รถไฟชานเมืองเคทีเอ็ม
รถไฟชานเมืองเคทีเอ็ม (มลายู: KTM Komuter) เป็นระบบรถไฟฟ้าชานเมืองขนาดใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ดำเนินการโดยเกอเรตาปีตานะฮ์เมอลายู (เคทีเอ็ม) เปิดใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ. 1995 ช่วยในการขนส่งระหว่างกัวลาลัมเปอร์กับเขตชานเมืองในหุบเขากลัง ในภายหลังได้ขยายบริการรถไฟชานเมืองไปยังส่วนอื่นๆของประเทศมาเลเซียเช่นการเปิดตัว รถไฟชานเมืองส่วนเหนือรถไฟทุกขบวนเป็นรถไฟฟ้า และติดตั้งระบบปรับอากาศ ทุกสถานีจะมีจุดจอดแล้วจร
รถไฟชานเมืองเคทีเอ็ม | |||
---|---|---|---|
![]() | |||
![]() ขบวน คลาส 92 SCS 14 ชุมทางเซ็นทรัลกัวลาลัมเปอร์ | |||
ข้อมูลทั่วไป | |||
เจ้าของ | บรรษัทสินทรัพย์การรถไฟมาเลเซีย | ||
ที่ตั้ง | ส่วนกลาง (จุงมาลิม–ราวัง–กัวลาลัมเปอร์–พอร์ตกลัง; (บาตูเคฟส์–กัวลาลัมเปอร์–เซอเริมบัน–ปูเลาเซอบัง/ตัมปิน) ส่วนเหนือ (บูกิต เมอร์ตาจัม –อีโปะฮ์; บัตเตอร์เวิร์ท–อีโปะฮ์) | ||
จำนวนสถานี | 79 | ||
สีบนแผนที่ | 1 2 10 (ส่วนกลาง) 1 2 (ส่วนเหนือ) | ||
เว็บไซต์ | www | ||
การดำเนินงาน | |||
รูปแบบ | รถไฟชานเมือง | ||
ผู้ดำเนินงาน | เกอเรตาปีตานะฮ์เมอลายู (แผนกชานเมือง) | ||
ขบวนรถ | KTM Class 81 3 ตู้ต่อขบวน KTM Class 83 3 ตู้ต่อขบวน KTM Class 92 6 ตู้ต่อขบวน | ||
ผู้โดยสารต่อวัน | 85,120 (ไตรมาสสาม 2018)[1] | ||
ผู้โดยสาร | 37.235 ล้าน (2017) [1] | ||
ประวัติ | |||
เปิดเมื่อ | 14 สิงหาคม 1995 | ||
ข้อมูลทางเทคนิค | |||
ระยะทาง | 560.8 km | ||
รางกว้าง | 1,000 mm (3 ft 3 3⁄8 in) มีเตอร์เกจ | ||
ระบบจ่ายไฟ | 25 kV 50 Hz เหนือหัว | ||
ระบบการนำไฟฟ้า | แบบมีคนขับ | ||
|
รถไฟชานเมืองเคทีเอ็ม เป็นหน่วยงามที่ทำกำไรได้มากที่สุดในกลุ่มเคทีเอ็ม โดยทำกำไรมากถึง 84.63 ล้านริงกิตในปี ค.ศ. 2006 สูงกว่ารถไฟระหว่างเมืองซึ่งทำกำไรได้เพียง 70.94 ล้านริงกิตในปีเดียวกัน[2] สถิติข้อมูลปี ค.ศ. 2008 จากกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย มีจำนวนผู้โดยสาร 36.557 ล้านคนต่อปี[3]
โครงสร้างพื้นฐาน
แก้โครงข่ายในปัจจุบัน
แก้สาย | เปิดให้บริการ | จำนวนสถานี | ระยะทาง | ปลายทาง | |
---|---|---|---|---|---|
ส่วนกลาง 1 สายบาตูเคฟส์–ปูเลาเซอบัง |
14 สิงหาคม 1995 | 32 | 135 km | บาตูเคฟส์ | ปูเลาเซอบัง/ตัมปิน |
ส่วนกลาง 2 สายตันจุงมาลิม–พอร์ตกลัง |
14 สิงหาคม 1995 | 27 | 126 km | ตันจุงมาลิม | พอร์ตกลัง |
ส่วนกลาง 10 สายเซ็นทรัลกัวลาลัมเปอร์–เทอมินัล สกายพาร์ก |
1 พฤษภาคม 2018 | 3 | 26 km | เซ็นทรัลกัวลาลัมเปอร์ | เทอมินัล สกายพาร์ก |
ส่วนเหนือ 1 สายอีโปะฮ์–บัตเตอร์เวิร์ท |
11 กันยายน 2015 | 8 | 104 km | อีโปะฮ์ | บัตเตอร์เวิร์ท |
ส่วนเหนือ 2 สายปาดังเบซาร์–บัตเตอร์เวิร์ท |
1 มกราคม 2016 | 13 | 169.8 km | ปาดังเบซาร์ | บัตเตอร์เวิร์ท |
รวม | 79 | 560.8 km |
ส่วนกลาง
แก้รถไฟชานเมืองเคทีเอ็ม มีระยะทางรวม 175 กิโลเมตร (109 ไมล์) โครงข่ายของรถไฟขานเมืองในส่วนกลางนั้นส่วนใหญ่ครอบคลุมหุบเขากลังจำนวนสถานีทั้งหมด 53 สถานี จำนวนสองสายวิ่งตัดกัน ได้แก่ สายพอร์ตกลัง และสายเซอเริมบัน อีกทั้งยังมีสายย่อยอีกสายหนึ่ง คือ สายราวัง-ตันจุงมาลิม ซึ่งเปิดใช้งานในเดือนเมษายน ค.ศ. 2007.
