ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย
ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย (สเปน: Selección de fútbol de Uruguay) เป็นตัวแทนทีมฟุตบอลจากประเทศอุรุกวัย อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลอุรุกวัย
ฉายา | La Celeste (The Sky Blue) Los Charrúas (The Charrúas) จอมโหด (ฉายาในภาษาไทย) | ||
---|---|---|---|
สมาคม | สมาคมฟุตบอลอุรุกวัย | ||
สมาพันธ์ | CONMEBOL (อเมริกาใต้) | ||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | ดิเอโก อาลอนโซ | ||
กัปตัน | ดิเอโก โกดิน | ||
ติดทีมชาติสูงสุด | ดิเอโก โกดิน (161) | ||
ทำประตูสูงสุด | ลุยส์ ซัวเรซ (68) | ||
สนามเหย้า | เอสตาโด เซนเตนารีโอ | ||
รหัสฟีฟ่า | URU | ||
| |||
อันดับฟีฟ่า | |||
อันดับปัจจุบัน | 14 1 (20 มิถุนายน 2024)[1] | ||
อันดับสูงสุด | 2 (มิถุนายน 2012) | ||
อันดับต่ำสุด | 76 (ธันวาคม 1998) | ||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | |||
อุรุกวัย 0–6 อาร์เจนตินา (มอนเตวิเดโอ ประเทศอุรุกวัย; 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1902)[note 1] | |||
ชนะสูงสุด | |||
อุรุกวัย 9–0 โบลิเวีย (ลิมา ประเทศเปรู; 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1927) | |||
แพ้สูงสุด | |||
อุรุกวัย 0–6 อาร์เจนตินา (มอนเตวิเดโอ ประเทศอุรุกวัย; 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1902) | |||
ฟุตบอลโลก | |||
เข้าร่วม | 14 (ครั้งแรกใน 1930) | ||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (1930, 1950) | ||
โกปาอาเมริกา | |||
เข้าร่วม | 45 (ครั้งแรกใน 1916) | ||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (1916, 1917, 1920, 1923, 1924, 1926, 1935, 1942, 1956, 1959, 1967, 1983, 1987, 1995, 2011) | ||
CONMEBOL–UEFA Cup of Champions | |||
เข้าร่วม | 1 (ครั้งแรกใน 1985) | ||
ผลงานดีที่สุด | รองชนะเลิศ (1985) | ||
คอนเฟเดอเรชันส์คัพ | |||
เข้าร่วม | 2 (ครั้งแรกใน 1997) | ||
ผลงานดีที่สุด | อันดับที่ 4 (1997, 2013) |
สถิติเหรียญโอลิมปิก | ||
---|---|---|
ฟุตบอลชายในโอลิมปิกฤดูร้อน | ||
1924 Paris | Team | |
1928 Amsterdam | Team |
ทีมชาติอุรุกวัยเคยชนะการแข่งขันฟุตบอลโลก 2 ครั้ง รวมถึงการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกใน ฟุตบอลโลก 1930 ที่เป็นประเทศเจ้าภาพ ชนะฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาในรอบตัดสิน 4-2 ชนะครั้งที่ 2 ใน ฟุตบอลโลก 1950 ชนะบราซิล ประเทศเจ้าภาพไป 2-1 ทีมชาติอุรุกวัยยังเคยได้เหรียญทองฟุตบอลในโอลิมปิก 2 ครั้งคือ ในปี 1924 และ 1928 ก่อนที่จะมีการจัดฟุตบอลโลก และยังชนะการแข่งขัน Mundialito ที่เป็นการแข่งขันระหว่างอดีตแชมเปียนฟุตบอลโลก จัดขึ้นในปี 1980 ที่อุรุกวัย เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของฟุตบอลโลก ทีมชาติอุรุกวัยถือเป็นหนึ่งในทีมชาติที่ประสบความสำเร็จที่สุดทีมหนึ่ง ชนะอย่างเป็นทางการกว่า 18 รางวัล รวมถึงชนะฟุตบอลโลก 2 ครั้ง, โอลิมปิก 2 ครั้ง และโกปาอาเมริกา 15 ครั้ง
ประเทศอุรุกวัยเป็นประเทศที่มีประชากรน้อยกว่า 4 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่เล็กที่สุดที่ชนะการแข่งขันฟุตบอลโลก (รองลงมาคืออาร์เจนตินา มีประชากรมากกว่า 40 ล้านคน)[6]
ประวัติ
แก้ในสัญลักษณ์ของทีมชาติอุรุกวัย จะมีปรากฏดาวทั้งหมด 4 ดวง ทั้งที่เคยเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกเพียง 2 สมัย แต่อีก 2 ดวงนั้นหมายถึงการที่ได้เหรียญทองฟุตบอลชายโอลิมปิกมาก่อนหน้านั้น 2 สมัย คือ โอลิมปิก 1924 และโอลิมปิก 1928 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเสมือนแชมป์โลก เพราะเป็นการแข่งขันก่อนที่จะมีฟุตบอลโลกเกิดขึ้น[7]
ผู้เล่น
แก้ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
แก้รายชื่อผู้เล่น 26 คนที่ถูกเรียกตัวในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022[8]
ข้อมูลการลงเล่นและการทำประตูนับถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 หลังจากการพบกับ โปรตุเกส
