เอดีอาร์ (รถดีเซลราง)

(เปลี่ยนทางจาก แดวู (รถราง))

เอดีอาร์ หรือ รถดีเซลรางแดวู (อังกฤษ: Daewoo Diesel Railcar) เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศของการรถไฟแห่งประเทศไทย ใช้สำหรับการทำขบวนรถโดยสาร และขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง สั่งซื้อจากบริษัทแดวู เฮฟวี อินดัสตรีส์ ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 - 2539 เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสาร ที่นิยมโดยสารด้วยรถไฟปรับอากาศ รถดีเซลรางแดวูยังถูกนำมาใช้รองรับการโดยสารของนักท่องเที่ยว ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ และ เอเชียนเกมส์ ช่วงปี พ.ศ.2538 - 2541 ที่จัดขึ้นในประเทศไทยในขณะนั้นอีกด้วย

Daewoo Railcar / ADR
รถดีเซลรางแดวู 2529 กำลังวิ่งผ่านสถานีการเคหะ
ประจำการการรถไฟแห่งประเทศไทย
ผู้ผลิตแดวู เฮฟวี อินดัสตรีส์
เข้าประจำการพ.ศ. 2538 - 2539
จำนวนที่ผลิตรถดีเซลราง 40 คัน (แบบมีห้องขับ 32 คัน, แบบไม่มีห้องขับ 8 คัน)
รถพ่วงดีเซลราง 40 คัน
จำนวนในประจำการ39 (รถดีเซลราง)
จำนวนที่ปลดระวาง1 (รถดีเซลราง)
หมายเลขตัวรถกซข.ป.2513 - 2524 (APD.20),
กซข.ป.2524 - 2544 (APD.60),
กซม.ป.2121 - 2128 (APN.20),
พซน.ป.1101 - 1140 (ปัจจุบัน บนท.ป.1101 - 1140)
ความจุผู้โดยสาร76 ที่นั่ง/คัน (APD.20)
80 ที่นั่ง/คัน (APN.20)
64 ที่นั่ง/คัน (APD.60)
คุณลักษณะ
วัสดุตัวถังสแตนเลสสตีล
ความยาว24.300 m (79 ft 8.7 in)
ความกว้าง2.705 m (8 ft 10.5 in)
ความสูง3.886 m (12 ft 9.0 in)
จำนวนประตู2 ประตู
รูปแบบการจัดวางล้อ2-A1
ความเร็วสูงสุด120 km/h (75 mph)
น้ำหนัก44.60 ตัน (APD.20)
43.50 ตัน (APN.20)
น้ำหนักกดเพลา11.80 ตัน (APD.20)
11.53 ตัน (APN.20)
เครื่องยนต์Cummins NT-855R1
กำลังขับเคลื่อน285 แรงม้า ที่ 2,100 รอบ/นาที
แรงฉุดลากไฮดรอลิก
ชุดส่งกำลังVoith T211RZ
ระบบเบรกลมอัด 2 สูบ
มาตรฐานทางกว้าง1,000 mm (3 ft 3 38 in)

รุ่น แก้

รถดีเซลรางแดวู มีชื่อเรียกรุ่นว่า เอดีอาร์ (Air conditioner Daewoo Railcar) แต่ก็ยังมีรุ่นย่อยที่แตกต่างกัน เพราะมีการสั่งซื้อหลายครั้ง หลายจุดประสงค์การใช้งาน

ADR รุ่น 20 แก้

ADR รุ่น 20
 
รถดีเซลรางแดวู 2520 กำลังผ่านที่หยุดรถแกรนด์คาแนล
เข้าประจำการพ.ศ. 2538
จำนวนที่ผลิต20 คัน (แบบมีห้องขับ 12 คัน / แบบไม่มีห้องขับ 8 คัน)
จำนวนในประจำการ19
จำนวนที่ปลดระวาง1
คุณลักษณะ
ความเร็วสูงสุด120 km/h (75 mph)

เป็นรถดีเซลรางแดวูล็อตแรก โดยเป็นรถนั่งดีเซลรางทั้งหมด โดยมีมิติรถที่เล็กตามขนาดของรถไฟรุ่นเก่า ๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับความกังวลด้านข้อจำกัดของเขตโครงสร้างต่าง ๆ แต่มีที่นั่งที่มากกว่าล็อตอื่น ๆ

  • DRH-11 เอพีดี.20 (APD.20) รุ่นเลขที่ กซข.ป. 2513 – 2524 (มีห้องขับ) จำนวน 12 คัน
 
รถดีเซลรางแดวู 2514 ขณะจอดที่สถานีรถไฟกรุงเทพ
  • DRH-12 เอพีเอ็น.20 (APN.20) รุ่นเลขที่ กซม.ป. 2121 – 2128 (ไม่มีห้องขับ) จำนวน 8 คัน

ADR รุ่น 60 แก้

ADR รุ่น 60
 
รถดีเซลรางแดวู 2543 กำลังผ่านสถานีหลักหก
เข้าประจำการพ.ศ. 2539
จำนวนที่ผลิต20 คัน
จำนวนในประจำการ20 (รถดีเซลราง)
คุณลักษณะ
ความเร็วสูงสุด120 km/h (75 mph)

เป็นรถดีเซลรางแดวูล็อตที่สอง โดยมีทั้งรถนั่งดีเซลราง และ รถพ่วงดีเซลรางแบบนั่งและนอน โดยมีมิติรถที่ใหญ่กว่าล็อตแรก เพราะไม่มีข้อจำกัดด้านเขตโครงสร้าง และเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานต่าง ๆ รถดีเซลรางแดวูล็อตนี้ได้เป็นมาตรฐานของขนาดรถไฟไทยในยุคใหม่ ที่ได้ใช้รถไฟที่มีมิติรถที่ใหญ่ขึ้นตามมาในอีกหลายรุ่น

  • DRH-13 เอพีดี.60 (APD.60) รุ่นเลขที่ กซข.ป. 2525–2544 (มีห้องขับ) จำนวน 20 คัน
 
รถดีเซลรางแดวู 2529 ขณะจอดที่สถานีรถไฟเชียงใหม่
  • DPG-09 เอเอ็นที. (ANT.) รุ่นเลขที่ พซน.ป. 1101–1140 (รถพ่วงดีเซลรางแบบนั่งและนอนไม่มีห้องขับ) จำนวน 40 คัน
 
DPG-09 ขณะจอดที่สถานีรถไฟกรุงเทพ

โดยในปัจจุบันได้ดัดแปลงเป็น บนท.ป.1101 - 1140 (รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2) เพื่อนำไปใช้พ่วงร่วมกับขบวนรถต่าง ๆ ซึ่งใช้งานได้คล่องตัวกว่า ปัจจุบันมีพ่วงอยู่ในขบวนรถด่วนที่ 83/84 (กรุงเทพฯ-ตรัง-กรุงเทพฯ) และรถด่วนขบวนที่ 85/86 (กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ)

ด้านการใช้งาน แก้

แม้ว่ารถดีเซลรางแดวูจะมีหลายรุ่น แต่ในการใช้งานจริง ก็ได้มีการจัดให้ใช้งานได้ร่วมกัน เพราะระบบต่าง ๆ เป็นแบบเดียวกันทั้งหมด เลยมักจะได้เห็นรถดีเซลรางแดวูที่มีริ้วขบวนแบบมีรถต่างขนาดกันในขบวนเดียวกัน

 
รถดีเซลรางแดวูรุ่น20 และ รุ่น60 ที่ใช้งานร่วมกัน จะเห็นได้ว่ามีขนาดที่แตกต่างกัน

ปัญหาและข้อวิจารณ์ แก้

เรือด แก้

ในช่วงปลาย พ.ศ. 2550 – ต้น พ.ศ. 2551 ได้พบเรือดบนเบาะในตู้โดยสารของแดวู[1][2][3] ทำให้ขบวนรถที่ใช้รถดีเซลรางแดวูหลายขบวนต้องงดให้บริการหรือใช้รถดีเซลรางสปรินเตอร์ทำการแทน เพื่อกำจัดเรือดและเปลี่ยนเบาะหนังเทียมเป็นแบบใหม่

เปลี่ยนสีและเสียงหวีด แก้

รถดีเซลรางแดวูเป็นรถดีเซลรางที่ทำความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จนเป็นสาเหตุทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ มักจะเป็นอุบัติเหตุรุนแรงหลายครั้ง เนื่องจากมีจุดตัดที่ไม่มีเครื่องกั้นหรือทางลักผ่านหลายจุด และผู้ขับขี่พาหนะทางถนนไม่เคารพกฎจราจร[4] ทำให้รถดีเซลรางแดวูเคยต้องทำสีด้านหน้ารถใหม่หลายแบบโดยเพิ่มสีโทนเหลืองเพื่อเพิ่มจุดสังเกต แต่อุบัติเหตุก็ไม่ได้ลดลง เลยมีการเปลี่ยนเสียงหวีดใหม่ เป็นเสียงหวีดยี่ห้อ Nathan AirChime รุ่น K3LA คล้ายกับที่ใช้ในรถจักรของแอ็มแทร็กในสหรัฐ เพื่อที่จะใช้จะเตือนผู้ขับขี่พาหนะทางถนนให้ดียิ่งขึ้น เพราะเสียงหวีดดั้งเดิมมีเสียงที่ค่อนข้างเบา ได้ยินในระยะที่ไม่ไกลมาก

ขบวนรถที่ให้บริการ แก้

ปัจจุบัน
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 3/4 กรุงเทพอภิวัฒน์–สวรรคโลกศิลาอาสน์–กรุงเทพอภิวัฒน์ (วิ่งแทนสปรินเตอร์เป็นบางครั้ง) (ปัจจุบันงดให้บริการชั่วคราว)
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7/8 กรุงเทพอภิวัฒน์–เชียงใหม่–กรุงเทพอภิวัฒน์
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21/22 กรุงเทพอภิวัฒน์–อุบลราชธานี–กรุงเทพอภิวัฒน์
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 39/40 กรุงเทพอภิวัฒน์–สุราษฎร์ธานี–กรุงเทพอภิวัฒน์
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 41/42 กรุงเทพอภิวัฒน์–ยะลา–กรุงเทพอภิวัฒน์ (ปัจจุบันงดให้บริการชั่วคราว)
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43/44 กรุงเทพอภิวัฒน์–สุราษฎร์ธานี–กรุงเทพอภิวัฒน์
อดีต
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 11/10 กรุงเทพฯ–เชียงใหม่–กรุงเทพฯ (ปัจจุบันยกเลิกการเดินรถแล้ว)
  • ขบวนรถด่วนที่ 71/74 กรุงเทพฯ–ศรีสะเกษ–กรุงเทพฯ (เคยวิ่งแทนทีเอชเอ็นในช่วงก่อน พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2552–53)[5]
  • ขบวนรถด่วนที่ 73/72 กรุงเทพฯ–ศีขรภูมิ–กรุงเทพฯ (เคยวิ่งแทนทีเอชเอ็นในช่วงก่อน พ.ศ. 2549)
  • ขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศที่ 947/948 และ 949/950 ชุมทางหาดใหญ่ปาดังเบซาร์–ชุมทางหาดใหญ่ (ปัจจุบันใช้รถจักรดีเซลพ่วง บชส.ชั้น3 ทำขบวนแทน)

ระเบียงภาพ แก้

อ้างอิง แก้

  1. "ตัวเรือด บุกดีเซลราง Daewoo". สืบค้นเมื่อ 13 เมษายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. "กองทัพ'ตัวเรือด'ระบาดในเบาะรถไฟ - รุมกัดผู้โดยสาร". สืบค้นเมื่อ 13 เมษายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. "ขนลุกไต่ยุ่บยั่บ ตัวเรือด ในเบาะนั่งรถไฟ". สืบค้นเมื่อ 13 เมษายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. "เรื่องน่ารู้ก่อนโดยสารรถไฟไทย". สืบค้นเมื่อ 13 เมษายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. "เล่าเรื่องรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ". สืบค้นเมื่อ 13 เมษายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น แก้