อำเภอเขื่องใน

อำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

เขื่องใน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกสุดของจังหวัดอุบลราชธานี มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดยโสธร มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในด้านศิลปวัฒนธรรมอีสาน อาทิ ธรรมมาสน์สิงห์เทินบุษบกบ้านชีทวน พระพุทธสถานครองราชย์ 60 ปี วัดป่าดงบ้านตาดโบราณสถานบ้านผักแว่น วัดป่าบึงเขาหลวง วัฒนธรรมโนนใหญ่ (ชาวกุลาดำ) ต้นยางนาใหญ่รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 จังหวัดอุบลราชธานีของบ้านผักแว่น รวมถึงวัฒนธรรมการทำปราสาทผึ้งที่มีเอกลักษณ์และชื่อเสียงที่สืบทอดจนถึงปัจจุบันได้แก่ บ้านโพนทราย บ้านยางขี้นก และบ้านนาคำใหญ่เป็นต้น และอำเภอเขื่องในเป็นจุดกำเนิดของจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับสมญานาม "เมืองนักปราชญ์" ครั้งสมัยพระอริยวงศาจารย ญาณวิมลอุบลสังฆปาโมกข์ พระเถระชาวอำเภอเขื่องใน ที่ได้รับการชื่นชมและศรัทธาในล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 เป็นต้นมา[2]

อำเภอเขื่องใน
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Khuang Nai
คำขวัญ: 
เขื่องในหนองธรรมชาติ ธรรมาสน์สิงห์งามเด่น สุขสงบเย็นบึงเขาหลวง เลอสรวงลำน้ำชี ไหมมัดหมี่ภูมิปัญญา ปวงประชาพาใฝ่ธรรม งามล้ำพระใหญ่ พุทธสถานศูนย์รวมใจเทิดไท้องราชันย์
หรือ
มะพร้าวเผารสดี
ฝั่งชีงามล้ำ หัตถกรรมหมอนขิต กระชับมิตรไก่ย่าง น้องนางข้าวหอมมะลิ วิเวกวัดป่าบึงเขาหลวง ประทับทรวงรำมองเซิง[1]
แผนที่จังหวัดอุบลราชธานี เน้นอำเภอเขื่องใน
แผนที่จังหวัดอุบลราชธานี เน้นอำเภอเขื่องใน
พิกัด: 15°23′24″N 104°33′6″E / 15.39000°N 104.55167°E / 15.39000; 104.55167
ประเทศ ไทย
จังหวัดอุบลราชธานี
พื้นที่
 • ทั้งหมด772.8 ตร.กม. (298.4 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2564)
 • ทั้งหมด107,090 คน
 • ความหนาแน่น138.57 คน/ตร.กม. (358.9 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 34150, 34320 (เฉพาะตำบลกลางใหญ่ โนนรัง บ้านไทย และบ้านกอก)
รหัสภูมิศาสตร์3404
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอเขื่องใน ถนนแจ้งสนิท ตำบลเขื่องใน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี 34150
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

ประวัติแก้ไข

   อำเภอเขื่องใน ปรากฏชื่อในฐานะเป็นอำเภอครั้งแรก เมื่อปีพุทธศักราช 2445 ในชื่อ อำเภอปจิมูปลนิคม โดยมีพระนิโลศบลพยุรักษ์เป็นผู้รักษาการแทนนายอำเภอ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามบัญญัติที่กำหนดไว้ในมาตรา 33 ของพระราชบัญญัติลักษณกรปกครองส่วนท้องที่รัตนโกสินทรศก 116  ความจริงแล้วประกาศใช้เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2440 ทางราชการจึงแบ่งการปกครองของเมืองเหล่านั้นออกเป็นหลายอำเภอเช่น อำเภอเขมราฐ แบ่งเป็น 2อำเภอเมืองยโสธรแบ่งออกเป็น2อำเภอเป็นต้น สำหรับเมืองอุบลราชธานีซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ เทียบได้กับหัวเมืองชั้นเอกขึ้นตรงกับกรุงเทพมหานครและเป็นที่ตั้งศาลาว่าการมณฑลอีสาน มีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 4 อำเภอ คือ 1.อำเภอบุพูปลนิคม มีพระวิณโกเมศ(เจียง) รักษาการแทนนายอำเภอ 2.อำเภอทักษิณูปลนิคม มีพระอุบลประชานิตย์(บุญชู) รักษาการนายอำเภอ 2.อำเภอปจิมูปลนิคม (อำเภอเขื่องใน) มีพระนิโลศบลพยุรักษ์ (ทุย) รักษาการนายอำเภอ 4.อำเภออุตรูปลนิคม มีท้าวอักษรสุวรรณ (หนู) รักษาการนายอำเภอ

