สำนักพิมพ์บรรลือสาส์น

สำนักพิมพ์ที่มีบทบาทในด้านการจัดพิมพ์หนังสือการ์ตูนไทย

สำนักพิมพ์บรรลือสาส์น เป็นสำนักพิมพ์ที่มีบทบาทในด้านการ์ตูนไทย จากการจัดพิมพ์นิยายชุดและหนังสือการ์ตูนยอดนิยมหลายชุดทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น หัสนิยายชุด พล นิกร กิมหงวน ขายหัวเราะ มหาสนุก ปังปอนด์ หนูหิ่นอินเตอร์ เป็นต้น และเป็นผู้บุกเบิกการทำภาพยนตร์แอนิเมชั่น 3 มิติ เป็นรายแรกของประเทศไทย

สำนักพิมพ์บรรลือสาส์น
ประเภทบริษัทจำกัด
อุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์
ก่อตั้งพ.ศ. 2498
สำนักงานใหญ่
บุคลากรหลัก
บันลือ อุตสาหจิต
วิธิต อุตสาหจิต
ผลิตภัณฑ์สื่อสิ่งพิมพ์
เจ้าของบันลือ อุตสาหจิต
บริษัทในเครือบันลือ พับลิเคชั่นส์
บรรลือสาส์น
บันลือบุ๊คส์
วิธิตา แอนิเมชั่น
มาโชบิส
เว็บไซต์http://www.banluegroup.com/
http://www.vithita.com/

ประวัติ แก้

สำนักพิมพ์บรรลือสาส์นก่อตั้งโดยบันลือ อุตสาหจิต เมื่อปี พ.ศ. 2498 ที่ถนนนครสวรรค์ ใกล้สะพานผ่านฟ้าลีลาศ จังหวัดพระนคร ในระยะแรกสำนักพิมพ์ได้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายนวนิยายของทมยันตี,แก้วเก้า หนังสือเพลงลูกทุ่งและเพลงลูกกรุง และหนังสือการ์ตูนชุดต่างๆ เช่น สิงห์เชิ้ตดำ, หนูป้อม - ลุงเป๋อ, หนูจ๋า, เบบี้, หัสนิยายชุด พล นิกร กิมหงวน และอื่นๆ โดยทางสำนักพิมพ์ได้ทาบทามให้ เสถียร หาญคุณตุละ เจ้าของนามปากกา "จิงโจ้" มาเป็นนักเขียนภาพประกอบและนักเขียนการ์ตูนรายแรกของสำนักพิมพ์ หลังจากนั้นจึงมีนักเขีบนคนอื่นๆ ได้แก่ เศก ดุสิต, จำนูญ เล็กสมทิศ (จุ๋มจิ๋ม), วัฒนา เพชรสุวรรณ (วัฒนา, อาวัฒน์, ตาโต) เข้ามาร่วมงานด้วยกัน ส่วนด้านการตลาดนั้น บันลือ อุตสาหจิตได้ลงทุนเป็นผู้บุกเบิกการตลาดด้วยตัวเอง เดินทางสำรวจและเยี่ยมเยียนลูกค้าตามจังหวัดต่างๆ ทำให้สำนักพิมพ์จึงประสบความสำเร็จ ทั้งด้านคุณภาพการจัดทำและการจัดจำหน่ายในระยะเวลาไม่นานนัก

ในปี พ.ศ. 2516 วิธิต อุตสาหจิต บุตรชายคนโตของบันลือ (ขณะนั้นอายุได้ 18 ปี) ในฐานะบรรณาธิการ ได้ให้กำเนิดนิตยสารการ์ตูนชื่อ "ขายหัวเราะ" ซึ่งเป็นหนังสือการ์ตูนตลกรูปแบบการ์ตูนแก๊กแบบ 3 ช่องจบ โดยรวบรวมผลงานจากนักเขียนการ์ตูนหลายคนไว้ในเล่มเดียว นิตยสารดังกล่าวได้รับความนิยมจากผู้อ่านเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ในปี พ.ศ. 2518 วิธิตจึงได้ออกนิตยสารการ์ตูนอีกเล่มหนึ่งชื่อ "มหาสนุก" ซึ่งมีรูปแบบเนื้อหาที่คล้ายกันกับขายหัวเราะ แต่ได้มีการเพิ่มการ์ตูนเรื่องสั้นไว้ในนิตยสารฉบับนี้ด้วย นิตยสารทั้งสองเล่มได้กลายเป็นแหล่งสร้างสรรค์นักเขียนการ์ตูนรุ่นใหม่ เช่น นิพนธ์ เสงี่ยมศักดิ์ (นิค), ภักดี แสนทวีสุข (ต่าย), ผดุง ไกรศรี (เอ๊าะ) ฯลฯ และการ์ตูนยอดนิยมชุดต่างๆ เช่น ปังปอนด์, สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่, หนูหิ่นอินเตอร์ ที่ตีพิมพ์จัดจำหน่ายต่อมาอีกนานหลายปี

ในช่วงปี พ.ศ.2545 ทางบรรลือสาสน์ได้เปิดแผนก Vithita Animation และได้ริเริ่มนำผลงานการ์ตูนยอดนิยมในนิตยสารมหาสนุก เช่น ปังปอนด์ มาสร้างในแบบการ์ตูนอนิเมชั่น 3 มิติ[1]เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดสร้างความนิยมด้วยการนำผลงานในเครือของตนสู่สื่อในรูปแบบอื่นๆในอีกหลายปีต่อมา

ช่วงปี 2554 ทางบันลือกรุ๊ป ได้ลงทุนงบกว่า 10 ล้านบาทสำหรับการจัดทำขายหัวเราะในรูปแบบอีแม็กกาซีน โดยเวอร์ชันทดลองแรกเริ่ม มียอดดาวน์โหลดกว่า 2 หมื่นครั้ง ภายในช่วงระยะเวลา 4 วัน[2]

ในปี พ.ศ. 2565 เพราะปัญหาเศรษฐกิจทางบรรลือสาสน์ได้ยกเลิกการวางจำหน่ายนิตยสารรายประจำในเครือทั้งหมดไปอย่างเงียบๆ[3]และปรับรูปแบบไปเป็น E-book ให้ดาวน์โหลด และ หนังสือแบบเฉพาะกิจให้พรีออเดอร์ตามแพล็ตฟอรม์ออนไลน์ต่างๆแทน[4]

ปี 2566 บรรลือสาสน์ได้ทำการ Reprint นิตยสารการ์ตูนฉบับ ปฐมฤกษ์ ในเครือ เช่น ขายหัวเราะเล่มใหญ่ ฉบับที่ 1 ,ขายหัวเราะฉบับกระเป๋า เล่ม1 ,นิตยสาร มหาสนุก เล่ม 1,สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่,ไอ้ตัวเล็ก,หนูหิ่นอินเตอร์ ฉบับแรก มาขายรวมกันในชื่อชุด เล่ม1 ฮ่าสิบปีRemastered Collection วางจำหน่ายในงานสัปดาห์หนังสือและ ช่องทางออนไลน์ ในจำนวนจำกัด 555ชุด [5]

ปัจจุบันสำนักพิมพ์บรรลือสาส์นใช้ชื่อว่า "บริษัท บันลือ พับลิเคชั่นส์ จำกัด" ในเครือบรรลือกรุ๊ป มีที่ตั้งปัจจุบันอยู่ที่ 955 ซอยสุทธิพร ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร[6]

บริษัทในเครือบันลือกรุ๊ป แก้

  • บริษัท บันลือ พับลิเคชันส์ จำกัด (มหาชน) - ผลิตผลงานต่างๆ ออกสู่ตลาดหนังสือทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • บริษัท บรรลือสาส์น จำกัด - ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2533 ดูแลการจัดจำหน่ายหนังสือแก่ลูกค้าทั่วประเทศ
  • บริษัท บันลือบุ๊คส์ จำกัด - ผู้แทนจำหน่ายหนังสือในเครือบันลือกรุ๊ป
  • บริษัท วิธิตา จำกัด - ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2544 เป็นบริษัทผลิตงานแอนิเมชั่น ภาพยนตร์ดิจิตอล และโมบายล์คอนเทนต์
  • บริษัท มาโชบิส จำกัด - ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2544 ดูแลด้านธุรกิจลิขสิทธิ์ และบริหารงานทางด้านการตลาดทั้งหมดของบริษัทในเครือ

นักเขียนการ์ตูนในสังกัด แก้

หนังสือการ์ตูน แก้

หนังสือรายสัปดาห์ แก้

หนังสือรายเดือน แก้

หนังสือ 4 สี แก้

สมุดภาพ แก้

ดูเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  1. บ้านการ์ตูนไทย
  2. "บันลือกรุ๊ป" ทุ่มลงทุน 10 ล้าน จับขายหัวเราะทำอีแมกกาซีน. กรุงเทพธุรกิจ. ปีที่ 24 ฉบับที่ 8378. วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2554. ISSN 1685537X. หน้า 8
  3. หนังสือขายหัวเราะ หายไปไหน?
  4. หน้าของขายหัวเราะใน Meb
  5. store minimore
  6. yellowpages