# | ตำแหน่ง | ผู้เล่น | วันเกิด (อายุ) | ลงเล่น | ประตู | สโมสร |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | GK | เฟร์นันโด มุสเลรา | 16 มิถุนายน ค.ศ. 1986 | 133 | 0 | กาลาทาซาไร |
12 | GK | เซบัสเตียน โซซา | 19 สิงหาคม ค.ศ. 1986 | 1 | 0 | อินเดเปนดิเอนเต |
23 | GK | Sergio Rochet | 23 มีนาคม ค.ศ. 1993 | 10 | 0 | นาซิโอนัล |
2 | DF | โฆเซ ฆิเมเนซ | 20 มกราคม ค.ศ. 1995 | 80 | 8 | อัตเลติโกเดมาดริด |
3 | DF | ดิเอโก โกดิน (กัปตัน) | 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1986 | 161 | 8 | เบเลซซาร์สฟิลด์ |
4 | DF | โรนัลด์ อาราอูโฆ | 7 มีนาคม ค.ศ. 1999 | 12 | 0 | บาร์เซโลนา |
13 | DF | กิเยร์โม บาเรลา | 24 มีนาคม ค.ศ. 1993 | 11 | 0 | ฟลาเม็งกู |
16 | DF | มาติอัส โอลิเบรา | 31 ตุลาคม ค.ศ. 1997 | 10 | 0 | นาโปลี |
17 | DF | Matías Viña | 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997 | 28 | 0 | โรมา |
19 | DF | เซบัสเตียน โกอาเตส | 7 ตุลาคม ค.ศ. 1990 | 48 | 1 | สปอร์ติงลิสบอน |
22 | DF | มาร์ติน กาเซเรส | 7 เมษายน ค.ศ. 1987 | 116 | 4 | แอลเอ แกลักซี |
26 | DF | José Luis Rodríguez | 14 มีนาคม ค.ศ. 1997 | 0 | 0 | นาซิโอนัล |
5 | MF | มาติอัส เบซิโน | 24 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | 64 | 4 | ลัตซีโย |
6 | MF | โรดริโก เบนตังกูร์ | 25 มิถุนายน ค.ศ. 1997 | 53 | 1 | ทอตนัมฮอตสเปอร์ |
7 | MF | นิโกลัส เด ลา กรุซ | 1 มิถุนายน ค.ศ. 1997 | 18 | 2 | ริเบร์เปลต |
10 | MF | ยอร์ยัน เด อาร์รัสกาเอตา | 1 มิถุนายน ค.ศ. 1994 | 41 | 8 | ฟลาเม็งกู |
14 | MF | ลูกัส ตอร์เรย์รา | 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1996 | 40 | 0 | กาลาทาซาไร |
15 | MF | เฟเดริโก บัลเบร์เด | 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1998 | 46 | 4 | เรอัลมาดริด |
25 | MF | Manuel Ugarte | 11 เมษายน ค.ศ. 2001 | 6 | 0 | สปอร์ติงลิสบอน |
8 | FW | ฟากุนโด เปลิสตริ | 20 ธันวาคม ค.ศ. 2001 | 9 | 0 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด |
9 | FW | ลุยส์ ซัวเรซ | 24 มกราคม ค.ศ. 1987 | 136 | 68 | นาซิโอนัล |
11 | FW | ดาร์วิน นุญเญซ | 24 มิถุนายน ค.ศ. 1999 | 15 | 3 | ลิเวอร์พูล |
18 | FW | Maxi Gómez | 14 สิงหาคม ค.ศ. 1996 | 28 | 4 | ทรับซอนสปอร์ |
20 | FW | Facundo Torres | 13 เมษายน ค.ศ. 2000 | 10 | 0 | ออร์แลนโดซิตี |
21 | FW | เอดินซอน กาบานิ | 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1987 | 135 | 58 | บาเลนเซีย |
24 | FW | Agustín Canobbio | 1 ตุลาคม ค.ศ. 1998 | 3 | 0 | แอตเลติโก้ พาราเนนเซ่ |
อดีตผู้เล่นคนสำคัญ
แก้ดูเพิ่ม
แก้หมายเหตุ
แก้- ↑ ถึงแม้ว่ามีการบันทึกการแข่งขันครั้งแรกจากทั้งสองทีมในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1901 แต่ไม่นับเป็นทางการเนื่องจากเป้นการแข่งขันที่ไม่ได้จัดโดยสมาคมฟุตบอลอุรุกวัย แต่จัดโดยสโมสรฟุตบอล Albion ใน Paso del Molino[2][3][4][5][5]
อ้างอิง
แก้- ↑ "The FIFA/Coca-Cola World Ranking". FIFA. 20 มิถุนายน 2024. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2024.
- ↑ ""Historia del Fútbol Uruguayo" at Deportes en Uruguay". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 October 2021. สืบค้นเมื่อ 1 June 2018.
- ↑ Historias, curiosidades y estadísticas de la Selección, tras sus "primeros" 900 partidos เก็บถาวร 16 เมษายน 2021 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, El Gráfico, 4 July 2012
- ↑ Argentina national team archive เก็บถาวร 20 สิงหาคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน on the RSSSF
- ↑ 5.0 5.1 Uruguay - international results เก็บถาวร 30 เมษายน 2004 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน on the RSSSF
- ↑ ในการชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก อุรุกวัยในปี 1930 มีประชากรราว 2 ล้านคน ขณะที่อาร์เจนตินาในปี 1978 มีประชากร 28 ล้านคน
- ↑ "ไทยบันเทิง: แฟชั่นในฟุตบอลโลก". ไทยพีบีเอส. 22 June 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-03. สืบค้นเมื่อ 23 June 2014.
- ↑ "Se confirmó la lista de convocados para la Copa Mundial de Catar 2022" (ภาษาสเปน). 10 November 2022. สืบค้นเมื่อ 10 November 2022.