พระพุฒาจารย์ (มา อินฺทสโร)
พระพุฒาจารย์ นามเดิม มา หรือที่รู้จักในนามท่านเจ้ามา เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะอรัญวาสี อดีตเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร
พระพุฒาจารย์ (มา อินฺทสโร) | |
---|---|
ชื่ออื่น | ท่านเจ้ามา |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 11 กันยายน พ.ศ. 2380 (77 ปี 28 วัน ปี) |
มรณภาพ | 9 ตุลาคม พ.ศ. 2457 |
นิกาย | มหานิกาย |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร |
อุปสมบท | พ.ศ. 2401 |
พรรษา | 56 |
ตำแหน่ง | เจ้าคณะอรัญวาสี |
ประวัติ
แก้พระพุฒาจารย์ มีนามเดิมว่า มา เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2380 ตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 10 ปีระกา ถึงปีระกา พ.ศ. 2401 ได้บวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดจักรวรรดิราชาวาส โดยพระอาจารย์นองเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า อินฺทสโร ได้ศึกษาวิปัสสนาธุระแล้วออกจาริกธุดงค์แทบทุกปี แล้วกลับมาเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาอยู่ที่วัดจักรวรรดิราชาวาส[1]
สมณศักดิ์
แก้- พ.ศ. 2413 เป็น พระปลัดมา ฐานานุกรมในพระวรญาณมุนี (เส็ง)
- 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2432 ตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูภาวนาวิจารณ์ ผู้ช่วยกิจการในวัดจักรวรรดิราชาวาส มีนิตยภัตเดือนละตำลึง 2 บาท ได้รับพระราชทานไตรผ้าสลับแพร ตาลปัตรพุดตานหักทองขวาง พัดรองโหมด ย่ามอัตลัด บาตรถุงอัตลัด กระโถนขันน้ำถมปัด เป็นเครื่องยศอย่างพระครู[2]
- 17 มีนาคม พ.ศ. 2435 เลื่อนเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่แขวงเมืองสมุทรปราการที่ พระมงคลทิพยมุนี ศรีชลังคันตรีปเทศ เขตรสมุทรปราการ อภิบาลพุทธคยาปทวี ชลคิรีไทวปสีมาบพิตร มีนิตยภัตเดือนละ 3 ตำลึง[3] ได้รับพระราชทานตาลปัตรแฉกหักทองขวาง พัดรองตราแผ่นดิน พัดรองโหมด ย่ามหักทองขวาง ย่ามเข้มขาบ บาตรถุงเข้มขาบ ฝาบาตรเชิงบาตรมุก กระโถนกาน้ำถมปัด เป็นเครื่องยศ[4]
- ได้รับพระราชทานตาลปัตรแฉกประดับพลอยและเพิ่มนิตยภัตเสมอพระราชาคณะชั้นเทพ
- 16 มีนาคม พ.ศ. 2448 ได้รับพระราชทานพัดแพร เพิ่มนิตยภัตเป็นเดือนละ 7 ตำลึง เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม[5]
- 30 ธันวาคม พ.ศ. 2455 เลื่อนเป็นเจ้าคณะรอง ได้รับพระราชทานพัดแฉกพื้นโหมดสลับแพร เพิ่มนิตยภัตเป็นเดือนละ 30 บาท[6]
- 30 ธันวาคม พ.ศ. 2456 ได้รับสถาปนาเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ เจ้าคณะอรัญวาสี เสมอเจ้าคณะรอง มีนามจารึกในหิรัญบัฏว่า พระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา วิสุทธศีลจรรยาสมบัติ นิพัทธธุตคุณ ศิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกคณิศราธิการ อภิบาลบทวลัญช์ อรัญวาสี สังฆนายก[7]
มรณภาพ
แก้พระพุฒาจารย์ อาพาธเป็นลม มรณภาพเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2457 ปีขาล[8] สิริอายุได้ 77 ปี 28 วัน ได้รับพระราชทานโกศแปดเหลี่ยมเป็นเกียรติยศ[9]
วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2458 เคลื่อนโกศศพจากกุฏิไปตั้งเหนือแว่นฟ้า 2 ชั้นที่เมรุน้อยในวัดจักรวรรดิราชาวาส ถึงวันที่ 2 พฤษภาคม เวลาบ่าย 5 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาพระราชทานเพลิงศพ[10]
อ้างอิง
แก้- เชิงอรรถ
- ↑ เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑, หน้า 229
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งสงฆ์, เล่ม 6, ตอน 7, 19 พฤษภาคม ร.ศ. ,หน้า
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, คำประกาศตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 9, ตอน 52, 26 มีนาคม ร.ศ. 111, หน้า 463
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 9, ตอน 52, 26 มีนาคม ร.ศ. 111,หน้า 461
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเลื่อนตำแหน่งสมณศักดิ์, เล่ม 22, ตอน 52, 25 มีนาคม ร.ศ. 124, หน้า 1187
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งสมณศักดิ์ พระราชาคณะ และพระครู วันที่ ๓๐ ธันวาคม รัตนโกสินทร์ ศก ๑๓๑, เล่ม 29, ตอน 0 ง, 22 , 22 มกราคม ร.ศ. 131, หน้า 2409
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งพระราชาคณะและพระครู, เล่ม 30, ตอน ก, 18 มกราคม 2456, หน้า 392-393
- ↑ เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑, หน้า 231
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวมรณภาพ วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๔๕๗ พระพุฒาจารย์, เล่ม 31, ตอน 0 ง, 18 ตุลาคม 2457, หน้า 1573
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ส่งอนุมัติบัตรมรรคนายกไปพระราชทาน เรื่อง พระราชทานเพลิงศพ พระพุฒาจารย์ (มา) เมรุวัดจักรวรรดิราชาวาศ, เล่ม 32, ตอน ง, 9 พฤษภาคม 2458, หน้า 297-298
- บรรณานุกรม
- สมมอมรพันธุ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 428 หน้า. หน้า 218-222. ISBN 974-417-530-3