มิก้า ชูนวลศรี (อังกฤษ: Mika Chunuonsee) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวไทยเชื้อสายเวลส์ และเล่นในตำแหน่งกองหลัง โดยมิก้าเป็นผู้เล่นชาวไทยคนแรกที่ได้เล่นในเวลช์พรีเมียร์ลีก และเขาปัจจุบันเล่นให้กับลำพูน วอร์ริเออร์ เป็นสโมสรสุดท้าย

มิก้า ชูนวลศรี
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม มิก้า ชูนวลศรี
วันเกิด (1989-03-26) 26 มีนาคม ค.ศ. 1989 (35 ปี)
สถานที่เกิด เมืองบริดเจนด์, เทศมณฑลมิดกลามอร์แกน
เวลส์, สหราชอาณาจักร
ส่วนสูง 1.78 m (5 ft 10 in)
ตำแหน่ง กองหลัง, กองกลาง
สโมสรเยาวชน
2005–2007 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2007–2008 เบรนทิเรียน แอธเลติก 22 (3)
2008 นีธ แอธเลติก 5 (0)
2008–2009 อะฟาน ลิโด 8 (1)
2009–2010 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 6 (0)
2010 สุวรรณภูมิ-ศุลกากร 23 (2)
2010–2011 บีอีซี เทโรศาสน 24 (0)
2012 บางกอก เอฟซี 29 (1)
2013–2014 สุพรรณบุรี เอฟซี 29 (1)
2014–2022 แบงค็อกยูไนเต็ด 176 (13)
2023–2024 ลำพูน วอร์ริเออร์ 26 (1)
รวม 328 (20)
ทีมชาติ
2005–2006 เวลส์ U-17 3 (0)
2015–2019 ไทย 7 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2024 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 9 กันยายน 2019 (UTC)

ประวัติ

แก้

มิก้า ชูนวลศรี เกิดวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2532 ที่เมืองบริดเจนด์, เวลส์, สหราชอาณาจักร [1] มีพ่อชื่อ ชรินทร์ ชูนวลศรี เป็นอดีตนักฟุตบอลของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีแม่ชื่อเอเรียต เมื่ออายุได้ 1 ขวบพ่อของเขาได้พามาอยู่ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนถึงอายุ 10 ขวบ จึงกลับไปที่เวลส์อีกครั้งหนึ่ง มิก้าเคยศึกษาที่ University of Glamorgan ในเซาธ์เวลส์ แต่ย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทยขณะเรียนได้ 2 ปี ด้านชีวิตส่วนตัว มิก้าสมรสกับเทย่า โรเจอร์ส นักแสดงและนางแบบ ชาวไทยเชื้อสายอเมริกันเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2562[2]

ปัจจุบันมีบุตร-ธิดาด้วยกัน 2 คนคือ มิลา ชูนวลศรี ชื่อเล่น มิลา เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 [3]และ เจเดน ชูนวลศรี ชื่อเล่น เจเดน เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2565[4]

ในปี พ.ศ. 2566 มิก้า ได้เรียนจบหลักสูตรผู้ฝึกสอนระดับ “ยูฟ่า เอ ไลเซนส์” (Uefa A Licence) ซึ่งเป็นนักเตะไทยคนแรกที่จบหลักสูตรนี้ ทำให้เขาสามารถคุมทีมชาติและทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้ทุกแห่ง[5]

การเล่นฟุตบอล

แก้

มิก้าเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เมื่อย้ายจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปอยู่ที่เวลส์โดยเล่นอยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี ในปี 2005 และอยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรนาน 2 ปี ก่อนจะถูกคาร์ดิฟฟ์ซิตี ปล่อยตัวออกจากทีมชุดเยาวชนในเดือนสิงหาคม ปี 2007

เบรนทิเรียน แอธเลติก

แก้

หลังถูกคาร์ดิฟฟ์ซิตีปล่อยตัว มิก้าก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีม เบรนทิเรียน แอธเลติก ในระดับเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2007–2008 โดยลงเล่นเป็นกองกลาง และสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 5 ในลีก

นีธ แอธเลติก และ อะฟาน ลิโด

แก้

ฤดูกาลต่อมา เดือนกรกฎาคม ปี 2008 มิก้า ย้ายไปอยู่กับสโมสรนีธ แอธเลติก ในระดับเวลช์พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศเวลส์ โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของแอนดี ดายเออร์ ในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่ในเดือนกันยายน 2008 เขาจะย้ายมาเล่นให้กับสโมสรอะฟาน ลิโด ทีมในเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 [6] โดยมิก้า ยิงประตูแรกให้อะฟาน ลิโด ได้เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2009 ในเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2008–2009 นัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสรฟุตบอลทอน เพนทรี ไปได้ 2–0 ที่สนามมาร์สตัน สเตเดียม [7] หลังจบลีกเวลส์ ฤดูกาล 2008–2009 มิก้าได้ย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทยกับพ่อ

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด

แก้

หลังย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทย ในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2009 มิก้าได้ติดต่อขอทดสอบฝีเท้ากับสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และผลงานเป็นที่น่าพอใจจึงได้เซ็นสัญญาย้ายเข้ามาร่วมทีม ในช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก 2009[8] โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของอรรถพล บุษปาคม และลงสนามให้เมืองทองฯ นัดแรกวันที่ 26 กรกฎาคม 2009 ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกนัดที่ออกไปแพ้สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ 1–0 ที่สนามแพตสเตเดียม ซึ่งการแข่งขันนัดดังกล่าวถือเป็นการลงเล่นในลีกอาชีพของไทยเป็นครั้งแรกของเขาอีกด้วย

โดยมิก้าที่ย้ายเข้ามาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ และได้ลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีกไปเพียงแค่ 6 นัด (ลงเป็นตัวจริง 1 นัด และเป็นตัวสำรอง 5 นัด) โดยเมื่อจบฤดูกาลทีมสามารถคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของสโมสร

สุวรรณภูมิ ศุลกากร

แก้

หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2010 เริ่มแข่งขันไปได้ไม่นาน วันที่ 9 เมษายน ปี 2010 มิก้า ชูนวลศรี ได้ย้ายจากเมืองทองฯ ยูไนเต็ด มาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด ในไทยลีกดิวิชั่น 1 ที่มี ฌูแซ การ์ลูส ฟีร์ไรรา โค้ชชาวบราซิลเป็นกุนซืออยู่ในขณะนั้น แบบไม่มีค่าตัว และได้เบอร์เสื้อหมายเลข 10 [9] หลังจากย้ายมาร่วมทีมได้เพียงแค่ 10 วัน โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่น สโมสรก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นประภาส ฉ่ำรัศมี [10]

มิก้า ได้รับโอกาสลงสนามให้สโมสรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 เมษายน ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ที่เปิดบ้านแพ้ให้กับสมาคมกีฬาไทยฮอนด้า 0–1 ที่สนามกีฬาสโมสรศุลกากร (ลาดกระบัง 54) และยิงประตูแรกในลีกดิวิชั่น 1 ได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ในนัดที่เปิดบ้านเฉือนชนะสโมสรฟุตบอลอาร์แบค 4–3 โดยประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกที่มิก้า ยิงได้ในลีกของประเทศไทย และมายิงในลีกได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน ในนัดที่ถล่มสโมสรสโมสรฟุตบอลนราธิวาสไปถึง 7–0 ที่สนามกีฬาสโมสรศุลกากร [11]