อำเภอปจิมูปลนิคมหรือ อำเภอปจิมอุบล ดำรงฐานะเป็นอำเภอในชื่อดังกล่าวเป็นระยะเวลา 11ปี เมื่อปีพ.ศ. 2456 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนชื่ออำเภอในมณฑลอุบลราชธานีจำนวน 6อำเภอ ซึ่งอำเภอปจิมูปลนิคม ก็เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอตระการพืชผลเมื่อวันที่ 25กันยายน 2456 (ราชกิจจานุเบกษาเล่ม 30 /12ตุลาคม 2556 /1536)

  อำเภอตระการพืชผล(2456-2460) มีการแบ่งเขตการปกครองแบ่งออกเป็น 19 ตำบลดังนี้

1.ตำบลหนองบ่อ 2.ตำบลชีทวน 3.ตำบลหัวดอน 4.ตำบลท่าไห 5.ตำบลโนนใหญ่ 6.ตำบลก่อเอ้ 7.ตำบลเขื่องใน 8.ตำบลสร้างถ่อ 9.ตำบลยางขี้นก 10.ตำบลสีสุก(สะกดตามต้นฉบับในประกาศอำเภอ ภายหลังเปลี่ยนเป็นตำบลศรีสุข) 11.ตำบลโนนผึ้ง 12.ตำบลบ้านไทย 13.ตำบลค้อทอง 14.ตำบลหนองแวง 15.ตำบลหนองแก้ว 16.ตำบลละทาย 17.ตำบลทาม 18.ตำบลเมืองน้อย 19.ตำบลนาคำใหญ่ (กระทรวงมหาดไทย,2456:160) เมื่อวันที่24 เมษายน 2460 ได้เปลี่ยนชื่ออำเภอใหม่เป็นอำเภอเขื่องใน ตามนามตำบล ที่ตั้งที่ว่าการอำเภอคือตำบลเขื่องใน ดังปรากฏจนถึงปัจจุบัน หลังจากเปลี่ยนชื่ออำเภอแล้วมีการยุบ แยก โอนตำบลขึ้นกับต่างอำเภอดังนี้ 1.พ.ศ. 2472 กระทรวงมหาดไทยโอนตำบลละทาย และตำบลเมืองน้อยไปขึ้นกับอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดขุขันธ์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2472(ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 46,19พฤษภาคม 2472:415) 2.พ.ศ. 2482 กระทรวงมหาดไทยโอนตำบลธาตุน้อย(ยกเว้นหมู่บ้านที่ 2/3/11และ12) อำเภอมหาชนะชัย มาขึ้นกับอำเภอเขื่องใน เมื่อ 1 กรกฎาคม 2484(ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56,10กรกฎาคม 2482:1056-1057) 3.พ.ศ. 2484 กระทรวงมหาดไทยโอนตำบลหนองบ่อ(ยกเว้นหมู่ที่7และ17)ไปขึ้นกับอำเภอเมืองอุบลราชธานีส่นหมู่ 7และ17 โอนขึ้นเป็นตำบลชีทวนเมื่อวันที่15 กันยายม 2484 (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56,23กันยายน2484:1406-1407) 4.เมื่อปีพุทธศักราชกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการ -ยุบตำบลสร้างถ่อรวมกับตำบลเขื่องในยกเว้นหมู่บ้านที่14และ15รวมกับตำบลค้อทอง -ยุบตำบลธาตุน้อยรวมกับตำบลนาคำใหญ่ -ยุบตำบลยางขี้นกรวมกับตำบลบ้านไทย เว้นแต่หมู่ที่1,9และ13 ให้ไรวมกับตำบลเขื่องใน หมู่ที่11ให้ไปรวมกับตำบลศรีสุข -ยุบตำบลหัวดอนรวมกับตำบลก่อเอ้ เว้นหมู่ที่ 1,3,9,10ให้ไปรวมกับตำบลโนนใหญ่ -ยุบตำบลชีทวนให้รวมกับตำบลโนนใหญ่ -โอนหมู่บ้านที่4 ตำบลโนนใหญ่ไปรวมกับตำบลเขื่องในเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2486 (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 60,30มีนาคม 2486:1193) จนถึงเมื่อปีพุทธศักราช 2497 ตำบลที่ยุบไปแล้วก็ขึเนเป็นตำบลอีกครั้ง และแบ่งออกเป็น 13ตำบลตามปัจจุบันนี้


