สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ เป็นอดีตสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย ซึ่งเป็นทีมเดิมจากจังหวัดศรีสะเกษแล้วเปลี่ยนชื่อพร้อมกับย้ายสนามเหย้าไปอยู่จังหวัดอุบลราชธานี ในชื่อ "อีสาน ยูไนเต็ด"และในปี 2556 ได้ย้ายกลับคืนสู่จังหวัดศรีสะเกษ
ชื่อเต็ม | Sisaket Football Club สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา | กูปรีอันตราย | |||
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2542 (ในชื่อ "ศรีสะเกษ สตีลร็อค") พ.ศ. 2555 (ในชื่อ "อีสาน ยูไนเต็ด") พ.ศ. 2556 (ในชื่อ "ศรีสะเกษ เอฟซี") | |||
สนาม | สนามศรีนครลำดวน | |||
ความจุ | 11,200 ที่นั่ง | |||
เจ้าของ | บริษัท ศรีสะเกษ เอฟซี จำกัด | |||
ประธาน | ธเนศ เครือรัตน์ | |||
ผู้จัดการ | พัฒนพงศ์ พรหมทา | |||
2564–65 | ไทยลีก 3 อันดับที่ 2 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | |||
|
ประวัติสโมสร
แก้ยุคโปรลีก (ศรีสะเกษ สตีลร็อก)
แก้สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ก่อตั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2542 เพื่อทำการแข่งขันรายการ ไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีก ซึ่งก่อตั้งโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมมือกันสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยจัดเป็นโครงการนำร่อง 5 ปี โดยครั้งนั้นมี บุญชง วีสมหมาย เป็นประธานสโมสร และแค่ปีแรกที่ก่อตั้ง ก็ได้รางวัลชนะเลิศการแข่งขันไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีกทันที
หลังจากนั้น สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ก็เข้าร่วมแข่งขันไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีกทุกครั้ง ในชื่อ "ศรีสะเกษ สตีลร็อก" แต่ก็ไม่สามารถชนะเลิศได้เพิ่มเติม โดยทำได้ดีทีสุด คือ ปี 2546 จบฤดูกาลที่ลำดับที่ 5
เข้าสู่ระบบลีก
แก้ปี 2550 สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ได้เปลี่ยนชื่อของสโมสรมาเป็น "ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี" ในการแข่งขัน ในปีนี้ได้มีการรวมลีกทั้งสอง คือ ไทยแลนด์ลีกและ ไทยแลนด์โปรวินเชียลลีก ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยสโมสรศรีสะเกษ ถูกจัดอยู่ในไทยลีกดิวิชัน 1 กลุ่ม B ร่วมกับอีก 12 ทีม เมื่อจบฤดูการได้อันดับ 10 ทำให้ต้องตกชั้นไปเล่นใน ไทยลีกดิวิชัน 2
ปี 2551 ในการเล่นไทยลีกดิวิชัน 2 สโมสรศรีสะเกษจบการแข่งขันได้อันดับ 4 จึงสามารถพาตัวเองกลับมาเล่นในไทยลีกดิวิชัน 1
ปี 2552 ในการเล่นไทยลีกดิวิชัน 1 เป็นปีที่การแข่งขันลีกอาชีพในประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง รวมทั้งใน จังหวัดศรีสะเกษ ด้วยจึงได้รับการสนับสนุนจากกองเชียร์และมีการจัดการที่เป็นรูปแบบ มีการเก็บค่าเข้าชม และขายของที่ระลึก รวมทั้งการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านอินเทอร์เน็ต ในปีนี้สโมสรศรีสะเกษ สามารถจบการแข่งขันได้อันดับที่ 3 ทำให้ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่น ไทยพรีเมียร์ลีก สโมสรศรีสะเกษ มีกองเชียร์กลุ่มหนึ่งพยายามมีส่วนช่วยเหลือในการสนับสนุนทีมและได้จัดตั้งเว็บไซต์ขึ้น รวมทั้งตามเชียร์ ทีมทั้งในนัดเหย้าและเยือน ในช่วงที่ สโมสรศรีสะเกษได้ทำการแข่งขันอยู่ในระดับ ไทยลีกดิวิชัน 1 ใน 2551 มีกองเชียร์ให้การสนับสนุนทีมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้เกิดกลุ่มกองเชียร์ที่ออกจากถิ่นฐานบ้านเกิดไปทำงานหรือไปศึกษาเล่าเรียนยังกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ โดยใช้ชื่อเรียกกลุ่มตัวเองว่า "กูปรีพลัดถิ่น" ตามเชียร์และให้กำลังใจทีม ในระหว่างที่ออกไปทำการแข่งขันนอกบ้านโดยตลอดและคาดว่าอีกไม่นานจะมีกองเชียร์หลายหมื่นคนมาเป็นแฟนคลับของสโมสร ยิ่งการที่สโมสรได้เล่นใน ไทยพรีเมียร์ลีก ในปี พ.ศ. 2553 ด้วย
ปี 2553 เป็นปีแรกที่สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ได้เล่นในไทยพรีเมียร์ลีก ผลงานของสโมสรไม่เป็นที่น่าพอใจ จบฤดูการรั้งอันดับ 14 ต้องตกชั้นไปเล่น ไทยลีกดิวิชัน 1 แต่ในปีนั้น สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ต้องการเพิ่มทีมในลีกเป็น 18 สโมสร เพื่อให้ลีกมีความแข็งแกร่งและผลักดันให้เป็นลีกชั้นนำของเอเชีย ซึ่งผลการคัดเลือกปรากฏว่าสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ผ่านการเล่นเพลย์ออฟ ทำให้ยังคงทำการแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2554
ปี 2555 สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษได้เปลี่ยนชื่อเป็น อีสาน ยูไนเต็ด และได้ย้ายสนามไปที่จังหวัดอุบลราชธานี
ปี 2556 สโมสรได้ทำการเปลี่ยนชื่อกลับมาใช้ชื่อ ศรีสะเกษ เอฟซี พร้อมทั้งย้ายสนามเหย้ากลับมาที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่ในขณะนั้นมีปัญหาสิทธิในการทำทีม สโมสรจึงถูกพักการแข่งขันในฤดูการนี้
ปี 2557 สโมสรซึ่งถูกพักการแข่งขันจากฤดูกาลก่อนหน้า จะได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้ต่อ โดยที่จะไม่ตกชั้น สโมสรได้ทำการลงเล่นใน ไทยพรีเมียร์ลีก เป็นเวลาติดต่อกันจนถึง ไทยลีก ฤดูกาล 2560 ผลงานของสโมสรไม่ไปอย่างที่หวังจึงทำให้ต้องตกชั้นสู่ ไทยลีก 2
ปี 2558 สโมสรสร้างประวัติศาสตร์แห่งวงการฟุตบอลไทยและให้กับสโมสรเอง โดยเป็นทีมเล็กจากฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก สร้างความฮือฮาหลังจากที่สามารถผ่านทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศรายการ โตโยต้า ลีก คัพ 2558 โดยเข้าไปชิงชนะเลิศกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ณ สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 แต่น่าเสียดายพลาดท่าแพ้ 0-1 เป็นการทำประตูของ โก ซุล กิ นักเตะเกาหลีใต้ ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่งผลทำให้คว้าแค่รองแชมป์
ตกชั้น
แก้ในไทยลีก ฤดูกาล 2560 ศรีสะเกษจบอันดับที่ 17 ของตาราง ทำให้ต้องตกชั้นไปเล่นในไทยลีก 2 ฤดูกาล 2561 ต่อมาในไทยลีก 2 ฤดูกาล 2563–64 ศรีสะเกษจบอันดับที่ 16 ทำให้ต้องตกชั้นไปเล่นในไทยลีก 3 ฤดูกาล 2564–65
คืนสิทธิ์
แก้เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ศาลปกครองอุบลราชธานี ศาลปกครองสูงสุด ได้นัดฟังคำพิพากษาให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์ คืนสิทธิ์ทีมฟุตบอลศรีสะเกษ ให้ทีมอีสาน ยูไนเต็ด และชดใช้ค่าเสียหายให้ อีสาน ยูไนเต็ด[1]
สัญลักษณ์ของสโมสร
แก้-
พ.ศ. 2546 - 2547
-
พ.ศ. 2550 - 2551
-
พ.ศ. 2552-ปัจจุบัน
รายชื่อผู้ฝึกสอน
แก้ชื่อ | สัญชาติ | ระยะเวลา | ความสำเร็จ |
---|---|---|---|