การลงเล่นในดิวิชั่น 1 เขาสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้สโมสรมีลุ้นเลื่อนชั้น และคว้าอันดับ 7 ได้เมื่อจบฤดูกาล โดยมิก้า ลงสนามในฤดูกาลนี้ 24 นัด (ในลีกดิวิชั่น 1 23 นัด, เอฟเอ คัพ 1 นัด) ยิงในลีกดิวิชั่น 1 ได้ 2 ประตู

บีอีซี เทโรศาสน

แก้

แม้มิก้าจะพาทีมศุลกากรเลื่อนชั้นไม่สำเร็จ แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่นในระดับดิวิชั่น 1 ทำให้หลังจบฤดูกาล 2010 สโมสรบีอีซี เทโรศาสน เซ็นสัญญาคว้าตัวมิก้า ชูนวลศรี ไปร่วมทีมในเดือนตุลาคม โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของปีเตอร์ บัตเลอร์ โค้ชชาวอังกฤษ และได้รับเสื้อหมายเลข 16

มิก้า ชูนวลศรี ลงสนามนัดแรกให้บีอีซี เทโรศาสน ด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2011 นัดที่บุกไปชนะสโมสรทีทีเอ็ม-เอฟซี พิจิตร 2–1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ [12]

ในฤดูกาล 2011นี้ มิก้าได้เปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งกองหลัง (แบ็คขวาและเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) โดยเป็นผู้เล่นตัวหลักและลงสนามอย่างต่อเนื่อง จากนั้นในเดือนมิถุนายน 2011 สโมสรได้เปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นพยงค์ ขุนเณร ซึ่งมิก้า ก็ยังรักษาตำแหน่งตัวจริงในทีมไว้ได้เช่นเดิม

วันที่ 3 ธันวาคม มิก้า ได้รับบาดเจ็บหนักที่เอ็นหัวเข่าจากการถูกประวีณวัช บุญยงค์เข้าสกัด ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่พบกับสโมสรบางกอกกล๊าส ที่ลีโอสเตเดียม[13] โดยต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวจนจบฤดูกาล

มิก้า ชูนวลศรี ลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ 24 นัด และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 7

บางกอก เอฟซี

แก้

เดือนมีนาคม ปี 2012 มิก้า ชูนวลศรี ย้ายมาเล่นในระดับดิวิชั่น 1 อีกครั้ง กับสโมสรบางกอก เอฟซี ที่มีทองสุข สัมปหังสิต เป็นผู้ฝึกสอนอยู่ในขณะนั้น โดยได้รับเสื้อหมายเลข 16 หลังจากย้ายมาร่วมทีม มิก้า ซึ่งยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับตั้งแต่สมัยเล่นให้บีอีซี เทโรศาสน ไม่สามารถลงช่วยทีมในช่วงแรกได้ โดย มิก้า ได้ลงสนามในดิวิชั่น 1 ให้บางกอก เอฟซี เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 7 เมษายน ปี 2012 ในนัดที่เสมอกับสโมสรสงขลา เอฟซี ที่สนามศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) ไป 1–1 โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาในครึ่งหลัง [14]

หลังหายจากอาการบาดเจ็บ มิก้า เป็นผู้เล่นคนสำคัญในตำแหน่งกองหลัง และยิงประตูแรกให้บางกอก เอฟซี ได้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ที่เปิดบ้านแพ้ให้กับสโมสรนครราชสีมา เอฟซี 1–2

ถึงแม้เขาจะเป็นผู้เล่นตัวหลักแต่ผลงานของทีมในครึ่งฤดูกาลแรกกลับไม่ค่อยดีนัก โดยตกรอบ 64 ทีมสุดท้ายในถ้วยโตโยต้า ลีกคัพ 2012 ส่วนผลงานในลีกชนะเพียงแค่ 5 นัด จากการแข่งขัน 15 นัด ทำให้ทองสุข สัมปหังสิต ลาออกจากการเป็นผู้ฝึกสอน [15] และสโมสรได้แต่งตั้งให้เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองเข้ามาทำหน้าที่แทน ในครึ่งฤดูกาลหลัง แต่ก็ทำได้เพียงแค่จบฤดูกาลด้วยอันดับ 10 โดยมิก้า ชูนวลศรี ลงสนามในลีกดิวิชั่น 1 ฤดูกาลนี้ 29 นัด ยิงในลีก 1 ประตู

สุพรรณบุรี เอฟซี

แก้

หลังจบฤดูกาล 2012 มิก้า ชูนวลศรี ได้รับความสนใจจากทีมระดับไทยพรีเมียร์ลีกหลายทีม โดยในเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ได้ซื้อตัวมิก้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 2 ล้านบาท ทำให้มิก้าได้เล่นในลีกสูงสุดอีกครั้งในไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ได้รับเบอร์เสื้อหมายเลข 16 และลงเล่นภายใต้การคุมทีมของพยงค์ ขุนเณร โดยลงสนามให้สุพรรณบุรี เอฟซี นัดแรกเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 2013 ในไทยพรีเมียร์ลีก ที่สุพรรณบุรี เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1–1 ที่สนามนิวไอโมบายสเตเดียม

ในช่วงแรกมิก้าเป็นผู้เล่นตัวจริงของสโมสรด้วยตำแหน่งแบ็คขวา และลงสนามอย่างต่อเนื่อง โดยเขาช่วยให้สโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการไม้แพ้ทีมใดในลีกถึง 7 นัดติดต่อกัน โดยมิก้า ชูนวลศรี ทำประตูในลีกให้สุพรรณบุรี เอฟซี ได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2013 จากการโหม่งลูกเตะมุม ทำให้ทีมบุกมาขึ้นนำสโมสรราชบุรี-มิตรผล เอฟซี 1–0 ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ 1–1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี[16]

แต่หลังจากนั้นเขากลับประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ ที่เรื้อรังมากกว่า 2 เดือน ทำให้ไม่ได้ลงสนามมากนักในช่วงหลัง [17] และสูญเสียตำแหน่งตัวจริงในทีมให้กับ สุพจน์ วงษ์หอย ในเวลาต่อมา

มิก้า ชูนวลศรีลงสนามให้สุพรรณบุรีในฤดูกาล 2013 ทั้งหมด 18 นัด (ในไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด ลีกคัพ 1 นัด) และยิงในลีกได้ 1 ประตู โดยสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 อย่างเหนือความคาดหมาย

ในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 สโมสรเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็น อเล็กซานเดอร์ มาโน โพลกิ้ง โค้ชชาวเยอรมัน-บราซิล และมิก้า ที่หายจากอาการบาดเจ็บก็กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง โดยลงเล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันนัดแรกของฤดูกาล ที่แพ้ในบ้านต่อสโมสรราชบุรี-มิตรผล เอฟซี ไป 1–2 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์[18]

มิก้า กลับมาเป็นตัวจริงของทีมอีกครั้งในยุคของ มาโน โพลกิ้ง แต่ผลงานในลีกของทีมกลับไม่ดีเท่าที่ควร ประกอบกับทีมตกรอบโตโยต้า ลีกคัพ 2014 ตั้งแต่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ทำให้ มาโน โพลกิ้ง ถูกปลดในเดือนพฤษภาคม [19]

จากนั้น อเดบาโย กาเดโบ ผู้อำนวยการชาวไนจีเรียของสโมสรได้แถลงว่า มิก้า ชูนวลศรี ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมในเลกที่ 2 และพร้อมปล่อยตัวออกจากทีมเพื่อให้ย้ายไปร่วมทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด[20] โดยมิก้าลงสนามในเลกแรกของไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 ให้สุพรรณบุรี 12 นัด

แบงค็อก ยูไนเต็ด

แก้

ในเดือนมิถุนายน ช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 มิก้า ย้ายมาร่วมทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มี อเล็กซานเดอร์ มาโน โพลกิง ที่เคยร่วมงานกันที่สุพรรณบุรี เป็นกุนซือใหญ่ และได้เสื้อหมายเลข 16 [21] โดยมิก้า ชูนวลศรี ลงสนามให้แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ที่เอาชนะสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด 3–0 ที่สนามศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) และมาทำประตูแรกให้สโมสรได้ในนัดต่อมาที่ออกไปเยือนสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี วันที่ 29 มิถุนายน ที่สนามศรีนครลำดวน โดยมิก้าโหม่งลูกเตะมุมให้ทีมขึ้นนำ 1–0 ก่อนจะชนะไป 3–1

มิก้ามายิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้อีกหนึ่งประตูในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่บุกมาเอาชนะสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี 3–0 ที่สนามแพตสเตเดียม โดยในเลกที่ 2 นี้ มิก้าเป็นผู้เล่นตัวหลักที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยลงสนามให้แบงค็อก ยูไนเต็ด 18 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด เอฟเอคัพ 1 นัด) ยิงในลีกได้ 2 ประตู และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 8

ฤดูกาล 2015 มิก้า ยังคงเป็นผู้เล่นตัวจริงของสโมสร และยิงประตูในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 1 ประตู จากลูกฟรีคิกในนัดที่ชนะสุพรรณบุรี เอฟซี 4–3 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม และถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดที่พบกับทีมชาติไต้หวัน ในเดือนพฤศจิกายน โดยนับเป็นการถูกเรียกตัวติดทีมชาติในการแข่งขันอย่างเป็นทางการของฟีฟ่าเป็นครั้งแรก หลังจากเคยเล่นให้ทีมชาติไทยมาแล้วในรายการคิงส์คัพ

สถิติ

แก้
สโมสร ฤดูกาล ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพ ทวีป อื่นๆ รวม
ดิวิชัน นัด ประตู นัด ประตู นัด ประตู นัด ประตู นัด ประตู นัด ประตู
เบรนทิเรียน แอธเลติก 2007-2008 เวลส์ลีก ดิวิชั่น 1 22 3 0 0 0 0 0 0 0 0 22 3
นีธ แอธเลติก 2008-2009 เวลส์ พรีเมียร์ลีก 5 0 0 0 0 0 0 0 0 0 5 0
อะฟาน ลิโด 2008-2009 เวลส์ลีก ดิวิชั่น 1 8 1 0 0 0 0 0 0 0 0 8 1
รวม (เวลส์) 35 4 0 0 0 0 0 0 0 0 35 4
เมืองทอง ยูไนเต็ด 2009 ไทยพรีเมียร์ลีก 6 0 0 0 0 0 0 0 0 0 6 0
สุวรรณภูมิ-ศุลกากร 2010 ไทยลีก ดิวิชั่น 1 23 2 1 0 0 0 0 0 0 0 24 2
บีอีซี เทโรศาสน 2011 ไทยพรีเมียร์ลีก 24 0 2 0 6 0 0 0 0 0 32 0
บางกอก เอฟซี 2012 ไทยลีก ดิวิชั่น 1 29 1 0 0 0 0 0 0 0 0 29 1
สุพรรณบุรี เอฟซี 2013 ไทยพรีเมียร์ลีก 17 1 0 0 1 0 0 0 0 0 18 1
2014 ไทยพรีเมียร์ลีก 12 0 0 0 0 0 0 0 0 0 12 0
แบงค็อก ยูไนเต็ด 2014 ไทยพรีเมียร์ลีก 17 2 1 0 0 0 0 0 0 0 18 2
2015 ไทยพรีเมียร์ลีก 24 1 1 0 0 0 0 0 0 0 25 1
รวม (ไทย) 152 7 5 0 7 0 0 0 0 0 164 7
รวมทั้งหมด 187 11

[22]

