สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต)

สมเด็จพระวันรัต นามเดิม จ่าย ฉายา ปุณฺณทตฺโต เป็นสมเด็จพระราชาคณะ เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร[1] และอดีตเจ้าคณะใหญ่หนใต้

สมเด็จพระวันรัต

(จ่าย ปุณฺณทตฺโต)
ส่วนบุคคล
เกิด20 สิงหาคม พ.ศ. 2400 (71 ปี 52 วัน ปี)
มรณภาพ11 ตุลาคม พ.ศ. 2471
นิกายมหานิกาย
การศึกษาเปรียญธรรม 7 ประโยค
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
อุปสมบทพ.ศ. 2420
พรรษา51
ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
เจ้าคณะใหญ่หนใต้

ประวัติ แก้

วัยเยาว์ แก้

สมเด็จพระวันรัต มีนามเดิมว่า จ่าย เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2400 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเส็ง เป็นบุตรนายยัง กับนางทรัพย์[2] ภูมิลำเนาอยู่บ้านรั้วใหญ่ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่ออายุได้ 11 ปี ได้ย้ายมาอยู่วัดสามพระยา เพื่อศึกษาภาษาไทยและภาษาบาลีกับพระมหาฑิต อุทโย ผู้เป็นญาติ

อุปสมบทและศึกษาปริยัติธรรม แก้

เมื่ออายุ 16 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร แล้วไปศึกษาธรรมบทกับพระยาโหราธิบดี (บัว) ต่อมาในปี พ.ศ. 2420 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดกำแพง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระปลัดพูนเป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดแฟงและพระอาจารย์สอนเป็นคู่พระกรรมวาจาจารย์ บวชแล้วกลับมาเรียนกับพระมหาฑิตต่อ และเรียนมังคลัตถทีปนีกับพระปริยัติธรรมธาดา (ชัง) เมื่อพระมหาฑิตได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารและวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหารตามลำดับ ท่านก็ได้ย้ายตามไปอยู่ด้วยด้วยทั้งสองอาราม[3]

เปรียญธรรม แก้

ศาสนกิจ แก้

หลังจบการศึกษาท่านยังคงอยู่วัดมหาธาตุฯ ต่อมา จนถึงปีชวด พ.ศ. 2443 โปรดให้อาราธนาไปครองวัดเบญจมบพิตร ต่อมาวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2470 โปรดตั้งเป็นเจ้าคณะมณฑลพายัพ[5] วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2456 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการคณะมณฑลราชบุรี[6] และวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2458 จึงโปรดให้บัญชาคณะสงฆ์ฝ่ายเหนือแทนสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ยัง เขมาภิรโต)[7]

ลำดับสมณศักดิ์ แก้

  • พ.ศ. 2436 เป็นพระราชาคณะที่ พระราชโมลี[8]
  • พ.ศ. 2438 เลื่อนเป็นพระราชาคณะที่ พระราชโมลี ศรีปาวจนาภรณ์[9]
  • พ.ศ. 2443 เลื่อนเป็นพระราชาคณะที่ พระเทพมุนี ศรีวิสุทธิศีลาจารย์ญาณนายก ติปิฎกธรา มหาคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[10]
  • พ.ศ. 2443 เลื่อนเป็นพระราชาคณะที่ พระธรรมไตรโลกาจารย์ ญาณปรีชาปรินายก ติปิฎกธรา มหาคฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[11]
  • พ.ศ. 2445 ได้รับสถาปนาเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองฝ่ายใต้ที่ พระธรรมวโรดม บรมญาณอดุล สุนทรนายก ตรีปิฎกคุณาลังการภูษิต ทักษิณทิศคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[12]
  • พ.ศ. 2458 ย้ายมาเป็นเจ้าคณะรองหนเหนือ[13]
  • พ.ศ. 2465 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายอรัญวาสีที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา สัปตวิสุทธิจริยาสมบัติ นิพัทธธุตคุณสิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกคณฤศร สมณนิกรมหาปรินายก ตรีปิฎกโกศล วิมลศีลขันธ สรรพสมณคุณ วิบุลยประสิทธิ์ บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี มหาสังฆนายก[14]
  • พ.ศ. 2466 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่หนใต้ที่ สมเด็จพระวันรัต ปริยัติพิพัฒนพงศ์ วิสุทธิสงฆปรินายก ตรีปิฎกโกศล วิมลคัมภีรญาณสุนทร มหาทักษิณคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี มหาสังฆนายก[15]

มรณภาพ แก้

สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) เริ่มอาพาธด้วยโรคชรามาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2470 อาการทรงกับทรุดเรื่อยมา จนกระทั่งถึงแก่มรณภาพในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2471 เวลา 07:55 น. สิริอายุได้ 71 ปี 52 วัน พรรษา 51 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โกศไม้สิบสองบรรจุศพ ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่ศาลาบัณณรศภาค ภายในวัดเบญจมบพิตร และโปรดให้พระสวดอภิธรรม 15 วัน[16]

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2473 เจ้าพนักงานจัดเตรียมสถานที่ วันต่อมา เวลา 16.00 น. เปลื้องโกศ เชิญลองในออกจากศาลา ขึ้นเสลี่ยง เวียนรอบเมรุแล้วยกขึ้นตั้งเหนือจิตกาธาน ถึงเวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าบังสุกุลและพระราชทานเพลิงศพแล้วเสด็จกลับ วันรุ่งขึ้นเจ้าภาพเก็บอัฐิตามประเพณี[17]

อ้างอิง แก้

เชิงอรรถ
  1. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม, ทำเนียบเจ้าอาวาส เก็บถาวร 2014-09-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  2. ตำนานสมณศักดิ์ พระวันรัต และสมเด็จพระราชาคณะผู้ทรงสมณศักดิ์สมเด็จพระวันรัตในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์, หน้า 54-60
  3. เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑, หน้า 151-4
  4. ราชกิจจานุเบกษา, จำนวนพระสงฆ์สามเณรที่สอบไล่พระปริยัติธรรมได้ในปี ๑๐๙ ปี ๑๑๐, เล่ม 8, ตอน 13, 28 มิถุนายน 2434, หน้า 105
  5. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงธรรมการ เรื่อง ตั้งเจ้าคณะมณฑลพายัพ, เล่ม 44, ตอน 0 ง, 24 เมษายน 2470, หน้า 259
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งผู้บัญชาการคณะมณฑลราชบุรี, เล่ม 30, ตอน 0 ก, 31 สิงหาคม 2456, หน้า 229
  7. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงธรรมการ แผนกกรมธรรมการ ย้ายตำแหน่งเจ้าคณะ, เล่ม 32, ตอน 0 ง, 19 มีนาคม 2458, หน้า 3170
  8. ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 10, หน้า 402
  9. ราชกิจจานุเบกษา, พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรแลเลื่อนตำแหน่งยศ, เล่ม 13, หน้า 15
  10. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการประกาศตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 17, 25 พฤศจิกายน 2443, หน้า 490
  11. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 17, หน้า 727-8
  12. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 19, วันที่ 25 พฤษภาคม ร.ศ. 121, หน้า 126
  13. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสังฆการี พระราชทานตราตำแหน่งย้ายเจ้าคณะรอง, เล่ม 32, ตอน 0 ง, วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2458, หน้า 2826
  14. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาพระธรรมวโรดมเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์, เล่ม 39, 7 มกราคม 2465, หน้า 543-7
  15. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, เล่ม 40, 25 พฤศจิกายน 2466, หน้า 2587-90
  16. ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวมรณภาพ, เล่ม 45, ตอน ง, 21 ตุลาคม 2461, หน้า 2096-7
  17. ราชกิจจานุเบกษา, หมายกำหนดการ ที่ ๓/๒๔๗๓ พระราชทานเพลิงพระศพและศพ ที่เมรุวัดเบญจมบพิตดุสิตวนาราม พุทธศักราช ๒๔๗๓, เล่ม 47, ตอน 0 ง, 18 พฤษภาคม 2473, หน้า 549-550
บรรณานุกรม
  • ธนิต อยู่โพธิ์ตำนานสมณศักดิ์ พระวันรัต และสมเด็จพระราชาคณะผู้ทรงสมณศักดิ์สมเด็จพระวันรัตในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : ศิวพร, 2516. 219 หน้า. หน้า 54-60.
  • สมมอมรพันธุ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 428 หน้า. หน้า 151-4. ISBN 974-417-530-3


ก่อนหน้า สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) ถัดไป
สมเด็จพระวันรัต (ฑิต อุทโย)    
เจ้าคณะใหญ่หนใต้
(พ.ศ. 2466 - พ.ศ. 2471)
  สมเด็จพระวันรัต (แพ ติสฺสเทโว)
พระพุฒาจารย์ (มา อินฺทสโร)    
เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายอรัญวาสี
(พ.ศ. 2465 - พ.ศ. 2466)
  สมเด็จพระพุฒาจารย์ (แพ ติสฺสเทโว)
พระพิมลธรรม
(หม่อมราชวงศ์เจริญ ญาณฉนฺโท)
   
เจ้าคณะรองหนเหนือ
(พ.ศ. 2458 - พ.ศ. 2465)
  พระธรรมวโรดม (เข้ม ธมฺมสโร)
พระธรรมวโรดม (ฤทธิ์ ธมฺมสิริ)    
เจ้าคณะรองฝ่ายใต้
(พ.ศ. 2445 - พ.ศ. 2458)
  พระพรหมมุนี (แพ ติสฺสเทโว)