ชาติกล้า ทรัพย์ทรงพล | 2549 - พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 | อันดับ 3 ไทยลีกดิวิชัน 1 2552 (เลื่อนชั้น) | |
สมชาติ ยิ้มศิริ | ธันวาคม พ.ศ. 2552 - กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 | ไม่ได้คุมทีมลงแข่งอย่างเป็นทางการ | |
แฟรจี มาริญญู | กุมภาพันธ์ - มีนาคม พ.ศ. 2553 (1 นัด) | ||
คิม คึง จู | เมษายน - พฤษภาคม พ.ศ. 2553 (4 นัด) | ||
วิสูตร วิชายา | พฤษภาคม - ธันวาคม พ.ศ. 2553 | ||
เดวิด บูธ | ธันวาคม พ.ศ. 2553 - เมษายน พ.ศ. 2554 | ||
รอยเตอร์ โมไรรา | พฤษภาคม พ.ศ. 2554 - เมษายน พ.ศ. 2555 | ||
พยงค์ ขุนเณร (สมัยอีสาน ยูไนเต็ด) | เมษายน พ.ศ. 2555 - ธันวาคม พ.ศ. 2555 | ||
วรวรรณ ชิตะวณิช (สมัยอีสาน ยูไนเต็ด) | มกราคม พ.ศ. 2556 - 2556 | ||
ณรงค์ สุวรรณโชติ | มกราคม พ.ศ. 2556 | ||
พนิพล เกิดแย้ม | มกราคม พ.ศ. 2557 - มิถุนายน พ.ศ. 2557 | ||
เฉลิมวุฒิ สง่าพล | มิถุนายน พ.ศ. 2557 - 2558 | รองชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ 2558 | |
โบซีดาร์ บันโดวิช | พ.ศ. 2558 - 2559 | ||
มาซาฮิโระ วาดะ | พ.ศ. 2559 | ||
ดุสิต เฉลิมแสน | พ.ศ. 2560 | ||
เวลิซาร์ โปปอฟ | พ.ศ. 2560 | ||
เฉลิมวุฒิ สง่าพล | พ.ศ. 2560 | ||
โรแบร์ต โชเซ ดา ซิลวา | พ.ศ. 2561 | ||
สมชาย ชวยบุญชุม | พ.ศ. 2561 - 2562 | ||
วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ | พ.ศ. 2562 - 2563 | ||
ชูศักดิ์ ศรีภูมิ | พ.ศ. 2563 | ||
ปรีดา จันครา (รักษาการ) | พ.ศ. 2563 | ||
วรวุฒิ ศรีมะฆะ | พ.ศ. 2563 - 2564 | ||
สันติ ไชยเผือก | พ.ศ. 2564 - 2565 |
ชุดที่ใช้สำหรับการแข่งขัน
แก้# | ช่วงเวลา | ผู้ผลิตชุดกีฬา | ผู้สนับสนุน |
---|---|---|---|
1 | 2009 | เอฟบีที | ฟอร์ด |
2 | 2010 | คูล สปอร์ต | เมืองไทยประกันชีวิต , เบียร์อาชา , เบทาโกร , ชุดนักเรียนตราราชพฤกษ์ , ชุดนักเรียนตราชัยพฤกกษ์ , ชุดนักเรียนตราสามทหาร |
3 | 2011 | เอฟบีที | เมืองไทยประกันชีวิต , เบทาโกร , เบียร์อาชา , ชุดนักเรียนตราราชพฤกษ์ , ชุดนักเรียนตราชัยพฤกกษ์ , ชุดนักเรียนตราสามทหาร |
4 | 2012
(สมัยอีสาน ยูไนเต็ด) |
เมืองไทยประกันชีวิต , คูโบต้า เจริญชัย , เบียร์อาชา , สบายดี TV , medicare | |
5 | 2013 | โจมา | เมืองไทยประกันชีวิต |
6 | 2014 | เมืองไทยประกันชีวิต , เบทาโกร , เบียร์ลีโอ | |
7 | 2015 | วอริกซ์ | เมืองไทยประกันชีวิต , เบทาโกร , ท่าทรายรุ่งอรุณ , แอร์เอเชีย , เบียร์ลีโอ |
8 | 2016 | ผลิตเอง | เมืองไทยประกันชีวิต , เบทาโกร , เบียร์ลีโอ , ท่าทรายรุ่งอรุณ |
9 | 2017 | อาริ | เมืองไทยประกันชีวิต , เบทาโกร , เบียร์ลีโอ , ท่าทรายรุ่งอรุณ , Home one , โตโยต้า ศรีสะเกษ , Five star unicorn |
10 | 2018 | ผลิตเอง | เมืองไทยประกันชีวิต , เบทาโกร , เบียร์ลีโอ , ท่าทรายรุ่งอรุณ , โตโยต้า ศรีสะเกษ , Five star unicorn , แอร์เอเชีย |
11 | 2019 | วอริกซ์ | เมืองไทยประกันชีวิต , เบทาโกร , Home One , ท่าทรายรุ่งอรุณ , โตโยต้า ศรีสะเกษ , Five star unicorn |
ผลงานของสโมสรในแต่ละฤดูกาล
แก้ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอ คัพ | ลีกคัพ | ผู้ทำประตูสูงสุด | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ระดับลีก | แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | แต้ม | อันดับ | ชื่อ | ประตู | |||
