อำเภอพิชัย
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
พิชัย เป็นอำเภอหนึ่งในจำนวน 9 อำเภอ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ พิชัยเป็นเมืองสำคัญมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เคยเป็นเมืองลูกหลวงของกรุงสุโขทัย เมืองหน้าด่านในสมัยกรุงศรีอยุธยา และเคยเป็นตัวจังหวัดเก่าอีกด้วย
อำเภอพิชัย | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Phichai |
คำขวัญ: ถิ่นกำเนิดพระยาพิชัย ไส้กรอกใหญ่รสเด็ด แกงรสเผ็ดหอยขม รื่นรมย์ดนตรีมังคละ หลวงพ่อโตพระคู่เมือง | |
![]() แผนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เน้นอำเภอพิชัย | |
พิกัด: 17°17′13″N 100°5′15″E / 17.28694°N 100.08750°E | |
ประเทศ | ![]() |
จังหวัด | อุตรดิตถ์ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 736.7 ตร.กม. (284.4 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 74,554 คน |
• ความหนาแน่น | 101.20 คน/ตร.กม. (262.1 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 53120 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 5307 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอพิชัย หมู่ที่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ 53120 |
![]() |
ที่ตั้งและอาณาเขตแก้ไข
อำเภอพิชัยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้สุดของจังหวัด อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ตามทางรถไฟไปทางทิศใต้ประมาณ 38 กิโลเมตร ตัวเมืองพิชัยเก่าอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟขึ้นไปไม่ไกล
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอตรอน
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอทองแสนขัน และอำเภอวัดโบสถ์ (จังหวัดพิษณุโลก)
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอพรหมพิราม (จังหวัดพิษณุโลก)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอสวรรคโลกและอำเภอศรีนคร (จังหวัดสุโขทัย)
ประวัติแก้ไข
เมืองพิชัยในอดีตได้ปรากฏในพงศาวดารเหนือและพงศาวดารหลายตอน สำหรับในพงศาวดารเหนือปรากฏอยู่ในเรื่องพระยาแกรกตอนหนึ่งว่า เจ้าไวยยักษาเป็นผู้ได้สร้างเมืองพิชัย แต่ทว่าเรื่องพระยาพิชัยในพงศวาดารเหนือเป็นตำนานเล่าต่อกันมาเท่านั้น ซึ่งเชื่อกันว่าเหตุการณ์ในเรื่องคงจะตรงกับสมัยสุโขทัยหรือก่อนสุโขทัยก็ได้ ซึ่งในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาได้กล่าวถึงพระเจ้าอู่ทองสร้างกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 1893 ปรากฏว่ามีเมืองขึ้นด้วยกันถึง 16 เมือง ในจำนวน 16 เมืองนั้นมี "เมืองพิชัย" รวมอยู่ด้วย แสดงว่าเมืองพิชัยเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาแล้ว
ต่อมา พ.ศ. 2033 ได้มีการก่อกำแพงเมืองขึ้นซึ่งตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในปี พ.ศ. 2127 ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชประกาศอิสรภาพ พระองค์ทรงขับไล่กองทัพพม่าทางหัวเมืองเหนือ ปรากฏว่าพระยาสวรรคโลกและพระยาพิชัยแข็งเมือง ไม่ยอมเกณฑ์กำลังไปช่วย พระองค์จึงยกกองทัพเข้าตีเมืองสวรรคโลกและเมืองพิชัย จับพระยาสวรรคโลกและพระยาพิชัย มีรับสั่งให้ประหารชีวิตทั้งสองคนและกวาดต้อนพลเมืองลงมายังเมืองพิษณุโลกจนสิ้น
ต่อมาในสมัยธนบุรี พระเจ้ากรุงธนบุรีจะเสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2314 พระองค์ได้ไปตั้งประชุมทัพหลวงที่เมืองพิชัย ต่อมา พ.ศ. 2315 โปสุพาลา แม่ทัพพม่าไปตีได้เมืองหลวงพระบาง ให้ซิกชิงโบนายทัพพม่ายกมาตีเมืองลับแลแล้วเลยมาตีเมืองพิชัย พม่าตั้งค่ายอยู่ที่วัดเอกา ขณะนั้นเมืองพิชัยมีรี้พลน้อย พระยาพิชัยได้ตั้งมั่นรักษาเมืองแล้วขอกองทัพเมืองพิษณุโลกขึ้นไปช่วย กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (เมื่อยังเป็นเจ้าพระยาสุรสีห์) เสด็จยกกองทัพเมืองพิษณุโลกขึ้นไปช่วยได้รบกับพม่าเป็นสามารถ พระยาพิชัยถือดาบสองมือคุมพลทหารออกไล่ฟันพม่าจนดาบหักจึงได้สมญาว่า "พระยาพิชัยดาบหัก" แต่นั้นมา ทำให้กองทัพพม่าแตกพ่ายหนีไป
