มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (อังกฤษ: Phranakhon Rajabhat University; อักษรย่อ: มรภ.พน. – PNRU) เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศไทย จัดอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ ตั้งอยู่ในเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เริ่มทำการสอนเมื่อปี พ.ศ. 2435 เป็นสถานศึกษาด้านการฝึกหัดครูแห่งแรกของประเทศไทย
ชื่อย่อ | มรภ.พน. / PNRU |
---|---|
คติพจน์ | สร้างคนดี มีปัญญา เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
สถาปนา | 12 ตุลาคม พ.ศ. 2435 |
นายกสภาฯ | ดร.ถนอม อินทรกำเนิด[1] |
อธิการบดี | รองศาสตราจารย์ ดร.เปรื่อง กิจรัตน์ภร |
อธิการบดี | รองศาสตราจารย์ ดร.เปรื่อง กิจรัตน์ภร |
ที่ตั้ง | |
สี | ██ สีเขียว |
เว็บไซต์ | https://www.pnru.ac.th/ |
ประวัติ
แก้มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เป็นมหาวิทยาลัยด้านการฝึกหัดครูที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย[2] ได้รับการสถาปนาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในนาม "โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์" สังกัดกระทรวงธรรมการ ทำหน้าที่ผลิตครูเพื่อรองรับการขยายตัวของการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียน
เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2435 เป็นสถานศึกษาด้านการฝึกหัดครูแห่งแรกของประเทศไทย มีมิสเตอร์กรีนรอด ชาวอังกฤษเป็นอาจารย์ใหญ่คนเแรก โดยมีที่ตั้งครั้งแรกอยู่ในบริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ตำบลสวนมะลิ ถนนบำรุงเมือง จากนั้นก็ได้ย้ายไปสถานที่ตั้งไปอีกหลายแห่ง
ในปี พ.ศ. 2449 มีการปรับปรุงหลักสูตรให้กว้างขวางขึ้น และให้นับเป็นโรงเรียนขั้นอุดมศึกษา และในปี พ.ศ. 2456 ได้รวมเป็นแผนกหนึ่งของโรงเรียนข้าราชการพลเรือน เรียกว่า แผนกครุศึกษา แต่ยังอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกระทรวงธรรมการ
พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการประกาศประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์จึงเป็นแผนกครุศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเมื่อมีการสถาปนากรมมหาวิทยาลัยขึ้นแล้วรวมโรงเรียนข้าราชการพลเรือนทุกแผนกขึ้นกับกรมนี้ กระทรวงธรรมการจึงได้ย้ายโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ไปสังกัดกรมศึกษาธิการ แผนกวิชาสามัญศึกษา
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2461 ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์เป็น "โรงเรียนฝึกหัดครูวัดบวรนิเวศ" เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถม (ป.ป.) สถานที่ตั้ง อาคารโรงเรียนมัธยมวัดบวรนิเวศ[3] และได้ย้ายไปตั้งที่พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ในปี พ.ศ. 2475 เรียกว่า "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมพระราชวังสนามจันทร์" และโดยที่ภายในพระราชวังสนามจันทร์มีศาลพระพิฆเนศวรอยู่แล้ว ทางโรงเรียนจึงได้นำรูปพระพิฆเนศวรมาเป็นตราและสัญลักษณ์ของโรงเรียน
พ.ศ. 2477 ได้ย้ายโรงเรียนจากพระราชวังสนามจันทร์มาตั้งที่กองพันทหารราบที่ 6 ถนนศรีอยุธยา หลังวังปารุสกวัน (ปัจจุบันคือ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์) จึงเรียกชื่อโรงเรียนว่า "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมพระนคร" และ พ.ศ. 2490 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนฝึกหัดครูพระนคร" ผลิตครูตามหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถม (ป.ป.) ใช้เวลา 3 ปี
พ.ศ. 2498 โรงเรียนฝึกหัดครูพระนครได้ใช้หลักสูตรใหม่ คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.) เวลาเรียน 2 ปี แทนหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถมเดิม เพื่อเร่งรัดการผลิตครูให้ทันกับความต้องการ
1 มิถุนายน พ.ศ. 2499 ได้ย้ายโรงเรียนมาเช่าที่ดินวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ณ อาคารเลขที่ 3 หมู่ที่ 6 ตำบลอนุสาวรีย์ ถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร อันเป็นที่ตั้งปัจจุบันโดยยังเช่าที่ดินวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ต่อมาจนปัจจุบัน
วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 กระทรวงศึกษาธิการได้ยกฐานะโรงเรียนฝึกหัดครูพระนคร ขึ้นเป็น "วิทยาลัยครูพระนคร" ทำให้สามารถเปิดหลักสูตประกาศนียบัตรวิชาการศึกศสชั้นสูง (ป.กศ.สูง) ได้ และเพื่อสนองความต้องการของโรงเรียนมัธยมแบบประสม วิทยาลัยจึงได้เปิดวิชาเอกอุตสาหกรรมศิลป์ โดยรับนักเรียนที่จบ ป.กศ. มาเรียนวิชาช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างก่อสร้าง และช่างปั้นดินเผา ต่อมาในปี พ.ศ. 2512 จึงได้เปิดสอนวิชาอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก
พ.ศ. 2513 โรงเรียนวัดพระศรีมหาธาตุ ได้ย้ายมาสังกัด "วิทยาลัยครูพระนคร" เนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย กับ ทางวิทยาลัยครูพระนคร พร้อมจะพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพพร้อมฝึกประสบการณ์นักศึกษาของทางวิทยาลัยครู จึงได้เปลี่ยนชื่อจาก "โรงเรียนวัดพระศรีมหาธาตุ" เป็น "โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุ วิทยาลัยครูพระนคร"
พ.ศ. 2517 ได้เปิดหลักสูตรประโยคครูอุดมศึกษา (ป.อ.) โดยใช้หลักสูตรของวิทยาลัยวิชาการศึกษา โดยรับผู้สำเร็จ ป.กศ.สูง หรืออนุปริญญา เรียน 2 ปี เมื่อสำเร็จจะได้ปริญญาการศึกษาบัณฑิต
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู ซึ่งมีผลทำให้วิทยาลัยครูทั้ง 36 แห่งทั่วประเทศสามารถเปิดสอนได้ถึงระดับปริญญาตรี จึงได้รับการปรับหลักสูตรประโยคครูอุดมศึกษา เป็นหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต
พ.ศ. 2521 วิทยาลัยครูพระนคร เปิดโครงการฝึกอบรมครูประจำการ (อ.ค.ป.) ร่วมกับหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมกับเลิกการผลิตครูระดับป.กศ.สูง และระดับปริญญาตรีครุศาสตรบัณฑิตเพิ่มขึ้น และในปี พ.ศ. 2523 ก็ได้เปิดรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีคุรศาสตรบัณฑิต หลักสูตร 4 ปี เป็นรุ่นแรก
พ.ศ. 2527 ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู (ฉบับที่ 2) ซึ่งเป็นฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ทำให้วิทยาลัยครูสามารถเปิดสอนสาขาวิชาอื่นนอกเหนือจากวิชาชีพครู โดยสภาการฝึกหัดครูอนุมัติให้เปิดสอนใน 3 สาขา คือ สาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาศิลปศาสตร์ และในปีการศึกษา 2528 ก็ได้เปิดรับนักศึกษาสำหรับบุคลากรประจำการ (กศ.บป.) ทั้งสายวิชาชีพครูและสายวิชาการอื่น จากนั้นก็ได้มีการขยายและพัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อสนองความต้องการของท้องถิ่น และประเทศชาติมาโดยลำดับ
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "สถาบันราชภัฏ" เป็นชื่อสถาบันการศึกษาในสังกัดกรมการฝึกหัดครูกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งยังได้พระราชทานตราพระราชลัญจกรให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏด้วย และเมื่อได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2538 วิทยาลัยครูพระนคร จึงได้ชื่อว่า "สถาบันราชภัฏพระนคร" และมีภารกิจตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2538 คือ "เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุง ถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ผลิตครู และส่งเสริมวิทยฐานะครู"
เมื่อ พ.ศ. 2547 พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฎ[4] ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลให้ "สถาบันราชภัฎพระนคร" ได้ชื่อใหม่ว่า "มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร" ตั้งแต่ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
แก้- ██ สีน้ำเงิน แทนค่า สถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ให้กำเนิด และพระราชทานนาม “มหาวิทยาลัยราชภัฏ”
- ██ สีเขียว แทนค่า แหล่งที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏในแหล่งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม
- ██ สีทอง แทนค่า ความเจริญรุ่งเรืองทางภูมิปัญญา
- ██ สีส้ม แทนค่า ความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ก้าวไกลมหาวิทยาลัยราชภัฏ
- ██ สีขาว แทนค่า ความคิดอันบริสุทธิ์ของนักปราชญ์แห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
สีประจำมหาวิทยาลัย
แก้สีประจำสถาบัน สีเขียว
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
แก้ต้นกาซะลอง หรือต้นปีป ภาษาอีสานเรียก ดอกกางของ
คณะ และ วิทยาลัย
แก้- วิทยาลัยการฝึกหัดครู
- คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
- คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
- คณะวิทยาการจัดการ
- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- คณะพยาบาลศาสตร์(โครงการจัดตั้ง)
- คณะทันตแพทยศาสตร์(โครงการจัดตั้ง)
- พุทธวิชชาลัย (วิทยาลัยพุทธศาสตร์และปรัชญา วัดพระศรีมหาธาตุ)
- บัณฑิตวิทยาลัย
สถาบัน/ศูนย์และหน่วยงานในมหาวิทยาลัย
แก้- สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เก็บถาวร 2009-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เก็บถาวร 2005-12-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ศูนย์ภาษาและอาเซี่ยนศึกษา เก็บถาวร 2005-12-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เก็บถาวร 2005-12-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ศูนย์ประสานราชการใสสะอาด เก็บถาวร 2005-12-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมราชภัฎพระนคร เก็บถาวร 2007-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
- ศูนย์การบริบาลและพัฒนาเด็กปฐมวัย
- องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
- โรงเรียนประถมสาธิต ม.ราชภัฏพระนคร
การเดินทาง
แก้รถโดยสารประจำทาง
แก้ถนนพหลโยธิน (ประตูฌาปนสถานกองทัพอากาศ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร)
แก้- สาย.26 มีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- สาย.34 รังสิต-หัวลำโพง
- สาย.34 ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-ม.เกษตรศาสตร์
- สาย.39 มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- สาย.39 ตลาดไท-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- สาย.51 วัดปรางค์หลวง-บางเขน
- สาย.59 รังสิต-หลักสี่-สนามหลวง
- สาย.95 อู่บางเขน-บางกะปิ
- สาย.107E อู่บางเขน-คลองเตย
- สาย.114 อู่บางเขน-แยกลำลูกกา-MRT พระนั่งเกล้า
- สาย.129E อู่บางเขน-สำโรง
- สาย.185 อู่รังสิต-พระราม 9-อู่คลองเตย
- สาย.503 รังสิต-สะพานใหม่-สนามหลวง
- สาย.522E รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- สาย.524 หลักสี่-สามเสน-สนามหลวง
- สาย.543 อู่บางเขน-ลำลูกกาคลอง 7
- สาย.543 อู่บางเขน-ท่าน้ำนนทบุรี
- สาย.1-1 บางเขน-ประดิพัทธ์-หัวลำโพง
- สาย.1-3 บางเขน-พหลโยธิน-หัวลำโพง
- สาย.1-4 มธ.ศูนย์รังสิต-บางเขน
- สาย.1-5 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- สาย.1-32E บางเขน-BTS ตลาดพลู
- สาย.1-33 บางเขน-MRT บางซื่อ
ถนนแจ้งวัฒนะ
แก้- สาย.29 บางเขน-ประดิพัทธ์-หัวลำโพง
- สาย.51 วัดปรางค์หลวง-บางเขน
- สาย.59 อู่รังสิต-หลักสี่-สนามหลวง
- สาย.95ก อู่รังสิต-แฮปปี้แลนด์
- สาย.126 คลองตัน-ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ
- สาย.150 ท่าเรือปากเกร็ด-ตลาดมีนบุรี
- สาย.356 [วงกลม] ปากเกร็ด-สะพานใหม่-ดอนเมือง
- สาย.513E สำโรง-ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ
- สาย.524 หลักสี่-สามเสน-สนามหลวง
- สาย.554E รังสิต-กม.8-สนามบินสุวรรณภูมิ
- สาย.1-31 คลองหลวง คลอง 5-ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ
- สาย.(ต.22) ท่าเรือปากเกร็ด-ตลาดมีนบุรี
- สาย.(ต.95) ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-ม.รามคำแหง 1
รถไฟฟ้า
แก้รถไฟฟ้าสายสีเขียว (รถไฟฟ้าบีทีเอส)
แก้- สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) [6]
รถไฟฟ้าสายสีชมพู
แก้- สถานีราชภัฏพระนคร (PK15)
สถานที่ใกล้เคียง
แก้- วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
- โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
- แม็กซ์แวลู สาขาหลักสี่
บุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัย
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/16400.pdf
- ↑ "ประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-13. สืบค้นเมื่อ 2021-08-01.
- ↑ สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
- ↑ [1]
- ↑ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การแบ่งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร พ.ศ. ๒๕๔๙
- ↑ "บีทีเอส" เตรียมเปิดให้บริการถึง "สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ" มิ.ย.นี้
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
13°52′43″N 100°35′29″E / 13.878670220700302°N 100.59151245882892°E มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ที่เฟซบุ๊ก