สถานีเปลี่ยนเส้นทางซึ่งเชื่อมต่อระหว่างสองสาย มีอยู่ 4 สถานี ได้แก่ เคแอลเซ็นทรัล, กัวลาลัมเปอร์, ธนาคารเนอการา และปุตรา ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางจากสถานีระหว่างราวัง-ตันจุงมาลิม ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟที่สถานีราวัง บัตรโดยสารรถไฟสามารถซื้อได้ตามเครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารในแต่ละสถานี
สายสกายพาร์คลิงก์ (KL เซ็นตรัล - เทอร์มินัลสกายพาร์ค) คือรถไฟด่วนพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปสนามบินสุบังโดยเฉพาะ เพื่อการประหยัดเวลาในการเดินทางรถไฟจะหยุดสถานีระหว่างทางเพียงสถานีเดียวคือ สถานีสุบัง จายา รถไฟสายสกายพาร์คลิงก์ถือเป็นรถไฟเชื่อมสนามบินสายที่ 2 ของมาเลเซีย
สถานีรถไฟบางแห่งยังมีศูนย์การค้าอีกด้วย เช่น สถานีมิดเวลเลย์ ซึ่งเปิดในปี ค.ศ. 2004 ตั้งอยู่ถัดจากมิดเวลเลย์เมกะมอลล์, สถานีซูบังจายา ตั้งอยู่ใกล้ห้างซูบังพาเหรดและคาร์ฟูร์, สถานีเซอดัง ตั้งอยู่ใกล้ห้างเดอะมิเนส
ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ สามารถนั่งรถไฟชานเมืองไปลงที่สถานีนีไล และเปลี่ยนไปใช้รถโดยสารท่าอากาศยาน หรือลงที่เคแอลเซ็นทรัล และเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าเคแอลไอเอ เอ็กซ์เพรสก็ได้ การเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟเร็วกัวลาลัมเปอร์ สามารถนั่งรถไฟชานเมืองลงที่ สถานีบันดาร์ตาซิก์เซอลาตัน (สายอัมปัง) และเคแอลเซ็นทรัล (สายเกอลานาจายา) ได้
เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารที่หนาแน่นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เคทีเอ็มจึงได้หาวิธีการบรรเทาความหนาแน่น โดยใช้ระบบต่อคิวแบบใหม่เพื่อให้ผู้โดยสารทราบเวลารถไฟมาถึง สีประจำสายจะถูกลงสีไว้บริเวณพื้น หรือตัวขบวน ระบบนี้เริ่มใช้ครั้งแรกวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2008 โดยเริ่มใช้ที่เคแอลเซ็นทรัลเป็นที่แรก[4] นอกจากนี้ยังได้เพิ่มบริการรถไฟด่วนระหว่างสถานีสุไหงบูโลห์-กาจัง และกัวลาลัมเปอร์-ชาห์อลัมอีกด้วย[5]
ส่วนเหนือ
แก้รถไฟชานเมืองส่วนเหนือ ให้บริการระหว่างสถานีกูรุน ใน เกดาห์ สถานีบัตเตอร์เวิร์ธ ใน ปีนัง สถานีเกมัตติ้ง ใน เปรัก
เส้นทางถูกเปลี่ยนมาสองครั้ง ในปัจจุบันมีสองสาย คือ
- สายปาดังเบซาร์ - บัตเตอร์เวิร์ธ
- สายบูกิตเมเตอร์แจม - เปดังเรนกัส
โดยผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนสายได้ที่สถานีบูกิต เมเตอร์แจม
สถานี
แก้สถานีรถไฟชานเมืองของเคทีเอ็ม มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และยังมีชานชาลาที่สูง เพื่อให้สามารถขึ้น-ลงรถไฟได้สะดวก สถานีรถไฟยุคแรก ๆ ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์, กลัง, พอร์ตกลัง และเซอเริมบัน ได้รับการปรับปรุงและพัฒนายกระดับเป็นสถานีรถไฟฟ้าชานเมือง จากเดิมที่เป็นอาคารไม้ ได้สร้างใหม่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ยกเว้นแต่สถานีเซนทัล ที่ยังคงรักษาเค้าโครงเดิมของสถานีไว้อยู่
สถานีรถไฟฟ้า แบ่งตามขนาดได้ 2 ประเภท ดังนี้
- จุดหยุดรถไฟ มักอยู่บนช่วงที่มีเพียงเส้นทางเดียว ประกอบด้วยอาคารชั้นเดียว ช่องจำหน่ายตั๋ว 1 ช่อง
