ฝ่ายข่าว ช่อง 3 เอชดี

(เปลี่ยนทางจาก เรื่องเล่าเช้านี้)

ฝ่ายข่าว ช่อง 3 เอชดี (อังกฤษ: 3Plus News) เป็นหน่วยงานย่อยของช่อง 3 เอชดี ภายใต้การกำกับดูแลโดยกลุ่มบีอีซีเวิลด์ ซึ่งทำหน้าที่ผลิตข้อมูลข่าวสารทุกประเภท ในรูปของเนื้อหาข่าว และภาพเคลื่อนไหวแบบวิดีโอ หรือภาพนิ่งในบางกรณี เพื่อสนับสนุนกับรายการโทรทัศน์ ประเภทข่าวและเหตุการณ์ปัจจุบัน ทั้งส่วนที่ผลิตเอง และส่วนที่ให้บริษัทเอกชนเช่าเวลาผลิต และตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา รายการข่าวทั้งหมดอยู่ภายใต้ตราสินค้า ครอบครัวข่าว 3 ในช่วงเวลาต่างๆ ที่กำหนดไว้ในผังรายการทางช่อง 3 เอชดี และตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ได้เรียกคืนเวลารายการที่บริษัทภายนอกเช่าผลผลิตเองทั้งหมด

ประวัติแก้ไข

ฝ่ายข่าว ช่อง 3 เอชดี เริ่มดำเนินงานเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2529 หลังจากที่องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) อนุมัติให้ช่อง 3 เอชดี ดำเนินการผลิตรายการข่าวได้ด้วยตนเอง โดยก่อนหน้านั้น อ.ส.ม.ท. ผลิตรายการข่าวประจำวัน เพื่อออกอากาศทาง ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี และช่อง 3 ไปพร้อมกัน ในเวลา 20:00-20:45 น. ภายใต้ชื่อ ข่าวร่วม 3 - 9 อ.ส.ม.ท. ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524

ทั้งนี้ ผู้บริหารช่อง 3 ได้เปิดรับสมัครบุคลากรจำนวนมาก เพื่อรองรับการเปิดแผนกใหม่ จนกระทั่งได้ทีมงานรุ่นใหม่มากกว่า 100 คน ภายในเวลาไม่กี่เดือน สำหรับผู้ประกาศข่าวซึ่งเป็นที่รู้จักในขณะนั้น ได้แก่ อาคม มกรานนท์,สิทธิชาติ บุญมานนท์,อภิญญา มาลีนนท์,ชุติมา รอดอยู่สุข,รัตติยากร ริมสินธุ,อภิชาติ หาลำเจียก,จักรพันธุ์ ยมจินดา,สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล,นัจนันท์ พฤกษ์ไพบูลย์,สาธิต ยุวนันทการุณ เป็นต้น โดยกำหนดคำขวัญว่า เที่ยงตรง กระชับ ฉับไว

อนึ่ง ก่อนหน้านั้น ช่อง 3 นำเสนอรายการข่าวมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 ในข่าวภาคกลางวัน และข่าวโทรพิมพ์ ในเวลา 12.00 - 13.00 น. ส่วนปี พ.ศ. 2518 ช่อง 3 เลื่อนเวลานำเสนอรายการข่าวมาเป็น 19.00 น. พร้อมยกเลิกการออกอากาศข่าวในช่วงเที่ยงวัน และเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2521 ช่อง 3 นำเสนอรายการ ข่าวดาวเทียม ซึ่งถ่ายทอดข่าวต่างประเทศ จากสำนักข่าวระดับโลก ผ่านระบบดาวเทียมอย่างรวดเร็ว ในเวลา 20.20 น. นับเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกในประเทศไทยที่มีการถ่ายทอดลักษณะนี้[1]