ทีมชาติ

แก้

เดือนมกราคม 2015 มิก้า ชูนวลศรี ได้มีโอกาสติดทีมชาติครั้งแรกในรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 จากเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย หลังจาก อดิศร พรหมรักษ์ ซึ่งเป็นตัววางได้รับอาการบาดเจ็บ

มิก้า ได้ลงสนามในคิงส์คัพนัดแรก เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2015 นัดที่พบกับทีมชาติฮอนดูรัส ชุด U-20 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา โดยลงเล่นเป็นตัวจริงและพาทีมชาติไทยชนะไป 3-1 [23] แต่เนื่องจากการแข่งขันรายการดังกล่าวไม่ได้รับการรับรองจากฟีฟ่า จึงยังไม่นับเป็นสถิติในการลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่

เดือนพฤศจิกายน 2015 มิก้า ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดที่พบกับทีมชาติไต้หวัน

เกียรติประวัติ

แก้

รางวัลระดับทีมชาติ

แก้

ผลงาน

แก้

เมืองทอง ยูไนเต็ด

แก้

ผลงานอื่น ๆ

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. Playing squad, Welsh Premier League
  2. "ชื่นมื่น!"เทย่า-มิก้า" เข้าสู่ประตูวิวาห์ริมทะเลสุดโรแมนติก". web.archive.org. 2019-11-13. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-09-27.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  3. ""เทย่า โรเจอร์" คลอดลูกสาวแล้ว "น้องMILA" น่ารักน่าชังมาก". www.sanook.com/news.
  4. ""เทย่า โรเจอร์ส" คลอดลูกคนที่ 2 แล้ว พร้อมตั้งชื่อลูกสุดเก๋!". https://www.tnnthailand.com/news/trueinside/133794/. 2022-12-19. {{cite web}}: แหล่งข้อมูลอื่นใน |website= (help)
  5. มิก้า สุดภูมิใจนักเตะไทยคนแรกจบหลักสูตรโค้ชระดับยูฟ่า เอ-ไลเซนส์
  6. neathfc.com: Mika leaves for the Lido
  7. Football: Depleted Ton Pentre go down fighting against Afan Lido
  8. walesonline.co.uk: Mika jetting off to start a new life in Thailand
  9. มิก้า ลาเมืองทอง.ซบนายด่านแล้ว
  10. มิก้า ย้ายซบ สุวรรณภูมิ ศุลกากร
  11. สุวรรณภูมิ ศุลกากร ถล่ม นราธิวาส 7-0
  12. "บีอีซี เทโรศาสน 2-1 เอฟซี พิจิตร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-11-24. สืบค้นเมื่อ 2021-09-27.
  13. มิก้า ไม่น่ารอดเตรียมขึ้นเขียงผ่าเอ็นเข่ารักษาอาการเจ็บ
  14. "กระทิงเหล็ก ยังไม่ฟื้นไล่เจ๊า สงขลา 1-1 เก็บทีมละแต้ม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-09. สืบค้นเมื่อ 2021-09-27.
  15. ข่าวฟุตบอลไทยลีก กระทิงเหล็กช็อกอ.ทองสุขไขก๊อกเก้าอี้กุนซือ
  16. "ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-1 สุพรรณบุรี เอฟซี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-06. สืบค้นเมื่อ 2015-01-08.
  17. มิก้าได้รับอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ
  18. "สุพรรณบุรี เอฟซี 1-2 ราชบุรี-มิตรผล เอฟซี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-09. สืบค้นเมื่อ 2015-01-08.
  19. มาโน่เสียใจโดนปลดทั้งที่ไม่แพ้บิ๊กทรี-เมินหวนงานทีมชาติ
  20. มิก้า ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมสุพรรณบุรีอีกต่อไป
  21. สุพรรณโละ"มิก้า"ซบตักบียู
  22. สถิติการแข่งขัน
  23. "ช้างศึก" เปิดสวย! ไล่ยำ "ฮอนดูรัส" ท้ายเกม 3-1