- สถานีขนาดกลาง มักอยู่บนช่วงที่มีเส้นทาง 2-3 สาย มีขนาดใหญ่กว่า ประกอบด้วยบริเวณจำหน่ายตั๋วและที่ทำการ สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟ
ชานชาลาของสถานีรถไฟยุคแรก ๆ จะเป็นชานชาลาอิฐเคลือบเพชร แต่ในสถานีรถไฟยุคปัจจุบันจะเป็นชานชาลาปูน เคลือบกระเบื้องมีแถบสี
นี่คือรายชื่อสถานีรถไฟชานเมืองเคทีเอ็ม
สายพอร์ตกลัง | สายเซอเริมบัน | สายย่อยราวัง-ตันจงมาลิม |
---|---|---|
|
|
ระบบรถไฟ
แก้รถไฟชานเมืองรุ่นแรก ๆ ใช้รถไฟฟ้า 3 คันต่อขบวนทำการ ถือเป็นระบบรถไฟฟ้าแห่งแรกของเกอเรตาปีตานะฮ์เมอลายู รถไฟฟ้ารับกระแสไฟฟ้าโดยใช้ระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือหัว ใน 1 ขบวน จะมีคันที่มีห้องขับ 2 คัน (หัว-ท้าย) และคันที่ไม่มีห้องขับ 1-3 คัน ใช้ระบบประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติ
รถไฟฟ้าในรุ่น "8x" จะมีลายสีเหลือง, น้ำเงิน, เทา โดยสีเทาได้มาจากสีของรถจักรและรถโดยสารของเคทีเอ็ม ในบางคันจะมีโฆษณาติดข้างรถด้วย
รถไฟฟ้ารุ่นเริ่มแรกของเคทีเอ็ม ได้แก่
- รุ่น 81 (หมายเลข EMU 01 - EMU 18) ผลิตโดย - เจนบาเชอร์ (ค.ศ. 1994-1995)
- รุ่น 83 (หมายเลข EMU 19 - EMU 40) ผลิตโดย ฮุนได (ค.ศ. 1996-1997)
- รุ่น 82 (หมายเลข EMU 41 - EMU 62) ผลิตโดย ยูเนียแคริเอจแอนด์แวกอน (ค.ศ. 1996-1997)
สถิติปี ค.ศ. 2010 มีรถไฟฟ้าที่ใช้การได้ 53 จาก 62 คัน[6] แต่ในปัจจุบัน รถไฟฟ้าอีก 9 คันได้ทำการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2012 ได้มีการนำเข้ารถไฟฟ้ารุ่น 92 EMU จำนวน 38 คัน ซึ่งผลิตโดยบริษัทซูโจว[6] นำมาพ่วงเป็น 6 คันต่อขบวน
โครงการในอนาคต
แก้การขยายเส้นทางและสถานี
แก้ในช่วงปี ค.ศ. 2000-2010 ได้มีการทยอยเปิดใช้งานสถานีดังต่อไปนี้[7]
- สถานีรถไฟเซ็นทรัลกัวลาลัมเปอร์ เปิดให้บริการวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2001 โดยเปิดใช้งานในฐานะสถานีรถไฟระหว่างเมืองและสถานีรถไฟชานเมืองหลัก แทนที่สถานีรถไฟกัวลาลัมเปอร์
- สถานีมิดเวลเลย์ เปิดให้บริการวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2004 ตั้งอยู่บริเวณย่านการค้าเมกะมอลล์ และย่านพาณิชยกรรมอื่น ๆ
- สถานีเกอปงเซ็นทรัล เปิดให้บริการวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 ตั้งอยู่บริเวณถนนวงแหวนกลางสาย 2
- สถานีเซอเรนดาห์, สถานีบาตัง และสถานีราซา เปิดให้บริการวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2007 ส่วนหนึ่งของสายย่อยราวัง-ราซา
- สถานีกัวลากูบูบาห์รู เปิดให้บริการวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2008 ส่วนต่อขยายของสายย่อยราวัง-ราซา
- สายย่อยเปิดเดินรถถึงสถานีตันจงมาลิม ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2009 พร้อมเปลี่ยนชื่อสายจาก สายย่อยราวัง-ราซา เป็น สายย่อยราวัง-ตันจงมาลิม
- สายพอร์ตกลัง เปิดเดินรถส่วนต่อขยายไปยังสถานีบาตูเคฟส์ ในวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 พร้อมกับสถานีใหม่อีก 4 สถานี
- สายเซอเริมบัน เปิดเดินรถส่วนต่อขยายไปยังสถานีซูไงกาดุ๊ต ในปี ค.ศ. 2012 และสถานีเริมบอในปี ค.ศ. 2013 พร้อมกับสถานีใหม่อีก 3 สถานี
ส่วนต่อขยายเส้นทางเดิม
แก้อุบัติเหตุและอุบัติการณ์
แก้- วันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2004 — ในช่วงเย็น มีรถไฟชานเมืองสายเซอเริมบัน ได้พุ่งชนกับท้ายขบวนรถไฟอีกขบวน ระหว่างสถานีตีโรอี-เซอเริมบัน ผู้โดยสารบาดเจ็บ 40 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต สาเหตุของอุบัติเหตุมาจากความผิดพลาดของระบบอาณัติสัญญาณ จากอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้รถไฟต้องปิดทำการชั่วคราว 1 วัน ถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดของเคทีเอ็ม[11]
- วันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2007 — มีรถยกคันหนึ่งตกลงไปในทางรถไฟสายเซอเริมบัน ใกล้กับสถานีชาห์อลัม ทำให้ทางถูกปิดชั่วคราวเพื่อยกรถออก[12]
- วันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 —ชายคนหนึ่งชนรถไฟขณะข้ามทางรถไฟอย่างผิดกฎหมาย ส่งผลให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
- วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 — ลวดรับไฟฟ้าเหนือหัวในสายพอร์ตกลัง ได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ไม่สามารถเดินรถได้
- วันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2009 — ยานพาหนะเอนกประสงค์ ตกลงไปในทางรถไฟ เมื่อรถไฟผ่านมาจึงชนเข้าและได้รับความเสียหาย และใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการย้ายพาหนะนั้นออกจากราง[13]
- วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 — หญิงวัย 50 ปีตกลงไปในรางรถไฟที่สถานีตามันวาห์ยู ก่อนที่จะถูกรถไฟลากไปกว่า 50 เมตรจนเสียชีวิต[14]
เหตุการณ์สำคัญ
แก้- 3 สิงหาคม ค.ศ. 1995 — ทดลองรถไฟฟ้าช่วงแรก ระหว่างสถานีกัวลาลัมเปอร์–ราวัง
- 14 สิงหาคม ค.ศ. 1995 — เปิดใช้งานรถไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ ระหว่างสถานีกัวลาลัมเปอร์–ราวัง
- 28 สิงหาคม ค.ศ. 1995 — เปิดใช้งานช่วงสถานีเซ็นตัล–ชาห์อลัม ก่อนขยายไปกลัง
- 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995 — ขยายเส้นทางกัวลาลัมเปอร์–ราวัง ไปกลัง
- 18 ธันวาคม ค.ศ. 1995 — เปิดใช้งานส่วนต่อขยายไปเซอเริมบัน
- 16 เมษายน ค.ศ. 2001 — เปิดใช้งานสถานีรถไฟเซ็นทรัลกัวลาลัมเปอร์ ในส่วนของรถไฟฟ้าชานเมือง
- 3 มีนาคม ค.ศ. 2004 — เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกันในสายเซอเริมบัน
- 23 สิงหาคม ค.ศ. 2004 — เปิดใช้งานสถานีมิดเวลเลย์
- 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2005 — เข้าร่วมระบบบัตรโดยสาร Touch'n Go
- 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 — เปิดใช้งานสถานีเกอปงเซ็นทรัล
- 21 เมษายน ค.ศ. 2007 — เปิดใช้งานสายย่อยราวัง–ราซา
- 5 มกราคม ค.ศ. 2008 — เปิดใช้งานสถานีกัวลากูบูบาห์รู และเปลี่ยนชื่อ สายย่อยราวัง–ราซา เป็น สายย่อยราวัง–กัวลากูบูบาห์รู
- 1 มิถุนายน ค.ศ. 2009 — เปิดใช้งานสถานีตันจงมาลิม และเปลี่ยนชื่อ สายย่อยราวัง–กัวลากูบูบาห์รู เป็น สายย่อยราวัง–ตันจงมาลิม
- 28 เมษายน ค.ศ. 2010 — เริ่มพ่วงตู้โดยสารสำหรับสุภาพสตรีเป็นครั้งแรก
- 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 — ส่วนต่อขยายสายพอร์ตกลัง ปลายทางสถานีบาตูเคฟส์ เปิดใช้งานครั้งแรก
- 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 — ส่วนต่อขยายสายเซอเริมบัน ปลายทางสถานีซูไงกะดุ๊ต เปิดใช้งานครั้งแรก
สมุดภาพ
แก้-
ขบวนรถไฟวิ่งผ่านสัญลักษณ์เตือนบนชานชาลา
-
สถานีปุตรา สถานีตัวอย่างในยุคแรก ๆ พื้นชานชาลาเป็นแบบเก่า
-
สถานีมิดเวลเลย์ พื้นชานชาลาเป็นแบบใหม่
-
บริเวณพื้นที่จำหน่ายตั๋วรถไฟชานเมืองที่เคแอลเซ็นทรัล
-
สถานีตังจงมาลิม มีความทันสมัยมาก
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "Statistic for Rail Transport" (ภาษามาเลย์ และ อังกฤษ). Ministry of Transport, Malaysia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-07. สืบค้นเมื่อ 13 December 2018.
- ↑ Nathan, Darshini M. (6 October 2007). "Back on track: KTMB upgrades to be competitive". Bizweek, The Star. Kuala Lumpur.
- ↑ "Number of Passengers for Light Rail Transit (LRT) Services, 1999 - 2008" (PDF). Ministry of Transport. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-01-13. สืบค้นเมื่อ 2015-05-12.
- ↑ Michael, Stuart (24 October 2008). "KTM implements new queuing scheme for passengers". The Star. Kuala Lumpur. สืบค้นเมื่อ 26 October 2008.
- ↑ "Six trains for new services". New Straits Times. Kuala Lumpur. 26 October 2008.
- ↑ 6.0 6.1 "Chinese trains to expand KL Komuter fleet". Railway Gazette International. 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-04. สืบค้นเมื่อ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "Construction of New Commuter Stations". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2007.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "KTMB spends RM200mil on new intercity and commuter trains". The Star. Kuala Lumpur. 7 February 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-08. สืบค้นเมื่อ 2021-09-28.
- ↑ priya menon (2014-08-08). "Work on railway line from Subang airport to KL Sentral has begun - Community | The Star Online". Thestar.com.my. สืบค้นเมื่อ 2015-03-17.
- ↑ "PROJEK LANDASAN KERETAPI DARI SUBANG KE TERMINAL SKYPARK SUBANG | Laman Web Rasmi Suruhanjaya Pengangkutan Awam Darat". S.P.A.D. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ 2015-03-17.
- ↑ "Komuter crash". The Star. Kuala Lumpur. 3 มีนาคม ค.ศ. 2004. p. 1.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "Crane Falls On Rail Tracks, 10,000 Passengers Stranded". Bernama. 2 มีนาคม ค.ศ. 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-29. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน ค.ศ. 2007.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "MPV plunges onto railway tracks". The Star. Kuala Lumpur. 22 October 2009.
- ↑ "Woman run down by Komuter train". The Malaysian Insider. Kuala Lumpur. 4 February 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-06. สืบค้นเมื่อ 2015-05-12.