วิวัฒนาการแก้ไข

ฝ่ายข่าว ช่อง 3 เอชดี เริ่มนำเสนอข่าวประจำวัน ในปี พ.ศ. 2529 ระหว่างเวลา 19.30 - 20.30 น. ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2533 เพิ่มช่วงนำเสนอข่าวสั้น โดยในระยะแรกที่เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย ช่อง 3 เอชดี ได้เชิญสุทธิชัย หยุ่น บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่น ในขณะนั้น มาวิเคราะห์สถานการณ์ออกอากาศ นับเป็นสถานีแรกที่สุทธิชัยออกรายการ, พ.ศ. 2536 เพิ่มเวลาข่าวประจำวันอีกวันละ 30 นาทีและเพิ่มรายการข่าวสตรีคือรายการ ผู้หญิงอยากรู้ (ต่อมาเป็นรายการ ผู้หญิงอยากรู้ 100เปอร์เซ็นต์,ผู้หญิง ผู้หญิง,ผู้หญิงถึงผู้หญิงและผู้หญิงยกกำลังแจ๋ว) และในเดือนมกราคม ปีถัดมา (พ.ศ. 2537) เพิ่มรายการภาคเช้า ระหว่างเวลา 05.30 - 06.00 น.

จากนั้นในปี พ.ศ. 2541 - 2542 ฝ่ายข่าวจึงปรับปรุงชื่อและรูปแบบการนำเสนอข่าวครั้งใหญ่ โดยเพิ่มรายการ เหตุบ้านการเมือง ที่มีสถานะเทียบเท่ารายการภาคเช้า, เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ซึ่งเทียบเท่าข่าวภาคเที่ยง, ข่าวเด่นประจำวัน ที่มีสถานะเป็นข่าวภาคเย็นและภาคค่ำ และช่วง สถานการณ์ประจำวัน (ภายหลังเปลี่ยนเป็น ชีพจรข่าว 3 และ ระเบียงข่าว 3 โดยมีลักษณะคล้ายกับรายการเก็บตก และ ข่าวนอกลู่ ในปัจจุบัน) นอกจากนี้ ในช่วงข่าวสั้น ก็ได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อ 3 นาทีทั่วไทย มองโลก ทันเหตุการณ์ และ 180 วินาทีข่าว ซึ่งในระยะแรก มีการตั้งนาฬิกาจับเวลาถอยหลังบนหน้าจอ จาก 180 - 0 วินาทีด้วย (รูปแบบเช่นเดียวกับรายการ 60 Seconds ของช่อง BBC Three ประเทศอังกฤษ) แต่ต่อมาได้ยกเลิกการใช้นาฬิกาไป ซึ่งขณะนั้นเหลือเพียงข่าวสั้นและภายหลังเปลี่ยนเป็น 180 วินาทีข่าว อีกครั้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 เปลี่ยนแปลงการนำเสนอข่าวสั้นใหม่โดยนำเสนอในชื่อว่า แฟลชนิวส์ จำนวน 5 ช่วง ในวันจันทร์ - ศุกร์ และ 7 ช่วง ในวันเสาร์ - อาทิตย์

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2546 บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในนาม บางกอกการละคอน เริ่มร่วมกับฝ่ายข่าวช่อง 3 ผลิตรายการข่าว ในฐานะสนับสนุนเนื้อหาข่าว โดยมีรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ และ โลกยามเช้า ในช่วงใกล้เคียงกัน ฝ่ายข่าวช่อง 3 ได้ผลิตรายการเองเพิ่มคือ เช้าวันใหม่