จนกระทั่งถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองพิชัยได้เป็นเมืองสำคัญขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เพราะเมื่อเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์เป็นขบถ กองทัพจากกรุงเทพฯ ยกขึ้นไปปราบปราม และโปรดให้เลิกอาณาเขตศรีสัตนาคนหุตไม่ให้มีดังแต่ก่อน เมืองพิชัยได้หัวเมืองขึ้นหลายเมือง ขยายเขตแดนออกไปถึงแม่น้ำโขง ต้องตรวจตรารักษาการทางเมืองแพร่ เมืองน่าน ตลอดจนเมืองหลวงพระบาง
ต่อมาเมืองพิชัยเสื่อมลง เนื่องจากราษฎรอพยพไปอยู่ตำบลท่าอิฐ (ซึ่งเป็นที่ตั้งตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ในปัจจุบันนี้) จนกระทั่งถึงสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งตำบลท่าอิฐเป็นเมืองขึ้นเรียกว่า เมืองอุตรดิตถ์ และโปรดให้เป็นเมืองขึ้นของอำเภอพิชัย ซึ่งในตอนนั้นเมืองพิชัยแบ่งการปกครองออกเป็น 5 เมือง คือ เมืองอุตรดิตถ์ เมืองตรอน เมืองลับแล และเมืองน้ำปาด ต่อมาเมืองพิชัยถูกลดเป็นอำเภอเรียกว่า อำเภอพิชัยเก่า มาถึงรัชกาลที่ 6 ให้เรียกนามเมืองพิชัยเก่าเป็น อำเภอพิชัย จนถึงปัจจุบัน
การแบ่งเขตการปกครองแก้ไข
การปกครองส่วนภูมิภาคแก้ไข
อำเภอพิชัยแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 11 ตำบล 98 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | ในเมือง | (Nai Mueang) | 9 หมู่บ้าน | 7. | ท่ามะเฟือง | (Tha Mafueang) | 10 หมู่บ้าน | ||||||||||||||||||||
2. | บ้านดารา | (Ban Dara) | 9 หมู่บ้าน | 8. | บ้านโคน | (Ban Khon) | 8 หมู่บ้าน | ||||||||||||||||||||
3. | ไร่อ้อย | (Rai Oi) | 11 หมู่บ้าน | 9. | พญาแมน | (Phaya Maen) | 7 หมู่บ้าน | ||||||||||||||||||||
4. | ท่าสัก | (Tha Sak) | 10 หมู่บ้าน | 10. | นาอิน | (Na In) | 7 หมู่บ้าน | ||||||||||||||||||||
5. | คอรุม | (Kho Rum) | 12 หมู่บ้าน | 11. | นายาง | (Na Yang) | 7 หมู่บ้าน | ||||||||||||||||||||
6. | บ้านหม้อ | (Ban Mo) | 8 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่นแก้ไข
ท้องที่อำเภอพิชัยประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลท่าสัก ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลท่าสัก
- เทศบาลตำบลในเมือง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลในเมือง
- องค์การบริหารส่วนตำบลในเมือง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลในเมือง (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลในเมือง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดารา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านดาราทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลไร่อ้อย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไร่อ้อยทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสัก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าสัก (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลท่าสัก)
- องค์การบริหารส่วนตำบลคอรุม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคอรุมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหม้อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านหม้อทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่ามะเฟือง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่ามะเฟืองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโคน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านโคนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลพญาแมน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพญาแมนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนาอิน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาอินทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนายาง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนายางทั้งตำบล
สถานที่ท่องเที่ยวแก้ไข
- วัดนายาง วัดเก่าสมัยอยุธยา
- วัดหน้าพระธาตุ
- พิพิธภัณฑ์บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก ที่ห้วยคา
- คูปราสาท
- ปรางค์
- วัดเอกา
- วัดมหาธาตุ
- วัดขวางชัยภูมิ
- กำแพงเมืองพิชัย
- วัดบึงสัมพันธ์
- ศาลเจ้าแม่ทับทิม พิชัย
- วัดเขาบันไดม้า ฟากบึง
- พระพุทธเมตตาชัยมงคล วัดบุพพาราม(บ้านโคน)
- ถนนต้นคูน(หาดกรวด)
- วัดป่ากะพี้(หลวงพ่อกล่อม พระปิดตาเนื้อคลุกรัก เมตตามหานิยม)