ฤดูหนาวในประเทศไทย พ.ศ. 2561–2562
ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมชั้นบนระดับล่าง ได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกหรือตะวันออกเฉียงเหนือ และลมชั้นบนระดับบนได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันตก รวมถึงเกณฑ์ของอุณหภูมิและปริมาณฝนในตอนบนของประเทศได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง[1]
ฤดูหนาวทางดาราศาสตร์ | 21 ธันวาคม – 20 มีนาคม |
---|---|
ฤดูหนาวทางอุตุนิยมวิทยา | 27 ตุลาคม – 21 กุมภาพันธ์ |
สำหรับฤดูหนาวทางดาราศาสตร์ เป็นฤดูกาลทางดาราศาสตร์ เมื่อตำแหน่งของวงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ เคลื่อนเข้าสู่จุดอายัน (จุดหยุด กล่าวคือจุดที่ดวงอาทิตย์โคจรไปถึงใต้สุดหรือเหนือสุด) และจุดวิษุวัต (กลางคืนและกลางวันมีเวลาเท่ากัน)[2][3] สำหรับปีนี้ ฤดูหนาวทางดาราศาสตร์เริ่มต้นในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561 (วันอายันเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561) และไปสิ้นสุดในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562 (วันวิษุวัตเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562)[2]
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศการเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้ฤดูหนาว พ.ศ. 2561–2562 สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ[4]
ภูมิหลัง แก้
ฤดูของประเทศไทยแบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน (กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม), ฤดูฝน (กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม) และฤดูหนาว (กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์) ซึ่งฤดูหนาวเริ่มขึ้นเมื่อมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดเข้าปกคลุมประเทศไทย โดยเริ่มต้นอากาศจะแปรปรวน ไม่แน่นอน อาจมีอากาศเย็น หรือฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะภาคกลางตอนล่าง[5]
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีแหล่งกำเนิดจะบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกเหนือแถบประเทศมองโกเลียและจีน ซึ่งจะพัดพาเอามวลอากาศเย็นและแห้งเข้ามาในประเทศไทย ทำให้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศจะหนาวเย็นและแห้งโดยทั่วไปในประเทศไทยตอนบน แต่จะทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกเนื่องจากนำเอาความชื้นจากอ่าวไทยเข้าไปในพื้นที่[6]
ในภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ อุณหภูมิจะแตกต่างกันมากในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ซึ่งในฤดูหนาวอุณหภูมิต่ำสุดในตอนเช้าจะอยู่เกณฑ์หนาวถึงหนาวจัดในเดือนธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งอุณหภูมิอาจลดลงได้จนต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาหรือยอดเขาสูงของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลมพื้นผิวโดยมากเป็นลมฝ่ายเหนือและลมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนความชื้นสัมพัทธ์จะลดลงอย่างชัดเจน[6]
อุณหภูมิต่ำที่สุดในประเทศไทยที่เคยวัดได้ในระหว่างปี พ.ศ. 2494 ถึง พ.ศ. 2558 คือ -1.4 องศาเซลเซียส ที่สถานีอากาศเกษตร (สกษ.) สกลนคร จังหวัดสกลนคร ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2517[6]
ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดของภาคอื่น ๆ มีดังนี้