ครอบครัวข่าว 3แก้ไข

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ฝ่ายข่าวช่อง 3 ร่วมกับ วิบูลย์ ลีรัตนขจร ผู้บริหารบริษัท เซิร์ช เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ผู้ผลิตรายการ 168 ชั่วโมง และประธานกรรมการบริษัท เชิร์ช ไลฟ์ จำกัด ร่วมกันเผยแพร่ตราสินค้าใหม่ของฝ่ายข่าวช่อง 3 ครอบครัวข่าว 3 เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการรวบรวมกลุ่มรายการข่าวของช่อง 3 ทั้งหมดไว้ ภายใต้ตราสินค้าเดียวกัน โดยมีสโลแกนว่า "เข้าใจทุกข่าว เข้าถึงทุกคน"[2] โดยในปีนี้มีรายการข่าวทางช่อง 3 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย เรื่องเด่นเย็นนี้ (ร่วมกับเซิร์ชไลฟ์), ข่าววันใหม่ (ร่วมกับ บางกอกการละคอน), ทันโลกกีฬา และ ผู้หญิงถึงผู้หญิง และปีถัดมามีรายการข่าวเพิ่มอีก ได้แก่ 30 Young แจ๋ว (ต่อมาใช้ชื่อว่า แจ๋ว และ แจ๋วแฟมิลี่ ปัจจุบัน 2 รายการหลังได้ควบรวมกลายเป็นรายการ ผู้หญิงยกกำลังแจ๋ว), โต๊ะข่าวบันเทิง และ สีสันบันเทิง ปี พ.ศ. 2550 มีรายการ ช่วยคิดช่วยทำ (ร่วมกับสาระศิลป์ไทยทัศน์) และ รอบทิศทั่วไทย ส่วนปี พ.ศ. 2551 มีรายการร่วมกับ บริษัท ฮอตนิวส์ จำกัด ของกิตติ สิงหาปัด คือรายการ ข่าว 3 มิติ และ ตรงจุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2550 มีการออกโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์ตราสินค้าครอบครัวข่าว 3 ด้วย[3]

ช่อง 3 นับเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทย ที่นำเทคโนโลยีกำแพงวีดิทัศน์ (Video Wall) ซึ่งเป็นแผงจอโทรทัศน์ ที่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้รายงานข่าวได้ เข้ามาใช้ในการรายงานข่าวภายใต้การดำเนินงานของครอบครัวข่าว 3 โดยเริ่มใช้เป็นครั้งแรกในการรายงานการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 ในช่วงเจาะกีฬากับบิ๊กจ๊ะ ของรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เมื่อ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2551[4] ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 จึงติดตั้งกำแพงวีดิทัศน์จอเล็กในสตูดิโอชั้น 10 ของรายการเรื่องเล่าเช้านี้เพิ่มเติมอีก 1 ชุด[5]

ในช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 มีการออกภาพยนตร์โฆษณา Image Campaign ชุด "ข่าว 3 ไม่ต้องรอ" เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของครอบครัวข่าว 3 ที่ได้แตกขยายเพิ่มเติมออกไปทำรายการข่าวออกอากาศทั้ง 4 ช่องในเครือเดียวกัน โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้มีการนำเพลง "ยามรัก" ของหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ มาประกอบ โดยมีผู้ประกาศข่าวของสถานีร่วมแสดงและร้องเพลง[6]

ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2562 ภายหลังการคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัลของช่อง 3 แฟมิลี่ และช่อง 3 เอสดี กลุ่มบีอีซีเวิลด์ได้ปรับปรุงผังรายการของช่อง 3 แอนะล็อก ซึ่งขณะนั้นออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิทัลทางช่อง 3 เอชดี เพื่อให้เป็นช่องสาระและบันเทิงที่ดีที่สุดของผู้ชมต่อไป โดยในช่วงแรกเริ่มปรับปรุงจากรายการข่าวก่อน เนื่องจากช่อง 3 เล็งเห็นว่ามีผู้ประกาศข่าวจำนวนมาก และเป็นที่รู้จักของผู้ชมในวงกว้าง โดยมี 5 รายการที่ย้ายจากช่อง 3 แฟมิลี่ และช่อง 3 เอสดี มาออกอากาศทางช่อง 3 เอชดี นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงฉากในห้องส่งของรายการข่าวหลักทั้ง 3 รายการ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 9 ของอาคารมาลีนนท์ และเปิดตัวสโลแกนใหม่ของครอบครัวข่าว 3 คือ "ข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้" เพื่อให้เป็นรายการข่าวที่ได้รับความนิยมและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอย่างแท้จริง[7]