อำเภอเขื่องใน ถูกตั้งตาม “บ้านเขื่องใน” ซึ่งจำเดิมชื่อ “เขี่ยงใน” เพราะภาษาอีสานโบราณไม่มีสระเอือ (เ-อื) เมื่อมีการเรียนภาษาไทยจึงกลายมาเป็น “เขื่องใน” หมู่บ้านเขี่ยงใน ตั้งชื่อตามชื่อหนองน้ำชื่อ “หนองเขี่ยง ” ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำลึกประมาณ 1 –2 เมตร ในหน้าฝน คล้าย “เขี่ยงปลา” หรือที่ปลาเตรียมวางไข่ในน้ำในฤดูฝน ชาวบ้านเรียก “เขี่ยงปลา” เป็นกลุ่มหมู่บ้านซึ่งประกอบด้วยบ้านเขื่องใน บ้านเขื่องกลาง บ้านสว่าง และบ้านหนองใส ส่วนบ้านกวางคำ หรือบ้านโนนธาตุ เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ตั้งมาพร้อมกับบ้านเขื่องใน

อำเภอเขื่องใน ได้รับการจัดตั้งให้เป็นอำเภอตาม พ.ร.บ.ลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2440 โดยตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ทรงให้แบ่งบริเวณอุบลราชธานี ออกเป็น 3 เมือง คือ เมืองอุบลราชธานี เมืองเขมราษฎร์ธานี และเมืองยศสุนทร ในพื้นที่เมืองอุบลราชธานี มี 11 อำเภอ หนึ่งในนั้นคือ “อำเภอปจิมูปลนิคม” เป็นชื่อพระราชทานมาจากกรุงเทพฯ ต่อมาปี พ.ศ. 2456 ได้เปลี่ยนเป็นชื่ออำเภอตระการพืชผล จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2460 มีการเปลี่ยนชื่ออำเภอใหม่อีกครั้งหนึ่งเป็นอำเภอเขื่องในจนมาถึงปัจจุบัน[3]

ภูมิศาสตร์แก้ไข

อำเภอเขื่องในตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้

การแบ่งเขตการปกครองแก้ไข

การปกครองส่วนภูมิภาคแก้ไข

อำเภอเขื่องในแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 18 ตำบล 183 หมู่บ้าน ได้แก่

1. เขื่องใน (Khueang Nai) 14 หมู่บ้าน 10. ธาตุน้อย (That Noi) 10 หมู่บ้าน
2. สร้างถ่อ (Sang Tho) 16 หมู่บ้าน 11. บ้านไทย (Ban Thai) 12 หมู่บ้าน
3. ค้อทอง (Kho Thong) 11 หมู่บ้าน 12. บ้านกอก (Ban Kok) 6 หมู่บ้าน
4. ก่อเอ้ (Ko Ae) 12 หมู่บ้าน 13. กลางใหญ่ (Klang Yai) 11 หมู่บ้าน
5. หัวดอน (Hua Don) 11 หมู่บ้าน 14. โนนรัง (Non Rang) 7 หมู่บ้าน
6. ชีทวน (Chi Thuan) 11 หมู่บ้าน 15. ยางขี้นก (Yang Khi Nok) 10 หมู่บ้าน
7. ท่าไห (Tha Hai) 13 หมู่บ้าน 16. ศรีสุข (Si Suk) 8 หมู่บ้าน
8. นาคำใหญ่ (Na Kham Yai) 8 หมู่บ้าน 17. สหธาตุ (Saha-that) 7 หมู่บ้าน
9. แดงหม้อ (Daeng Mo) 6 หมู่บ้าน 18. หนองเหล่า (Nong Lao) 10 หมู่บ้าน

การปกครองส่วนท้องถิ่นแก้ไข

ท้องที่อำเภอเขื่องในประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 19 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลตำบลเขื่องใน ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลเขื่องใน
  • เทศบาลตำบลบ้านกอก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านกอกทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลห้วยเรือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเขื่องใน (เขตองค์การบริหารส่วนตำบลเขื่องในเดิม)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลสร้างถ่อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสร้างถ่อทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลค้อทอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลค้อทองทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลก่อเอ้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลก่อเอ้ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหัวดอน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวดอนทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลชีทวน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลชีทวนทั้งตำบล โดยมีทั้งสิ้น 11 หมู่บ้านได้แก่
    • หมู่ 1, 2, 3 ชุมชนชีทวน
    • หมู่ 4, 5 ชุมชนท่าศาลา
    • หมู่ 6 ชุมชนหวาง
    • หมู่ 7 ชุมชนหนองแคน
    • หมู่ 8 ชุมชนหนองฮี
    • หมู่ 9 ชุมชนมะพริก
    • หมู่ 10 ชุมชนหนองดูน
    • หมู่ 11 ชุมชนหนองโน
  • องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าไหทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลนาคำใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาคำใหญ่ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลแดงหม้อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแดงหม้อทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลธาตุน้อย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลธาตุน้อยทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไทย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านไทยทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลกลางใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกลางใหญ่ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลโนนรัง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโนนรังทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลยางขี้นก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลยางขี้นกทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุข ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีสุขทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลสหธาตุ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสหธาตุทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหล่า ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองเหล่าทั้งตำบล

สถานศึกษาแก้ไข

โรงเรียนมัธยม สพฐ.แก้ไข

มหาวิทยาลัยแก้ไข

บุคคลที่มีชื่อเสียงแก้ไข

ศูนย์ศิลปาชีพอุบลราชธานีแก้ไข

โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านยางน้อย ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ภายในมีศูนย์แสดงนิทรรศการผ้าพื้นเมืองอีสานที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และขั้นตอนการทอผ้าตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน และศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนและจากสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพจากทั่วประเทศ เช่น ผ้ากาบบัว เครื่องปั้นดินเผา เครื่องทองเหลือง และข้าวเบญจกระยาทิพย์ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ในการส่งเสริมศิลปาชีพให้กับราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและใกล้เคียง เป็นแหล่งศึกษาพันธุ์ไม้ ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เมื่อปี พ.ศ. 2538สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ประสิทธิ์ เขมังกโร ป.ธ.๓) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็น พระเทพประสิทธิ์มนต์ เจ้าอาวาสวัดธัมมาราม นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีชาติภูมิอยู่ที่บ้านยางน้อย ได้มีแนวดำริที่จะทำการพัฒนาบ้านยางน้อยและหมู่บ้านใกล้เคียงให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เนื่องจากประชาชนในพื้นที่มีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ไม่มีอาชีพและรายได้เสริมใด ๆ อาชีพหลักคือการทำนา เมื่อเสร็จจากการทำนาหรือเก็บเกี่ยวข้าวข้าวแล้วราษฎรวัยหนุ่มสาวจะทิ้งถิ่นฐานไปขายแรงงานตามเมืองใหญ่ ๆ หรือในเมืองหลวง จะเหลือเพียงเด็กและคนชราเท่านั้นที่อยู่ตามหมู่บ้าน เพื่อป้องกันการอพยพทิ้งถิ่นฐานเข้าสู่สังคมเมือง และเป็นการสร้างสถาบันครอบครัวชนบทให้มีความอบอุ่นสมบูรณ์อย่างที่เป็นมาในอดีต พระเทพประสิทธิมนต์ จึงพิจารณาหาแนวทางการพัฒนาอาชีพให้กับราษฎร โดยประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ และกองทัพภาคที่ 2 โดย พล.ต.เรวัติ บุญทับ (พล.อ.ณพล บุญทับ) รองแม่ทับภาคที่ 2 เข้ามาร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น โดยการจัดเตรียมงานเพื่อดำเนินการจัดตั้งโครงการส่งเสริมศิลปาชีพขึ้นที่ บ้านยางน้อย ซึ่งใช้เวลาจัดเตรียมงานประมาณ 1 ปี วันที่ 22 พฤศจิกายน 2539 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชเสาวนีย์ ให้พิจารณาจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพเพื่อช่วยเหลือราษฎร ทั้งด้านการเกษตรและพัฒนาอาชีพ และทรงเสด็จพระราชดำเนินที่บ้านยางน้อย และบริเวณที่ดินสาธารณะบ้านยางน้อย ทรงรับราษฎรเข้าเป็นสมาชิกในโครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านยางน้อย ในกลุ่มทอผ้าไหม และกลุ่มดอกไม้ประดิษฐ์ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2544 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านยางน้อย เป็นการเสด็จพระราชดำเนินที่แห่งนี้ครั้งที่ 2 วันที่ 27 ธันวาคม 2548 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านยางน้อย เป็นการเสด็จพระราชดำเนินที่แห่งนี้ครั้งที่ 3ปัจจุบันศูนย์ศิลปาชีพบ้านยางน้อย มีพื้นที่ดำเนินการทั้งสิ้น 424 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ดำเนินการโครงการส่งเสริมศิลปาชีพฯ บ้านยางน้อย 214 ไร่ และโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านยางน้อย 210 ไร่

พุทธมณฑลอุบลราชธานีแก้ไข

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ ประธานมูลนิธิพุทธมณฑลอุบลราชธานี เป็นประธานนำประกอบพิธียกเสาเอกอาคารปฏิบัติธรรมมุฑิตศาลา ณ พุทธมณฑอุบลราชธานี ในพื้นที่โครงการก่อสร้างพุทธมณฑลอุบลราชธานี ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานีโดยโครงการจัดสร้างพุทธมณฑลอุบลราชธานี มูลนิธิพุทธมณฑลอุบลราชธานี คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีร่วมจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา ซึ่งได้รับความเมตตาจากเจ้าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชามอบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธี วางศิลาฤกษ์พุทธมณฑลอุบลราชธานี เมื่อวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ในการจัดสร้างพุทธมณฑลอุบลราชธานี ประกอบด้วย ถนนรอบพุทธมณฑล จัดสร้างอาคารอเนกประสงค์ และปรับภูมิทัศน์ ให้เกิดความร่มรื่นและสวยงาม สำหรับการก่อสร้าง อาคารปฏิบัติธรรมมุฑิตศาลาในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นสถานที่รองรับการจัดกิจกรรม ต่างๆ เช่น กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสต่างๆ การจัดปฏิบัติธรรม และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่สืบไป[4]

อ้างอิงแก้ไข

  1. อ้างอิงจากงาน ๑๐๑ ปี อำเภอเขื่องใน
  2. http://www.ubonpra.com/board/index.php?topic=132.0;wap2
  3. http://www.knpschool.ac[ลิงก์เสีย]. th/2010/tam/amper.htm
  4. https://thainews.prd.go.th/th/news/print_news/TCATG201214161231269