- ภาคเหนือวัดได้ 0.8 องศาเซลเซียส ที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2542
- ภาคกลางวัดได้ 5.2 องศาเซลเซียส ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2536
- ภาคตะวันออกวัดได้ 7.6 องศาเซลเซียส ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2506
- ภาคใต้ฝั่งตะวันออกวัดได้ 6.4 องศาเซลเซียส ที่สถานีอากาศเกษตรหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2542
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตกวัดได้ 13.7 องศาเซลเซียส ที่อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2499
ส่วนกรุงเทพมหานครวัดได้ 9.9 องศาเซลเซียส ที่สถานีตรวจอากาศเฉลิมพระเกียรติ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2498[6][7][8]
การพยากรณ์ฤดูกาล แก้
ประเภทอากาศหนาว | |
---|---|
อุณหภูมิ | ความหมาย |
18.0–22.9 | อากาศเย็น |
16.0–17.9 | อากาศค่อนข้างหนาว |
8.0–15.9 | อากาศหนาว |
≤7.9 | อากาศหนาวจัด |
ประเภทอากาศร้อน | |
อุณหภูมิ | ความหมาย |
35.0–39.9 | อากาศร้อน |
≥40.0 | อากาศร้อนจัด |
วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ การคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2561–2562 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายว่า อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าปกติ 0.1 ถึง 1.1°ซ (ที่ประมาณ 20–21°ซ) ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ตอนบนของภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 6–7°ซ ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะอยู่ที่ 15–16°ซ โดยช่วงที่หนาวเย็นที่สุดจะอยู่ในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 ถึงช่วงปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 สำหรับภาคใต้ตอนบนอาจมีอากาศเย็นบางวัน และจะมีฝนตกชุกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป[9]
ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป บางแห่งมีอากาศหนาวได้ในบางวัน มีหมอกในตอนเช้า และยังจะมีฝนฟ้าคะนองอยู่เล็กน้อย ต่อมาในเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนมกราคม จะมีอากาศหนาวเย็นทั่วไป มีอากาศหนาวจัดได้บางแห่งแถบจังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดน่าน จังหวัดเลย จังหวัดสกลนครและจังหวัดนครพนม บางพื้นที่อาจมีหมอกหนา และบนยอดเขาสามารถเกิดน้ำค้างแข็งได้[9] ซึ่งต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะอุ่นขึ้นและเริ่มมีอากาศร้อน[9]
ในภาคกลางและภาคตะวันออก ปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน หลายพื้นที่ในตอนบนของภาคจะมีอากาศเย็น มีหมอกในตอนเช้า รวมถึงยังมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยอยู่ ต่อมาในเดือนธันวาคมถึงมกราคม อากาศจะเย็นเกือบทั่วไป มีอากาศหนาวได้ในบางพื้นที่ในตอนบนของภาคและตามภูเขา โดยในเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะอุ่นขึ้น หลายพื้นที่มีอากาศร้อน แต่ตอนบนจะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าอยู่[9] ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นบางแห่งบางวัน และมีฝนได้ถึงร้อยละ 30 เดือนธันวาคมถึงมกราคม อากาศจะเย็นในหลายพื้นที่ มีอากาศหนาวได้บางแห่งบางวัน ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะแปรปรวน อุณหภูมิอุ่นขึ้น อาจมีอากาศเย็นตอนเช้าในบางวัน ในตอนกลางวันอากาศร้อน[9]
ส่วนภาคใต้ จะมีฝนชุกหนาแน่น อาจมีฝนได้ถึงร้อยละ 80 ในภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป และร้อยละ 60 สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยตั้งแต่ช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม ภาคใต้ฝั่งตะวันออกฝนจะลดลง ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกฝนจะลดลงในช่วงเดือนธันวาคม[9] โดยในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม มักมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ และทวีกำลังขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน และเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ หรือเคลื่อนลงสู่อ่าวไทย ซึ่งอาจทำให้มีฝนตกเป็นบริเวณกว้างได้[9]
ภาค | พฤศจิกายน 2561 | ธันวาคม 2561 | มกราคม 2562 | กุมภาพันธ์ 2562 | ||
---|---|---|---|---|---|---|
ครึ่งแรก | ครึ่งหลัง | |||||
ภาคเหนือ | ตอนบน | 18–20°ซ | 14–16°ซ | 14–16°ซ | 15–17°ซ | 17–19°ซ |
ตอนล่าง | 20–22°ซ | 16–18°ซ | 16-18°ซ | 17–19°ซ | 19–21°ซ | |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | ตอนบน | 19–21°ซ | 16–18°ซ | 16–18°ซ | 16–18°ซ | 18-20°ซ |
ตอนล่าง | 21–23°ซ | 18–20°ซ | 18–20°ซ | 18–20°ซ | 20–22°ซ | |
ภาคกลาง | 22–24°ซ | 20–22°ซ | 20–22°ซ | 22–24°ซ | 23–25°ซ | |
ภาคตะวันออก | 23–25°ซ | 21–23°ซ | 21–23°ซ | 22–24°ซ | 23–25°ซ | |
ภาคใต้ | ฝั่งตะวันออก | 23–25°ซ | 22–24°ซ | 21–23°ซ | 22–24°ซ | |
ฝั่งตะวันตก | 23–25°ซ | 22–24°ซ | 22–24°ซ | 22–24°ซ | ||
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล | 23–25°ซ | 21–23°ซ | 21–23°ซ | 23–25°ซ | 24–26°ซ |
ภาคและจังหวัด | อุณหภูมิต่ำสุดคาดหมาย | อุณหภูมิต่ำสุดฤดูกาลก่อน | |||
---|---|---|---|---|---|
ธันวาคม 2561 | มกราคม 2562 | ธันวาคม 2560 | มกราคม 2561 | ||
ภาคเหนือ | เชียงราย | 6–8°ซ | 7–9°ซ | 6.0°ซ | 9.7°ซ |
เชียงใหม่ | 9–11°ซ | 10–12°ซ | 9.6°ซ | 12.5°ซ | |
พิษณุโลก | 12–14°ซ | 15–17°ซ | 12.5°ซ | 16.6°ซ | |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | เลย | 6–8°ซ | 7–9°ซ | 6.7°ซ | 12.0°ซ |
นครพนม | 6–8°ซ | 7–9°ซ | 6.0°ซ | 9.6°ซ | |
นครราชสีมา | 12–14°ซ | 13–15°ซ | 12.8°ซ | 14.9°ซ | |
อุบลราชธานี | 12–14°ซ | 13–15°ซ | 12.2°ซ | 14.1°ซ | |
ภาคกลาง | นครสวรรค์ | 12–14°ซ | 14–16°ซ | 11.5°ซ | 15.9°ซ |
สุพรรณบุรี | 14–16°ซ | 15–17°ซ | 14.4°ซ | 16.4°ซ | |
กาญจนบุรี | 13–15°ซ | 15–17°ซ | 13.9°ซ | 16.9°ซ | |
กรุงเทพมหานคร | 15–17°ซ | 15–17°ซ | 14.8°ซ | 18.0°ซ | |
ภาคตะวันออก | สระแก้ว | 12–14°ซ | 14–16°ซ | 12.9°ซ | 15.6°ซ |
ชลบุรี | 15–17°ซ | 15–17°ซ | 15.9°ซ | 18.5°ซ | |
ภาคใต้ | ประจวบคีรีขันธ์ | 17–19°ซ | 18–20°ซ | 17.8°ซ | 19.0°ซ |
ภูเก็ต | 20–22°ซ | 19–21°ซ | 20.5°ซ | 19.5°ซ |
เหตุการณ์ แก้
เดือนตุลาคม แก้
- วันที่ 27 ตุลาคม ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา[1]
เดือนธันวาคม แก้
ความกดอากาศสูงกำลังแรง 13-17 ธันวาคม แก้
วันที่ 13 ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศว่าในบริเวณภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณเทือกเขาสูงในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีอุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิอาจลดลงได้ 1-3 องศาเซลเซียส[10]
ความกดอากาศสูงกำลังแรง 27 ธันวาคม-2 มกราคม แก้
วันที่ 24 ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศว่า วันที่ 27 ธันวาคมถึง 2 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจะลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน รวมถึงจะมีคลิ่นกระแสลมตะวันตกปกคลุมภาคเหนือ ทำให้จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น จากนั้นอุณหภูมิจะลดลงได้ 5-7 องศาเซลเซียส เริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนและตามด้วยบริเวณอื่นของประเทศไทยตอนบน[11]
วันที่ 25 ธันวาคม ภาคเหนือมีอากาศเย็นลง โดยอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีเหมยขาบเกิดขึ้น มีอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณยอดดอย 6 องศาเซลเซียส ส่วนที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานมีอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส[12]
วันที่ 27 ธันวาคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงลงมาปกคลุมถึงตอนบนของประเทศเวียดนาม โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าบริเวณความกดอากาศสูงจะลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงกลางคืน และจะปกคลุมประเทศไทยตอนบนตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม และอากาศหนาวเย็นลงในวันที่ 29 ธันวาคม[13]
สถิติอุณหภูมิต่ำที่สุด แก้
ภาคและจังหวัด | อุณหภูมิต่ำที่สุดระหว่าง พ.ศ. 2494 ถึง 2560 | อุณหภูมิต่ำสุดฤดูกาลนี้ | |||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พฤศจิกายน | ธันวาคม | มกราคม | กุมภาพันธ์ | พฤศจิกายน 2561 | ธันวาคม 2561 | มกราคม 2562 | กุมภาพันธ์ 2562 | ||||||||||||||
อุณหภูมิ | วันที่ | ปี | อุณหภูมิ | วันที่ | ปี | อุณหภูมิ | วันที่ | ปี | อุณหภูมิ | วันที่ | ปี | อุณหภูมิ | วันที่ | อุณหภูมิ | วันที่ | อุณหภูมิ | วันที่ | อุณหภูมิ | วันที่ | ||
ภาคเหนือ | เชียงราย | 5.0°ซ | 21 | 2514 | 1.5°ซ | 25 | 2542 | 1.5°ซ | 2 | 2517 | 6.5°ซ | 11 | 2506 | 12.5°ซ | 27 | 11.2°ซ | 26/27 | 10.5°ซ | 26 | 9.3°ซ | 6 |
เชียงใหม่ | 6.0°ซ | 21 | 2514 | 3.8°ซ | 25 | 2542 | 3.7°ซ | 2 | 2517 | 7.3°ซ | 3 | 2517 | 16.8°ซ | 27/28 | 14.9°ซ | 27/28 | 15.6°ซ | 3/4/20 | 14.3°ซ | 8/9 | |
พิษณุโลก | 12.1°ซ | 29 | 2526 | 8.9°ซ | 26 | 2542 | 7.5°ซ | 13 | 2498 | 10.0°ซ | 9 | 2559 | 18.2°ซ | 2 | 16.7°ซ | 27/28 | 16.7°ซ | 27/28 | 17.6°ซ | 5 | |
ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ |
เลย | 5.6°ซ | 30 | 2499 | 2.2°ซ | 31 | 2516 2518 |
0.1°ซ | 2 | 2517 | 6.2°ซ | 1 | 2506 | 16.0°ซ | 26 | 15.0°ซ | 26 | 12.9°ซ | 27 | 15.4°ซ | 7 |
นครพนม | 7.2°ซ | 23 | 2498 | 4.1°ซ | 30 | 2518 | 1.8°ซ | 12 | 2498 | 8.0°ซ | 13 | 2517 | 14.7°ซ | 1 | 12.5°ซ | 31 | 13.1°ซ | 1 | 17.1°ซ | 1 | |
นครราชสีมา | 9.1°ซ | 30 | 2499 | 6.2°ซ | 31 | 2518 | 4.9°ซ | 12 | 2498 | 10.6°ซ | 21 | 2498 | 17.9°ซ | 1/2 | 16.9°ซ | 31 | 16.8°ซ | 27/28 | 19.4°ซ | 1/2 | |
อุบลราชธานี | 12.5°ซ | 22 | 2497 | 8.5°ซ | 30 | 2518 | 7.6°ซ | 12 | 2498 | 11.5°ซ | 8 11 |
2559 2520 |
17.9°ซ | 1 | 16.3°ซ | 31 | 15.8°ซ | 23 | 19.2°ซ | 1 | |
ภาคกลาง | นครสวรรค์ | 11.9°ซ | 28 19 29 |
2499 2514 2526 |
7.7°ซ | 25 | 2542 | 6.1°ซ | 13 | 2498 | 10.4°ซ | 9 | 2559 | 19.4°ซ | 1/2 | 18.1°ซ | 26 | 17.7°ซ | 28 | 20.6°ซ | 1 |
สุพรรณบุรี | 14.5°ซ | 30 18 |
2499 2514 |
10.0°ซ | 31 | 2518 | 9.2°ซ | 13 | 2498 | 12.0°ซ | 6 | 2500 | 17.8°ซ | 1 | 19.8°ซ | 26 | 17.3°ซ | 28/28 | 20.9°ซ | 1 | |
กาญจนบุรี | 11.6°ซ | 17 | 2514 | 6.8°ซ | 31 | 2518 | 5.5°ซ | 13 | 2498 | 12.1°ซ | 13 | 2517 | 18.6°ซ | 1 | 20.2°ซ | 27 | 18.5°ซ | 27 | 21.6°ซ | 1 | |
กรุงเทพมหานคร | 14.2°ซ | 17 | 2514 | 10.5°ซ | 30 | 2518 | 9.9°ซ | 12 | 2498 | 14.9°ซ | 13 | 2517 | 21.2°ซ | 1 | 21.5°ซ | 31 | 20.2°ซ | 24 | 24.1°ซ | 11 | |
ภาคตะวันออก | สระแก้ว | 14.7°ซ | 6 | 2543 | 9.0°ซ | 24 | 2542 | 11.4°ซ | 12 | 2552 | 13.0°ซ | 8 | 2559 | 20.9°ซ | 26/27 | 19.0°ซ | 31 | 18.5°ซ | 24 | 22.5°ซ | 1 |
ชลบุรี | 14.2°ซ | 16 | 2514 | 12.0°ซ | 29 | 2518 | 9.9°ซ | 12 | 2498 | 16.0°ซ | 8 | 2559 | 22.5°ซ | 1 | 21.1°ซ | 31 | 21.0°ซ | 1 | 24.7°ซ | 18/19 | |
ภาคใต้ | ประจวบคีรีขันธ์ | 13.0°ซ | 22 | 2497 | 11.4°ซ | 31 | 2499 | 10.5°ซ | 19 | 2506 | 12.2°ซ | 6 | 2500 | 21.9°ซ | 1 | 21.2°ซ | 26 | 20.0°ซ | 28/29 | 22.0°ซ | 19 |
ภูเก็ต | 19.3°ซ | 23 | 2497 | 18.4°ซ | 1 | 2525 | 17.4°ซ | 4 | 2500 | 18.6°ซ | 18 | 2526 | 23.8°ซ | 19 | 22.4°ซ | 28 | 23.5°ซ | 5 | 24.2°ซ | 9 | |
อ้างอิงข้อมูล | การคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของกรมอุตุนิยมวิทยา[9] สถิติอุณหภูมิต่ำที่สุดช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยคาบ 67 ปี พ.ศ. 2494–2560[14] |
ระบบตรวจอากาศอัตโนมัติ กรมอุตุนิยมวิทยา[15] |
อ้างอิง แก้
- ↑ 1.0 1.1 "การเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๑" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ 2.0 2.1 "When does winter start?". metoffice.gov.uk. Met Office. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "Meteorological Versus Astronomical Summer—What's the Difference?". ncdc.noaa.gov. NOAA. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "การเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๒" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562. สืบค้นเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "ฤดูกาลของประเทศไทย". tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 "ภูมิอากาศของประเทศไทย" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "ภูมิอากาศกรุงเทพมหานคร" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "ข้อมูลพื้นฐานสถานีอุตุนิยมวิทยากรุงเทพฯ" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ 9.00 9.01 9.02 9.03 9.04 9.05 9.06 9.07 9.08 9.09 "การคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2561–2562". tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-10-25. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนัก คลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2561)" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 - 2 มกราคม 2562) ฉบับที่ 1 (547/2561)" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "หนาวระลอกใหญ่ ยอดดอยยะเยือก 2 องศาฯ เหมยขาบโผล่ 3 วันติด". tmd.go.th. ไทยรัฐ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 - 2 มกราคม 2562) ฉบับที่ 4 (550/2561)" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "สถิติอุณหภูมิต่ำที่สุดช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยคาบ 67 ปี พ.ศ. 2494–2560" (PDF). tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|archivedate=
(help) - ↑ "Thai Meteorological Department Automatic Weather System". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-10. สืบค้นเมื่อ 2018-10-25.