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 มีการออกภาพยนตร์โฆษณาอีก 1 ชุด แสดงโดยผู้ประกาศข่าว 5 คน ที่มีเอกลักษณ์และได้รับความนิยมของช่อง 3 เอชดี ที่มีจุดเด่นและบุคลิกในการนำเสนอข่าวที่แตกต่างกัน เป็น "5 พิธีกรข่าว 5 คาแรคเตอร์ 5 การนำเสนอ"[8] โดยเน้นดึงผู้ชมให้กลับมารับชมข่าวของช่อง 3 เอชดี ด้วยวลี "ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ช่อง 3 อยู่กับคุณ" เพื่อเตรียมความพร้อมในการผลักดันรายการข่าวของช่อง 3 เอชดี ให้มีเรตติ้งอันดับที่ 1 ในทุกรายการและทุกช่องทาง และเพื่อเปิดตัวสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวคนสำคัญของช่อง 3 เอชดี ในการกลับมาทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวในช่อง 3 เอชดีอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม หลังจากได้รับการพักโทษ (ในขณะนั้น) จากการถูกจำคุกในคดีไร่ส้ม และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาฝ่ายข่าวให้แก่ผู้อำนวยการช่อง 3 เอชดี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นมา[9] โดยสรยุทธได้ควบคุมการผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง[10][11] และตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ฝ่ายข่าวได้เรียกคืนเวลาของรายการข่าวหลักที่เคยผลิตร่วมกับบริษัทภายนอก มาผลิตเองทั้งหมดภายใต้ตราสินค้า "ครอบครัวข่าว 3" อย่างเต็มรูปแบบ[12] ยกเว้นรายการข่าวสามสี ที่ยังผลิตร่วมกับเซิร์ช ไลฟ์

ตราสัญลักษณ์ของรายการข่าวและฝ่ายข่าวแก้ไข

ในระหว่างออกอากาศ การรายงานข่าวของช่อง 3 จะแสดงกราฟิกที่มุมขวาล่างของจอโทรทัศน์ เป็นตราสัญลักษณ์ของช่อง 3 (ไม่มีอักษรชื่อย่อ อสมท) ถัดไปทางซ้าย มีตัวอักษรสีเหลืองทอง คำว่า ข่าว โดยเมื่อมีการเผยแพร่เว็บไซต์ข่าว www.becnews.com จึงเริ่มแสดงชื่อโดเมนดังกล่าว กำกับอยู่เบื้องล่างของกราฟิกดังกล่าวข้างต้นด้วย ทั้งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ยังคงมีการใช้รูปแบบของกราฟิกดังกล่าวเฉพาะในช่วงข่าวด่วนเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการจัดทำและแสดงกราฟิก สำหรับช่วงข่าวด่วนขึ้นเฉพาะแล้ว จึงมิได้นำมาใช้อีก

ต่อมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ช่อง 3 มีนโยบายเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอข่าวออกเป็นหลายชื่อรายการในแต่ละช่วงเวลา เช่น เที่ยงวันทันเหตุการณ์, 180 วินาทีข่าว เป็นต้น จึงมีการออกแบบตราสัญลักษณ์เป็นของแต่ละรายการเอง ซึ่งนับเป็นช่องโทรทัศน์แห่งแรกที่สร้างเอกลักษณ์ของการนำเสนอกราฟิกบนหน้าจอในรูปแบบที่แตกต่างจากสถานีอื่น ๆ

ผู้ประกาศข่าวและผู้รายงานข่าวแก้ไข

ผู้ประกาศข่าวและผู้รายงานข่าวในปัจจุบันที่มีชื่อเสียงแก้ไข

ผู้ประกาศข่าวและผู้รายงานข่าวในอดีตแก้ไข

อัตลักษณ์ประกอบการนำเสนอแก้ไข

เพลงประกอบรายการข่าวแก้ไข

กราฟิกแก้ไข

กรอบล่ามภาษามือแก้ไข

สืบเนื่องที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 ซึ่งระบุให้จัดบริการต่าง ๆ เพื่อผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส ฝ่ายข่าว ไทยทีวีสีช่อง 3 จึงได้นำเสนอการบรรยายภาษามือในรายการข่าวภาคต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557 โดยเริ่มจากรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์[13] ก่อนจะขยายไปยังรายการข่าวทั้ง 4 ช่องของกลุ่มช่อง 3 โดยปัจจุบัน ช่อง 3 เอชดี นำเสนอกรอบล่ามภาษามือในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ และเรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์ (ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557)[14] โดยเป็นกรอบพื้นหลังสีเทา ขอบสีขาว อยู่ที่บริเวณมุมล่างขวาของจอโทรทัศน์

นาฬิกาแก้ไข

อ้างอิงแก้ไข

  1. 34 ปี ช่อง 3 เก็บถาวร 2012-02-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา เก็บถาวร 2012-02-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  2. "PANTIP.COM : A3841990 ทำไมคุณกระเต็น [วิทยุ-โทรทัศน์]". พันทิป.คอม. 2005-10-29. สืบค้นเมื่อ 2021-04-27.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  3. ภาพยนตร์โฆษณา ครอบครัวข่าว 3 จากเว็บไซต์แอดอินเทรนด์
  4. "ช่อง3 เทียบสำนักข่าวชั้นนำโลก นำเสนอข่าวด้วยจอ VDO WALL". ryt9.com. 2008-09-06. สืบค้นเมื่อ 2021-04-27.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  5. Ltd, BECi Corporation (2009-07-01). "ครอบครัวข่าว โชว์เทคนิคใหม่ ฉลองครบ 5 ปี". ไทยทีวีสีช่อง 3. สืบค้นเมื่อ 2021-04-27.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  6. ข่าว 3 ไม่ต้องรอ (Full HD)
  7. ฝ่ายข่าว ช่อง 3 เอชดี (30 กันยายน 2562). "ข่าวช่อง 3 โฉมใหม่ ข่าวจริง ทันเหตุการณ์ พึ่งพาได้". news.ch3thailand.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-04-30. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  8. "ช่อง 3 เปิดตัว 5 พิธีกรข่าว พร้อมสรยุทธ คัมแบ็ค เริ่ม พ.ค. 64". Mango Zero. 2021-04-19. สืบค้นเมื่อ 2021-09-23.
  9. Sriroengla, Pafun (2021-04-05). ""สรยุทธ" เป็น ที่ปรึกษาด้านข่าว ช่อง 3 แต่งตั้ง มีผล 1 เม.ย. 64". ประชาชาติธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 2021-04-19.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  10. "บันเทิง - 'สรยุทธ'คืนจอ-จัดทัพ'ครอบครัวข่าว3' ประเดิมกองกำลังแรก'5พิธีกรข่าว'สู้ศึก!". ข่าวสด. 2021-04-25. สืบค้นเมื่อ 2021-04-29.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  11. "พฤษภาคมนี้! ข่าวเข้มข้นกับคนคุ้นเคย กลับมาพร้อมขุนพลข่าว เขย่าทัพครอบครัวข่าวให้ล้วงลึก-รอบด้าน-ฉับไว-ขยี้ทุกดราม่า-เข้มข้นในแบบที่คุณคุ้นเคย". เรื่องเล่าเช้านี้. 2021-04-19. สืบค้นเมื่อ 2021-04-29.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  12. ""สรยุทธ" มา "ธีระ" ไป! หลุดผังข่าวช่อง 3 ลุ้น 1 พ.ค.ยังอยู่ในจอหรือไม่". ผู้จัดการออนไลน์. 2021-04-29. สืบค้นเมื่อ 2021-04-29.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  13. "ช่อง 3 มีล่ามแปลล่ามภาษามือรายการข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.05-13.30 น." เฟซบุ๊ก. 2014-06-18. สืบค้นเมื่อ 2021-04-27.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  14. เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ คนร้ายลอบวางระเบิดร้านคาราโอเกะ4จุดกลางเมืองปัตตานี (1พ.ย. 57), 2014-11-01, สืบค้นเมื่อ 2021-04-27

แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข