า 1.01 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
- สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น
- ผลิตผลการเกษตร เช่น กล้วย สัปปะรด กาแฟ เมลอน พืชตกแต่ง เนื้อวัว น้ำตาล
- อุตสาหกรรม เช่น สิ่งทอ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเภสัชกรรม
- ประเทศคู่ค้าการส่งออกที่สำคัญได้แก่
- สหรัฐ ร้อยละ 35.61
- เนเธอร์แลนด์ ร้อยละ 12.82
- จีน ร้อยละ 11.81
- เยอรมนี ร้อยละ
- กัวเตมาลา ร้อยละ
- นิการากัว ร้อยละ
- เม็กซิโก ร้อยละ 4.2
ความร่วมมือทางการค้ากับต่างประเทศ
แก้ความตกลงเขตการค้าเสรีพหุภาคีที่คอสตาริกาเป็นภาคีร่วมมี
1. CAFTA-DR (ความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างกลุ่มประเทศอเมริกากลาง และสาธารณรัฐคอมินิกัน กับสหรัฐอเมริกา) ลงนามเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2547 มีผลบังคับในคอสตาริกาเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 ทั้งนี้ กลุ่มประเทศอเมริกากลางเป็นตลาดส่งออกอันดับสามในกลุ่มละตินอเมริกาสำหรับสหรัฐฯ หลังจากเม็กซิโกและบราซิล การส่งออกจากสหรัฐฯ ไปยังกลุ่มประเทศ CAFTA-DR มีมูลค่า 26.3 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2551
2. ความตกลงเขตการค้าเสรีพหุภาคีกับกลุ่มประเทศคาริบเบียน (CARICOM) ลงนามเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2547 มีผลบังคับในคอสตาริกาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 โดยมีเงื่อนไขความตกลง 4 ระดับซึ่งเจรจากันระหว่างแต่ละประเทศอีกต่างหาก ได้แก่ การเปิดเสรีอัตโนมัติ การลดภาษีใน 4 ปี ข้อยกเว้นเป็นรายสินค้า และข้อยกเว้นสำหรับสินค้าเกษตรตามฤดูกาลสำหรับความตกลงเขตการค้าเสรีในระดับทวิภาคี คอสตาริกาได้ลงนามความตกลงไว้ 5 ประเทศ คือ กับเม็กซิโก (มีผลบังคับตั้งแต่ปี 2538) แคนาดา (2544) ชิลี (2545) สาธารณรัฐโดมินิกัน (2538) และปานามา (2551) และได้เริ่มกระบวนการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีกับ ประเทศจีน เมื่อปี 2550 และกับสหภาพยุโรป (AACUE) เมื่อปี 2549
ความตกลงระหว่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ICC/CBI (Caribbean Basin Initiative-1983), GSP-Europe และ ALCA/FTAA (Free Trade Areas of the Americas-1994)
โครงสร้างพื้นฐาน
แก้คมนาคมและโทรคมนาคม
แก้มีเส้นทางการเดินทางแบบถนน 35,330 กิโลเมตร ทางรถไฟ 278 กิโลเมตร ทางน้ำ 730 กิโลเมตรที่ใช้เดินเรือได้เฉพาะเรือขนาดเล็ก สนามบิน 151 แห่ง มีท่อส่งก๊าซและน้ำมัน 796 กิโลเมตร ท่าเรือสำคัญ 2 แห่ง
ประชากร
แก้ชาวคอสตาริกาเป็นชนชาติผสมระหว่างสเปนกับชาวพื้นเมืองเดิม เรียกตัวเองว่า ติโก (tico) หรือ ติกา (tica)[22]
อ้างอิง
แก้- ↑ "Live Costa Rica Population Clock 2017 – Population of Costa Rica Today". www.livepopulation.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-04. สืบค้นเมื่อ 2022-01-06.
- ↑ 2.0 2.1 Central Intelligence Agency (2011). "Costa Rica". The World Factbook. Langley, Virginia: Central Intelligence Agency. สืบค้นเมื่อ 4 October 2011.
- ↑ "International Religious Freedom Report for 2017". www.state.gov. 2018. สืบค้นเมื่อ 29 December 2018.
- ↑ Murillo, Alvaro (7 July 2021). "Encuesta CIEP-UCR evidencia a una Costa Rica estatista y menos religiosa". Semanario Universidad. สืบค้นเมื่อ 8 July 2021.
- ↑ "Surface water and surface water change". Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD). สืบค้นเมื่อ 2020-10-11.
- ↑ "Costa Rica". The World Factbook (2024 ed.). Central Intelligence Agency. สืบค้นเมื่อ 24 September 2022. (Archived 2022 edition)
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 "Costa Rica". International Monetary Fund. April 2022. สืบค้นเมื่อ 15 September 2022.
- ↑ "Income inequality". data.oecd.org. OECD. สืบค้นเมื่อ 25 July 2021.
- ↑ "Human Development Report 2019" (ภาษาอังกฤษ). United Nations Development Programme. 10 December 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 23 May 2020. สืบค้นเมื่อ 10 December 2019.
- ↑ "การประเมินประชากรโลก พ.ศ. 2560". ESA.UN.org (custom data acquired via website). United Nations Department of Economic and Social Affairs, Population Division. สืบค้นเมื่อ 10 September 2017.
- ↑ "Capital Facts for San José, Costa Rica". 18 October 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2020. สืบค้นเมื่อ 6 August 2017.[ต้องการอ้างอิงเต็มรูปแบบ]
- ↑ 12.0 12.1 "Amazon invests in Costa Rica as tiny nation carves out profitable niche in world economy". 11 March 2017.
- ↑ "The Investment Promotion Agency of Costa Rica". www.cinde.org.
- ↑ El Espíritu del 48. "Abolición del Ejército" (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 9 March 2008.
- ↑ "Costa Rica". World Desk Reference. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2008. สืบค้นเมื่อ 9 June 2009.
- ↑ "Costa Rica". Uppsala University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 May 2011. สืบค้นเมื่อ 9 June 2009.
- ↑ "Human Development Index (HDI)". UNDP.
- ↑ UNDP Human Development Report 2010 (January 2010). Table 1: Human development index 2010 and its components (PDF). pp. 5, 49, 144. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 November 2010. สืบค้นเมื่อ 6 November 2010.
- ↑ "เที่ยงวันทันเหตุการณ์: ข่าวกีฬา". ช่อง 3. 30 June 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-18. สืบค้นเมื่อ 30 June 2014.
- ↑ "Sub-national HDI - Area Database - Global Data Lab". hdi.globaldatalab.org (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-09-15.
- ↑ "บันทึกโลกโสภา คอสตาริกา : คน กล้วย น้ำ ป่า ปลาฉลาม (1)". loksopha.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-15. สืบค้นเมื่อ 30 June 2014.
- ↑ นิตยสารสารคดี ฉบับ 270 หน้า 136
อ่านเพิ่ม
แก้- Blake, Beatrice. The New Key to Costa Rica (Berkeley: Ulysses Press, 2009).
- Chase, Cida S. "Costa Rican Americans." Gale Encyclopedia of Multicultural America, edited by Thomas Riggs, (3rd ed., vol. 1, Gale, 2014), pp. 543–551. online
- Edelman, Marc. Peasants Against Globalization: Rural Social Movements in Costa Rica Stanford: Stanford University Press, 1999.
- Eisenberg, Daniel (1985). "In Costa Rica". Journal of Hispanic Philology. Vol. 10. pp. 1–6.
- Huhn, Sebastian: Contested Cornerstones of Nonviolent National Self-Perception in Costa Rica: A Historical Approach, 2009.
- Keller, Marius; Niestroy, Ingeborg; García Schmidt, Armando; Esche, Andreas. "Costa Rica: Pioneering Sustainability". Excerpt (pp. 81–102) from Bertelsmann Stiftung (ed.). Winning Strategies for a Sustainable Future. Gütersloh, Germany: Verlag Bertelsmann Stiftung, 2013.
- Lara, Sylvia Lara, Tom Barry, and Peter Simonson. Inside Costa Rica: The Essential Guide to Its Politics, Economy, Society and Environment London: Latin America Bureau, 1995.
- Lehoucq, Fabrice E. and Ivan Molina. Stuffing the Ballot Box: Fraud, Electoral Reform, and Democratization in Costa Rica Cambridge: Cambridge University Press, 2002.
- Lehoucq, Fabrice E. Policymaking, Parties, and Institutions in Democratic Costa Rica, 2006.
- Longley, Kyle. Sparrow and the Hawk: Costa Rica and the United States during the Rise of José Figueres (University of Alabama Press, 1997).
- Mount, Graeme S. "Costa Rica and the Cold War, 1948–1990." Canadian Journal of History 50.2 (2015): 290–316.
- Palmer, Steven and Iván Molina. The Costa Rica Reader: History, Culture, Politics Durham and London: Duke University Press, 2004.
- Sandoval, Carlos. Threatening Others: Nicaraguans and the Formation of National Identities in Costa Rica Athens: Ohio University Press, 2004.
- Wilson, Bruce M. Costa Rica: Politics, Economics, and Democracy: Politics, Economics and Democracy. Boulder, London: Lynne Rienner Publishers, 1998.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Costa Rica. The World Factbook. Central Intelligence Agency.
- Costa Rica at UCB Libraries GovPubs
- ประเทศคอสตาริกา ที่เว็บไซต์ Curlie
- Street Art of San Jose by danscape เก็บถาวร 2019-02-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Costa Rica profile from the BBC News
- Wikimedia Atlas of Costa Rica
- Key Development Forecasts for Costa Rica from International Futures
- รัฐบาลและการบริหาร
- เว็บไซต์ทางการของรัฐบาลคอสตาริกา เก็บถาวร 2023-09-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ในภาษาสเปน)
- Trade