2542-43 | โปรวินเชียลลีก | 22 | 14 | 5 | 3 | 50 | 25 | 47 | ชนะเลิศ | – | – | นัฐวุฒิ กิ่งพิลา | 17 |
2543-44 | โปรวินเชียลลีก | 22 | 7 | 5 | 10 | 37 | 37 | 26 | อันดับ 8 | – | – | สุรศักดิ์ จุมพลศรี | 13 |
2545 | โปรวินเชียลลีก | 10 | 2 | 5 | 3 | 8 | 12 | 11 | อันดับ 5 (สาย A) | – | – | สัมฤทธิ์ ด้วงนิล สุรศักดิ์ จุมพลตรี |
2 |
2546 | โปรวินเชียลลีก | 22 | 10 | 2 | 10 | 54 | 43 | 32 | อันดับ 5 | – | – | สัมฤทธิ์ ด้วงนิล | 19 |
2547 | โปรวินเชียลลีก | 18 | 7 | 7 | 4 | 34 | 27 | 28 | อันดับ 4 | – | – | สุรศักดิ์ จุมพลตรี | 9 |
2548 | โปรวินเชียลลีก | 22 | 9 | 5 | 8 | 37 | 39 | 32 | อันดับ 6 | – | – | 14 | |
2549 | โปรวินเชียลลีก | 30 | 9 | 6 | 15 | 47 | 59 | 33 | อันดับ 12 | – | – | 17 | |
2550 | ไทยลีกดิวิชัน 1 | 22 | 7 | 6 | 9 | 36 | 38 | 27 | อันดับ 10 (กลุ่ม B) | – | – | ไพโรจน์ อนันตณรงค์ | 7 |
2551 | ไทยลีกดิวิชัน 2 | 20 | 10 | 7 | 3 | 40 | 19 | 37 | อันดับ 4 | – | – | 19 | |
2552 | ไทยลีกดิวิชัน 1 | 30 | 15 | 13 | 2 | 53 | 26 | 58 | อันดับ 3 | รอบสาม | – | 17 | |
2553 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 30 | 6 | 8 | 16 | 36 | 54 | 26 | อันดับ 14 | รอบก่อนรองชนะเลิศ | รอบก่อนรองชนะเลิศ | ปิยะวัฒน์ ทองแม้น | 8 |
2554 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 34 | 9 | 12 | 13 | 33 | 39 | 39 | อันดับ 13 | รอบห้า | รอบสาม | วุฒิชัย ทาทอง วิคเตอร์ อมาโร |
5 |
2555 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 34 | 11 | 14 | 9 | 41 | 42 | 47 | อันดับ 6 (ในชื่อ อีสาน ยูไนเต็ด) | รอบสาม | รอบแรก | ธนา ชะนะบุตร | 15 (9 ประตู อีสาน ยูไนเต็ด) +(6 ประตู เพื่อนตำรวจ) |
2556 | ไทยพรีเมียร์ลีก | ถูกพักการแข่งขัน | – | – | |||||||||
2557 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 38 | 12 | 10 | 16 | 48 | 59 | 46 | อันดับ 12 | รอบห้า | รอบแรก | ศรายุทธ ชัยคำดี | 9 |
2558 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 34 | 9 | 9 | 16 | 30 | 47 | 36 | อันดับ 13 | รอบสี่ | รองชนะเลิศ | อเดโฟลาริน ดูโรซินมี | 13 |
2559 | ไทยลีก | 31 | 8 | 9 | 14 | 41 | 52 | 33 | อันดับ 13 | รอบสี่ | รอบก่อนรองชนะเลิศ | อันทอน เซมลิอานุกกิน | 8 |
2560 | ไทยลีก | 34 | 6 | 5 | 23 | 43 | 90 | 23 | อันดับ 17 | รอบสอง | รอบแรก | มาเรียโน่ เบอร์รีเอ็กซ์ | 7 |
2561 | ไทยลีก 2 | 28 | 8 | 10 | 10 | 29 | 32 | 34 | อันดับ 8 | รอบรองชนะเลิศ | รอบแรก | คริสเตียโน่ ดาซิลวา | 8 |
2562 | ไทยลีก 2 | 33 | 20 | 11 | 2 | 54 | 18 | 59 | อันดับ 4 | รอบแรก | รอบแรก | วิลเลี่ยน โมต้า | 18 |
2563–64 | ไทยลีก 2 | 34 | 9 | 9 | 16 | 34 | 44 | 36 | อันดับ 16 | รอบคัดเลือก | งดจัดการแข่งขัน | เอฟจีนี่ กาบาเยฟ | 8 |
2564–65 | ไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | 24 | 17 | 2 | 5 | 52 | 28 | 53 | รองชนะเลิศ | ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขัน | รอบคัดเลือกรอบสอง | เสกสิทธิ์ ศรีใส | 13 |
ไทยลีก 3 รอบแชมเปี้ยนส์ลีก | 5 | 1 | 0 | 4 | 8 | 15 | 3 | อันดับ 5 | |||||
2565–66 | ไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | ไม่ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน |
ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับที่สาม | เลื่อนชั้น | ตกชั้น/ถูกพักการแข่งขัน |
- ฤดูกาล 2562 ศรีสะเกษถูกตัด 12 คะแนนตามคำสั่งฟีฟ่าจากกรณีพิพาทกับผู้เล่นจำนวน 2 คดี คดีละ 6 คะแนน
- N/A = ไม่ทราบข้อมูล
รายละเอียดการแข่งขันฟุตบอลลีก
แก้- ไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีก ครั้งที่ 1 ชนะเลิศ
- ไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีก ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2543 /44 ได้อันดับที่ 8
- ไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีก ครั้งที่ 3 ปี 2545 ในฤดูกาลนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้ปรับรูปแบบการแข่งขันใหม่ โดยจะการแข่งขันออกเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แบ่งตามโซนบนและโซนล่างของประเทศ โดยโซนบนของประเทศ สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ จบการแข่งขันฤดูการนี้ได้อันดับ 5 ของกลุ่ม A ไม่ผ่านการคัดเลือกไปเล่นรอบสุดท้าย
- ไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีก ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ. 2546 ได้อันดับที่ 5
- ไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีก ครั้งที่ 5 ปี พ.ศ. 2547 กกท. ได้มีมติในที่ประชุมให้มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันเพียง 10 ทีม สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ได้อันดับที่ 4
- ไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีก ครั้งที่ 6 ปี พ.ศ. 2548 ได้อันดับ 6
- ไทยแลนด์โปรวินเชียล ลีก ครั้งที่ 7 ปี พ.ศ. 2549 กกท. ได้มีมติให้เปลี่ยนชื่อการแข่งขันฟุตบอลโปรวินเชียล ลีก เป็น การแข่งขันฟุตบอลโปรเฟรสน่อล ลีก เพื่อพัฒนาเป็นการแข่งขันฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มรูปแบบ สโมสรฟุตบอลฟุตบอลจังหวัดศรีสะเกษ จบฤดูกาลแข่งขัน ในอันดับที่ 12
- การแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ดิวิชัน 1 ปี พ.ศ. 2550 สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ได้อันดับ 10 ของกลุ่ม B ตกชั้นไป การแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ดิวิชัน 2
- การแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ดิวิชัน 2 ปี พ.ศ. 2551 สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ได้อันดับ 2 กลุ่ม B เลื่อนชั้นไปเล่นใน การแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ดิวิชัน 1
- การแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ดิวิชัน 1 ปี พ.ศ. 2552 สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ได้อันดับ 3 เลื่อนชั้นไปเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกในปี 2553
ฟุตบอลถ้วย
แก้- โตโยต้า ลีกคัพ 2558: รองชนะเลิศ [2]
เกียรติประวัติ
แก้- ชนะเลิศ (1) : 2542/43
- อันดับ 3 (1) : 2552
- รองชนะเลิศ (1) : 2558
อ้างอิง
แก้- ↑ "ปิดตำนาน"กูปรี"ศรีสะเกษ เอฟซี ศาลสั่งคืนสิทธิ์ให้"อีสาน ยูไนเต็ด"". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-29. สืบค้นเมื่อ 2022-07-29.
- ↑ บุรีรัมย์ 1 - 0 ศรีสะเกษ : โกซูซัดชัยปราสาทสายฟ้ายิงใหญ่แชมป์ลีกคัพ 4 สมัย เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากfourfourtwo