โทโมยูกิ ยามาชิตะ

นายพลในกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น
ในชื่อบุคคลญี่ปุ่นนี้นามสกุลคือ ยามาชิตะ

พลเอก โทโมยูกิ ยามาชิตะ (ญี่ปุ่น: 山下奉文; อังกฤษ: Tomoyuki Yamashita) บ้างเรียก โทโมบูมิ ยามาชิตะ[2]) เป็นนายพลแห่งกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ยามาชิตะเป็นผู้นำกองกำลังญี่ปุ่นระหว่างการทัพมาลายาและยุทธการที่สิงคโปร์ ด้วยความสำเร็จในการพิชิตมลายาและสิงคโปร์ใน 70 วัน ทำให้เขาได้รับนามสมญา พยัคฆ์แห่งมาลายา ถึงขนาดที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ วินสตัน เชอร์ชิล ที่เรียกการล่มสลายของสิงคโปร์ต่อประเทศญี่ปุ่นว่าเป็น "ภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุด" และ "การยอมจำนนครั้งใหญ่ที่สุด" ในประวัติศาสตร์การทหารของอังกฤษ[3] ยามาชิตะได้รับมอบหมายให้คุ้มครองฟิลิปปินส์จากกองกำลังพันธมิตรที่จะมาถึงภายหลังในสงคราม และในขณะที่ไม่สามารถหยุดการรุกคืบของพันธมิตร เขาสามารถที่จะยึดครองส่วนหนึ่งของเกาะลูซอนได้จนกระทั่งหลังการยอมจำนนของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1945

โทโมยูกิ ยามาชิตะ
山下 奉文
ผู้ว่าการทหารญี่ปุ่นแห่งหมู่เกาะฟิลิปปินส์
ดำรงตำแหน่ง
26 กันยายน ค.ศ. 1944 – 2 กันยายน ค.ศ. 1945
กษัตริย์ สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ
ก่อนหน้า ชิเงโนริ คุโรดะ
ถัดไป เลิกล้มตำแหน่ง
(อย่างเป็นทางการโดยมานูเอล โรฮัส ในฐานะประธานาธิบดีฟิลิปปินส์)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1885(1885-11-08)
โอโตโยะ จังหวัดโคจิ ประเทศญี่ปุ่น
เสียชีวิต 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1946(1946-02-23) (60 ปี)
โลสบาโญส จังหวัดลากูนา เครือจักรภพแห่งฟิลิปปินส์
สาเหตุการเสียชีวิต การแขวนคอ
ที่ไว้ศพ สุสานทามะไรเอ็ง ฟูจู โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
บิดา ซากิชิ ยามาชิตะ
มารดา ยู
คู่สมรส ฮิซาโกะ นากายามะ (สมรส ค.ศ. 1916–1946)
บุตร ไม่มี
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
ชื่อเล่น พยัคฆ์แห่งมาลายา
เดรัจฉานแห่งบาตาอัน[1]
รับใช้  ญี่ปุ่น
สังกัด  กองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น
ประจำการ ค.ศ. 1905–1945
ยศ 帝國陸軍の階級―襟章―大将.svg พลเอก
บังคับบัญชา กองทัพที่ 25
กองทัพสนามที่ 1
กองทัพสนามที่ 14
การยุทธ์ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง
สงครามแปซิฟิก
บำเหน็จ เครื่องราชอิสริยาภรณ์เหยี่ยวทองคำ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงคลรัตน์

หลังสงคราม ยามาชิตะถูกกล่าวหาสำหรับอาชญากรรมสงครามที่กระทำโดยทหารภายใต้คำสั่งของเขาในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ายึดครองฟิลิปปินส์เมื่อปี ค.ศ. 1944 ในการพิจารณาคดี ยามาชิตะถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานความทารุณจากกองทัพของเขา แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาเป็นผู้อนุมัติหรือแม้แต่รู้จักพวกเขา และโดยแท้จริงแล้วความโหดร้ายหลายอย่างเกิดขึ้นจากกองกำลังที่ไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งของเขา ยามาชิตะถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอเมื่อปี ค.ศ. 1946 การพิจารณาคดีต่อยามาชิตะ ถือตามผู้บัญชาการที่ต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามแทนผู้ใต้บังคับบัญชา ตราบเท่าที่ผู้บังคับบัญชาไม่ได้พยายามค้นหาและหยุดยั้งพวกเขาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมาเป็นที่รู้จักในฐานะมาตรฐานยามาชิตะ

หมายเหตุแก้ไข

  1. Marouf Hasian, In the Name of Necessity: Military Tribunals and the Loss of American Civil Liberties, University of Alabama Press, 2012, p. 286 (chapter 7, note 6). "Contemporary writers sometimes called Yamashita the "Beast of Bataan." See "The Philippines: Quiet Room in Manila," Time, November 12, 194.5, 21."
  2. [1] Virtual International Authority File
  3. Churchill, Winston (2002). Churchill, Winston (2002). The Second World War. London: Pimlico. ISBN 9780712667029.

อ้างอิงแก้ไข

แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข